หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – ตอนที่ 182 หลบหลังข้า

 บทที่182 หลบหลังข้า

มีการออกคำสั่งอยู่ในน้ำเสียง

“ไม่!ไม่! ข้าไม่อยากลง”หลานเยาเยาออดอ้อนอย่างยากที่จะเห็น

น้ำเสียงนุ่มนวล ทำให้คนฟังมีความคิดจะลงมือ

นางละทิ้งศักดิ์ศรีเริ่มจะโผเข้ากอด เขายังหงุดหงิดอยู่หรือ?

ฮู้……

ปรนนิบัติยากจริงๆ

“ถ้าเจ้าอยากให้เขาเห็น ข้าก็ไม่ว่าอะไร”

อื้ม?

เขา?

สายตาของหลานเยาเยาก็ย้ายจากหน้าของเย่แจ๋หยิ่งมองไปรอบๆทันที

ตอนนี้พวกเขาอยู่ในห้องสว่าง ในห้องนอกจากพวกเขาสองคนแล้วยังมีหานแสที่นอนอยู่บนเตียงอีกคนนึง

ตอนนี้หานแสกำลังมองพวกเขา ดวงตาเต็มไปด้วยความอึดอัด

แม้จะบอกว่าพวกเขาเป็นสามีภรรยา แต่มาสนิทสนมเช่นนี้ต่อหน้าคนนอก มันก็อาจจะมีผลกระทบบ้างใช่ไหม?

“อะแฮ่ม……”

เขาตั้งใจกระแอมเล็กน้อยเพื่อบ่งบอกว่าเขาตื่นอยู่

หลานเยาเยาแข็งเป็นหินทันที

มาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่? ทำไมเย่แจ๋หยิ่งไม่เตือนสักนิดหล่ะ? นี่มันช่างน่าอับอายมาก

สุดท้ายก็ไม่รู้ว่าหลานเยาเยาลงมาจากตัวของเย่แจ๋หยิ่งอย่างไรแต่โดยรวมแล้วเหตุการณ์น่าอึดอัดมาก

แต่ทว่า!

ดีที่นางควบคุมตนเองได้ดีพอหลังจากลงมาจากตัวของเย่แจ๋หยิ่งแล้ว นางก็ลืมเรื่องเมื่อครู่ไปหมดแล้วมาจับชีพจรให้หานแสอย่างสงบนิ่ง

หานแสที่หลังจากการโจมตีของพิษ แม้ว่าจะหน้าซีด ร่างกายอ่อนแรงอยู่บ้าง แต่นอกจากนี้แล้วก็ไม่มีอะไรร้ายแรง

นี่มันแปลกไหม?

เลือดไหลออกมาจากตัวเขามากขนาดนั้นแม้นางจะให้ยาบำรุงเลือดเขาไปสองเม็ดแต่ก็ไม่สามารถฟื้นตัวกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ในทันที

“ทุกครั้งหลังจากที่เจ้าป่วยจะกินหรือทำอะไร?”

หานแสที่หน้าตานิ่งหลังจากมองเย่แจ๋หยิ่งก็พูดเรียบๆว่า:

“เคยมีผู้เก่งกาจท่านหนึ่ง มีวิธีรักษาสูง แม้เขาจะรักษาอาการป่วยของข้าไม่ได้แต่เขาให้ยาข้ามาขวดนึง ให้ข้ากินหลังป่วย ดังนั้นร่างกายของข้าตอนนี้ไม่ถึงกับขาดน้ำ”

ว้าว!

มียาแบบนี้ด้วย สามารถเพิ่มเลือดได้เร็วขนาดนั้น?

นั่นมันสุดยอดไปแล้ว!

“ยังมีเม็ดยานั่นอยู่ไหม? ให้ข้าดูหน่อย”

ในสายตาที่รอคอยของหลานเยาเยา หานแสก็ส่ายๆหัว

“ไม่มีแล้ว สองสามวันก่อนนี้ที่หลังจากพิษโจมตี ข้าได้กินเม็ดสุดท้ายไปแล้ว”

“อ้อ น่าเสียดาย”

แม้จะเสียดายอยู่บ้างแต่หลานเยาเยาก็ไม่ได้ไปพัวพันกับเรื่องเม็ดยาอีกแต่กลับถามว่า:

“ทำไมท่านชายหยิ่งเจ้าของเรือแห่งความสิ้นหวังถึงจับเจ้า?”

เมื่อถามคำถามนี้ออกไปหานแสก็มองนางแปลกๆ หลังจากที่มองไม่ออกว่ามีอะไรแปลกจึงพูดเรียบๆว่า:

“เพราะเขาต้องการเลือดข้า เลือดของข้าสามารถเพิ่มพลังของเขาได้อย่างมาก”

“อ้อ~ข้าเข้าใจแล้ว ครั้งก่อนข้าเอาเลือดเจ้าไปเล็กน้อยจากนั้นเจ้าก็ถูกท่านชายหยิ่งจับไป

ดังนั้นเจ้าก็เลยคิดว่าเป็นข้าที่ทำให้ความลับเรื่องเลือดพิเศษของเจ้ารั่วไหล

ตอนนี้ข้าก็พอเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดแล้ว

เพียงแต่ว่าสายตาของหานแสยังคงมองนางแปลกๆ ดูเหมือนจะไม่เชื่อ

“เจ้าคงไม่คิดว่าข้าทรยศเจ้าอยู่ใช่ไหม?”

“แล้วไม่ใช่หรือ?”

ได้ยินดังนั้น!

หลานเยาเยากลอกตามองเขาแล้วอธิบายอย่างใจเย็น:

“ท่านชายหยิ่งกับท่านอ๋องของข้าเป็นศัตรูที่แข็งแกร่ง ข้าคือพระชายาเย่ อีกอย่างข้ากับเจ้าก็ไม่มีความแค้นต่อกัน ข้าเอาความของเจ้าไปบอกท่านชายหยิ่งแล้วมันจะมีประโยชน์อันใดต่อข้า?”

เป็นเรื่องที่ไม่ได้ประโยชน์อันใดเลย นางต้องบ้าไปแล้วถึงจะทำ

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใช้หัวแม่เท้าคิดก็สามารถเข้าใจได้แล้ว แต่เขากลับคิดไม่ได้

ไอคิวนี้คาดว่าน่าจะแย่กว่านางละ

“แต่คุณหนูหลานชิวหยุนของจวนแม่ทัพ พี่สี่ของเจ้าตอนนี้อยู่ในกำมือของท่านชายหยิ่ง มันยากที่จะรับประกันว่าเจ้าจะไม่ลืมมิตรภาพแล้วทรยศข้า

ถึงอย่างไร!

ตัวข้าสำหรับเจ้าแล้วก็เป็นแค่คนแปลกหน้าแต่คุณหนูสี่ตระกูลหลานจะพูดยังไงก็เป็นพี่สาวของเจ้า”

ที่แท้ก็ยังมีเรื่องแบบนี้

จำได้ว่าหลังจากที่หลานชิวหยุนถูกหลานเฉินมู๋ส่งไปยังอารามถ้ำในป่าทึบ หลานชิวหยุนหนีออกมาแต่ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย

คิดไม่ถึงว่านางจะไปตกอยู่ในกำมือของท่านชายหยิ่ง

นี่ช่างน่าสนใจ!

คนอย่างหลานชิวหยุนจะมีค่าอะไร?

แต่ว่า!

ข่าวนี้ทำให้หลานเยาเยาดีใจขึ้นมาทันที

“ท่านชายหยิ่งนี่โหดร้ายอำมหิต ไม่รู้ว่าวิธีการทรมานคนของเขาจะโหดร้ายอำมหิตหรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนั้นหลานชิวหยุนตกไปอยู่ในกำมือของเขาก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีสิ!

ไม่ได้ละ ข้าจะต้องไปซื้อประทัดมาจุดฉลองเสียหน่อย”

นางพูดอย่างคึกคัก โดยไม่ได้สังเกตเลยว่าหานแสเริ่มประหลาดใจ สุดท้ายก็กลายเป็นมุมปากที่กระตุกไม่หยุด

สรุปเป็นครอบครัวหรือศัตรูกันแน่?

เย่แจ๋หยิ่งที่นั่งอยู่ข้างๆสายตามองที่ถ้วยชาอยู่ตลอด

แม้เขาจะไม่ได้มองการเคลื่อนไหวทางเตียง แต่การสนทนาของพวกเขา เขาฟังไม่พลาดไปแม้แต่ตัวเดียว

หลังจากนั้น

หลานเยาเยาก็สั่งใบสั่งยาปรับสภาพร่างกาย จากนั้นก็เตรียมจะไปหยิบยา

ใครจะรู้……

เย่แจ๋หยิ่งตามนางมาด้านหลังพูดอย่างหึงหวงว่า:

“เขามีมือมีเท้า สามารถหยิบยาเองได้”

พูดเป็นนัยก็คือ: พวกเจ้าสองคนก็ไม่ใช่ญาติสนิทมิตรสหายกัน จะไปดีกับเขาทำไม?

“นี่เจ้าไม่เข้าใจรึไง!ข้าเป็นหมอ หมอก็ต้องเมตตาสิ!

แน่นอนว่าต้องดีกับคนไข้ อีกอย่างร่างกายของเขาก็มีคุณค่าทางวิจัยอย่างมากแน่นอนว่าข้าต้องปฏิบัติต่อเขาให้ดี”

เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ตนเองที่ต้องประจบสอพลอไม่ให้อารมณ์เสีย นางจึงพูดเอาความคิดในใจทั้งหมดออกมา

“ตอนที่ข้าบาดเจ็บ เจ้าไม่ได้ทำกับข้าเช่นนี้”

เขายังจำตอนนั้นได้ที่หลานเยาเยาฉีกเสื้อผ้าของเขาและยังปิดปากเขาไว้ อีกทั้งยังมัดตัวเขาไว้อีก

ไม่ได้เป็นหมอที่มีความเมตตาอย่างที่นางพูดออกมาตอนนี้สักนิด

หลานเยาเยานี่คือการปฏิบัติที่แตกต่างกัน

เมื่อเย่แจ๋หยิ่งพูดถึงเรื่องนี้ หลานเยาเยาก็คอหดทันที

ถ้าในตอนนั้นนางรู้ว่าคนที่ถูกนางฉีกเสื้อผ้าและมัดไว้คือเย่แจ๋หยิ่งผู้มีอำนาจสูงส่ง ให้ตายนางก็ไม่กล้าทำอย่างนั้น

พอตอนนี้คิดๆดูแล้ว ชีวิตของตนเองยิ่งใหญ่จริงๆ!

ดังนั้นนางจึงรีบทำหน้ายิ้ม

“ตอนนั้นเจ้าเย็นชาอย่างกับน้ำแข็ง แค่มองก็ทำให้คนแข็งตายแล้ว ถ้าข้ามีเรื่องต้องคุยกับเจ้ารักษาให้เจ้า เจ้าจะยอมไหม?”

นางค่อนข้างแน่ใจ

เย่แจ๋หยิ่งจะไม่เพียงไม่ยินยอมแต่จะยังไล่นางไปไกลๆอย่างไร้ปรานีอีกด้วย

ตอนนี้ เย่แจ๋หยิ่งไม่พูดอะไร

“พอละ พอละ ก็กะอีกแค่หยิบยา!มันจะเป็นเรื่องใหญ่อะไร

หลังจากนี้ถ้าเจ้าป่วย ข้าจะปรนนิบัติเจ้าอย่างบรรพบุรุษเลย เจ้าว่าได้ไหม?”

เมื่อเห็นว่าเย่แจ๋หยิ่งยังคงเม้มปาก หลานเยาเยาก็พูดอ้อนๆอีกครั้ง หน้านิ่งๆของเย่แจ๋หยิ่งจึงผ่อนคลายลง

รอจนกระทั่งตอนที่พวกเขากลับจากร้านยามายังโรงเตี๊ยม

โรงเตี๊ยมนี้ก็เงียบสงัดอย่างเห็นได้ชัดจนทำให้หลานเยาเยาระมัดระวังตัวขึ้นมาทันที

แต่เมื่อตอนที่นางเห็นเย่แจ๋หยิ่งยังคงเดินอย่างเฉื่อยชา นางก็รีบส่งเสียงเตือน

“นี่ เย่แจ๋หยิ่ง โรงเตี๊ยมนี้ผิดปกตินะ!”

“อื้ม!”

ตอบมาแค่คำเดียวเนี่ยนะ?

หลานเยาเยาอดไม่ได้ที่จะโมโหขึ้นมารีบพูดเสียงเบาๆอีกครั้งว่า:“มีกลิ่นความอาฆาตอีกทั้งยังรุนแรงด้วย”

“อื้อ มาหลบหลังข้า”

ตอนนี้ นัยน์ตาหลานเยาเยาเป็นประกายรีบต๊อกแต๊กมาหลบหลังเย่แจ๋หยิ่ง

แบบนี้ไม่ต้องออกแรงยังสามารถดูหนังต่อสู้ยอดเยี่ยมได้ฟรีๆอีกด้วย และก็ยังเป็นความเพลิดเพลินอีกแบบหนึ่ง

ทันใดนั้น!

“อ๊า……”

เสียงกรีดร้องดังขึ้น

มีเสียง“ปัง”ชั้นสองหน้าต่างในห้องที่หานแสอยู่ถูกกระแทกให้เปิดออกแล้วก็มีคนตกลงมาข้างล่างจากตรงนั้น

“พู่ว……”

มีเลือดพ่นออกมา จากนั้นก็สลบไป

 

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset