โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】 – ตอนที่ 528. – รางวัลล่อใจ

Ep.528. – รางวัลล่อใจ  

 

 

 

 

 

“ฟู่ว … ” ซางฮันหอบหายใจหนักหน่วง กำลังภายในถูกรีดเร้นออกไปมหาศาล แม้ตนจะเป็นเลเวล A แต่จำต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ พลังงานที่สูญเสียไปในวันนี้จึงฟื้นคืนกลับมา  

 

 

 

 

 

ฉะนั้นได้แต่หวังว่า ต่อจากนี้ จะไม่มีสัตว์ร้ายน่าพรั่นพรึงหรือเรื่องใหญ่เกิดขึ้นอีก  

 

 

 

 

 

ขณะนี้ สายตาของซางฮันที่มองฉินเฟิง อดยิ้มหยี แสดงถึงความชื่นชมไม่ได้  

 

 

 

 

 

“ฉินเฟิง , ไป๋หลี คราวนี้โชคดีจริงๆที่มีพวกคุณ” ซางฮันกล่าวขอบคุณ  

 

 

 

 

 

ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่เรือเหาะเฟิงหลีสามารถสร้างความเสียหายร้ายแรงแก่จักรพรรดิมังกรไฟ แต่การต่อสู้หลังจากนั้น ฉินเฟิงเองก็ยังมีบทบาทมากเช่นกัน  

 

 

 

 

 

หลายครั้งหลายครา ซางฮันเกือบเผชิญกับการโจมตีร้ายแรง แต่ก็ถูกไป๋หลีช่วยเอาไว้  

 

 

 

 

 

ทำให้การต่อสู้กับจักรพรรดิสัตว์ร้าย เมื่อจบลง ผลลัพธ์กลับมีเพียงบางคนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น ไม่มีใครถึงขั้นเสียชีวิต   

 

 

 

 

 

นี่ถือเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่!  

 

 

 

 

 

“ด้วยความยินดี ท่านจ้าวพรมแดน” ฉินเฟิงกล่าว เวลานี้เขาอารมณ์ดีมากเช่นกัน มุมปากเผยยิ้มจางๆ  

 

 

 

 

 

ซางฮันมองฉินเฟิง ต้องการจะเอ่ยชมเขาอีกหลายคำ ทว่าจู่ๆเจ้าตัวพลันสะดุ้งตกใจ แต่ก็เร่งเก็บอาการอย่างรวดเร็ว  

 

 

 

 

 

นั่นเพราะซางฮันตระหนักได้ถึงบางสิ่ง ว่ากำลังภายในที่ฉินเฟิงสมควรต้องสูญเสียไป มันกลับไม่มากมายอะไร สภาพของเขาในตอนนี้ ยังดูเปล่งปลั่ง ไม่มีทีท่าเหนื่อยหอบเลย  

 

 

 

 

 

‘อย่าบอกนะว่ากำลังภายในของฉินเฟิง มีมากกว่าตัวฉัน? มันเป็นไปได้อย่างไร?’ ซางฮันขบคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และรู้สึกว่ามันไม่น่าเป็นไปได้  

 

 

 

 

 

ในความเป็นจริงแล้ว กำลังภายในในปัจจุบันของฉินเฟิง ไม่ได้มากมายเท่ากับของซางฮัน แต่หลังจากสังหารจักรพรรดิมังกรไฟแล้ว พลังงานมหาศาลจากศพมังกร ได้ถูกดูดซับมายังกายเขา เสริมสร้างความแข็งแกร่งทางกายภาพมหาศาล จนเกือบเติมเต็ม แทบจะยกระดับขึ้นสู่เลเวล C3 อยู่แล้ว  

 

 

 

 

 

ด้วยพลังงานอันน่าสะพรึงที่ถูกเสริมเข้ามา จึงไม่น่าแปลกใจเลย ว่าทำไมฉินเฟิงถึงดูเปล่งปลั่ง ไม่แสดงถึงความเหน็ดเหนื่อย  

 

 

 

 

 

ซางฮันไม่ทราบเรื่องพลังพิเศษดูดกลืนของฉินเฟิง ดังนั้นเกิดข้อสงสัย แต่สุดท้ายตัดสินใจวางมันไว้เบื้องหลัง หันมาสนทนากับฉินเฟิงอีกเรื่องหนึ่ง “เรือเหาะเฟิงหลีนี่ ไม่ใช่ว่ากลุ่มของคุณกำลังวางขายมันอยู่หรือ? งั้นจะเป็นไปได้ไหม ถ้าฉันจะขอสั่งซื้อสัก 10 ลำ!”  

 

 

 

 

 

ท่าทีของซางฮันจริงจัง บ่งบอกชัดว่ามิใช่เรื่องล้อเล่น  

 

 

 

 

 

อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงกลับส่ายหัว และกล่าว “เรือเหาะเฟิงหลีลำนี้ เครื่องยนต์และอาวุธของมัน ปล้นมาจากการรุกรานของเผ่ากริมในครั้งแรก มันถูกดัดแปลงมาจากอุปกรณ์ของเมืองลอยฟ้าโดยตรง นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมมันถึงทรงพลัง แต่สำหรับเรือเหาะที่ขายกันทั่วๆไป ไม่ได้มีอำนาจทำลายล้างถึงขนาดนี้ มันเพียงพอที่จะบดขยี้จักรพรรดิสัตว์ร้ายเลเวล C เท่านั้น”  

 

 

 

 

 

“อาวุธของเมืองลอยฟ้า?” ได้ยินประโยคนี้ ซางฮันย้อนนึกไปถึงคู่ชีวิตของเธอ ภาพของชุ่ยเหลียน ผู้ใช้พลังเลเวล A ที่ถูกอาวุธของเผ่ากริมสังหารลงปรากฏในความทรงจำ  

 

 

 

 

 

“มิน่าเล่า ลำแสงที่ยิงออกมาจากปืนใหญ่ มันถึงได้ดูคุ้นๆนัก” ซางฮันยิ้มขมขื่น แต่จากนั้นสีหน้าของเธอก็กลายเป็นมุ่งมั่น “ต่อให้มันสามารถสู้ได้แค่จักรพรรดิสัตว์ร้ายเลเวล C ก็ตาม แต่มันก็ยังทรงพลังอยู่ดี ที่สำคัญที่สุดก็คือ มันสามารถสนับสนุนผู้ใช้พลังได้เป็นอย่างมาก แถมยังจุคนได้เยอะกว่าฮอลศึก มองยังไงก็เป็นของดี ฉันจะสั่งซื้อมัน!”  

 

 

 

 

 

ฉินเฟิงยิ้มบาง “ตกลง เมื่อเป็นคำขอของจ้าวพรมแดน ผมจะเร่งกระบวนการผลิตให้เร็วที่สุด”  

 

 

 

 

 

“และฉันจะเฝ้ารอคอยวันที่สินค้าส่งมาถึง!” ซางฮันกล่าวตบท้าย  

 

 

 

 

 

อันที่จริงแล้ว เรือเหาะของกลุ่มเฟิงหลี เหมาะสมกับการต่อสู้ในสงครามระหว่างกองทัพสัตว์ร้ายเป็นอย่างมาก อย่างแรกเลยคือมันมีขนาดใหญ่กว่าฮอลศึก และพลังทำลายล้างที่มากกว่า อินทรีย์ยักษ์โบราณเป็นตัวอย่างที่ดี หากเป็นฮอลศึกที่เผชิญหน้ากับมัน คงถูกฉีกทึ้ง ทำลายเป็นชิ้น ทว่าหากเป็นเรือเหาะ อินทรีย์ยักษ์ไม่มีทางสั่นคลอนมันได้  

 

 

 

 

 

ในฐานะผู้ครอบครองความทรงจำของอีก 10 ปีข้างหน้า เลยเป็นธรรมดา ที่ฉินเฟิงจะตระหนักว่าจักรกลแบบใด เหมาะสมกับสงครามในอนาคต  

 

 

 

 

 

หลังจบหัวข้อนี้ ซางฮันยังคงกล่าวต่อ “ภารกิจนี้ ยังคงให้แต้มสองเท่าเหมือนเดิม จักรพรรดิมังกรไฟตัวนี้ คุณสามารถเลือกวัตถุดิบจากมันไปได้ 7 ส่วน ที่เหลืออีก 3 ส่วนเป็นของฉัน ว่าอย่างไร?”  

 

 

 

 

 

การต่อสู้ในครั้งนี้ ฉินเฟิงมีบทบาทค่อนข้างมาก แม้ซางฮันจะปวดใจ แต่รางวัลต้องตามผลงาน เธอจะไม่ขี้เหนียว  

 

 

 

 

 

เลเวล B ที่ติดตามเธอต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายปิดปากเงียบ เพราะฉินเฟิงแข็งแกร่งจริงๆ เป็นผู้ทำผลงานได้มากสุด ดังนั้นพวกเขาเลยรู้สึกว่า มันสมเหตุสมผล  

 

 

 

 

 

แต่ในกรณีนี้ สินสงครามที่พวกเขาได้รับ มันย่อมลดน้อยลง  

 

 

 

 

 

ดังนั้นจึงหลีกเลี่ยงความไม่พอใจเล็กๆน้อยๆไม่ได้  

 

 

 

 

 

“ผมต้องตกลงอยู่แล้ว!” ฉินเฟิงไม่มีความเกรงอกเกรงใจ สิ่งเหล่านี้สมควรเป็นเขาที่ได้รับตั้งแต่แรก ส่วนความไม่พอใจของคนอื่นๆ เขาไม่สน!  

 

 

 

 

 

ด้วยเหตุนี้ ฉินเฟิงจึงเลือกแก่นอบิลิตี้จักรพรรดิมังกรไฟ , เลือด , เนื้อ และเกล็ดมังกรบางส่วน  

 

 

 

 

 

นอกนั้นที่เหลือ ยกให้ซางฮันทั้งหมด  

 

 

 

 

 

แก่นอบิลิตี้จักรพรรดิสัตว์ร้าย ย่อมไม่พ้นวัตถุดิบที่แพงที่สุด แค่เฉพาะมัน มีค่าเทียบเท่ากับร่างของจักรพรรดิสัตว์ร้ายถึงครึ่งตัว  

 

 

 

 

 

‘ดูเหมือนว่า ความเร็วในการยกระดับของฉันจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แม้พลังพิเศษดูดกลืนจะทรงพลัง แต่ยังขาดความเสถียรไปบ้าง ดังนั้นต้องวางรากฐานให้มั่นคง’  

 

 

 

 

 

ขณะขบคิด ฉินเฟิงก็วางแผนจะดูดซับแก่นอบิลิตี้จักรพรรดิสัตว์ร้ายก้อนนี้อย่างช้าๆ  

 

 

 

 

 

“เอาล่ะ ฉินเฟิง , ไป๋หลี ตอนนี้ฉันอยากจะขอร้องอะไรบางอย่าง” ซางฮันกล่าว  

 

 

 

 

 

“จ้าวพรมแดนเชิญสั่ง”  

 

 

 

 

 

“การรุกรานจากกองทัพสัตว์ร้ายในป่าหยวน ปกติแล้วจะกินเวลาราวๆครึ่งเดือน แต่ตอนนี้มันเกิดขึ้นก่อนกำหนด แม้ว่ารอยแยกมิติจะเสถียรแล้วก็ตาม แต่เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกรณีสัตว์ร้ายที่แข็งแกร่งบุกเข้ามา ฉันเลยอยากจะให้คุณประจำการอยู่ที่นี่ เฝ้ารอจนกระทั่งการรุกรานในครั้งนี้จบลง”  

 

 

 

 

 

ขณะกล่าวอย่างจริงจัง ซางฮันก็มองไปทางไป๋หลี  

 

 

 

 

 

ดูเหมือนว่าเธอจะยังจำได้ ว่าก่อนหน้านี้ ไป๋หลีสามารถลบรอยแยกมิติได้ชั่วพริบตาหนึ่ง มันเป็นฉากที่สะบั้นศีรษะของราชันย์สัตว์ร้าย  

 

 

 

 

 

แม้ในครั้งนี้ จะไม่ทราบว่าจักรพรรดิสัตว์ร้ายหลุดมาได้อย่างไร แต่พลังของไป๋หลี เธอยังคงจดจำมันได้ดี  

 

 

 

 

 

“แน่นอน ฉันจะไม่ปล่อยให้คุณอยู่ที่นี่คนเดียว ฉันจะให้องครักษ์ของฉันบางส่วนอยู่กับคุณ ร่วมมือกันกำจัดศัตรู และหากเจอศัตรูที่ไม่สามารถเอาชนะ ฉันอนุญาตให้พวกคุณใช้ช่องว่างมิติ หลบหนีได้เลยทันที”  

 

 

 

 

 

“นี่ .. ก็ได้!” สำหรับข้อเสนอนี้ของซางฮัน ฉินเฟิงแสดงท่าทีขบคิดเล็กน้อย  

 

 

 

 

 

แต่สุดท้ายก็ตกลง เพราะตอนแรกเขาคิดว่าเมื่อบรรลุภารกิจที่นี่แล้ว ก็จะไปเก็บกวาดสัตว์ร้ายในหุบเหวตอนเหนือต่อ แต่คิดไปคิดมา จะทางไหนก็คงเหมือนกัน  

 

 

 

 

 

ซางฮันเมื่อเห็นฉินเฟิงลังเล ก็นึกว่าฉินเฟิงไม่เต็มใจ  

 

 

 

 

 

‘ตอนนี้แต้มสงครามโดยรวมในมือฉินเฟิง ถ้านับจากภารกิจนี้แล้ว อย่างน้อยน่าจะมีสัก 300,000 แต้ม ซึ่งตัวเลขนี้ เกรงว่าเขาสามารถแลกเปลี่ยนทุกอย่างที่ต้องการได้ ดูเหมือนว่าฉันจะต้องยอมกรีดเลือดอีกครั้ง’  

 

 

 

 

 

ในหัวใจของซางฮันบังเกิดความวิตก อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเรื่องใหญ่ สามารถมองผ่านไปได้ สมควรให้ความสำคัญกับการปราบปรามป่าหยวนเป็นอันดับแรก  

 

 

 

 

 

คิดได้ดังนั้น ซางฮันขบฟันกล่าว “ฉันเข้าใจดี ว่าตอนนี้ อาจไม่มีสิ่งที่คุณอยากใช้แต้มสงครามแลกกับมันเป็นพิเศษ แต่ฉันสามารถยกระดับสิทธิ์ขั้นสูงให้แก่คุณได้ ยอมให้คุณแลกเปลี่ยนรายการวัตถุระดับสูง ซึ่งไม่อยู่ในรายการธรรมดา”  

 

 

 

 

 

ซางฮันเปิดอุปกรณ์สื่อสาร ดำเนินการอย่างรวดเร็ว พักหนึ่ง เสียงติ๊ด ติ๊ด ก็ดังขึ้นบนข้อมือฉินเฟิง  

 

 

 

 

 

ฉินเฟิงยกมือขึ้นมาดู และพบว่าหน้าต่างแลกเปลี่ยนของเมืองเป่ยหัว เขาได้รับสิทธิ์สูงขึ้นไปอีกขั้น สิ่งที่ตนสามารถแลกเปลี่ยนได้ จากเดิม แต้มสูงสุดอยู่แค่หลักหมื่น ตอนนี้มันพุ่งไปถึงหลายแสน  

 

 

 

 

 

“ในเมืองเป่ยหัว ปรากฏดาวตกร่วงจากฟ้าเมื่อ 50 ปีก่อน และมันมีคุณสมบัติไฟ เหล่าผู้ใช้อบิลิตี้ต่างเรียกขานมันว่า ‘ศิลาศักดิ์สิทธิ์แห่งเปลวเพลิง’ เพราะอาศัยศิลาศักดิ์สิทธิ์ก้อนนี้เอง ชุ่ยเหลียนถึงสามารถกลายเป็นผู้ใช้พลังเลเวล A ได้”  

 

 

 

 

 

ฉินเฟิงก้มลงมองรายการแลกเปลี่ยน ปรากฏภาพในมุมมองสามมิติ ศิลาศักดิ์สิทธิ์แห่งเปลวเพลิงมีขนาดเท่ากำปั้น รอบตัวมันส่งรูนไฟนับไม่ถ้วนกระจายออกมา  

 

 

 

 

 

เจ้าสิ่งนี้ กลับกลายเป็นว่า มันเป็นการดำรงอยู่ชนิดเดียวกันกับศิลานรก!  

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】
Status: Ongoing
อ่านนิยายโคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】ภายในตัวอาคารที่ถูกเสริมแกร่งด้วยเหล็กกล้า พื้นโถงทางเดินราวกับกระจกใส ทั้งแพทย์และพยาบาลต่างเดินกันให้วุ่นไปตลอดเส้นทาง   ที่นี่คือสถาบันวิจัยเขตชานเมืองใหม่ของเมืองเฉิงหยาง   ณ หนึ่งในพื้นที่บริเวณของสถาบัน กลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวที่ทั้งตื่นเต้นระคนวิตกกังวล กำลังเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ   “กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง! หมายเลข 2318 ฉินเฟิง กรุณาไปเข้ารับการฉีดยากระตุ้นในแอเรียที่ 3 ด้วย!”   “ถึงตาของฉันแล้- โครม!”   วัยรุ่นชายผุดลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว จนเจ้าตัวเสียหลัก สะดุดขาตัวเองล้มคะมำลงกับพื้น   เพียงได้ยินเสียงกระแทก ทุกคนก็พอจะรับรู้ได้ว่าการล้มหน้าฟาดของอีกฝ่ายรุนแรงขนาดไหน   “อ๊า! ฉินเฟิง!” เห็นถึงฉากนี้ โจวฮ่าวก็กลายเป็นตื่นตระหนก เขาเร่งก้าวไปข้างหน้าเพื่อช่วยเหลือสหายของตนอย่างร้อนรน   แล้วก็พบกับผลลัพธ์คาดไม่ถึง -ฉินเฟิงที่ล้มลงดันสลบไปซะอย่างงั้น!   “ชิบหายแล้ว ฉินเฟิง! นายคงไม่ได้หมดสติจริงๆหรอกใช่ไหม เล่นตลกอะไรในเวลาสำคัญแบบนี้เนี่ย? รีบตื่นขึ้นมาเร็วเข้า! ถึงเวลาฉีดยา ‘กระตุ้นพลัง’ ของนายแล้วนะ!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset