บทที่ 309 ปลูกฝังความภักดี
บทที่ 309
ปลูกฝังความภักดี
ความตื่นตระหนกยังคงดำเนินต่อไปอยู่ชั่วขณะ จนในที่สุดฝูงชนก็กระจัดกระจายกันออกไป หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้เข้าไปทักทายแขก และผู้คุ้มกันก็กลับไปรักษาความสงบเรียบร้อย
การกลับมาของนายน้อยในวันนี้ถือเป็นเรื่องดีอย่างยิ่ง
เสี่ยวชา ผู้เป็นเจ้าของร้านคนที่ 2 โบกมือไปมา เขาต้องการเพิ่มเงินเดือนให้คนงานทุกคนขึ้นอีก 10% ทำให้คนงานทุกคนกระโดดเพื่อแสดงความดีใจที่ได้เข้ามาทำงานในร้านนี้
“ อาฟูอยู่ที่ไหน? ” ลั่วอู๋นั่งลงบนเก้าอี้ และถามด้วยความสงสัย
เสี่ยวชาตอบว่า “อาฟูได้เดินทางไปยังเมืองหลวงของจักรวรรดิแล้ว”
“ เมืองหลวงของจักรวรรดิ? ” ลั่วอู๋ตะลึง ” เขาไปทำอะไรที่เมืองหลวงของจักรวรรดิกัน? ”
เสี่ยวชากล่าวด้วยรอยยิ้ม ” นายน้อย ท่านไม่รู้หรอกหรือ ธุรกิจของเราเริ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้พวกเราเริ่มเปิดสาขาใหม่ ๆ ในหลายมณฑลรอบข้างแล้ว ”
ลั่วอู๋รู้สึกประหลาดใจ
เขาไม่ได้กลับมาที่นี่มานานกว่าครึ่งปีแล้ว สำนักโล่พิทักษ์ได้พัฒนาอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่เขาคิดไว้มาก
“ ต้องขอบคุณนายน้อย คฤหาสน์ชวนเทียนและตระกูลลั่วต่างให้ความช่วยเหลือพวกเราอย่างลับ ๆ ทำให้พวกเราพัฒนาขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ตามคำเชิญชวนของคฤหาสน์ชวนเทียน อาฟูเลยต้องเดินทางไปยังเมืองหลวงของจักรวรรดิเพื่อปรึกษาเรื่องการเปิดสาขาในเมืองหลวง มันควรจะเป็นท่านที่ต้องตัดสินใจ แต่ท่านก็ไม่เคยกลับมาเลย… ” เสี่ยวชาตอบ
ลั่วอู๋หัวเราะ และส่ายหัว ” มันก็เป็นเรื่องดีแล้วไม่ใช่หรือ ที่พวกเจ้าจะได้ตัดสินใจกันเอง ”
กลับกลายเป็นว่าคฤหาสน์ชวนเทียนและตระกูลลั่วคอยช่วยเหลือเขาอย่างลับๆ
ขอบคุณมาก สำหรับความช่วยเหลือจากตระกูลลั่ว
ลั่วอู๋ได้รู้ว่าตระกูลลั่วได้เสนอให้เขาเปิดธุรกิจในมณฑล หมิงหนาน ด้วยความช่วยเหลือในครั้งนี้เห็นได้ชัดว่าพวกเขานั้นต้องการที่จะซื้อใจลั่วอู๋
“ แต่ว่าตอนนี้มันก็มีปัญหาอยู่เหมือนกัน ” เสี่ยวชาพูดขึ้นหลังจากที่เงียบไปสักพักหนึ่ง
” มีอะไรงั้นหรือ? ” ลั่วอู๋ถาม
“ เมื่อครึ่งเดือนก่อน มันเป็นวันครบรอบ 60 พรรษาขององค์ราชา มีกองกำลังทหารมากมายที่เมืองหลวง ” เสี่ยวชาพูด “ ขณะนั้น สถานการณ์ในเมืองหลวงกำลังอยู่ในช่วงเวลาคับขัน ข้าในเวลานี้ก็ไม่ได้ติดต่อกับอาฟูมาเป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนแล้ว ”
ลั่วอู๋ถามออกไปทันที “ แล้วได้มีใครติดต่อไปยังคฤหาสน์ชวนเทียนบ้างไหม? ”
เนื่องจากเขาได้รับคำเชิญจากคฤหาสน์ชวนเทียน เขาจึงต้องเข้าไปที่เมืองหลวงของจักรวรรดิ หากไม่ได้รับการติดต่อจากเขา เราก็ควรที่จะติดต่อไปยังคฤหาสน์ชวนเทียนแทน
เสี่ยวชาหัวเราะเบา ๆ “ แน่นอนว่าข้าทำไปแล้ว แต่สำนักงานใหญ่ของคฤหาสน์ชวนเทียนก็ไม่ได้แจ้งข่าวสารอะไรมาเลยเป็นเวลานานแล้ว คนงานในสาขาได้บอกว่าเพราะพวกเขานั้นกำลังยุ่งมาก ”
“ ข้าจะจัดการเรื่องนี้ให้เอง ข้าจะเดินทางไปยังเมืองหลวง ” ลั่วอู๋ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดออกมา
เขามีสิ่งที่ต้องทำ เขาจำเป็นต้องไปยังคฤหาสน์ของตระกูลลั่ว
เสี่ยวชาพยักหน้า
“ ยังไงก็ตาม เจ้าช่วยติดต่อจี๋กุยรองผู้บัญชาการหน่วยสยบมังกรให้ข้าด้วย ” ลั่วอู๋ กล่าว
เสี่ยวชากล่าวด้วยรอยยิ้ม “ นายน้อย เมื่อวานนี้ จี๋กุยได้เข้ามาที่สำนักโล่พิทักษ์ของเราเพื่อซื้อยาจำนวนหนึ่งและเดินจากไป อาจจะเพราะว่าเขาจะต้องเดินทางในอีกไม่กี่วันนี้ก็เป็นได้ ”
นอกเขตของมณฑลหมิงหนาน เป็นที่อยู่ของหน่วยสยบมังกร ไม่มีใครรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ลั่วอู๋นั้นรู้ดีว่าผู้นำของหน่วยสยบมังกรนั้นคือ ผู้บัญชาการหลิงหลง
หัวใจของลั่วอู๋เต้นไม่เป็นจังหวะ โชคยังดีที่พวกเขายังไม่ได้ไปไหน ไม่เช่นนั้น เขาก็คงไม่มีทางรู้ได้ว่าจะตามหาพวกเขาได้ที่ไหน
ขณะนั้น ได้มีเงาสีดำปรากฏออกมาข้าง ๆ ลั่วอู๋
เขาคนนั้นคือ ไร้หน้า
อันที่จริงแล้ว ลั่วอู๋นั้นได้สังเกตเห็นไร้หน้าเป็นเวลานานแล้ว แต่อาจจะเพราะมีคนเยอะเกินไป จึงทำให้ไร้หน้ารู้สึกไม่สบายใจ เขาจึงไม่ปรากฏตัวออกมา
ไร้หน้าพูดออกมาช้า ๆ “ นายน้อย ”
“ ไร้หน้า เจ้าไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนักก็ได้ ข้าไม่ได้เจอเจ้ามาหลายวันแล้ว เจ้าแข็งแกร่งขึ้นมากเลยจริง ๆ ” ลั่วอู๋หัวเราะ และมองไปที่ไร้หน้าด้วยความประหลาดใจ
ณ ตอนนี้ ความแข็งแกร่งของไร้หน้านั้นน่าจะอยู่ในระดับเดียวกันกับผู้ใช้พลังวิญญาณระดับทอง ซึ่งเป็นการพัฒนาที่รวดเร็วมาก จากนั้น เขาก็มองไปรอบ ๆ เพื่อดูว่าไม่มีใครอยู่รอบตัวเขา
ไร้หน้ายิ้มออกมาอย่างมีความสุข
ขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวตัวเองเช่นกัน แม้ว่าลมปราณของลั่วอู๋นั้นจะไม่รุนแรงมาก แต่เขาก็สามารถตรวจจับลมปราณที่เป็นภัยได้
สัญชาตญาณของเขานั้นเฉียบคมมาก และแทบจะไม่มีความผิดพลาดเลย
นั่นหมายความว่า ลั่วอู๋นั้นมีความแข็งแกร่งเหนือกว่าไร้หน้าอย่างแน่นอน
หัวใจของไร้หน้าเต้นอย่างรุนแรง การปรับแต่งพลังวิญญาณของตัวเขาเองนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก ถึงแม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาจะเพิ่มขึ้นมาได้ไม่นาน
เขาอยากที่จะทำให้นายท่านได้ประหลาดใจ แต่เขาก็ไม่ได้คาดหวังว่านายท่านจะมีความแข็งแกร่งมากกว่าเขาเสียอีก
“ นายน้อย ในช่วงที่ท่านไม่อยู่ ข้าได้เดินทางไปยังภูเขากุยโตเพื่อจับวิญญาณผีทหารและผีระดับนายพลมาจำนวนมาก ” ไร้หน้าได้แสดงแหวนสัตว์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์
ลั่วอู๋รับสัตว์วิญญาณเหล่านั้นทั้งหมด แล้วนำพวกมันลงไปยังไหปีศาจ อย่างไรก็ตาม ไป่ฉีก็เป็นคนชอบการฝึกฝนเหล่าผีทหารระดับนายผลอยู่แล้ว ปล่อยให้เขาจัดการก็แล้วกัน
“ ช่วยพาช้าไปยังพันธมิตรผู้ล้างแค้นที ” ลั่วอู๋กล่าวด้วยรอยยิ้ม
เมื่อได้ยินดังนั้น ไร้หน้าจึงได้พาลั่วอู๋ไปยังดินแดนลึกลับ
เหล่าวัยรุ่นกำลังฝึกฝนศิลปะการต่อสู้โบราณกันอย่างหนัก พวกเขาจำเป็นต้องบริหารร่างกายเป็นอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้น เหล่าวัยรุ่นกลุ่มนี้กำลังเรียนรู้วิธีลอบสังหาร
นั่นคือสิ่งที่ลั่วอู๋หมายถึง สำนักโล่พิทักษ์ต้องการกองกำลังที่มากพอ และจำเป็นต้องไม่ให้โลกภายนอกได้รับรู้
ไร้หน้าบอกลั่วอู๋เกี่ยวกับเหล่าวัยรุ่นที่อยู่ที่แห่งนี้
ลั่วอู๋รู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก
มันคือความสำเร็จเล็ก ๆ
“ อย่างไรก็ตาม ข้ามีชุดยาเม็ดยาเฉิ้งหนิง ซุย ซึ่งเป็นยาที่มีผลดีเยี่ยมในการช่วยปรับสภาพร่างกายได้ ” ลั่วอู๋หยิบเม็ดยาออกมา
ไร้หน้าเบิกตาโต
ยาเม็ดระดับ 7!
ยาปรับสภาพร่างกายระดับสูงซึ่งเป็นยาที่หายากอย่างมาก มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่พัฒนายาประเภทนี้ เพราะมันสร้างได้ยากมากและผลิตออกมาได้น้อย
“ นั่นมันเยี่ยมมาก ” ไร้หน้ารู้สึกเศร้าใจ “ แต่ท่านจะให้ยานี้กับพวกเขางั้นหรือ เพราะพวกเขายังไม่น่าจะสามารถรับพลังของยาเม็ดคุณภาพสูงนี้ได้ ”
แต่ลั่วอู๋กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ ไม่ต้องกังวลหรอก มันไม่สำคัญว่าจะสูญเปล่ารึเปล่า ตราบเท่าที่มันมีประโยชน์กับพวกเขา ”
จากคำพูดของลั่วอู๋ ทำให้ไร้หน้ารู้สึกสบายใจ
ในช่วงเวลาที่เหลือของการฝึก ไร้หน้าเรียกเหล่าวัยรุ่นให้รีบมาหาอย่างรวดเร็ว และได้แนะนำลั๋วอู๋ให้พวกเขารู้จัก “ คนคนนี้คือเจ้านายที่แท้จริงของพวกเจ้า ”
เหล่าวัยรุ่นต่างมองไปที่ลั่วอู๋ด้วยความมึนงง และความอยากรู้อยากเห็น
“ พวกเจ้ากำลังทำอะไร? ” ไร้หน้าพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น “ ทั้งอาหาร เสื้อผ้า ตลอดจนเงินและที่พักของพวกเจ้า ก็มาจากเขาคนนี้ ”
เหล่าวัยรุ่นตัวสั่น
ไม่ใช่เพราะความซาบซึ้งใจ แต่เป็นเพราะความกลัวครูผู้ฝึกสอน
ถ้าทำให้ครูผู้ฝึกสอนเดือดร้อน จำนวนการฝึกฝนจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 30% ไม่มีใครจะทนรับการฝึกได้
“ สวัสดีขอรับ นายท่าน ” ชายหนุ่มคนหนึ่งรีบพูดออกมา
ลั่วอู๋ยิ้มอย่างอ่อนโยน “ ไม่เป็นอะไร ข้าก็แค่จะมาดูเฉย ๆ พวกเจ้าไม่ต้องเกร็งมากเกินไปหรอก ”
ทันใดนั้น ลั่วอู๋ก็ถูกเชิดชู
เมื่อเทียบกับครูผู้ฝึกสอนที่แสนเย็นชาแล้ว “ นายท่านที่แท้จริง ” นั้นเป็นมิตรกว่ามาก
“ ยังไงก็แล้วแต่ มอบยานี้ให้ทุกคนซะ ” ลั่วอู๋กล่าวด้วยรอยยิ้ม
ไร้หน้าเงยหน้าขึ้น จากนั้นเขาก็ตะโกนออกไป “ เจ้าพวกขยะ พวกเจ้าต้องการยาเม็ดคุณภาพสูงแบบนี้งั้นหรือ? ถ้าหากไม่ใช่เพราะคำขอของผู้เป็นนายแล้วละก็ ข้าก็คงไม่เต็มใจที่จะมอบมันให้กับพวกเจ้าแน่ ”
ใบหน้าของเหล่าวัยรุ่นเปลี่ยนไปเป็นสีแดง เพราะคำพูดของครูผู้ฝึกสอนนั้นทำให้เจ็บใจอย่างมาก!
แต่ว่ามันคือยาอะไรกัน? ทำไมมันถึงมีคุณภาพสูงมาก พวกเขาก็อดสงสัยไม่ได้ พวกเขาอยากรู้เกี่ยวกับยาเม็ดนี้
“ วันนี้เป็นข้อยกเว้น สำหรับทุกคน! ถ้าเกิดว่าใครฝึกฝนแล้วปฏิบัติได้ดี ก็จะมีรางวัลให้ แต่ถ้าใครปฏิบัติแย่จะต้องมาฝึกเพิ่มเติมกับข้า ” ไร้หน้าตะโกนเสียงดัง
พวกเขาทั้งหมดเข้าแถวเพื่อรับยาเม็ด
เมื่อพวกเขาได้รับยาเม็ด พวกเขาก็ตกใจอย่างมาก มันเป็นยาเม็ดระดับสูง และใช้สำหรับการขัดเกลาร่างกายโดยเฉพาะ อาจกล่าวได้ว่าพวกเขาได้รับการสนับสนุนอย่างมาก
ยาชนิดนี้ ต้องใช้หินวิญญาณจำนวนหลายพันชิ้นเพื่อซื้อมัน
มันเป็นยาเม็ดที่เพียงพอสำหรับคนทั่วไปที่ใช้ยาจะใช้ชีวิตได้อย่างไร้ความกังวล
เหล่าวัยรุ่นทุกคนต่างรู้สึกขอบคุณนายน้อยที่เพิ่งจะปรากฏตัวออกมาให้เห็น เมื่อเทียบกับครูผู้ฝึกสอน นายน้อยนั้นก็เปรียบดั่งแสงสว่างที่จุติลงมา
แน่นอนว่า ความภักดีนั้นต้องได้รับการฝึกฝนตั้งแต่อายุยังน้อย
ณ ตอนนี้ พวกเขาอาจจะไม่สามารถตายแทนลั่วอู๋ได้ แต่อย่างน้อยพวกเขาก็มีความคิดว่านายน้อยผู้นี้คู่ควรกับความจงรักภักดี
