“นายไปโผล่ตรงนั้นได้ไง?”
สองคนช่วยกันประคอง กลับมาถึงบ้าน เธอเปิดประตูเข้าไป
ในตอนนี้มีสติมากขึ้น หันตัวไปทันที สายตาเคร่งขรึมพินิจพิจารณาเขาคนนั้น
ทำไมเขาถึงบังเอิญไปปรากฏตัวอยู่ที่นั่น?
เขาคนนั้นดูเหมือนจะไม่สังเกตเห็นว่าอารมณ์ของเธอเปลี่ยนไป ชี้ที่ระเบียงอย่างใสซื่อ “ถงถงไปทำงานทุกวัน อาซิวยืนอยู่ตรงนั้น มองดูรถของถงถงออกไป
อาซิวรู้เวลาเลิกงานของถงถง ”
ความหมายที่ซ่อนอยู่คือ ทุกวันตอนช่วงเวลาที่เธอเลิกงาน เขาจะหมอบที่ระเบียงดูรถของเธอขับมา
เธอตะลึงงันอย่างไม่คิดมาก่อน คำตอบแบบไหน เธอเคยคิดแล้ว จนแม้แต่ แม้แต่…… สงสัย……
เพียงแค่ ไม่เคยคิดถึงคำตอบแบบนี้
“ตึกสูงขนาดนี้ มองเห็นด้วยรึ ?” เธอนึกขึ้นได้
เขาคนนั้นกลับดึงเธอไปที่ระเบียงอย่างกระตือรือร้น “พี่ซีเฉินให้ของพวกนี้กับฉัน”
เจี่ยนถงมองเห็นสิ่งของมากมายที่ระเบียง ตะลึงงันอีกครั้ง
“ติดตั้งมานานแล้ว” ได้ยินเขาคนนั้นพูดไม่หยุด
เธอก้มหน้า……ติดตั้งมานานแล้วเหรอ?
แต่เธอ จนถึงวันนี้ เพิ่งรู้ว่า ระเบียงบ้านตนเองมีสิ่งของมากมายเช่นนี้
กล้องส่องทางไกลประเภทนี้ กับประเภทที่ขายในซูเปอร์มาร์เก็ตกับร้านขายของเล่น เป็นคนละแบบกัน
เจี่ยนถงไม่ค่อยรู้จักกล้องส่องทางไกล แต่คลับคล้ายคลับคลาว่า กล้องส่องทางไกลประเภทนี้เป็นของมืออาชีพแน่นอน
ดังนั้น—ทุกวันตอนเธอเข้างานเลิกงาน เขาจะหมอบตรงระเบียงมองส่งเธอไป และมองเธอกลับมา?
ทันใดนั้นเอง เธอหาคำพูดอย่างอื่นไม่เจอจริงๆ
“ถงถง เวียนหัว”
เขาคนนั้นดึงแขนเสื้อเธออย่างลำบากใจ
เธอหันไปมองใบหน้าของเขา ภายใต้โคมไฟ เมื่อตั้งใจมอง จึงพบว่าบนใบหน้าและร่างกายของเขา อยู่ในสถานการณ์คับขันสุดๆ
ไม่เพียงแค่นั้น ใบหน้าของเขาขาวซีด ริมฝีปากซีดเซียว
เธอไม่พูดอะไรสักคำ เอื้อมมือไปลากเขาคนนั้น เดินไปห้องรับแขก ก้าวเดินอย่างรีบร้อน เมื่อถึงห้องรับแขก เธอก็ไม่พูดอะไรอีก เอื้อมมือผลักเขาไปที่โซฟา
ไม่พูดจาสักคำ “แคว่ก” ฉีกเสื้อผ้าของเขาออก
น่าตกใจสุดๆ !
รอยช้ำและคราบเลือดเต็มสองตา
“หันตัวไป” เธอพูดสั่ง
“อืม” เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ เขาคนนั้นเชื่อฟัง
เมื่อหันตัวไป ยิ่งเห็นสภาพน่าเวทนาตรงหน้า เธอสูดลมหายใจเข้า
“นายอยู่นิ่งๆ ฉันจะโทรหาซีเฉิน!”
เจี่ยนถงสีหน้าเคร่งขรึม รีบวิ่งไปควานหามือถือในกระเป๋า
กลับถูกคนคว้ามือเอาไว้ “ถงถง ไม่เจ็บ ไม่ต้องโทรหาพี่ซีเฉิน”
“ไม่ได้ นายบาดเจ็บไม่น้อยเลย”
“ไม่ต้อง อาซิวไม่เวียนหัวแล้ว”
เขาคนนั้นดื้อรั้นไม่ยอมปล่อยให้เธอหยิบมือถือ เจี่ยนถงรำคาญ สะบัดมือจะกดโทร มือถือกลับถูกแย่งไป
เธอหน้าตึง ยื่นมือออกไป “เอาคืนมา”
“ไม่เอา”
“เสิ่นซิวจิ่น ฉันจะพูดแค่อีกครั้ง เอาคืนมาให้ฉัน นายบาดเจ็บหนักมาก”
“ไม่เอา”
เธอคิดจะโมโห กลับมองเห็นเขาทำหน้าหงุดหงิด ข่มความโกรธในใจ เธอถอนหายใจแรง คายความยุ่งเหยิงออกมา ถามเขาด้วยความอดทน
“ทำไมถึงไม่เอา?”
“ฉันไม่อยากให้พี่ซีเฉินรู้ว่าฉันบาดเจ็บ ไม่อย่างนั้นพี่ซีเฉินจะโกรธ”
เจี่ยนถงอึ้งไป มองคนตรงหน้าอีกครั้ง
ซีเฉินจะโกรธจริงๆ
แต่ ไม่ได้โกรธเสิ่นซิวจิ่น โกรธเธอต่างหากล่ะ
“พี่ซีเฉินของนายไม่มีทางโกรธนายหรอก”
“ฉันรู้”
“นายรู้แล้วยัง……” เธอพูดอย่างฉุกละหุก จู่ๆ เสียงก็ขาดไป ดวงตาใสสะอาดมองคนตรงหน้าเงียบๆ พักหนึ่ง “พี่ซีเฉินก็ไม่มีทางโกรธฉันหรอก”
เขาคนนั้นไม่ยอมพูด
ไม่โต้แย้ง และไม่ยอมส่งมือถือให้เธอ
เธอทำได้เพียงถอนหายใจ ถอดเสื้อเชิ้ตบนตัวเขาออก ตรวจสอบจนทั่ว ลูบคลำอย่างระมัดระวัง เธอไม่ได้เรียนหมอมา แต่พอมีความรู้ทั่วไป
“รู้สึกไม่สบายตรงไหนไหม”
“ไม่……”
“ห้ามโกหก”
เขาคนนั้นอ้าปาก ผ่านไปสักพักจึงพูดอย่างลำบากใจ “เจ็บ”
เธอได้ยิน วิตกกังวลทันที “เจ็บตรงไหน เจ็บแบบไหน?”
“เจ็บตรงส่วนที่โดนไม้ตี”
บริเวณที่โดนตีต้องเจ็บอยู่แล้ว แต่เธอกลัวเลือดออกภายใน
แต่ที่ซอยนั้น บริเวณที่ไม้ฟาดลงมา คือส่วนหลัง มีความเป็นไปได้น้อยที่จะเกิดเลือดออกภายใน
แต่ก็ไม่กล้าชะล่าใจ
อีกอย่างหนึ่ง เธอกลัวเขาจะได้รับบาดเจ็บที่กระดูก
“ฉันจะลองจับดู ถ้าจับตรงไหน แล้วรู้สึกเจ็บเป็นพิเศษ เจ็บไม่เหมือนกับตรงส่วนอื่น นายจะต้องบอกฉัน”
“อืม”
พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
ในตอนนี้เจี่ยนถงไม่มีความคิดอื่น แค่ต้องการความมั่นใจ ว่าร่างกายของเขาบาดเจ็บรุนแรงแค่ไหน
เธอเอื้อมมือไปกดทุกส่วนบนร่างกายของเขา
โดยเฉพาะที่กระดูก ต้องใช้แรงกดเล็กน้อย “รู้สึกเจ็บเป็นพิเศษหรือเปล่า” ทุกครั้งที่กดลงไปตรงส่วนไหน ก็จะเอ่ยถาม
แรกเริ่มเขาคนนั้นส่ายหน้าอย่างเชื่อฟัง ให้ความร่วมมือดีมาก
แต่ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาเริ่มหลบ
เจี่ยนถงสังเกตเห็นอย่างว่องไว เขาคนนั้นหลบสายตาด้วย
เธอหน้าตึงทันที “บอกว่าอย่าโกหกไง”
“ฉันไม่ได้โกหก!”
“โกหก!ถ้านายไม่ได้โกหก ทำไมต้องหลบด้วย”
“ฉัน ฉัน……”
“เจ็บตรงนี้ใช่ไหม” เธอออกแรงกดเพิ่มเล็กน้อย ในบริเวณเมื่อสักครู่ที่เขาหลบ
“อย่า”
เจี่ยนถงสีหน้าเคร่งขรึมอย่างยิ่ง “ไหนบอกว่าไม่ได้โกหก ส่งมือถือมาให้ฉัน!ต้องโทรหาซีเฉิน ให้หมอมา”
ถ้าไม่ได้โกหก เขาหลบอะไร
เขาคนนั้นร้อนรน รีบพูด
“อย่าโทรหาพี่ซีเฉินเลย
ฉันจะพูดแล้ว”
เจี่ยนถงทำหน้าขรึมไม่พูดอะไร สีหน้าแสดงคำว่า “นายพูดมาสิ”
“นอกจากเจ็บ อาซิวร้อน”
เจี่ยนถงได้ยิน สีหน้าเปลี่ยนไปมาก!
ร้อน!
“พรึบ” ลุกขึ้นทันที คงจะไม่ใช่เลือดออกภายในนะ!
“ตอนนี้พวกเราต้องไปโรงพยาบาล !” เธอไม่กล้าล่าช้า ถึงแม้จะให้ซีเฉินพาหมอมา ก็กลัวว่าจะช้าเกินไป ถ้าเลือดออกภายในจริง ต้องรีบไปโรงพยาบาล
แต่เขาคนนี้ถ้าไปโรงพยาบาลอย่างโจ่งแจ้ง ถูกคนรู้เข้าจะทำอย่างไร
ในแววตาของเธอมีความกดดัน ยังต้องตามซีเฉิน……ยังต้องติดต่อไป๋ยู่สิง ในเมื่อไป๋ยู่สิงอยู่ในสายงานนี้ มักจะต้องมีวิธีการใช้เส้นสาย
ภายใต้สายตาของจิ้งจอกเฒ่าตระกูลเสิ่น ต้องเตรียมการให้รอบคอบอย่างยิ่ง
“ฉันไม่ไป”
“เสิ่นซิวจิ่น นายอย่ามาเอาแต่ใจตอนนี้สิ”
เธอหน้าดำคล้ำเครียด
“เอาแบบนี้ นายบอกฉันมา ร้อนตรงไหน?” เธอพิจารณารอบด้าน ไม้เบสบอลตีเข้าที่หลัง เป็นไปได้ที่จะเกิดรอยฟกช้ำ ไม่น่าจะเกิดเลือดออกภายใน
“ตรงที่ถงถงจับ”
“หือ?”
เธอไม่เข้าใจ
“ตรงที่ถงถงจับ มันร้อน ต่อมาตรงที่ถงถงไม่จับ มันก็ร้อน ” เขาคนนั้นพูดอย่างไร้เดียงสา
“ถงถง อาซิวร้อนไปทั้งตัว”
ร้อนตรงส่วนที่เธอจับ ตรงส่วนที่ไม่จับก็ร้อนด้วย?
เลือดออกภายในลุกลามเหรอ?
เธอสีหน้าเปลี่ยนทันที!
ร้ายแรงขนาดนี้แล้วเหรอ?
ไม่น่าล่ะเขาถึงเวียนหัว!
“ไป ตอนนี้ต้องไปโรงพยาบาลแล้ว!” เธอไม่กล้าล่าช้า ต่อให้จิ้งจอกเฒ่าตระกูลเสิ่นจะสังเกตเห็นอะไร
ดึงเขาขึ้นคิดจะออกไป
“ถงถง อาซิวร้อนจังเลย แถมผ่อนคลายอีกด้วย ถงถงจับอาซิวต่ออีกหน่อยสิ”
“ฉันจะไปหยิบเสื้อผ้า นายเปลี่ยน……” เท้าที่เธอวิ่งไปที่ข้างห้องนั่งเล่น หยุดชะงัก ค่อยๆ เหยียบพื้น หันข้างมา มองคนด้านหลังถูกเธอจูงมือเดิน
“ผ่อนคลายมาก?” เธอถามเสียงสูง แปลกใจอย่างพูดไม่ออก
“อืม ที่แท้มือของถงถงก็มีเวทมนตร์ ตรงส่วนที่ถงถงโดน มันร้อนอย่างผ่อนคลาย”
เจี่ยนถงได้ยินเสียงฟันล่างฟันบนของตนเองกระทบกัน “เสิ่นซิวจิ่น นายมานี้ ฉันจะทายาให้”
สะบัดมือคนนั้นทิ้งไป เธอเดินมาข้างโซฟาอย่างใจเย็น