รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 849 เสี่ยวจงโลกเทพเท็จ

เจี้ยนอู่ถือเหล้าพลางยืนขึ้น ก่อนจะขอโทษฉินหลั่งไม่หยุด สายตาคู่นั้นของเสี้ยวเสี้ยว มองไปที่ฉินหลั่งอย่างไม่ละสายตา ด้วยแววตาเป็นประกาย ราวกับกำลังมองไอดอลอย่างไรอย่างนั้น
ชายชราทั้งหลาย ต่างพากันชนแก้ว กระทั่งจินป่อ ใครจะสนใจเขา? ต่อหน้าเซียนอาจารย์สำนักสูงสุด เหมือนกับมดจริงๆ ไม่คุ้มค่าที่จะพูดถึง
ไม่นาน ฉินหลั่งได้พักที่เมืองเจี้ยน
เจี้ยนอู่สีหน้าไม่ดีก่อนจะรีบเข้ามา
“เซียนอาจารย์ฉิน เหล่าท่านนักพรตของสำนักสุสานโบราณมาแล้ว”
สำนักสุสานโบราณอยู่ในรัศมีรอบๆห้าร้อยลี้ ปกครองร่วมกันสิบเจ็ดเมือง ดูแลประชากรกว่าล้านคน ในโลกเทพเท็จแม้ว่าชื่อเสียงจะไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก ก็เทียบได้กับสำนักซานเสียน แต่เป็นนิกายบำเพ็ญเซียน สูงส่ง ลูกศิษย์เมื่อลงมาใช้ชีวิตทั่วไป ก็ได้เป็นเจ้าเมือง ต้องดูแลอย่างดี
ท่านนักพรตทั้งสามของสำนักสุสานโบราณนั่งกระเรียนมา
ทั้งสามนั่งบนนกกระเรียน มาที่ตำหนักของเจ้าเมือง คนของเมืองเจี้ยน ออกไปตั้งนานแล้ว
“ให้เจี้ยนอู่ออกมา แล้วก็คนนั้นที่อ้างตัวเป็นนักพรตของสำนักขั้นสูงสุด”
ผู้นำคนหนึ่งตะโกนออกมา
เขาอายุราวๆสี่ห้าสิบปี สวมใส่ชุดลัทธิเต๋าสีดำ ด้านบนปักเป็นรูปนกกระเรียน เป็นสัญลักษณ์ของสำนักสุสานโบราณ ลักษณะเหมือนเซียน รูม่านตาขยาย เป็นประกาย เป็นยอดฝีมือระยะอาถรรพ์ ถ้าเป็นบนโลก ถือเป็นระดับปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้
“เจ้าเมืองผู้สูงส่งกำลังเดินทางมา……”
ชายชราคนหนึ่งกำลังจะอธิบาย
เจี้ยนอู่ก็มาอย่างเร่งรีบ ด้วยรอยยิ้มแล้วกล่าว “ท่านนักพรตทั้งสามเหตุใดทั้งมาแล้วไม่บอกล่วงหน้า? ไม่บอกข้าน้อยให้เตรียมตัวสักหน่อย ก่อนหน้านี้เพิ่งถวายปัจจัยไป เหตุใดยังต้องมารับอีก?”
“เจี้ยนอู่ แกไม่ต้องมาอ้อมค้อม ผู้ใต้บัญชาของแก ร้องทุกข์ไปว่าในเมืองของแก ว่าต้มตุ๋นปลอมเป็นเซียนอาจารย์สำนักสูงสุด ยังไม่มอบตัวมันมาอีก?”
คนที่อายุน้อยที่สุดในสามคนกล่าว
ตอนนี้เจี้ยนอู่เพิ่งสังเกตเก็น ว่าที่แท้จินป่อก็อยู่บนนกกระเรียนด้วยเช่นกัน เพียงแค่หลบอยู่ด้านหลัง ทันใดนั้นก็สีหน้าเยือกเย็นทันที “จินป่อ แกหมายความว่าไง?”
“ผมก็แค่ไม่อยากให้เจ้าเมืองถูกหลอกก็เท่านั้น”
จินป่อกัดฟันพูด
“แก!”
เจี้ยนอู่ร้อนรน กำลังจะอ้าปากพูด เสียงนิ่งสงบข้างๆก็ดังขึ้นมา
“แกหมายถึงฉัน? ดูๆแล้วที่สั่งสอนไปเมื่อกี้ ยังน้อยไปนะ”
ทุกคนหันไปมอง เห็นฉินหลั่งอยู่กับเสี้ยวเสี้ยว เดินมาช้าๆ จากการใช้ชีวิตมากี่วัน ได้เปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นของโลกเทพเท็จ ฉินหลั่งเป็นนายน้อยขึ้นมาทันใด ชุดสีเขียว ผมสีดำใช้ยางสีทองรวบ ไว้ด้านหลัง หล่อเหลา ราวกับเจ้าชายแห่งกลียุค
“แกเองหรอ ที่อ้างเป็นศิษย์ของสำนักขั้นสูงสุด?”
สำนักสุสานโบราณสามคนมองไปทันใด แล้วชะงักก่อน จากนั้นได้ส่งสายตาเหยียดหยามไป
ฉินหลั่งอดกลั้น อัดอั้น คนนอกมองว่า เป็นเพียงแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น มากสุดก็แค่มือไม้หนัก ไม่เหมือนคนที่มีวิชา เซียนอาจารย์ที่เคร่งขรึมแต่อย่างใด
“รูปลักษณ์ไม่เลวนี่ เสียดายเป็นแค่คนไม่มีความสามารถ คนธรรมดาก็เท่านั้น”
อีกคนหนึ่งกล่าวแล้วส่ายหน้า
“ปลอมเป็นเซียนอาจารย์สำนักขั้นสูงสุด หลอกเจ้าเมือง ต้องตายสถานเดียว” คนที่อายุน้อยเมื่อกี้ดูแคลน
“มานี่ คุกเข่าแล้วรอความตายได้เลย” ผู้ที่นำมากล่าว
ท่านนักพรตทั้งสาม กล่าวพร้อมกัน
ทันใดนั้นทั้งตำหนักของเจ้าเมืองเงียบสงัดลง
คนเฝ้าประตูของเมืองเจี้ยน ต่างไม่กล้าส่งเสียง สำนักสุสานโบราณปกครองเทือกเขาฮูเหยียน มาสี่ร้อยกว่าปีแล้ว เมืองเจี้ยนอยู่ใต้อานัตสำนักสุสานโบราณมาสิบรุ่น จะกล้าต่อต้านได้อย่างไรกัน? คำเดียว ก็ตัดสินให้คนหนึ่งเป็นหรือตายได้ ให้แกมีชีวิตก็ให้มีชีวิต ให้แกตายแกก็ต้องตาย!
จินป่อมองไปที่ฉินหลั่ง ด้วยสายตาอาฆาตแค้น
“เรียนท่านนักพรต เซียนอาจารย์ฉิน มีวิชาติดตัวจริงๆ อาจไม่ใช่สำนักขั้นสูงสุด แต่ก็มีที่มาที่ไป……” เจี่ยนอู่ยังอยากอธิบาย ด้านซ้ายเป็นวัยรุ่น ที่โบกมือตลอดเวลา กลิ่นอายของพลังไร้รูปเริ่มออกมา
“ฉันตัดสินใจ แกมีสิทธิ์พูดงั้นเหรอ?”
ปัง!
แม้เจี้ยนอู่จะเป็นยอดฝีมือพลังภายในขั้นสูง แต่คนนี้เป็นผู้บำเพ็ญพรตระยะอาถรรพ์ ต่อหน้าของปรมาจารย์วงการต่อสู้ ไม่มีแม้กระทั่งโอกาสจะโต้ตอบได้ เมื่ออตบไปที่ร่างกายเขา ก็ทำให้เจี้ยนอู่กระอักเลือดออกมา ลอยไปในอากาศกว่าห้าหกเมตร หล่นลงกับพื้น หน้าซีด
“เจ้าเมืองผู้สูงส่ง”
“พี่ชาย!”
ประชากรเมืองเจี้ยนส่งเสียงตกใจออกมา
เสี้ยวเสี้ยวตากลมโต ร้องไห้ออกมา รีบวิ่งไปพยุงเจี้ยนอู่ สีหน้าเกรี้ยวกราด “พี่ฉันก็แค่พูดไปประโยคเดียว พวกคุณรุนแรงขนาดนี้ สำนักสุสานโบราณโอหังขนาดนี้เลยหรอ?”
“ใช่? สำนักสุสานโบราณคิดว่าเมืองเจี้ยนไม่มีคนหรือไง?”
เหล่าวัยรุ่นของเมืองเจี้ยน เอากระบี่ออกมา มองไปที่สามคนอย่างโมโห
“บังอาจ ถ้ายังพูดอีก จะล้างบางเมืองเจี้ยน แล้วเปลี่ยนเจ้าเมืองซะ” ผู้นำกล่าวอย่างสงบ
ทุกคนนิ่งสงบ
ผู้เฒ่าของเมืองเจียน มองไปยังจินป่อที่กำลังยิ้ม ก็เคร่งครัดขึ้นมา นี่หมายถึงสำนักสุสานโบราณไม่พอใจเจี้ยนอู่ จะฉวยโอกาสนี้ เปลี่ยนเจ้าเมืองที่เชื่อฟัง
ฉินหลั่ง เป็นแค่ต้นเหตุ มีหรือไม่มีเขา คนของสำนักสุสานโบราณก็จะต้องมาหาถึงที่
‘เฮ้อ บอกเจ้าเมืองตั้งนานแล้ว สำหรับท่านนักพรตที่มารับถวาย ต้องเพิ่มปัจจัย เพิ่มเงินเพิ่มอาหาร แต่เขามีนิสัยตรงไปตรงมา คิดว่าทำตามกฎก็พอแล้ว นี่ไง เลยเกิดเรื่องขึ้น’
คนเฝ้าประตูผู้มีอายุอุทานในใจ
มองไปยังผู้สูงศักดิ์ ท่านนักพรตทั้งสามของสำนักสุสานโบราณ อีกทั้งประชาชนที่โมโหแต่ไม่กล้าพูด และต้องยอมจำนนก้มหัวแล้วถอยไป ยังมีจินป่อที่สะใจสุดๆ เสี้ยวเสี้ยวจิตใจตกต่ำสุดๆ
จนกระทั่งตอนนี้ เธอเพิ่งจะรู้ เจ้าเมืองครอบครัวตัวเอง ดูเหมือนสูงส่ง แต่ในสายตาของศิษย์สำนักเหล่านี้ เหมือนหมาก็มิปราณ จะทำอะไรก็ได้
‘เอาไงดี? ใครจะช่วยพี่ได้บ้าง?’
เสี้ยวเสี้ยวสิ้นหวัง นัยน์ตาทั้งสองข้าง อดที่จะมองฉินหลั่งไม่ได้ ราวกับมองตัวช่วยสุดท้าย
ฉินหลั่งหน้านิ่ง ค่อยๆก้าวออกมา
ถึงแม้เสี้ยวเสี้ยวไม่ขอเขา เพียงแค่การรับรองในช่วงเวลาไม่กี่วัน อีกทั้งคำพูดไม่รื่นหูของสำนักสุสานโบราณทั้งสาม ยังไงฉินหลั่งก็จะออกโรง
‘ดูๆแล้วหลายๆวันมานี้ฉันได้รับบาดเจ็บ จึงได้ใจอ่อนลงมา ทำให้คนพวกนี้รังแกคนอ่อนแอ ควรจะฆ่าพวกอ่อนด๋อย ของโลกเทพเท็จนี้แล้วล่ะ’
เอามือไขว้หลัง เดินมาข้างหน้า ด้วยสายตาเยือกเย็น
“ไง อ้อนวอนตอนนี้? สายไปแล้วล่ะ! ถ้าแกคุกเข่า คำนับให้เหล่านักพรตเก้าครั้ง ไม่แน่ท่านนักพรตทั้งสามอาจใจดี ปล่อยแกไปก็ได้นะ”
จินป่อกล่าวอย่างดูแคลน
“สิ่งที่ฉันกำลังคิดคือ ใครให้ความกล้านี้กับแก ทำให้แกไม่กลัวความตาย?”
ฉินหลั่งถอนหายใจ
เขาใช้มือบริสุทธิ์เหมือนหยก จับไป เกิดเป็นพลังดูดขึ้นมา ดูจินป่อจากนกกระเรียนขาวเข้ามาอย่างแรง จับไว้ในมือ จากนั้นในตาของจินป่อ ได้บ้วนไป
“ปัง!”
ผู้รักษาปกปักเมืองเจี้ยนท่านี้ เป็นยอดฝีมือของแดนสุขาวดีแท้ๆ ถูกฉินหลั่งสั่นเป็นละอองเลือด แม้แต่ประโยคเดียวยังไม่ทันได้พูด จิตวิญญาณเทพก็ได้มลายสลายไป
“ซือ!”
เงียบสงบทั้งหมด
แม้แต่สำนักสุสานโบราณทั้งสามคน ก็มีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมา พลางมองไปที่ฉินหลั่งอย่างตกใจ
ฝีมือของจินป่อ ทุกคนรู้ดี เก่งที่สุดในบรรดาสามคน จะฆ่าจินป่อ อย่างน้อยก็ต้องสามวิชา ฉินหลั่งแค่ดูและสั่น ก็ทำให้จินป่อระเบิดเป็นละอองเลือด ง่ายกว่าฆ่าไก่เสียอีก ราวกับบดมดตายอย่างไรอย่างนั้น ความสามารถแบบนี้ ทำให้คนหวาดกลัว
“สหายเกินไปแล้วมั้ง ไม่ว่าจะยังไง จินป่อก็เป็นคนของสำนักสุสานโบราณ”
ผู้นำวัยกลางคน ขมวดคิ้ว
คนสำนักสุสานโบราณพวกนี้ ก็ปรับตัวไปตามสถานการณ์ เห็นฝีมือของฉินหลั่ง ก็รีบเรียกเป็นสหายทันใด แต่ฉินหลั่งไม่สนใจพวกเขา เอามือไขว้หลัง มองไปบนท้องฟ้า ไม่แม้แต่จะมองสามคนนั้น
“คุกเข่า ขอโทษเจ้าเมือง แล้วฉันจะปล่อยพวกแกไป!”
“กล้ามาก!”
นักพรตวัยรุ่นกล่าว เกรี้ยวกราดขึ้นมาทันใด

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset