บทที่ 305 อันดับที่มีประสิทธิภาพ
บทที่ 305
อันดับที่มีประสิทธิภาพ
เหตุการณ์นี้ทำให้ทั่วทั้งสำนักเฉียนหลงต้องสั่นสะเทือน
อันดับหนึ่งของรายชื่อเฉียนหลงนั้นเปลี่ยนไป และทุกคนต่างก็คิดว่าผลรายชื่ออันดับในเหรียญนั้นคงจะผิดพลาดเป็นแน่
แม้ว่าหลายคนหวังว่า ลั่วอู๋ จะได้ขึ้นไปสู่อันดับหนึ่งของหลายชื่อ แต่ก็มีเพียงไม่กี่คนที่คิดว่าปาฏิหาริย์นี้จะเกิดขึ้นได้ จริง ๆ
ช่องว่างระหว่างคะแนนของเขากับเอ๋าเฉียนจุนนั้นใหญ่เกินไป
ที่ต้องเพิ่งปาฏิหาริย์ ก็เพราะว่าปาฏิหาริย์เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยาก
ไม่นานนักอาจารย์ของทางสำนักเฉียนหลงก็ได้ออกมายืนยันว่าตัวเลขที่ระบุอยู่ในรายชื่ออันดับเฉียนหลงนั้นถูกต้อง
ฝูงชนต่างตกตะลึงไปตาม ๆ กัน
มันเป็นความจริง ลั่วอู๋ได้อันดับหนึ่งในรายชื่อเฉียนหลงไปจริง ๆ คะแนนการทดสอบในสองวันที่ผ่านมานี้ของเขา ทำให้คะแนนรวมพุ่งสูงขึ้นถึง 30000 คะแนน มันไม่น่าเชื่อเลยจริง ๆ
เมื่อทราบข่าวนี้ใบหน้าอันสงบเสงี่ยมของเอ๋าหยู่ก็เผยให้เห็นร่องรอยของความประหลาดใจ และปลดปล่อยคลื่นอันโหมกระหน่ำไปมาในใจของเขา
นี่มันเป็นไปได้ยังไง! ลั่วอู๋ เหนือกว่า เอ๋าเฉียนจุน ในอันดับรายชื่อเฉียนหลงได้อย่างไรกัน?
แม้ว่าเขาจะเป็นผู้ปรับแต่งพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุดในรุ่น แต่มันก็ยังเป็นไปไม่ได้อยู่ดี! เขาจะบรรลุถึงจุดสุดยอดทั้งในด้านการต่อสู้และการปรับแต่งพลังวิญญาณไปได้อย่างไร
สีหน้าของหนานกงหยิงเอ๋อ ดูซับซ้อนมาก นางไม่คาดคิดว่าเขาจะผ่านการทดสอบเข้าสู่สำนักเฉียนหลงได้ด้วยซ้ำ ใครจะไปคิดว่าเขาจะมาได้ถึงขนาดนี้ หลังจากถอนหายใจยาวแล้ว นางก็หันกลับเดินเข้าไปในคฤหาสน์ของตน และประกาศปิดตัวห้ามรบกวนอย่างไม่มีกำหนด
ฉูจงฉวน, หลี่หยิน, กลุ่มแม่มด และหยู่เฮา ซึ่งเป็นเพื่อนพ้องของ ลั่วอู๋ ต่างรู้สึกตื่นเต้นกันมาก พวกเขาทุกคนมีความสุขที่เห็น ลั่วอู๋ทำสำเร็จ
ผู้คนในสำนักหม่าเฉินเองก็เช่นกัน พวกเขามีความสุขมาก
นั่นก็เพราะว่าพวกเขาเกลียดเอ๋าเฉียนจุน และลั่วอู๋เองก็เป็นเพื่อนที่ดีของหยู่เฮา ในใจของพวกเขาจึงหวังให้ ลั่วอู๋ ไปถึงอันดับหนึ่งได้สำเร็จ
อีกทั้งพวกเขาทุกคนล้วนเคยพ่ายแพ้ให้กับลั่วอู๋ มันคงจะไม่ใช่เรื่องที่น่าอายหากพ่ายแพ้ให้กับอันดับหนึ่งของรายชื่อเฉียนหลง
ทั่วทั้งสำนักเฉียนหลงเต็มไปด้วยความสุข
นี่เป็นข้อพิสูจน์ให้เห็นว่า เอ๋าเฉียนจุน เป็นที่นิยมในแง่ลบมากเพียงใด
รองเจ้าสำนัก หลี่หวู่หยวนเองก็ตกใจเช่นกัน เขาไม่เคยคิดว่าจะมีใครสามารถเอาชนะเอ๋าเฉียนจุนได้นั่นก็เพราะเขาได้เห็นพรสวรรค์ระดับสัตว์ประหลาดของเอ๋าเฉียนจุนด้วยตัวเองมาแล้ว
ไม่อย่างนั้นเอ๋าเฉียนจุนก็คงจะไม่ได้รับอนุญาตให้ครอบครองยอดเขาวิญญาณที่สูงที่สุดในสำนักไปแบบนี้แน่ เขาเป็นอัจฉริยะระดับสัตว์ประหลาดที่สมควรได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ
ดังนั้น หลี่หวู่หยวนจึงไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าจะมีนักเรียนในรุ่นคนไหนสามารถเอาชนะ เอ๋าเฉียนจุนได้แบบนี้
หลี่หวู่หยวนปรากฏตัวขึ้นที่สนามใหญ่ของสำนัก เฉียนหลง โดยมีทูตเฉียนหลงสี่คนคุ้มกันตามมาอยู่ข้างหลัง เขาเรียกให้ลั่วอู๋มาเข้าพบในทันที
แม้ว่านักเรียนคนอื่น ๆ จะไม่กล้าเข้าใกล้ แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นพวกเขาก็สรรหาวิธีการต่างๆมาดักฟังการสนทนาระหว่างรองเจ้าสำนักและลั่วอู๋
หลี่หวู่หยวน มองไปที่ ลั่วอู๋ อย่างสงสัยแล้วพูดด้วยรอยยิ้มที่ดูใจดี “เด็กหนุ่มผู้ได้รับการแนะนำมาจากตระกูลลั่วสินะ ดูเหมือนว่าข้าจะจำเจ้าได้”
ลั่วอู๋พยักหน้า
หลี่หวู่หยวน ดูเหมือนชายชราธรรมดา เขามีลมปราณที่สงบ ไม่ทำให้ผู้คนรู้สึกถึงแรงกดดัน ซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกสบายใจ
“ข้าจำได้ว่าตระกูลลั่วปฏิเสธไม่ใช้โควตาพิเศษอยู่หลายต่อหลายครั้ง” หลี่หวู่หยวน กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ตอนแรกข้าคิดว่าทายาทในรุ่นนี้เองก็คงจะใช้การไม่ได้ เพราะทางตระกูลเอ๋า ได้ส่งเอ๋าเฉียนจุนมา และแรงกดดันของรุ่นนี้ที่เต็มไปด้วยผู้มีพรสวรรค์หลั่งไหลเข้ามาก็ดูจะยิ่งใหญ่เกินไป”
ทั้งที่มันเป็นคำชม แต่ลั่วอู๋กลับรู้สึกประหม่าเล็กน้อย
จู่ๆหลี่หวู่หยวนก็ถามขึ้นว่า “ข้าไม่ได้เคลือบแคลงใจในระดับการปรับแต่งพลังวิญญาณของเจ้า เพราะยังไงซะเจ้าก็เป็นทายาทของตระกูลลั่ว และข้าเองก็ยอมรับว่าเจ้าแข็งแกร่งมากในการทดสอบการศิลปะการต่อสู้ทั้ง 7 รูปแบบ ในระดับที่สามารถเทียบเคียงกับเหล่าผู้ที่มีความสามารถในการต่อสู้ระดับสูงได้ เจ้าไม่ได้ด้อยกว่าพวกเขา แต่การที่เจ้าสามารถเอาชนะ เอ๋าเฉียนจุนนั้นมันแปลก เจ้าทำได้อย่างไรกัน? ”
น้ำเสียงของ หลี่หวู่หยวน ยังคงไม่หนักและดูสบาย ๆเป็นกันเอง
เหมือนกับกำลังมีคนมาถามเขาว่า ได้กินข้าวรึยัง
แต่ความหมายกลับไม่ใช่อะไรที่เรียบง่ายแบบนั้น
นักเรียนที่ฟังการสนทนานี้ในบริเวณใกล้เคียง ต่างยกหูของพวกเขาขึ้น พวกเขาเองก็อยากรู้ว่าลั่วอู๋ ทำได้อย่างไร
“ข้ารู้จักสัตว์วิญญาณและขอบเขตมิติวิญญาณของเจ้าดี ดูเหมือนว่าคะแนนการทดสอบดังกล่าวจะไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่” หลี่หวู่หยวน กล่าว
ลั่วอู๋สงบลงหายใจเข้าลึก ๆ และพูดอย่างใจเย็นว่า “ข้าโกง”
“หา?” หลี่หวู่หยวนประหลาดใจเล็กน้อยกับคำตอบนี้
เขาไม่แปลกใจเลยว่าลั่วอู๋โกง
แต่เขาคิดว่าลั่วอู๋จะมีอธิบายที่ดีกว่านี้ และเขาไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะยอมรับออกมาง่ายๆด้วย
ทุกคนที่ดักฟังอยู่เองก็ต่างประหลาดใจไปตาม ๆ กัน
โกง?
โกงยังไง? การทดสอบเหล่านี้เป็นการทดสอบพลังในการต่อสู้ที่ยากถึงขีดสุด
“โกงงั้นเหรอ?” หลี่หวู่หยวน มองไปที่ ลั่วอู๋ด้วยความสนใจ “เจ้าโกงการทดสอบได้อย่างไร?”
“ ข้าคงจะตอบให้ไม่ได้” ลั่วอู๋พูดอย่างไร้เดียงสา
“โอ้ ในเมื่อเจ้ายอมรับว่าเจ้าโกง แสดงว่าความสามารถของเจ้าไม่เพียงพอ เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะยกเลิกอันดับที่เป็นอยู่ของเจ้างั้นเหรอ ?” หลี่หวู่หยวน ขู่
ลั่วอู๋ กะพริบตา “อ่อ ข้าเผลอหลุดปากไป ข้าไม่ได้โกง ๆ นี่คือพลังที่แท้จริงของข้า”
หลี่หวู่หยวน ไม่สามารถหัวเราะหรือร้องไห้ได้ไป ครู่ใหญ่ ๆ
“เจ้าคิดว่ามาปฏิเสธเอาตอนนี้ มันจะมีประโยชน์รึไง?” หลี่หวู่หยวน กล่าว
ลั่วอู๋ก้มหน้า “ถ้าท่านรองเจ้าสำนัก สามารถแสดงหลักฐานการโกงของข้าได้ ข้าก็ยินดีที่จะถูกลงโทษ”
ลั่วอู๋ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะสามารถหลากรองเจ้าสำนักได้
เขารู้ดีว่าอีกไม่นานจะต้องมีปัญหาแน่ ๆ ลั่วอู๋ จึงยอมรับไป แต่เขาไม่สามารถยอมให้ตัวโองโดนยกเลิกอันดับที่เป็นอยู่ได้ ลั่วอู๋ไม่เต็มใจกับสิ่งนั้นอย่างยิ่ง
แต่ยังไงซะ ลั่วอู๋ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากตอบไปว่าเขาโกง
“เจ้ามันช่างเป็นเด็กที่มีปัญหาเสียจริง” หลี่หวู่หยวนไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากบอกว่าเขาไม่มีหลักฐาน
ลั่วอู๋กระซิบ“ หากท่านไม่มีเหตุผลในการยกเลิกอันดับโดยของข้า ข้าก็ไม่ใช่เด็กมีปัญหา”
หลี่หวู่หยวน ยิ้มอย่างโกรธ ๆ “เจ้าหนุ่มนี่ ช่างกล้าท้าทายข้า”
“ท่านรองเจ้าสำนัก ข้าขอรับรองได้เลยว่าแม้ข้าจะใช้วิธีการอันแยบยล แต่คะแนนการทดสอบเหล่านี้ก็เป็นความจริง และสะท้อนถึงความสามารถที่แท้จริงของข้า โดยไม่มีการฉ้อโกงใด ๆ” ลั่วอู๋กล่าวอย่างจริงจัง
หลี่หวู่หยวน มองไปที่ ลั่วอู๋ อย่างสงสัย “เจ้าลองไปรับการสอบอีกครั้งสิ ถ้าเจ้ายังได้คะแนนในการทดสอบที่สูงขนาดนี้อีกรอบ ข้าจะยอมรับในความสำเร็จของเจ้า”
“รับทราบขอรับ” ลั่วอู๋ไม่ได้ตื่นตระหนก
หลี่หวู่หยวนสั่งให้ผู้คนรอบตัวเขากระจัดกระจายกันไป จากนั้นเขาก็พาลั่วอู๋เพียงคนเดียวขึ้นไปบนเวที แล้วทำการทดสอบทั้งเจ็ดรูปแบบอย่างละเอียด
หลังจากได้รับคำยืนยัน หลี่หวู่หยวนก็ได้ตรวจสอบสภาพร่างกายของลั่วอู๋ด้วยตนเอง
เมื่อตรวจสอบสภาพร่างกายเรียบร้อยแล้ว ลั่วอู๋ ได้เข้ารับการทดสอบอีกครั้ง
หลี่หวู่หยวน ไม่ได้ยืนรออยู่เฉยๆ แต่อย่างใด การทดสอบเหล่านี้สร้างขึ้นโดยพลังของมิติเหนือเมฆ เขาจึงมีสิทธิ์ในเฝ้าดูการทดสอบ
เขาได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น สีหน้าการแสดงออกของเขาดูจริงจังมากในตอนแรก จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นตกตะลึง แล้วเปลี่ยนไปเป็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยอารมณ์ร่วม ท้ายที่สุดเขาก็หัวเราะออกมา
อย่างนี้นี่เอง
ไม่นานนักคะแนนการทดสอบก็รู้ผลออกมา
คะแนนยังคงเป็น 139000
“ ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม ท่านรองเจ้าสำนัก?” ลั่วอู๋ถาม
หลี่หวู่หยวน จ้องมองไปที่ ลั่วอู๋ สีหน้าของเขาดูจริงจังในตอนแรกจากนั้นค่อยๆเปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม “ใช่แล้ว อันดับและความสามารถของเจ้าเป็นความจริง”
“ขอบคุณขอรับ ท่านรองเจ้าสำนัก” ลั่วอู๋ถามอย่างระมัดระวัง “งั้นข้ากลับไปได้แล้วใช่ไหม ?”
“เชิญเลย” หลี่หวู่หยวน โบกมือ
ลั่วอู๋เดินจากไปอย่างไม่รีบร้อน
แม้ว่าลมปราณของรองเจ้าสำนักจะไม่ได้น่ากลัว แต่เขาก็มีแรงกดดันที่มองไม่เห็นอยู่
เมื่อมองไปที่ด้านหลังของ ลั่วอู๋ หลี่หวู่หยวน ก็อดไม่ได้ที่จะบ่นพึมพำแล้วพูดออกมาว่า “ไม่น่าเชื่อเลยว่าสัตว์วิญญาณในตำนานแบบนั้นจะมีตัวตนอยู่จริง ๆ นี่มันเหลือเชื่อมาก … ”