“ไม่จำเป็น”
ป๋อจิ่งชวนดึงมือกลับพร้อมพูดขึ้นเบาๆ
“ฉันเคยบอกกับเธอว่าจะเชื่อใจเธอ ถ้าอยากตรวจสอบก็ไม่เท่ากับว่ากลืนน้ำลายตัวเองเหรอ”
“แต่ข่าวลือก็ใช่ว่าจะเป็นเท็จเสมอไป…”
อวี๋ซงเอ่ยขึ้นอย่างอดไม่ได้ คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าคุณผู้ชายจะหน้ามืดตามัวเพราะผู้หญิงคนหนึ่งได้ขนาดนี้
ป๋อจิ่งชวนหยัดกายขึ้นตรงไปยังริมหน้าต่าง ร่างสูงเบี่ยงตัวเล็กน้อยมองลงไปยังรถเก๋งสีดำที่ค่อยๆ จอดลง มุมปากค่อยๆ ยกขึ้นน้อยๆ
“ขอแค่ฉันเชื่อ ต่อให้ไม่จริงฉันก็เปลี่ยนให้จริงได้”
เสียงทุ้มต่ำในลำคอเอ่ยขึ้นอย่างไม่ทุกข์ร้อน แต่ทว่าที่อวี๋ซงได้ยินนั้นคือน้ำเสียงแห่งความขุ่นเคืองที่เต็มไปด้วยความเอาแต่ใจ อวดดีและหยิ่งยโส
หัวใจเขาสั่นคลอน การที่คุณผู้ชายเป็นแบบนี้ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเห็นเสียทีเดียว เขามักจะมุ่งมั่นอย่างเอาเป็นเอาตายในการวางกลยุทธ์ธุรกิจ ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเขามักจะถือดาบควบม้าออกไปสู้อย่างไม่กลัวตายเพื่อไปตายเอาดาบหน้าเสมอ
เป็นคนประเภทที่มีความมั่นอกมั่นใจในตัวเองและฝีมือรอบด้าน
แต่นั่นมันสำหรับเรื่องของธุรกิจ
เขาไม่เคยเห็นคุณผู้ชายเป็นแบบนี้กับผู้หญิงมาก่อน!
แต่ว่าคำพูดของป๋อจิ่งชวนพูดนั้นที่อยู่ในใจของเขามาจนถึงในบัดนี้ ค่อยๆ เปิดรับเฉินฝานซิงเข้ามาเป็นนายของเขาอีกคนไปครึ่งหนึ่งแล้ว
เหตุผลง่ายๆ ที่เขายึดถือเสมอมา…
ไม่ว่าคุณผู้ชายอยากได้ ก็ต้องหามาให้ได้
ยังไงซะเธอก็ต้องมาเป็นนายหญิงของเขาอยู่ดี จะข้องใจให้มากความไปทำไม
“ลงไปบอกผู้จัดการทีสิว่า วันนี้หยุดทำการแล้ว”
“ครับ!”
อวี๋ซงน้อมรับคำสั่งของป๋อจิ่งชวนอย่างไม่ต้องคิด เขาตอบรับคำหนึ่งแล้วปลีกตัวออกจากห้องไพรเวทไป
ที่ประตูร้านของหรูอี้ซวน คนขับรถค่อยๆ ลดกระจกลงเผยให้เห็นสีหน้าอันเคร่งขึมของเจียงหรงหรงและเฉินเต๋อฝานกับหยางลี่เวยที่นั่งขนาบทั้งสองข้างที่กำลังมองไปยังหรูอี้ซวนพร้อมกัน
คนรับใช้ที่นั่งอยู่เบาะหลังเดินลงไปจากรถเพื่อไปหยิบบัตรคิวอย่างรู้หน้าที่
“ร้านออกจะดังขนาดนี้ น่าเสียดายนะ ทำไม่เถ้าแก่ร้านถึงไม่ยอมเปิดเพิ่มอีกสักสาขาล่ะ”
“นั่นแหละจุดขายของร้านนี้ เชฟทุกคนล้วนมีรสมือที่แตกต่างกัน ต่อให้ทำอาหารจานเดียวกันรสชาติก็ยังแตกต่างกันออกไป หากไปเปิดสาขาใหม่ได้ไม่นานก็คงเสียชื่อ!”
เจียงหรงหรงกล่าว ในใจก็มีเรื่องสงสัยอยู่ไม่น้อย เธอเคยได้ยินชื่อร้านอาหารที่รุ่งเรืองมานานอย่างหรูอี้ซวนตั้งแต่สมัยสาวๆ หลายสิบปีผ่านไปก็ยังไม่มีทีท่าจะขยายสาขา
ธุรกิจที่กำไรเห็นๆ ขนาดนี้ยังไม่ยอมทำ เถ้าแก่คนนี้คงจะเอาแต่ใจน่าดู
ดูๆ แล้ววันนี้คนจะน้อยกว่าวันไหนๆ คนน้อยขนาดนี้สงสัยวันนี้เชียนโหรวจะมีบุญได้กินของอร่อย
ทว่าตอนนี้สายตาเธอกลับซัดไปเห็นคนรับให้ที่รอรับบัตรคิวอยู่ เขาจวนจะได้รับบัตรคิวจากเครื่องกดอยู่แล้วแต่กลับมีคนมากดหยุดเครื่องนั้นเสียก่อนทั้งๆ ที่ยังไม่ได้รับคิวเลยด้วยซ้ำ
หัวคิ้วของเจียงหรงหรงเลิกขึ้นสูง
แก่จนปูนนี้แล้ว ถ้าดูไม่ออกว่าการกระทำแบบนี้เรียกว่าจงใจก็คงจะแก่เสียเปล่า
ยิ่งชัดเจนเข้าไปอีกเมื่อคนที่ต่อหลังคนของเธออยู่กลับได้รับบัตรคิวอย่างง่ายดาย!
“นี่มัน…หมายความว่าไง” หยางลี่เวยเองก็ประหลาดใจ “ทำไมถึงตั้งใจเจาะจงเฉพาะพวกเรา”
คนรับใช้ที่ลงไปรับบัตรคิวเองก็รับรู้ได้ถึงที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน เขาจึงกำลังเจรจากับพวกนั้นอยู่
เจียงหรงหรงหรี่ตามองไปยังเบื้องหน้าไม่นานก็เห็นคนรับใช้เดินหน้าตายกลับมา
“เกิดอะไรขึ้น” เจียงหรงหรงถามเสียงต่ำ
“นายหญิง คนของทางร้านบอกว่าวันนี้หยุดทำการแล้วครับ”
“เหลวไหล! เห็นชัดๆ ว่าคนที่ยืนหลังแกยังได้รับบัตรคิว ทำไมมีแค่แกที่ไม่ได้!”
ขณะที่สายตาอยู่ที่สีหน้าขุ่นเคืองเจียงหรงหรง หยางลี่เวยขึ้นเสียงออกมา
คนรับใช้รู้สึกลำบากใจแต่อีกใจหนึ่งก็อดสงสัยไม่ได้
“ฉันจะลงไปดู!”