48 Hours a Day – ตอนที่ 20 เอาชีวิตรอดบนเกาะร้าง XIV

ตอนที่ 20 เอาชีวิตรอดบนเกาะร้าง XIV

 

 

จางเฮงอยู่บนเกาะนี้มามากกว่าปีหนึ่งแล้ว แต่นี่เป็นไอเทมแรกที่เขาพบในเกมนี้

 

แต่นอกเหนือจากเสียงนั้นแล้ว ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย

 

เขาไม่รู้ว่าสิ่งนี้มันเอาไว้ใช้ทำอะไรหรือมันทำอะไรได้ ดูเหมือนว่าเสียงนั้นก็ไม่ได้อธิบายข้อมูลอะไรให้เขาเช่นกัน หลังจากที่มีแจ้งเตือนว่าได้รับไอเทม เสียงนั้นก็หายไป

 

จางเฮงพิจารณาที่ตีนกระต่ายแต่ไม่พบอะไรพิเศษเลย เขาคงต้องเก็บมันไว้ในกระเป๋าคาดเอวของเขาไปก่อน

 

หลังจากที่เบลล์ดูแผลบนไหล่ของจางเฮง เขาตัดสินใจที่จะไม่รับความเสี่ยง และเลือกทำแผลด้วยน้ำเกลือ “แผลลึกเกินไป กรงเล็บของสัตว์ร้ายที่อาศัยอยู่ในป่าเช่นนี้มักจะเต็มไปด้วยเชื้อโรค มีโอกาสติดเชื้อได้”

 

จางเฮงเข้าใจถึงผลลัพธ์ที่น่ากลัวของการติดเชื้อ ถ้าอยู่ในเมืองคงทำแค่ฉีดยาปฏิชีวนะ แต่ถ้าอยู่บนเกาะแบบนี้โอกาสที่จะรอดชีวิตจากการติดเชื้อนั้นเป็นไปได้ยากมาก เพราะการบาดเจ็บที่ขาของเอ็ดทำให้เขาติดเชื้อจนมีไข้สูงและเสียชีวิต และแม้ว่าการตายของเขาจะถูกจัดเตรียมไว้ล่วงหน้าจากเกม; แต่นั่นหมายความว่าผู้ออกแบบเกมอาจพยายามแจ้งผู้เล่นถึงอันตรายดังกล่าว

 

แต่มีบางอย่างที่แม้ว่าจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ก็ช่วยอะไรไม่ได้

 

เขาควรทำอย่างไรในสถานการณ์แบบนี้?

 

การสู้และฆ่าสิ่งที่จู่โจมเขานั้นมันก็เกินขีดจำกัดของเขาไปแล้ว มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บ

 

 

 

นักสำรวจพูดปลอบว่า “มันคงไม่ติดเชื้อหรอกจริงๆนะ อาจจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ได้”

 

จางเฮงยิ้มอย่างขมขื่น เขาทำได้เพียงแค่หวังว่ามันจะเป็นอย่างนั้น

 

หลังจากที่พวกเขาพักสักวันตั้งแต่พวกเขามาถึงใจกลางของเกาะสำเร็จ จางเฮงแนะนำว่าพวกเขาควรตรงไปที่อีกด้านหนึ่งของเกาะเลยและแน่นนอนว่าเอ็ดก็ไม่ได้มีความเห็นแย้งใดๆ

 

พวกเขาใช้เวลาอีกสองวันแล้วก็ผ่านป่านั้นไป

 

เมื่อพวกเขามองเห็นชายหาดและมหาสมุทรในที่สุด จางเฮงก็ได้รับแอคชีฟเม้นท์ “เที่ยวรอบเกาะ” และมี 3 คะแนนที่เพิ่มเข้ามาในเกมพอยท์ของเขา

 

แต่นี่ไม่ใช่เรื่องที่เขากังวลอยู่ตอนนี้

 

มี 2 สิ่งที่ทำให้เขาปวดหัวตอนนี้ อย่างแรกคือเขาอาจจะติดเชื้อและอีกอย่างคือเวลาการตายของเบลล์ที่ใกล้มาถึง

 

เรื่องแรกขึ้นอยู่กับโชคล้วนๆ – ไม่มีอะไรที่เขาจะทำได้เลย; ส่วนเรื่องที่สองนั้นเป็นเพราะอยู่ด้วยกันมานานและเบลล์ช่วยเขาให้พ้นจากการกลายเป็นอาหารงูหลาม จางเฮงคิดว่าเขาเป็นเพื่อน ในท้ายที่สุดเขาจึงตัดสินใจที่จะเตือนเพื่อนของเขา

 

แน่นอนว่าเขาจะไม่พูดถึงว่าพวกเขาอยู่ในเกมและเบลล์เป็นตัวละครที่ไม่ใช่ผู้เล่น (NPC) พร้อมกับบัฟที่ทำให้เขาตายหลังจากผ่านไป 19 วัน เดาไม่ได้เลยว่าถ้าบอกเรื่องนี้ไปจะได้รับปฏิกิริยาแบบไหน เบลล์คงคิดว่าสิ่งที่บอกไปนั้นช่างเหลือเชื่อ สิ่งที่จะเกิดต่อไปคือเขาคงจะสรุปว่าเป็นเพราะจางเฮงอยู่คนเดียวบนเกาะนานเกินไปจนจิตใจของเขาอยู่ในภาวะสับสน

 

ซึ่งเป็นสาเหตุที่จางเฮงบอกให้เบลล์ระวังตัวเป็นพิเศษในวันพรุ่งนี้

 

นักสำรวจดูเหมือนจะคิดมากเกินไป ท้ายที่สุดพวกเขาทั้งคู่ก็แค่โดนจากัวร์รุมทำร้าย ตอนนี้พวกเขาออกจากป่าแล้ว พวกเขาเดินทางผ่านส่วนที่อันตรายที่สุดของการเดินทาง สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปอาจไม่รุนแรงเท่านี้

 

จางเฮงคิดว่ามันคงเป็นอะไรที่สมเหตุสมผลแต่หลังจากเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับเด็กหนุ่มกางเกงขาสั้นกับเห็ดพิษ จางเฮงรู้ดีว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ในวันพรุ่งนี้ เขาเกลี้ยกล่อมให้เบลล์ไม่ไปล่าสัตว์ในเช้าวันรุ่งขึ้นและจับตาดูนักสำรวจตลอด 24 ชั่วโมง

 

จางเฮงยังอยากเห็นว่าการตายครั้งนี้จะเป็นไปได้ขนาดไหนและบางทีเขาอาจจะช่วยไว้ได้

 

 

 

ไม่มีอะไรเกิดขึ้นในตอนเช้า

 

จางเฮงเดินตามหลังนักสำรวจตลอดทั้งวันเหมือนคนงี่เง่าทำให้เพื่อนเขารู้สึกกลัวแปลกๆ ในตอนบ่ายเบลล์แนะนำว่าให้พวกเขาออกไปข้างนอกป่าเพื่อเก็บผักและเห็ดป่าไปทำซุปทะเล แต่ถูกจางเฮงปฏิเสธอย่างเคร่งครัด

 

จะเล่นตลกอะไรกันเนี่ย? ยังจะใช้ลูกไม้เดิมๆอีกเหรอ?

 

 

 

จางเฮงผ่านความบอบช้ำจากเห็ดมาแล้ว แม้ว่าเขาจะอยากกินเห็ดมากแค่ไหนก็ตามแต่มันต้องไม่ใช่วันนี้แน่

 

ทำอะไรไม่ได้เลย เบลล์อยากจะไปเดินเล่นที่ชายหาดแต่เมื่อเห็นว่าจางเฮงแน่วแน่ขนาดไหน เขาจึงตัดสินใจที่จะไม่ถามเพราะมันรังแต่จะสร้างปัญหาให้เพื่อนเขาเท่านั้นเอง

 

พวกเขาจึงเดินไปตามทางเพื่อกลับไปที่บ้านอย่างเงียบ ๆ

 

ตลอดการเดินทางทั้งคู่ไม่มีใครพูดอะไรเลย เบลล์ไม่ใช่คนคิดมากแต่เขารู้สึกว่าจางเฮงกำลังทำให้เรื่องไม่เป็นเรื่อง

 

จากนั้นขณะที่พวกเขาเดินผ่านชายหาดตื้นเขิน หน้าผาด้านขวาของเขาก็พังทลายลงมาโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า เพราะไม่ทันรู้ตัวเบลล์จึงทำได้แค่มองด้วยความกลัวขณะที่หินกำลังจะตกลงมาบนหัวของเขา ทันใดนั้นเองก็มีคนคว้าเขาไว้และพวกเขาก็กลิ้งไปข้างๆพร้อมกัน

 

นักสำรวจใจหายวาบ แล้วหินก็ร่วงหล่นลงกระแทกกับแนวปะการังถัดจากพวกเขา

 

หลังจากนั้นเขาเห็นเลือดคลุ้งอยู่ในทะเล และเห็นจางเฮงคว่ำหน้านอนแน่นิ่งอยู่ “จาง นายเป็นอะไรไหม?”

 

จางเฮงตอบหลังจากนั้นไม่นานว่า “… ฉันไม่เป็นไรเบลล์ ฉันแค่พุ่งไปหานายแรงไปหน่อย – ที่เลือดกำเดาไหลคงเพราะกระแทกเมื่อกี้แหละ” จางเฮงลุกขึ้นนั่งมือประคองจมูก

 

สถานการณ์นั้นเต็มไปด้วยอุปสรรคพร้อมกับความอันตรายแต่ก็เทียบกับความระแวดระวังของจางเฮงไม่ได้เลย ตอนที่เขาได้ยินเสียงดังครืนมาจากข้างบนหัว สัญชาตญาณแรกของเขาก็คือเข้าไปขวางเบลล์ให้ได้และพาเพื่อนของเขาออกไปให้พ้นอันตราย

 

แบะเมื่อนึกถึงคำเตือนเมื่อวานนี้นักสำรวจก็ร้องออกมาว่า “โอ้ พระเจ้า นายเป็นออราเคิล*เหรอ? นี่นายรู้อนาคตล่วงหน้าได้! เหลือเชื่อจริงๆ!”

 

“อย่าเพิ่งดีใจไป มันยังไม่จบแค่นี้แน่” จางเฮงพูดเตือนเขา

 

ความจริงก็คือเขาไม่รู้ว่ามันจะจบลงเมื่อไหร่ – เมื่อหมดวันนี้? หรือจนกว่าเบลล์จะตาย? หากมันเป็นอันหลังงั้นคงไม่มีเทพหรือผีตนใดที่จะช่วยชีวิตนักสำรวจได้

 

จางเฮงคงรับประกันไม่ได้ว่าเขาจะตาดีอย่างวันนี้ต่อไปอีกร้อยวันได้

 

แต่โชคดีที่เหตุการณ์นี้ทำให้เขาดูน่าเชื่อถือขึ้นมาบ้าง และตอนนี้เบลล์ให้ความสำคัญกับ ‘คำพยากรณ์‘ ของเขาอย่างจริงจัง

 

เพื่อความปลอดภัยจึงไม่มีใครหลับเลยทั้งคืน และเมื่อดวงอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้าจางเฮงก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร เขาไม่คิดว่าเขาจะสามารถช่วยนักสำรวจให้มีชีวิตรอดหลังจากผ่านไป 20 วันได้

 

เบลล์หาว “แล้ว? ฉันปลอดภัยยัง?”

 

“ไม่รู้เหมือนกัน” จางเฮงส่ายหัว “แต่นายจะไปไหนก็ได้แล้วนะ”

 

 

 

 

ผ่านวันที่ 19 ที่อันตรายที่สุดมาได้แล้วใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เช่นเดียวกับแผลบนไหล่ของจางเฮงที่หากมันติดเชื้อเขาเองก็คงจะรู้ได้หลังจากที่มันติดเชื้อไปแล้ว

 

อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นเบลล์หรือจางเฮง พวกเขาก็โชคดีกันทั้งคู่เพราะไม่มีใครได้รับอันตรายใดๆ ถึงชีวิตเลยและแผลของจางเฮงเริ่มตกสะเก็ดแล้ว โดยที่ไม่มีอาการบวมหรือเป็นหนอง

 

หนึ่งสัปดาห์ต่อมาทั้งคู่ก็มาถึงกระท่อมและได้เห็นมิกกี้เมาส์อาบแดดอยู่ในสวน ช่างเป็นความรู้สึกที่คุ้นเคยของจางเฮง เขาคิดด้วยซ้ำว่าเจ้านกตัวนี้ก็ไม่ได้ดูน่าเกลียดเหมือนแต่ก่อน

 

ทริปสั้นๆนี่แม้จะไม่นานแต่ก็เต็มไปด้วยอันตราย โชคดีที่ผลตอบแทนก็ดีเช่นกัน

 

จางเฮงไม่เพียงแต่ได้รับคะแนนเพิ่มอีก 13 คะแนน เขายังได้รับอุปกรณ์กลับบ้านที่เขาเองก็ยังไม่รู้วิธีใช้ แต่ที่สำคัญที่สุดคือเบลล์ยังมีชีวิตและหายใจอยู่

 

นี่หมายความว่าตลอด 100 วันที่เหลือจางเฮงก็จะไม่ต้องอยู่คนเดียวบนเกาะนี้อีกต่อไป

 

ขณะที่เขากำลังเคลียร์บ้านเพื่อเปลี่ยนเป็นห้องของนักสำรวจ จางเฮงถามขึ้นมาว่า “เบลล์นายเป็นครูของฉันได้ไหม”

 

“ ได้สิ นายอยากเรียนอะไรละ?”

 

“ภาษาอังกฤษน่ะ ฉันสอบได้เกรดหกเมื่อเดือนธันวาคม”

 

 

“…”

 

 

 

***

ออราเคิล – เทพพยากรณ์ เป็นผู้หยั่งรู้ในทุกๆเรื่องที่อาศัยอยู่ในเมทริกซ์

48 Hours a Day

48 Hours a Day

เติบโตมากับพ่อแม่ที่เป็นนักวัตถุนิยมพิสดาร คนที่ทิ้งเขาไว้กับตาเพื่อไปทำงานที่ต่างประเทศ จางเฮงเรียนรู้ที่จะปรับตัวและไม่ยึดติดกับการเปลี่ยนแปลงในชีวิต แต่ไม่นานเขาก็ได้เรียนรู้ความจริงที่ประหลาดของโลกใบนี้ ในวันหนึ่งตอนเที่ยงคืนเวลาหยุดชะงักลงและเขาพบว่าตัวเองอยู่ในโลกที่เงียบงัน คืนนั้นเขาค้นพบว่าตนเองมีเวลาเพิ่มขึ้นมามากกว่าคนอื่นอีก 24 ชั่วโมง และมันคือจุดเริ่มต้นของการผจญภัย ความสามารถที่เพิ่งค้นพบนี้มีแต่จะยิ่งรายล้อมไปด้วยปริศนาเมื่อชายชราแปลกหน้ามาบอกว่าตนคือคนให้ของขวัญแก่จางเฮง ‘ของขวัญแห่งเวลา’ และเลือกเด็กหนุ่มเข้าให้เป็นส่วนหนึ่งของเกม ‘เปลี่ยนชีวิต’ ลึกลับในนามของเขา หารู้ไม่ว่าการที่จางเฮงตกลงรับข้อเสนอนั้นทำให้ชีวิตเขาเข้าไปพัวพันกับหลากหลายเรื่องราวและรับรู้ความลับของโลกใบนี้ – การตัดสินใจที่ไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้

Comment

Options

not work with dark mode
Reset