ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี – ตอนที่ 18 ฉันก็แค่มีคนคอยห่วงใย

ตอนที่18 ฉันก็แค่มีคนคอยห่วงใย
เจียงเสี่ยวปิงและอีกสามคนที่เหลือทั้งประหลาดใจและตื่นตะลึงในเวลาเดียวกัน เมื่อได้เห็นรูปที่หวันชวนส่งมา
หวันชวนยังส่งข้อความเสียงทิ้งท้ายให้ทั้งสามอีกว่า
“ระหว่างที่จะออกจากบริษัท ฉันบังเอิญเห็นพวกเขาออกมาด้วยกัน จึงรู้สึกว่ามันแปลกๆ เลยลองขับสะกดรอยตามไปดู แต่ไม่คิดเลยว่าจะดันไปเห็นภาพฉากแบบนี้เข้า ฉันเองก็คิดไว้แล้วว่าทำไมจู่ๆ จ้าวเฉียนถึงมีอิทธิพลชั่วข้ามคืนแบบนี้ ไอ้เรื่องถูกรางวัลลอตเตอรี่อะไรนั่นมันขี้โม้ทั้งนั้น ก็อย่างว่าแหละ ประธานฟางเองก็เป็นสาววัยกลางคน แถมก็โสดมานานแล้วด้วย ไม่แปลกที่จะมีหิวบ้างเป็นธรรมดา คงใช้จังหวะที่จ้าวเฉียนโสดเหมือนกันพอดี เลยจ้องกินเด็กเป็นยาบำรุง ฮ่าฮ่าๆ …”
หวังเฉียงและเจวียงหยวนระเบิดหัวเราะลั่นเสียงดังขึ้นฟ้า ด้วยภาพถ่ายพวกนี้ภายในมือ ไอ้บัดซบจ้าวเฉียนยังมีหน้าอยู่ในบริษัทนี้อยู่อีกหรือไม่?
เจียงเสี่ยวปิงเองก็หัวเราะเยาะไม่หยุดเช่นกัน พลางพูดกับตัวเองว่า
“ฉันไม่ได้มองไอ้ขยะนี่ผิดไปจริงๆ มันก็แค่เศษเดนหน้าไม่อายไร้ศักดิ์ศรี ฟางนี่เองก็ไม่เกรงใจเช่นกันถึงขั้นจ่ายเงินหลายล้านหยวนเพื่อซื้อใจเขา! หญิงแก่หน้าไม่อายจริงๆ ถ้าเธอรู้ว่าฉันเคยนอนกับเขาฟรีๆ เธอจะโกรธฉันขนาดไหน?”
หวังเฉียงรีบสร้างกลุ่มสนทนาและดึงเจียงเสี่ยวปิง, หวันชวนและเจวียงหยวนเข้ากลุ่มทันที
“พวกนายคิดเห็นยังไงกับเรื่องนี้?”
เจวียงหยวนและหวันชวนพิมพ์ตอบกลับทันทีว่า หลังจากนี้มีอะไรสนุกๆ ให้ดูอีกแน่นอนเมื่อปล่อยภาพพวกนี้ให้ทุกคนในบริษัทดู
แต่เป็นเจียงเสี่ยวปิงที่เร่งหยุดความคิดพวกเขาในทันใด
“อย่าโง่ได้ไหมพวกนาย มันจะส่งผลเสียกับพวกเรามากกว่า สำหรับจ้าวเฉียนไม่มีใครสนอยู่แล้วว่ามันจะคิดยังไง แต่สุดท้ายนี้ประธานฟางก็เป็นนายเหนือหัวพวกเรา ถ้าไม่วางแผนกันดีๆ มีหวังโดนไล่ออกยกแผง!”
หวังเฉียนพิมพ์เสริมทันที เจียงเสี่ยวปิงพูดถูกแล้ว พวกเรายังต้องพึ่งพาประธานฟาง ไม่งั้นจะเอาอะไรกินในแต่ละเดือน?
ในเวลานั้นเอง เป็นเจวียงหยวนที่หัวใสคิดวิธีได้ทันควัน พวกเขาสามารถสร้างบัญชีแบบไม่ระบุตัวตนได้และแพร่ภาพลงในอินเทอร์เน็ต จากนั้นก็แนะนำให้พวกเพื่อนร่วมงานดูภาพเหล่านี้ผ่านทางออนไลน์เอา
หวังเฉียงที่ได้ฟังแบบนั้นก็เห็นดีเห็นงามด้วยอย่างมาก เขาสร้างบัญชีใหม่ภายใต้ชื่อของจ้าวเฉียน จากนั้นก็โพสต์รูปถ่ายเหล่านี้พร้อมข้อความที่ว่า อัลบั้มบันทึกความทรงจำที่ดีระหว่างลูกจ้างและหัวหน้า
หลังจากโพสต์ลงอินเตอร์เน็ตเสร็จสิ้น ทั้งสี่คนต่างก็ระเบิดเสียงหัวเราะเยาะอย่างมีความสุข
ในตอนนี้เอง จ้าวเฉียนยังคงนั่งรออยู่ในห้องนั่งเล่นบ้านฟางนี่ เธอในตอนนี้ยังคงแต่งหน้าทำผมอยู่ ผ่านไปได้ครึ่งชั่วโมงในที่สุดเธอก็ออกมา
จ้าวเฉียนตกตะลึงอย่างมาก ไม่ใช่แค่เสน่ห์ความงดงามของฟางนี่เท่านั้น แต่เขากลับคาดไม่ถึงเลยว่า การแต่งหน้าทำผมจะสามารถยกระดับความสวยของผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดนี้
เมื่อเห็นจ้าวเฉียนจ้องตัวเองตาไม่กระพริบ ฟางนี่ก็ตรงเข้าไปทุบอกเขาเล็กน้อยด้วยความเขินอาย พร้อมเอ่ยขึ้นว่า
“มองอะไรของคุณ…”
จ้าวเฉียนหัวเราะเสียงค่อย ตอบกลับไปว่า
“ก็มองคนสวยไง ประธานฟาง ถ้าคุณแต่งตัวแบบนี้ไปทำงานทุกวัน คุณจะกลายมาเป็นดาวเด่นที่สุดของบริษัทเราทันที!”
“ฮิฮิ…จริงเหรอ?”
“แน่นอน! ไปกินข้าวกันเถอะ!”
ฟางนี่ยิ้มหวานพร้อมพยักหน้าให้ หยิบกระเป๋าถือแนบตัวไว้ และออกไปกับจ้าวเฉียนทันที
อิงจากชุดสวยของฟางนี่ในวันนี้ จ้าวเฉียนจึงเลือกอาหารแนวตะวันตกพร้อมวิวสวย ตั้งใจให้เธอได้ถ่ายภาพพร้อมชุดสวยที่ดูเข้ากันอย่างลงตัว
“สั่งเต็มที่เลย! วันนี้ฉันเลี้ยงเองค่ะ!”
เอ่ยจบฟางนี่ก็หันไปเรียกบริกรเพื่อหยิบเมนูให้จ้าวเฉียน
จ้าวเฉียนเองก็ไม่เกรงใจเช่นกันและสั่งสเต็กคาเวียร์ ไวน์แดงและอื่นๆ มาอีกมาก แม้ว่านี่จะไม่ใช้ของราคาแพงสำหรับเขาเลย แต่ในฐานะคนชนชั้นกลางนับว่าแพงมาก มื้อนี้เล่นเอาราคาเกือบแตะหลักแสน ซึ่งสร้างความลำบากใจให้เธอไม่น้อย
ฟางนี่รู้สึกอึดอัดใจอย่างบอกไม่ถูก แม้เธอจะบอกว่าสั่งเต็มที่เลยก็จริง แต่อีกฝ่ายเองก็ควรจะรู้จักมารยาทบ้างจริงไหม?
ด้วยเหตุนี้ ความรู้สึกดีๆ ที่เธอมีต่อจ้าวเฉียนจึงเลือนหายไปอีกครั้ง
จ้าวเฉียนทำสิ่งเหล่านี้แน่นอนว่ามีจุดประสงค์ชัดเจน นั้นคือต้องการให้ฟางนี่เกลียดตัวเขา จ้าวเฉียนเองก็ไม่ได้โง่ เธอแต่งตัวจัดหนักจัดเต็มแบบนี้เพียงแค่มาทานข้าเย็นกับเขามื้อหนึ่ง นี่ยังหมายความถึงอะไรได้อีก? ฟางนี่ชวนเขามาเดทชัดเจน
ในมุมมองของจ้าวเฉียน ถึงเขายังไม่มีสเปคผู้หญิงที่จะมาเป็นภรรยาในอนาคตก็จริง แต่ไม่ใช่ฟางนี่แน่นอน ข้อแรกคือเขาไม่ชอบผู้หญิงที่อายุมากกว่าตัวเองหลายปี และข้อสอง พ่อของเขาจ้าวฝูไม่ยอมให้ผู้หญิงในวัยนี้มาแต่งงานกับลูกตัวเองแน่นอน
ฟางนี่เตรียมคำพูดหวานๆ ไว้มากมายภายในใจ แต่เจอเข้าไปแบบนั้นเธอถึงกับหมดอารมณ์ เพื่อบรรเทาความลำบากใจนี้ เธอจึงเปิดประเด็นคุยกับจ้าวเฉียนเรื่องแผนงานเพียงอย่างเดียว
ทางจ้าวเฉียนเองก็วางแผนไว้แล้วเช่นกัน แต่แผนของเขามองจากมุมบริษัทที่เขามีอยู่ในครอบครอง ไม่ใช่สร้างมาจากมุมมองของบริษัทเกมฟางนี่เป็นพื้นฐาน
ดังนั้นนี่จึงเป็นแผนงานที่มีเขาคนเดียวเท่านั้นที่สามารถทำได้สำเร็จ
ดังนั้นเขาจึงกล่าวสรุปให้ฟางนี่ฟังอย่างคร่าวๆ ว่า
“แผนของผมคือร่วมมือกับบริษัทซิงหยวนก่อน เพื่อพัฒนาเกมมือถือที่ยืนในตลาดเกมในปัจจุบันได้ เมื่อบริษัทของเรามีความมั่นคงและผลกำไรที่มากพอ เราจะพัฒนาโครงการโดยการแตกไลน์ออกไป”
ฟางนี่พยักหน้าและเอ่ยถามขึ้นว่า
“แล้วคุณแน่ใจได้ยังไงว่า ทางซิงหยวนจะยอมให้ความร่วมมือกับเรา?”
“นี่แหละที่เป็นปัญหา หลังจากพรุ่งนี้ที่ทานข้าวกับเกาหมิงต้าเสร็จคงได้คำตอบ”
ฟางนี่พยักหน้าอีกครั้งและไม่ได้กล่าวอันใดอีกเลย
พวกเขาสองคนทานอาหารเย็นเสร็จอย่างรวดเร็ว เดิมทีฟางนี่ตั้งใจจะชวนจ้าวเฉียนไปดูหนังกันต่อ แต่เธอในตอนนี้กลับไม่มีอารมณ์แล้ว
จ้าวเฉียนเองก็ไม่อยากอยู่กับเธอสองต่อสองนานเกินไป จึงขับรถออกไปส่งทันที
“เห้ออ…”
เห็นฟางนี่ขึ้นรถตัวเองจากออกไป จ้าวเฉียนก็ลอบถอนหายใจหนักคราหนึ่ง เขาไม่คิดที่จะออกมากับฟางนี่สองต่อสองอีกแน่นอนในอนาคต เขารู้สึกอึดอัดใจเหลือเกิน
หลังจากกลับบ้านมา ข้าเฉียนก็อาบน้ำเตรียมตัวกำลังจะเข้านอน แต่ขณะที่เขาลุกขึ้นจะไปปิดไฟ จู่ๆ ฟางนี่ก็โทรมาหาเขา
“โทรมาหาเวลานี้มีอะไรหรือเปล่าครับประธานฟาง?”
จ้าวเฉียนเอ่ยขึ้นเจือสีหน้างุนงง แต่ไม่นานสายก็ถูกตัดไปโดยอัตโนมัติ ทว่าไม่นานหลังจากนั้นฟางนี่ก็โทรมาหาเข้าอีกครั้ง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เห็นได้ชัดว่า เธอต้องมีอะไรบางอย่างและไม่สามารถทนกับมันได้อีกต่อไปแน่นอน
จ้าวเฉียนทำได้เพียงสูดหายใจเข้าลึกๆ และเลื่อนปุ่มสีเขียว รับโทรศัพท์ทันที
“เฮ้อ…ประธานฟางว่าไงครับ?”

“จ้าวเฉียน รีบเข้าWeChatเร็ว ฉันส่งลิ้งค์ไปแล้ว รีบเข้าไปดูเลย ตอนนี้ฉันโกรธมาก! โกรธจริงๆ!!”
จ้าวเฉียนเอ่ยถามขณะเปิดแอปWeChatขึ้นมา
“โอ้? มีอะไรงั้นเหรอครับ?”
ฟางนี่สวนตอบทันทีว่า
“ดูเองเดี๋ยวก็รู้!”
จ้าวเฉียนอุทานร้องว้าวออกมาทันทีที่คลิกลิ้งค์เปิดเข้าไปดู มันคือภาพถ่ายระหว่างเขากับฟางนี่อยู่ในบ้านกันสองต่อสองในเว็บWeibo
คล้อยหลังไม่นาน จ้าวเฉียนก็ระเบิดหัวเราะคิกคัก และรู้ได้ในทันทีว่า นี่ต้องเป็นแผนของพวกหวังเฉียงอย่างไม่ผิดเพี้ยน ถามว่าเขารู้ได้ยังไง? ต้องถามกลับไปมากกว่าว่า มีใครบ้างที่ยังไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา? ถ้ารู้ว่าจ้าวเฉียนเป็นถึงทายาทมหาเศรษฐี พวกหวังเฉียนจะมีหน้าแกล้งเขาเหรอ?
ระหว่างที่หัวเราะจ้าวเฉียนปิดไมค์ไว้ก่อน ฟางนี่ที่เห็นว่าจ้าวเฉียนจู่ๆ เงียบไปก็รีบเอ่ยถามอย่างกระวนกระวายใจว่า
“ฮาโหล? นี่นายพูดอะไรหน่อยสิ! ฮาโหล?!”
“มาแล้ว มาแล้ว…ไม่ต้องกังวลไป ผมจะให้คนของผมตรวจสอบIPของผู้โพสต์เอง แล้วขอดูหน่อยว่าจะทำอะไรได้บ้างไหม”
“นายจะตามหาไอ้คนมือดีนี่ได้จริงใช่ไหม?”
“แน่นอน”
“โอเค รีบหามาเลยนะ ฉันจะทุบมันไม่ให้เหลือซาก!”
ฟางนี่วางสายลงทันทีด้วยความโกรธจัด ยิ่งได้เห็นปฏิกิริยาและน้ำเสียงของจ้าวเฉียนที่ดูใจเย๊นใจเย็น เธอยิ่งหัวเสียเข้าไปใหญ่
จ้าวเฉียนวางสายอย่างไม่เร่งไม่รีบ บรรจงเลื่อนหาชื่อของเลขาหวังฉีและต่อสายตรงไปหาทันที
“วานตรวจสอบIPที่อยู่ของผู้โพสต์หน่อย ส่งข้อมูลที่อยู่มาให้ทางเมล เร็วหน่อยล่ะ ฉันรีบ!”
“เข้าใจแล้วครับคุณชายจ้าว ผมจะรีบติดต่อไปหาผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของWeiboหลังวางสายทันที”
จ้าวเฉียนวางสายไปพร้อมหาววอดอีกคำใหญ่
ไม่ว่าใครจะเป็นคนโพสต์ภาพพวกนี้ในWeiboก็เตรียมเสียใจได้เลย บริษัทตระกูลจ้าวควบคุมWeiboอยู่เบื้องหลัง การจะตรวจสอบข้อมูลจำเพาะของไอดีที่โพสต์ช่างง่ายเหลือเกิน

ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี

ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี

เนื้อเรื่องย่อ จ้าวเฉียน อายุ23ปี พนักงานกินเงินเดือนธรรมดา รายได้เดือนละแค่5,000หยวน ทุกคนในบริษัทต่างดูถูกดูแคลนเขา เพราะเจ้านี่ขี้เหนียวเหลือเกิน แม้แต่แฟนเก่ายังทนเขาไม่ไหว และหันมาแอบคบชู้กับผู้จัดการของเขาแทน จนเวลาผ่านไปเขาเพิ่งมารู้ความจริง อย่างไรก็ตาม ความจริงที่ชวนน่าตกตะลึงกว่าคือ ตัวตนที่ที่แท้จริงของเขาคือทายาทมหาเศรษฐี บุตรชายของจ้าวฝู บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก แต่เมื่อห้าปีก่อน หลังจากที่ฉลองปาร์ตี้ที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ เขาก็ขับรถกลับทั้งๆที่อยู่ในอาการเมา จนแล้วจนรอด บังเอิญไปเฉี่ยวชนเข้ากับสาวน้อยคนหนึ่ง จนเธอได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้เนื่องจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ขาดสติหนัก เกิดอาการคลุ้มคลั่งขึ้น ตะโกนโหวกเหวกโวยวายสร้างปัญหาไปทั่วสถานีตำรวจ ระหว่างนั้นเองก็มีมือดีที่ไหนไทม่ทราบแอบถ่ายคลิปเก็บไว้ได้ทัน พร้อมถูกอัปโหลดลงโซเชียลออนไลน์ ก่อให้เกิดเป็นประเด็นข้อฉกเถียงยกใหญ่ของผู้คนในเวลานั้น ซึ่งเรื่องนี้ก็กระทบไปถึงชื่อเสียงขงอตระกูล จ้าวฝูไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้อำนาจเงินตรา เพื่อไล่ลบคลิปวีดีโอเหล่านี้จนหมด ไม่ให้สืบสาวไปถึงตัวลูกชายของเขา คนเป็นพ่อใช้ไม้แข็งตัดขาดจ้าวเฉียน ไล่ไสส่งออกจากตระกูลจ้าว และให้จ้าวเฉียนหาเงินมาชดใช้ค่ารักษาสาวน้อยคนนั้นเป็นจำนวน 200,000หยวน เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจนี้ ถึงจะกลับเข้ามาในตระกูลอีกครั้งได้ ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา จ้าวเฉียนจำต้องทนกับความอัปยศนานาชนิด ทั้งยังต้องใช้ชีวิตอย่างประหยัด จนในที่สุดเขาก็จ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลจนควบตามที่กำหนดไว้ เขาได้ทุกอย่างคืนกลับมาอีกครั้ง และสิ่งแรกที่เขาต้องการคือ การแก้แค้นพวกที่เคยดูถูกเขา! “ประธานฟาง ฉันยินดีร่วมหุ้นกับบริษัทของคุณเป็นจำนวนเงิน3ล้านหยวน โดยมีเงื่อนไขว่า คุณไม่ได้รับอนญาตให้เปิดเผยสถานะที่แท้จริงของผม ไม่อย่างนั้นผมจะถอนทุนทั้งหมดออกทันที” “เข้าใจแล้วค่ะคุณจ้าว” “ฮิฮิ….ตราบใดที่เข้าใจแล้ว ก็ทำให้ได้ แล้วคุณรู้ไหมว่า ผู้จัดการหวัง เจ้านั้นมันต้องการขับไล่ผมออกจากบริษัท คิดว่าผมควรทำยังไงดี?” “ง่ายมากค่ะ! ฉันจะไล่เขาออกเดี๋ยวนี้!” “ไม่ ไม่… ผมยังเล่นกับเขาไม่จุใจเลย จะไล่ออกไปง่ายๆได้ยังไง?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset