ไหปีศาจ – ตอนที่ 306 รูปปั้นทองแดงจำนวนนับไม่ถ้วน

บทที่ 306 รูปปั้นทองแดงจำนวนนับไม่ถ้วน
บทที่ 306
รูปปั้นทองแดงจำนวนนับไม่ถ้วน

เมื่อลั่วอู๋กลับถึงบ้านพัก เขาก็ได้พบกับฉูจงฉวนและ หยู่เฮา ที่กำลังรอเขาอยู่

“เยี่ยม ตอนนี้ประกาศยืนยันของท่านรองเจ้าสำนักออกมาแล้ว ว่าอันดับของเจ้าเป็นของจริง เจ้าหลอกพวกเขาได้อย่างไรกันเนี่ย?” ฉูจงฉวน ถามอย่างตื่นเต้น

ลั่วอู๋ไม่พอใจ “หลอกอะไรเล่า ข้าทำได้จริง ๆ”
“อย่ามาโม้กันเลยน่า” ฉูจงฉวนดูหมิ่น
หยู่เฮาแสดงความยินดีด้วยก่อนเป็นอย่างแรก จากนั้นจึงกล่าวด้วยอารมณ์หงุดหงิด “ดูเหมือนว่าข้ายังคงต้องฝึกฝนอีกมาก ข้าในตอนนี้ยังแข็งแกร่งไม่พอในฐานะผู้สืบทอดของท่านหม่าเฉิน แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไรหรอก มันก็แค่โลกใบนี้นั้นกว้างใหญ่และมีอัจฉริยะที่ยอดเยี่ยมมากมาย ข้าจะต้องไม่ชะล่าใจจนเกินไป ”
“อืม เจ้าก็รู้ตัวเองดีนี่” ฉูจงฉวน กล่าวด้วยรอยยิ้ม “เมื่อข้าได้ สัตว์วิญญาณตัวที่สาม ข้าจัดการเจ้าเป็นอย่างแรกแน่”

หยู่เฮา มองไปที่ ฉูจงฉวน “อัจฉริยะที่ข้าพูดถึงนั้นไม่รวมเจ้า เจ้ามันก็แค่เด็กโรคจิต”

“พูดแบบนี้เจ้าจะหาเรื่องรึไง ?” ฉูจงฉวนโกรธ
หยู่เฮา พูดเบา ๆ “เจ้าเอาชนะข้าไม่ได้หรอก”
ฉูจงฉวน ขบฟันของเขา
เมื่อเขาได้สัตว์วิญญาณตัวที่สาม เขาจะกลับมาสู้กับหยู่เฮาแน่!

“เอาล่ะ เอาล่ะ พอได้แล้วเลิกทะเลาะกัน” ลั่วอู๋ เปลี่ยนหัวข้ออย่างรวดเร็ว “การต่อสู้ชิงอันดับเฉียนหลงมันยังไม่จบ ข้ายังสบายใจไม่ได้”

หยู่เฮา และ ฉูจงฉวน หยุดเถียงกัน
จริง ๆ แล้วยังมีเวลาเหลืออีกหนึ่งวันก่อนที่จะสิ้นสุดการชิงอันดับรายชื่อเฉียนหลง

อย่างที่ทุกคนทราบกันดี มีเพียงเอ๋าเฉียนจุนและลั่วอู๋ เท่านั้นที่กำลังแข่งขันกันเพื่อแย่งอันดับหนึ่งแต่ปัญหาก็คือ เอ๋าเฉียนจุน ยังไม่ได้มีปฏิกิริยาใด ๆหลังจากที่ถูกชิงอันดับหนึ่งไปเลยแม้แต่น้อย

ทุกคนต่างให้ความสนใจกับยอดเขาวิญญาณที่อยู่ในจุดสูงที่สุดของสำนักเฉียนหลง

วันสุดท้ายของการชิงอันดับรายชื่อเฉียนหลง
นักเรียนของสำนักเฉียนหลงและสำนักหม่าเฉิน ได้มารวมตัวกันที่ใต้ภูเขาวิญญาณ เพื่อรอดูว่าเอ๋าเฉียนจุนจะตอบสนองอย่างไร

หลายคนคาดเดาว่าเอ๋าเฉียนจุนจะลงมาจากภูเขาอีกครั้ง แม้ว่าจะเขาคงจะไม่ได้สนใจอันดับแรกของรายชื่อเฉียนหลง แต่ความกตัญญูต่อตระกูลของเขาที่มีความแค้นต่อตระกูลลั่ว เขาก็ควรจะลงมาต่อสู้กับ ลั่วอู๋

เวลาผ่านไปนานมากแต่ก็ยังไม่มีการตอบสนองใด ๆ มาจากยอดเขาวิญญาณ
ลั่วอู๋เองก็มารออยู่ใต้ยอดเขาวิญญาณเช่นกัน
เขาไม่ได้ประมาทแต่อย่างใด
เพราะหากเกิดเหตุอะไรขึ้น เขาก็จะได้รีบไปรับการทดสอบ เพราะตอนนี้ยังพอมีเวลาให้เขาสามารถเพิ่มคะแนนของตัวเองโต้กลับในกรณีฉุกเฉินได้อยู่

เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ
จนกระทั่งเมื่อถึงเวลาที่ชั่วโมงสุดท้ายในวันสุดท้ายของการชิงอันดับ การรอคอยอันลุ้นระทึกก็ได้สิ้นสุดลง

ท้ายที่สุดแล้วในการชิงอันดับรายชื่อเฉียนหลง ลั่วอู๋ ก็ได้รับอันดับหนึ่งไป

อย่างไรก็ตาม มีหลายคนไม่พอใจที่พวกเขาพลาดโอกาสที่จะได้เห็นการต่อสู้ระหว่างทั้งสองคนผู้แข็งแกร่ง

“ตราบใดที่อันดับหนึ่ง ไม่ใช่เอ๋าเฉียนจุน ข้าก็มีความสุขแล้ว ฮ่า ๆ ” ถู่เล่ยซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูก เอ๋าเฉียนจุน โยนลงมาจากยอดเขา อดไม่ได้ที่จะแสดงความสุขของเขาออกมา
จู่ ๆ ก็มีคนถามออกมาด้วยเสียงต่ำ “แต่ทำไมกัน ทำไมเอ๋าเฉียนจุนถึงยอมแพ้ไปง่าย ๆ แบบนี้ล่ะ?”

นี่เองก็เป็นคำถามในใจของใครหลาย ๆ คนเช่นกัน
ไม่มีเหตุผลที่จะไม่พูดถึงเรื่องนี้

มีช่องว่างระหว่างทั้งสองเพียงแค่สองพันคะแนน และ เอ๋าเฉียนจุนเองก็ผ่านการทดสอบต่าง ๆ ในสภาพที่ผ่อนคลายมาก เขาน่าจะสามารถทำคะแนนที่สูงยิ่งกว่านี้ได้ไม่ใช่เหรอ ?

“ อาจจะเป็นเพราะเขาไม่ทันสังเกตก็ได้” เอ๋าหยู่ ซึ่งเงียบไปนานจู่ๆก็พูดขึ้นมา “เขาสนใจเพียงการฝึกฝน ในใจของเขามีแต่เรื่องนั้นเรื่องเดียว ข้าเกรงว่าเขาคงจะไม่ใส่ใจกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในรายชื่อเฉียนหลง ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าเขานั้นไม่ใช่อันดับหนึ่งอีกต่อไปแล้ว”

ทันทีใดนั้น
ทุกคนก็ต่างพยักหน้าเห็นด้วย
ตามหลักแล้วก็ควรจะมีใครขึ้นไปเตือนเขาถึงเรื่องนี้ แต่คราวนี้กลับไม่มีใครขึ้นไปเตือนเขา
นั่นก็เพราะคนกลุ่มสุดท้ายที่ขึ้นไปหาเขาก็ถูกเขาโยนทิ้งลงมาจากยอดเขากันหมด

ลั่วอู๋มองไปที่เอ๋าหยู่แล้วพูดด้วยท่าทีสงสัย “แล้วทำไมเจ้าไม่ไปเตือนเขาล่ะ เจ้าเป็นคนตระกูลเอ๋าเช่นเดียวกันกับเขาไม่ใช่เหรอ ? เขาไม่มีทางโจมตีเจ้าอยู่แล้วนี่”

นอกจากนี้ตระกูลเอ๋าและตระกูลลั่ว นั้นไม่ถูกกันมาตั้งแต่รุ่นก่อน ๆ แล้ว ไหนจะเรื่องที่บรรพบุรุษของพวกเขาวางเดิมพันกันไว้อีก

“ เจ้ามองเขาในแง่ดีเกินไป ไอ้หมอนั่นมันบ้า” เอ๋าหยู่มองไปที่ยอดเขาวิญญาณอย่างแดกดัน “เจ้านั้นมันไม่สนใจใครหรอก ไม่ว่าใครกล้าที่มารบกวนการฝึกฝน เขาก็ไม่พอใจทั้งนั้นต่อให้เป็นบิดามารดาก็ไม่มีข้อยกเว้น”

ลั่วอู๋ตกใจมาก
เขาไม่รู้ว่าเอ๋าหยู่กล้าพูดยืนยันแบบนี้ได้อย่างไร
เขาเกรงว่าบางทีที่เขาพูดมันอาจจะเคยเกิดขึ้นจริงก็ได้
ลั่วอู๋มองไปที่ยอดเขาวิญญาณ
คนที่แข็งแกร่งเช่นนี้ไม่ได้น่าอิจฉาเลย เพราะเพื่อความแข็งแกร่งแล้ว เขาคนนั้นได้กลายเป็นคนที่ไม่มีอารมณ์ไป ลั่วอู๋ยอมเป็นคนธรรมดาไปตลอดกาลเสียยังจะดีกว่า

และแล้วการต่อสู้เพื่อชิงอันดับรายชื่อเฉียนหลงจบลงในที่สุด หรือก็คือตามที่ลั่วอู๋คำนวณไว้ เขาได้อยู่ในสำนักเฉียนหลง มานานร่วมกว่าครึ่งปีแล้ว

ช่างเป็นวันที่ดีจริง ๆ
รองเจ้าสำนัก หลี่หวู่หยวน ปรากฏตัวอีกครั้ง เขามองไปที่ฝูงชนด้วยรอยยิ้ม “การต่อสู้เพื่อชิงอันดับรายชื่อได้สิ้นสุดลงแล้ว 50 อันดับแรกจะได้รับคะแนนพิเศษ และตามที่ตกลงไว้นักเรียนที่อยู่ในสิบอันดับแรกจะได้มีส่วนร่วมในการฝึกอบรมพิเศษในมิติโดยสำนักเฉียนหลง”

“นักเรียนที่ได้สิบอันดับแรกได้แก่ ลั่วอู๋, เอ๋าเฉียนจุน, หยู่เฮา, จินฉัน, ไห่เซอ,เฉียนเหอ , ทูหยาน, เหว่ยเฉิงโฉว, เหวินเสี่ยว, ฉูจงฉวน”
“ แน่นอนว่าสำหรับอันดับหนึ่ง ฮ่าฮ่า พวกเราทุกคนรู้กันดีว่า รางวัลของเขาคือสามารถยื่นคำร้องขอกับทางสำนัก เฉียนหลงได้หนึ่งอย่าง”

ผู้คนต่างมองไปที่ลั่วอู๋ด้วยความอิจฉา
“ นักเรียนลั่วอู๋ เจ้าต้องการจะขออะไร?” หลี่หวู่หยวน ถามด้วยรอยยิ้ม

ลั่วอู๋ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดออกมาว่า “คำขอที่ข้าต้องการนั้นเกี่ยวข้องกับเจ้าสำนัก”

“หืม?” หลี่อู๋หยวนขมวดคิ้วอย่างหาดูได้ยาก “อา เข้าใจแล้ว หลังจากนี้เจ้าตามข้ามา ข้าจะคุยกับเจ้าเกี่ยวกับคำขอนั้น”

ลั่วอู๋พยักหน้า
ไม่ไกลนักจากตรงนั้น เหวินเสี่ยวจ้องมองไปที่ลั่วอู๋
เขากำลังมองตามหาเจ้าสำนักเช่นกัน ถ้าเขาแอบติดตาม ลั่วอู๋ ไปเขาจะได้เห็นเจ้าสำนัก
เหวินเสี่ยวต้องการพบกับภูตไห เขาหาข้อมูลมาล่วงหน้าและรู้ว่าภูตไหนั้นมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเจ้าสำนัก จากหนังสือชื่อ “สำนักเฉียนหลง ภูตไห” ใน คฤหาสน์สุตรา

ดังนั้นจุดประสงค์ของเขาคือการเข้าพบเจ้าสำนัก
หลี่หวู่หยวน กล่าวต่อ “เดิมทีสำนักเฉียนหลง จะเปิดประตูสำนักในทุก ๆ ครึ่งปี ในตอนนั้นทั้งอาจารย์ผู้สอนและนักเรียนทุกคนสามารถเข้า-ออกสำนักได้อย่างอิสระเป็นเวลา 1 เดือน แต่คราวนี้จะล่าช้าเล็กน้อยเนื่องจากการต่อสู้ชิงอันดับเฉียนหลง และในตอนนี้ในเมื่อการต่อสู้ชิงอันดับจบลงแล้ว ประตูของสำนักเฉียนหลงจะเปิดให้บริการตั้งแต่วันพรุ่งนี้”

ฝูงชนต่างโห่ร้อง
พวกเขาไม่ได้สื่อสารกับโลกภายนอกมาครึ่งปี และนักเรียนทั้งหมดต่างก็เป็นคนหนุ่มคนสาว ดังนั้นพวกเขาทุกคนย่อมคิดถึงญาติพี่น้องและเพื่อน ๆ ที่อยู่ภายนอกเป็นธรรมดา ในที่สุดพวกเขาก็สามารถออกไปพบปะคนเหล่านั้นได้เสียที

ลั่วอู๋เองก็ดีใจมาก

“ในที่สุดข้าก็สามารถกลับไปที่สำนักโล่พิทักษ์ได้ซะที อยากรู้จริง ๆ ว่าพวกเขาจะเป็นยังไงกันบ้าง ?” ลั่วอู๋คิด

หลังจากพูดอีกไม่กี่คำหลี่หวู่หยวน รองเจ้าสำนักก็หายตัวไปอย่างรวดเร็ว

ฉูจงฉวนดีใจจนประหม่าเล็กน้อย “พอพูดถึงการจะได้ไปฝึกในมิติแล้ว ข้าล่ะอยากให้มันเริ่มตั้งแต่ตอนนี้เลยจริง ๆ”

ตั้งตารอคอยที่จะได้ไปยังอาณาจักรเซียนโบราณผ่านทางสำนักเฉียนหลงมาตลอด มันดูมีความเป็นไปได้จริง ๆ ด้วยพลังของเทพพิทักษ์และเจ้าสำนัก

ฉูจงฉวน ต้องการสัตว์วิญญาณคู่พันธะตัวที่สามโดยเร็วที่สุด น่าเสียดายที่ตอนนี้ยังมีสัตว์วิญญาณน้อยเกินไปที่จะตรงกับความต้องการของเขา

“ไม่ต้องกังวลไปน่า มันก็คงจะเริ่มในเดือนนี้แหละ” ลั่วอู๋กล่าวอย่างสบายใจ

ฉูจงฉวน ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพยักหน้า
ทันใดนั้นทูตเฉียนหลง ที่สวมหน้ากากมังกรดำก็มาปรากฏตัวข้างๆ ลั่วอู๋ “ตามข้ามา ข้าจะพาเจ้าไปพบท่านรองเจ้าสำนัก”

ก่อนที่ลั่วอู๋จะได้มีเวลาตอบกลับ เขาก็ถูกทูตเฉียนหลงจับตัวไปและหายไปในทันที

เมื่อเขาลืมตาขึ้นอีกครั้ง ลั่วอู๋ ก็พบว่าเขาได้มาอยู่ที่ห้องโถงแห่งหนึ่งเสียแล้ว

ห้องโถงนี้นั้นเงียบสงบมาก มันล้อมรอบด้วยประติมากรรมสำริดจำนวนมาก โดยประติมากรรมเหล่านี้มีรูปร่างของสัตว์วิญญาณระดับจักรพรรดิในตำนาน ซึ่งทำให้ผู้คนที่เห็นรู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาล

มังกรแก่นแท้, นกอมตะเจ็ดสี, พยัคฆ์ขาว,อีกาทองสามขา, เต่าทักษิณ, เสือบูรพา, เทาเที่ย,มังกรแสงเทียน, แมวปีศาจจิวหมิง, นางพญานกยูง, เทพน้ำแข็ง, เทพสายฟ้า, เทพเพลิง,เทพวารี, โพธิสัตว์,จักรพรรดินีภูต , เจ้าแห่งแสง, มังกรศักดิ์สิทธิ์โบราณ, วานรศักดิ์สิทธิ์, นกภูเขาศักดิ์สิทธิ์,นอกจากนี้ยังมีสัตว์วิญญาณลึกลับอีกหลายตัวที่มีรูร่างแปลกประหลาด ฯลฯ

ลั่วอู๋รู้เป็นครั้งแรกว่ามีสัตว์วิญญาณระดับจักรพรรดิในตำนานมากมายถึงขนาดนี้

ประติมากรรมเหล่านี้เรียงรายไปทั่วทั้งห้องโถง
อย่างไรก็ตามสัตว์วิญญาณระดับจักรพรรดิพวกนี้ต่างก็มีลักษณะเฉพาะ เมื่อพวกมันตายอาจจะต้องใช้เวลาหลายหมื่นปีหรือหลายแสนปี กว่าพวกมันจะกลับมาเกิดใหม่บนโลกอีกครั้ง

รูปปั้นสัตว์วิญญาณระดับจักรพรรดิจำนวนมากที่แสดงอยู่ในห้องโถงนั้นน่าจะตายไปกันหมดแล้ว จึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่มันจะมาปรากฏต่อหน้าใครอีกครั้ง

นั่นก็เพราะประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ ในตอนนี้เพิ่งจะดำเนินมาได้เพียงไม่กี่หมื่นปี…

ไหปีศาจ

ไหปีศาจ

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง ไหปีศาจลั่วอู๋ โดนไหหล่นใส่หัวจนข้ามมิติไปอยู่ในร่างของ นายน้อยลั่ว ผู้ถูกเนรเทศ เพราะไม่สามารถทำพันธสัญญากับสัตว์อสูรได้ แต่แล้วเขาก็พบว่าเจ้าไหที่เป็นปัญหาได้เชื่อมต่อกับเขา ความสามารถของเจ้าไหปีศาจนี้ท้าทายสวรรค์ยิ่งนัก เพียงแค่ ลั่วอู๋ใส่ ดอกหญ้าลงไปมั่วๆ มันสังเคราะห์สัตว์วิญญาณระดับเงินให้กับเขา ยิ่งเขาลองใส่ของลงไปมั่วซั่วมากเท่าไหร่ก็ยิ่งสังเคราะห์ สิ่งต่างๆออกมา ทั้ง ยาวิญญาณ อาวุธวิญญาณ สัตว์อสูร ภูต

Comment

Options

not work with dark mode
Reset