วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ – ตอนที่ 741 ความดีย่อมชนะความชั่วเสมอ

อันจื่อเฮ่าเหยียดแขนของเขาออกไปโอบรอบเฉินซิงเยียน หลังกวาดตามองดูรอบอะพาร์ตเมนต์ เขาก็วางกุญแจชุดหนึ่งไว้บนโต๊ะกาแฟและกล่าว “บ้านหลังนี้เป็นสินทรัพย์ที่แพงที่สุดของผมในตอนนี้ ผมจะยกให้คุณสองคน พวกคุณจะมาอยู่ที่นี่ก็ได้ถ้าต้องการ ไม่งั้นจะขายมันทิ้งก็เป็นความคิดที่ไม่เลวเหมือนกัน”

 

 

ลุงอวิ๋นกับป้าอวิ๋นอึ้ง ชำเลืองตามองกันก่อนเอ่ยถามอันจื่อเฮ่า “เธอจะยกอะพาร์ตเมนต์ของตัวเองให้เรางั้นเหรอ เธอกำลังพูดว่าเราต้องการแค่เงินของเธอหรือไง”

 

 

“จื่อเฮ่า แค่เพราะเธอได้ลูกคนรวยอยู่ในมือ เลยลืมคำสัญญาที่ให้ไว้กับอวิ๋นซินของเราหรือไงกัน…” ป้าอวิ๋นเริ่มร้องไห้

 

 

“อวิ๋นซินตายไปแล้ว คุณป้าคิดจะให้ผมใช้ชีวิตที่เหลือทั้งหมดกับเถ้ากระดูกของเธอเหรอครับ” น้ำเสียงอันจื่อเฮ่าพลันเปลี่ยนเป็นเยือกเย็น “นอกจากพวกคุณจะไม่ใช่พ่อแม่บังเกิดเกล้าของผมและไม่มีสิทธิ์มายุ่งกับเรื่องส่วนตัวของผมแล้ว เรากำลังพูดถึงชีวิตของผมอยู่นะครับ พวกคุณได้รับสิ่งที่พวกคุณต้องการแล้ว แค่นั้นยังไม่พออีกหรือไง”

 

 

“จื่อเฮ่า พูดแบบนี้ไม่ดีเลยนะ…”

 

 

“ผมทำตัวสุภาพแล้วครับ พวกคุณรู้ดีว่าตัวเองได้อะไรจากผมไปบ้างตลอดหลายปีที่ผ่านมา ถ้าเอาไปใช้เอง เรื่องนี้ผมรับได้ แต่พวกคุณกลับยกทุกอย่างให้ลูกชายที่เพิ่งแต่งงานใหม่ของพวกคุณ เขาควรเป็นคนที่มาดูแลพวกคุณต่างหาก

 

 

“ผมจะย้ายออกจากอะพาร์ตเมนต์นี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จากนี้ไปผมหวังว่าพวกคุณสองคนจะเลิกยึดติดกับผมสักที”

 

 

ในความเป็นจริงนั้น อันจื่อเฮ่ารู้ดีว่าสองตายายคู่นี้ไม่ต่างอะไรกับผีดูดเดือดที่กำลังสูบเลือดสูบเนื้อของเขา ที่จริงเขาก็ตระหนักถึงเรื่องนี้มาได้สักพักแล้ว

 

 

แต่เรื่องนี้ไม่ได้สร้างความลำบากใจอะไรให้เขามากนักเพราะเขาคิดว่าทั้งสองจะมีขีดจำกัด ทว่าตอนนี้เฉินซิงเยียนถูกทำให้เจ็บปวด ดังนั้นเขาจึงไม่อาจทนกับคนทั้งสองนี้ได้อีกต่อไป

 

 

“เธอจะไม่ดูแลพวกเราไปจนเราตายงั้นเหรอ”

 

 

“พวกคุณไม่ได้คลอดผมออกมานะ!” อันจื่อเฮ่าคำราม “คุณป้า คนที่มีศีลธรรมต้องรู้สึกการยับยั้งชั่งใจบ้างนะครับ”

 

 

ได้ยินอันจื่อเฮ่าพูดเช่นนั้น ในที่สุดเฉินซิงเยียนก็เข้าใจว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับอะไรบ้าง แม้แต่ลูกชายของครอบครัวอวิ๋นก็ยังพึ่งพาอันจื่อเฮ่า พวกเขามีลูกชายเป็นของตัวเอง แต่ไม่ได้พึ่งลูกชายคนนั้น แล้วกลับมาเกาะติดอยู่กับอันจื่อเฮ่าเพราะครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นแฟนของลูกสาวพวกเขา

 

 

เฉินซิงเยียนรู้ดีว่าอันจื่อเฮ่าเป็นคนซื่อสัตย์ แต่เธอก็เข้าใจดีกว่าสองตายายคู่นี้ได้ล้ำเส้นของอันจื่อเฮ่าเสียแล้ว

 

 

อย่างไรก็ตาม เฉินซิงเยียนไม่ต้องการให้เขาสูญเสียอะไรไปอีกแล้ว

 

 

ดังนั้นเธอจึงพูดกับสองตายาย “ในเมื่อพวกคุณไม่ยอมรับของที่ผิวเผินอย่างอะพาร์ตเมนต์หลังนี้ งั้นฉันขอรับไว้แล้วกัน”

 

 

ได้ยินเช่นนั้นทำให้คนอีกสามคนในห้องตัวแข็งทื่อ

 

 

หลังผ่านไปครู่หนึ่ง ป้าอวิ๋นตะโกนออกมาด้วยความโกรธ “เขายกมันให้พวกเราแล้ว…”

 

 

“ทำไมเขาต้องยกให้พวกคุณด้วยล่ะ พวกคุณเป็นอะไรกับเขางั้นเหรอ” เฉินซิงเยียนถาม “เงินของเขาไม่ได้ลอยอยู่ในอากาศนะ เขาต้องทำงานหนักหามา ทำไมเขาถึงต้องให้พวกคุณทั้งอย่างนั้นล่ะ ฉันไม่สนหรอก ฉันจะเอา…”

 

 

“แก…

 

 

“จื่อเฮ่า เธอบอกพวกเราว่าเธอจะยกอะพาร์ตเมนต์นี้ให้เรา! เธอคิดจะกลับคำหรือไง” แน่นอนว่าป้าอวิ๋นไม่อาจเอาชนะความหน้าด้านของเฉินซิงเยียนได้ ดังนั้นเธอจึงหันมาหาอันจื่อเฮ่าแทน

 

 

“ใช่ เขากำลังจะกลับคำ ในเมื่อไม่มีการเซ็นเอกสารอะไร แล้วพวกคุณจะทำอะไรได้” เฉินซิงเยียนยืนเป็นโล่ให้อันจื่อเฮ่าที่อยู่ด้านหลัง “ถ้าไม่ใช่เพราะพวกคุณสองคนเป็นพ่อแม่ของอวิ๋นซินแล้วละก็ ป่านนี้ฉันคงถีบพวกคุณไปถึงดาวอังคารแล้ว พวกคุณคิดว่าตัวเองยังมีโอกาสมาที่นี่แล้วเรียกร้องอะไรอีกหรือไง”

 

 

“ซิงเยียน…”

 

 

“อันจื่อเฮ่า ให้ฉันบอกอะไรนายนะ ไม่ว่านายจะเคยสร้างความไม่พอใจหรือติดค้างอะไรอวิ๋นซินแค่ไหน นายก็ชดใช้ไปหมด แล้วตลอดหลายปีที่ผ่านมา นายอาจจะต้องการดูแลบางคนด้วยความเต็มใจ แต่คนพวกนั้นต้องรู้จักสำนึกบุญคุณด้วย ดังนั้นฉันอยากจะขอให้คนสันหลังยาวสองคนนี้ออกไปได้แล้ว ไม่มีอะไรในบ้านนี้เกี่ยวข้องอะไรกับพวกคุณ” เฉินซิงเยียนกล่าวพลางชี้ไปที่ประตูบ้าน

 

 

ป้าอวิ๋นตัวสั่นด้วยความโกระ แต่เธอไม่อาจทำอะไรได้

 

 

แรกเริ่มเธออยากจะแกล้งทำเป็นหมดสติอีกครั้ง ทว่าเฉินซิงเยียนนำเธอไปก้าวหนึ่งด้วยการพูดกับอันจื่อเฮ่า “จื่อเฮ่า โทรหาพี่ชายฉันที ฉันปวดหัว ฉันไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะอาการบาดเจ็บครั้งก่อนยังไม่หายดีหรือเปล่า บอกพี่ชายฉันว่ามีคนบางคนทำให้ฉันไม่พอใจแล้วบอกเขาให้มาจัดการเรื่องนี้ด้วย”

 

 

แม้ลุงอวิ๋นและป้าอวิ๋นจะไม่คุ้นเคยกับโม่ถิง แต่ทั้งสองก็เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามเขามาก่อน

 

 

ด้วยการแสดงละครที่เฉินซิงเยียนงัดออกมาใช้ สองตายายรีบระงับความโกรธและนั่งอยู่กับที่อย่างหมดหนทางและหน้าซีดเผือด

 

 

“จื่อเฮ่า ฉันปวดหัวมากเลย พาฉันไปโรงพยาบาลที…”

 

 

เมื่อเห็นหน้าของเฉินซิงเยียนเริ่มซีด อันจื่อเฮ่าก็คิดว่าเธอรู้สึกไม่สบายจริงๆ ชายหนุ่มจึงรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทันทีเพื่อโทรไปยังโรงพยาบาล การกระทำนี้สร้างความหวาดหวั่นให้กับสองตายายอย่างมากจนพวกเขาไม่กล้าพูดถึงอะพาร์ตเมนต์อีกแล้วรีบจากไปทันที

 

 

แม้แต่หลานซีซึ่งเป็นคนทำร้ายอวิ๋นซินยังถูกทำร้ายอย่างง่ายดายด้วยน้ำมือของไห่รุ่ย อย่าว่าแต่สองตายายคู่นี้เลย

 

 

เมื่อเห็นสองตายายหายตัวไปในกลุ่มควัน เฉินซิงเยียนก็หัวเราะออกมา ขณะที่เธอเอนตัวลงบนโซหา น้ำตาก็เริ่มไหลซึมออกมาจากดวงตาทั้งสองข้างเนื่องจากหัวเราะมากเกินไป

 

 

เห็นดังนั้น อันจื่อเฮ่าจึงสูดหายใจลึกและดึงอีกฝ่ายมาอยู่ในอ้อมกอด “เธอทำฉันกลัวแทบตาย”

 

 

“พวกนั้นหน้าด้านมาเล่นเกมกับฉันเอง ฉันเก่งเรื่องพวกนี้ตั้งแต่เจ็ดขวบแล้ว” หลังเฉินซิงเยียนหยุดหัวเราะ เธอเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันก่อนให้อันจื่อเฮ่าฟัง “บอกมาสิ ทำไมนายถึงได้ดูแลสองตายายงี่เง่านั่น”

 

 

“ก่อนหน้านี้ ฉันรู้สึกผิดเพราะฉันคิดว่าตัวเองเป็นสาเหตุทำให้อวิ๋นซินตาย หลังจากนั้นก็เป็นเพราะเหตุผลที่ทำให้รู้สึกใจอ่อน”

 

 

“ฉันไม่อยากจะเชื่อ นายรู้สึกใจอ่อนให้กับสองคนนั้นจริงๆ เรอะ” เฉินซิงเยียนส่ายหน้าพลางลุกขึ้นยืนจากอ้อมกอดของอันจือเอ่า “จากนี้ไป ถ้านายเห็นสองคนนั้นอีก นายไม่จำเป็นต้องทำตัวสุภาพอะไรทั้งนั้น ฉันไม่อยากจะเชื่อว่าพวกนั้นสูบเลือดสูบเนื้อนายเพื่อไปเลี้ยงลูกชายของตัวเอง ฉันละอยากจะด่าแรงๆ ใส่คนพวกนั้นจริงๆ”

 

 

อันจื่อเฮ่าดึงเฉินซิงเยียนกลับมาก่อนอีกครั้ง คราวนี้ในที่สุดหัวใจของเขาก็รู้สึกมั่นคงอีกครั้งเพราะเฉินซิงเยียนไม่ยอมแพ้ในตัวเขาและไม่ขวัญเสียไปกับเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้น

 

 

“มันจะไม่มีวันเกิดขึ้นอีก…”

 

 

“อย่างงั้นก็ดี ถ้านายพยายามจะทำดีกับพวกนั้นอีกละก็ ฉันจะ…”

 

 

“ตราบใดที่เธอไม่ทิ้งฉันไป ฉันยินดีทำทุกอย่าง” อันจื่อเฮ่ารีบพูดเสริม

 

 

“ทำไมฉันต้องทิ้งนายด้วย มันไม่ใช่ความผิดของนายสักหน่อย” เฉินซิงเยียนกอดตอบอันจื่อเฮ่า โชคดีที่เธอมีถังหนิงอยู่ข้างๆ และสอนให้เธอหนักแน่น ไม่เช่นนั้นเธอคงยอมแพ้ให้กับความสัมพันธ์อันน่าเหน็ดเหนื่อยนี้ไปนานแล้ว “จากนี้ไปฉันจะดูแลการเงินของนายเอง พวกบ้านั่นอย่าฝันจะได้เงินจากนายอีกแม้แต่แดงเดียว”

 

 

“เอาเลย…”

 

 

“เมื่อคืนฉันเจ็บปวดจริงๆ นะ…”

 

 

“ฉันรู้” อันจื่อเฮ่าผลักเฉินซิงเยียนออกจากตัวเขาอย่างอ่อนโยน แล้วบรรจุมพิตที่หน้าผากเธอตามด้วยบริเวณริมฝีปากของหญิงสาว “นี่จะเป็นครั้งสุดท้าย ฉันจะไม่มีวันทำร้ายเธอเพราะคนอื่นอีก”

 

 

“นายควรทำให้ได้อย่างที่พูด ไม่งั้นฉันจะทิ้งนายจริงๆ ด้วย” หลังพูดจบ เฉินซิงเยียนบดริมฝีปากชองเธอแนบเข้ากับริมฝีปากของอันจื่อเฮ่า ทั้งสองพลันถูกครอบงำด้วยความปรารถนาขณะทั้งคู่แสดงออกถึงความรักทั้งหมดที่พวกเขามีต่อกันและกัน จนกระทั่งอันจื่อเฮ่าวางมือของเขาลงบนหน้าอกของเฉินซิงเยียนอย่างไม่อาจควบคุมได้ ทำให้ทั้งสองคนหยุดด้วยความประหลาดใจ

 

 

“ไม่… เรายังทำแบบนี้ไม่ได้”

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

ถังหนิง ผู้กำลังจะก้าวขึ้นไปเป็นนางแบบแนวหน้า แต่เพราะรักจึงสละสิ้นทุกอย่าง ทว่าคืนก่อนวันวิวาห์ที่เธอกำลังจะได้ครองรักดั่งหวังนั่นเอง คู่หมั้นของเธอกลับหนีออกไปกับหญิงอื่น ด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจ เธอจึงเดินจ้ำไปหาผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าสำนักงานเขต “ประธานโม่คะ ในเมื่อเจ้าสาวของคุณยังไม่มาและเจ้าบ่าวของฉันก็หนีไปแล้วอย่างนี้… ฉันว่า… เรามาแต่งงานกันเสียเลยดีไหมคะ” … ก่อนแต่งงานเธอเอ่ยว่า “แม้เราจะนอนร่วมเตียงกัน แต่จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรา” หลังแต่งงานเขาเอ่ยว่า “ถ้าไม่ลองแล้วจะรู้หรือ”

Options

not work with dark mode
Reset