Super God Gene – ตอนที่ 2624

“นี่เธอกำลังทำอะไร?” หญิงหม้ายหลิวเอนตัวเข้ามาเพื่อจะจูบเขา ดังนั้นหานเซิ่นจึงใช้มือเพื่อหยุดริมฝีปากของเธอเอาไว้

 

“เจ้าไม่ต้องการสมบัติของตระกูลหลิวอย่างนั้นหรอ? ถ้าเจ้ารักข้าอย่างที่ข้าต้องการ ข้าก็จะมอบทุกอย่างให้กับเจ้า” หญิงหม้ายหลิวจ้องมองเขาราวกับหมาป่าที่หิวกระหาย

 

ไม่สิเธอเป็นเหมือนกับจิ้งจอกตัวเมียที่เต็มไปด้วยราคะ

 

หานเซิ่นใช้มือจับที่เอวของเธอและยกเธอขึ้น เขาเดินไปทางสวนหลังบ้านและโยนเธอลงบนโต๊ะหิน

 

แขนและขาของเธอกางออกบนโต๊ะ ขณะที่หญิงหม้ายหลิวหลับตาของเธอลง ใบหน้าของเธอแดงและเธอก็หายใจอย่างรวดเร็วขณะที่พูดขึ้นมา
“ไม่ต้องอ่อนโยนกับข้าเพียงเพราะข้าเป็นผู้หญิงที่บอบบาง”

 

แต่หลังจากที่รอคอยให้อะไรเกิดขึ้น มันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อเธอลืมตาขึ้นอีกครั้ง หานเซิ่นก็ได้หายตัวไปแล้ว

 

หลังจากที่หานเซิ่นออกจากบ้านของหญิงหม้ายหลิว เขาก็เดินต่อไปบนถนนของเมืองราชาดำ แต่เขารู้สึกว่าบางสิ่งผิดปกติ ผู้หญิงทุกคนในเมืองราชาดำมองเขาด้วยสายตาแปลกๆ ดวงตาของพวกเธอดูเหมือนกับหมาป่าที่หิวกระหาย

 

แม้แต่ดวงตาของหญิงสาวที่ขี้อายก็ลุกเป็นไฟเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเธอมองมาที่หานเซิ่น

 

“นี่มันไม่ปกติ นี่คือพลังของแส้เหล็กเทพเสน่หาอย่างนั้นหรอ?”
หานเซิ่นตัดสินใจออกไปจากเมืองราชาดำ หลังจากที่ออกไป เขาก็เห็นยวิ๋นซู่ซางกำลังขี่นกกระเรียนของเธอ

 

เมื่อยวิ๋นซู่ซางสังเกตเห็นหานเซิ่น สีหน้าของเธอก็บิดเบี้ยวอย่างแปลกๆ มันดูเหมือนกับว่าเธอต้องการจะหลบหน้าเขา แต่ในขณะเดียวกันเธอก็อยากจะอยู่ต่อและมองดูเขา

 

“ซู่ซาง ข้าขอถามอะไรเจ้าหน่อยได้ไหม?” หานเซิ่นเดินเข้าไปหาเธอ

 

“ถามอะไร?” ยวิ๋นซู่ซางมองไปรอบๆขณะที่พูด

 

“นี่พลังของแส้เหล็กเทพเสน่หาส่งผลต่อร่างกายของข้าอย่างนั้นหรอ? นี่เป็นเรื่องสำคัญมาก เจ้าบอกข้าได้ไหมว่าข้าเปลี่ยนไปมากแค่ไหน?” หานเซิ่นพูดอย่างจริงจัง

 

ยวิ๋นซู่ซางหน้าแดง หลังจากที่ลังเลอยู่สักพัก เธอกัดริมฝีปากของตัวเองขณะที่พูดขึ้นว่า “เจ้าควรจะไปถามคนอื่น”

 

หลังจากนั้นยวิ๋นซู่ซางก็จากไปอย่างรีบร้อน หานเซิ่นพยายามตะโกนเรียก แต่เธอเมินเฉยต่อการเรียกของเขา

 

หานเซิ่นรู้ว่านี่เป็นอะไรที่แย่มากๆ หลังจากที่เขากลับไปที่เกาะหยกน้อย เขาก็ให้บับเบิลลอกเลียนแบบร่างกายของเขาและคอยอยู่ที่นั่น ในขณะที่เขาตัดสินใจเทเลพอร์ตกลับเข้าไปในสหพันธ์

 

“เหยียนหรัน มันมีบางสิ่งผิดปกติเกี่ยวกับฉันไหม?” หานเซิ่นถาม เขากำลังนอนบนเตียงโดยมีจีเหยียนหรันขดตัวในแขนของเขาเหมือนกับแมว

 

จีเหยียนหรันพูดด้วยสีหน้าที่พึ่งพอใจ “ฉันไม่เห็นว่ามันจะมีปัญหาอะไร นายดูดีมากๆ นายดูมีเสน่ห์ยิ่งกว่าเมื่อก่อน”

 

“เธอหมายความว่ายังไงที่ว่ามีเสน่ห์?” หานเซิ่นรีบถามอย่างเป็นกังวล

 

จีเหยียนหรันมองเขาใกล้ๆ เธอจับคางของเขาขณะที่จ้องไปใบหน้าของหานเซิ่น หลังจากนั้นเธอก็พูดขึ้นมา “มันทำให้ฉันอยากหลับนอนกับนายมากขึ้น”

 

“โอ้ไม่นะ…มันเป็นแบบนี้เองอย่างนั้นหรอ…”
ตอนนี้หานเซิ่นเข้าใจแล้วว่าทำไมยวิ๋นซู่ซางถึงหลีกเลี่ยงเขา และทำไมเอ็กซ์ควิสิทถึงไม่มาหาเขาอีก มันไม่ใช่เพราะพวกเธอคิดว่าเขาเป็นคนเจ้าชู้ แต่มันเป็นเพราะพวกเธอไม่สามารถทนต่อการความคิดที่จะทำบางสิ่งที่เป็นสิ่งต้องห้ามไม่ได้ นั่นเป็นเหตุผลที่ผู้คนหลีกเลี่ยงเขา

 

“นี่มันเป็นอาวุธเผ่าพันธุ์แบบไหนกัน?” หานเซิ่นอยากจะร้องไห้ มันถือเป็นเรื่องดีที่เป็นที่นิยมในหมู่สาวๆ แต่หานเซิ่นไม่อยากเป็นเครื่องมือทำให้ผู้หญิงเพลิดเพลิน

 

“ที่รักในเมื่อพระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น ทำไมพวกเราไม่…” จีเหยียนหรันพูดด้วยดวงตาที่ลุ่มหลง เธอกำลังวาดวงกลมบนอกของหานเซิ่น

 

‘เราจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ เราจำเป็นต้องหาแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด’ หานเซิ่นกลับมาที่เกาะ

 

หานเซิ่นไม่สามารถหาวิธีแก้ไขสถานการณ์นี้ได้ ดังนั้นเขาจึงไปที่ปราสาทนภาเพื่อขอความช่วยเหลือจากผู้นำปราสาทนภา

 

ผู้นำปราสาทนภาดูเหมือนจะรู้เกี่ยวกับปัญหาของหานเซิ่น หลังจากที่หานเซิ่นอธิบายจบ ผู้นำปราสาทนภาก็ยิ้มให้กับเขาและพูด
“นี่ถือเป็นเรื่องดีไม่ใช่หรอ? มันเป็นพลังที่ดีสำหรับการผลิตลูกหลาน ยีนของเจ้านั้นสุดยอด ดังนั้นเจ้าควรจะมีลูกเยอะๆ”

 

หานเซิ่นดูขมขื่น “ข้าไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือในเรื่องนั้น แถมถ้าผู้ชายเกิดเริ่มจะ…” เสียงของหานเซิ่นขาดหายไป

 

ผู้นำปราสาทนภาหัวเราะออกมาเสียงดัง “ไม่ต้องกังวลไป พลังของแส้เหล็กเทพเสน่หามีผลต่อเพศตรงข้ามเท่านั้น ถ้าเจ้าเป็นผู้หญิง การมีแส้เหล็กเทพเสน่หาก็จะทำให้เจ้ามีเสน่ห์ต่อผู้ชาย”

 

“ท่านผู้นำ นี่มันไม่มีหนทางกำจัดผลข้างเคียงนี้เลยอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นไม่มีอารมณ์จะมาฟังมุขตลก

 

ผู้นำปราสาทนภายังคงยิ้มขณะที่พูดออกมา “ถ้าเจ้าเป็นยอดฝีมือที่ควบคุมพลังของแส้เหล็กเทพเสน่หาได้ เรื่องแบบนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น ปัญหาก็คือพลังของเจ้าไม่เพียงพอจะควบคุมแส้เหล็กเทพเสน่หา เจ้าจึงต่อต้านผลข้างเคียงของมันไม่ได้”

 

หลังจากหยุดไปชั่วครู่ ผู้นำปราสาทนภาก็พูดต่อ “ส่วนหนทางแก้ไขปัญหานี้น่ะหรอ? มันก็มีอยู่วิธีหนึ่ง เจ้าจำเป็นต้องหายอดฝีมือระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อตมาปิดผนึกพลังของแส้เหล็กเทพเสน่หา แต่ถ้าทำแบบนั้น เจ้าก็จะใช้พลังของแส้เหล็กเทพเสน่หาไม่ได้อีก”

 

“ท่านคิดว่าข้าจะหายอดฝีมือระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อตได้อย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นรีบถาม เขาไม่ได้จำเป็นต้องใช้พลังของแส้เหล็กเทพเสน่หา

 

“มันเป็นเรื่องยาก ข้าพอจะช่วยเจ้าได้ แต่การจะจ้างยอดฝีมือที่น่ากลัวขนาดนั้นเป็นอะไรที่แพงมากๆ” ผู้นำปราสาทนภาดูลำบากใจ

 

“ข้ายินดีจะจ่ายไม่ว่ามันจะแพงเท่าไหร่ ตราบใดที่มันแก้ไขปัญหานี้ได้” หานเซิ่นกัดฟัน เขาไม่ต้องการจะกลายเป็นของเล่นของผู้หญิง

 

“เอาแบบนี้เป็นยังไง? ในทุกๆเดือนเจ้าต้องทำการสอนเป็นเวลา 3 วัน และข้าจะช่วยหายอดฝีมือระดับเทพเจ้ามาช่วยเจ้า” ผู้นำปราสาทนภาทำให้มันฟังดูเหมือนเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนเมื่อดูจากวิธีการพูดของเขา

 

“ไม่มีปัญหา” หานเซิ่นตอบตกลงในทันที ในตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์จะมาต่อรอง เขาไม่รู้จักยอดฝีมือระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อตสักคน เขาจำเป็นต้องพึ่งพาผู้นำปราสาทนภา

 

“เจ้าควรจะคำนึงในเรื่องนี้ ถ้าแส้เหล็กเทพเสน่หาถูกปิดผนึก นอกซะจากเจ้าจะแข็งแก่งพอที่จะทำลายผนึก เจ้าก็จะไม่มีวันใช้พลังของมันได้อีก” ผู้นำปราสาทนภาพูด

 

“ข้าไม่จำเป็นต้องใช้มัน” หานเซิ่นพูด

 

“มันไม่ได้ง่ายแบบนั้น ถ้าเจ้ามีแส้เหล็กเทพเสน่หาอยู่ พวกผู้หญิงก็มีแนวโน้มจะเชื่อฟังเจ้า ไม่ว่าเจ้าอยากจะได้เงินหรือชีวิตของพวกนาง พวกนางก็จะมอบให้กับเจ้าโดยไม่ลังเล เจ้าจะได้รับอะไรมากมายจากมัน”

 

“ท่านผู้นำ ได้โปรดหายอดฝีมือระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อตมาช่วยข้าปิดผนึกมัน” หานเซิ่นยิ้มแห้งๆออกมา

 

หานเซิ่นอยากจะได้สมบัติเหล่านั้น แต่เขาไม่คิดจะขายร่างกายตัวเองเพื่อพวกมัน

 

“ส่งแส้เหล็กเทพเสน่หามาให้กับข้า” ผู้นำปราสาทนภาพูด

 

“เจ้าสิ่งนี้จะกลับมาหาผมด้วยจิตใจของมันเอง” หานเซิ่นพูดด้วยสีหน้าที่หดหู่
“ท่านควรรอจนกระทั่งหายอดฝีมือระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อตได้ซะก่อน และข้าจะมอบมันให้กับท่าน”

 

“ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อตมายืนอยู่ตรงหน้าเจ้าเรียบร้อยแล้ว เจ้ายังมัวรออะไรอยู่?” ผู้นำปราสาทนภาพูด

 

“ท่านเป็นขั้นทรูก็อต?” หานเซิ่นมองผู้นำปราสาทนภาด้วยความแปลกใจ เขาจำได้ว่าเมื่อหนึ่งร้อยปีก่อนตอนการประลองในบัญชีสิ่งมีชีวิตจีโน ผู้นำปราสาทนภายังเป็นแค่ระดับราชัน แต่ตอนเขากลายเป็นระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อตแล้ว

 

“เจ้าก็รู้ว่าคนที่เป็นอัจฉริยะจะปิดบังพรสวรรค์ของพวกเขาเอาไว้ เผ่านภาอย่างข้าก็เชี่ยวชาญในการทำแบบนั้น” ผู้นำปราสาทนภายิ้ม

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset