รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 749 เตรียมลงมือ

บทที่ 749 เตรียมลงมือ
หลังจากที่เรื่องทางนี้จัดการเรียบร้อย ก็เกิดเรื่องขึ้นกับหลิวหย่งเฉียง บอกว่าเกี่ยวข้องกับจางหย่าร่อ
ความเป็นจริงฉินหลั่งอยากจะบอกทุกคนมาก อันที่จริงแล้วตนก็ไม่ได้หลงจางหย่าร่อมากมายเท่าไหร่ เพียงแค่รู้สึกชื่นชมก็เท่านั้น
พูดไปแล้วสุดท้ายจงยู่ของตนยังดีกว่า
แต่……การลงมือครั้งนี้ของจางหย่าร่อเกี่ยวข้องกับดอกไม้ซานเหยียน ถ้าอย่างนั้น……
……
ชานเมืองตะวันตกเย็นจีน ในอาคารที่ไม่โดดเด่น คนหลายคนอยู่ภายใต้แสงไฟที่ส่องสว่าง ยืนล้อมแผนที่พร้อมกับพูดอะไรบางอย่าง สองคนในนั้น คือฉินหลั่งและหลิวหย่งเฉียง
หลิวหย่งเฉียงในตอนนี้เป็นคนที่มีผมดำเงาแล้ว ฉินหลั่งไม่เคยผิดคำพูดมาก่อน
นี่เป็นบ้านที่ทรุดโทรมมาก น้อยคนนักที่จะมาที่นี่
ในตอนกลางวันที่นี่วังเวงเล็กน้อย ทว่าในตอนกลางคืนกลับวังเวงเหมือนกัน ทำให้คนรู้สึกหวาดกลัว
ทว่า น้อยคนนักที่จะรู้ ความเป็นจริงแล้วที่นี่คือฐานทัพของทหาร เพียงแต่ไม่ได้อยู่บนพื้นดิน อยู่ชั้นใต้ดินที่กว้างใหญ่ของบ้านทรุดโทรม
ตำแหน่งที่ฉินหลั่งและหลิวหย่งเฉียงอยู่นั้น ก็คือหนึ่งในห้องที่อยู่ชั้นใต้ดิน ถึงแม้จะมองจากบนพื้น บ้านหลังนี้มืดสนิท มองดูแล้วทำให้คนหนาวสั่นไปทั้งตัว รู้สึกหวาดกลัว
แต่ว่า ตำแหน่งที่ฉินหลั่งและหลิวหย่งเฉียงอยู่นั้น กลับมีไฟส่องสว่าง
ตรงหน้าของทั้งสองคน เป็นแผนที่ที่ทหารใช้ขนาดเท่าโต๊ะ บนแผนที่ เต็มไปด้วยสัญลักษณ์มากมายไปหมด หนึ่งในนั้น มีวงกลมสีแดงวาดเอาไว้ ในวงกลม มีกากบาทสีแดง!
คำพูดประโยคแรกของหลิวหย่งเฉียง ทำให้ฉินหลั่งใจสั่นทันที
วางแผนที่ลงบนโต๊ะ หลิวหย่งเฉียงพูดเสียงเรียบ:“ที่ที่จางหย่าร่อไปคือ—-จ้างซิน!”
ครืด!
สายตาแปลกใจฉายออกมาจากดวงตาของฉินหลั่ง เขาหันไปมองหลิวหย่งเฉียงด้วยความสงสัย แล้วเอ่ยถาม:“อะไรนะ? จ้างซิน? ไม่เคยได้ยินมาก่อน! เธอไปที่แบบนั้นทำไม!”
“ยังไม่รู้ชัดเจน แต่ฉันมั่นใจว่ามันเกี่ยวข้องกับองค์กรนักฆ่าภูตผี” หลิวหย่งเฉียงพูด:“ครั้งนี้มีความเป็นไปได้ที่จะอันตรายมาก เพราะจากรายงานที่คนของเราแจ้งมา จ้างซินคือส่วนหนึ่งในประเทศจีน อาจจะมีคนอยู่นับร้อยคน……เป็นองค์กรลับ อาจจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เป็นความลับบางอย่าง……
หลิวหย่งเฉียงพูด ในเวลาเดียวกันเขาก็มองไปที่ฉินหลั่ง
ฉินหลั่งพยักหน้า คิดในสิ่งที่หลิวหย่งเฉียงพูด
ดูท่าทางไปโลกบำเพ็ญเซียนก็คือที่นั่นแล้ว……จ้างซิน
แต่ว่า……
“นักฆ่าภูตผีพวกนั้นมาจากโลกบำเพ็ญเซียน?” ฉินหลั่งอดไม่ได้ที่จะสงสัย แต่คำพูดนี้กลับพูดออกไปไม่ได้ เพราะเรื่องโลกบำเพ็ญเซียน เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก
ดูเหมือนหลิวหย่งเฉียงจะเห็นถึงความสงสัยภายในใจของฉินหลั่ง เขาจึงพูดออกมา:“ฉินหลั่ง นายเองก็ไม่ได้เพิ่งเจอนักฆ่าภูตผีเป็นครั้งแรกแล้ว ลองพูดความคิดของนายและข้อคิดที่ได้จากการรับมือกับนักฆ่าภูตผี”
ฉินหลั่งอดตกใจไม่ได้:“ฉันจะมีความคิดอะไรได้ หลิวหย่งเฉียง นายกำลังทำอะไรกันแน่?”
หลิวหย่งเฉียงยิ้มแล้วพูด:“ฉินหลั่ง ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว นายไม่ต้องเก็บเป็นความลับอีกต่อไปแล้วมั้ง? ลองพูดดู”
ฉินหลั่งเข้าใจทันที ทุกอย่างที่ตนทำในเมืองเจียงโจวและเย็นจีน ไม่ได้รอดพ้นสายตาของคนมากมาย ซึ่งหนึ่งในคนพวกนี้ รวมถึงฝ่ายทหารด้วย
ฉินหลั่งเองก็เข้าใจเรื่องพวกนี้แล้ว เขาจึงยิ้มแล้วพูด:“ถ้าจะพูดถึงข้อคิดที่ได้ ฉันยังพูดไม่ได้ เพราะถึงยังไงฉันก็ยังไม่ได้สู้ประจันหน้ากับนักฆ่าภูตผีที่พวกนายพูดถึง ไม่รู้ว่าความสามารถของอีกฝ่ายแข็งแกร่งหรืออ่อนแอ และไม่รู้ข้อมือที่ชัดเจนของพวกเขา”
“แต่มีเรื่องหนึ่งที่ฉันรู้ ซึ่งก็คือ นักฆ่าภูตผีตายได้เหมือนกัน พวกเขาไม่ใช่คนที่ฟันแทงไม่เข้า ฉันเคยชนตายไปตัวหนึ่งด้วยความไม่ระมัดระวัง”
คนอื่นๆหัวเราะขึ้นมาทันที
หลิวหย่งเฉียงพูด:“ความเป็นจริงสิ่งที่ฉินหลั่งพูด ก็เป็นสิ่งที่ฉันอยากจะบอก นักฆ่าภูตผีก็กลัวความตาย พวกมันไม่ได้ฟันแทงไม่เข้า พวกมันมีจุดอ่อนที่ถึงกับชีวิต ซึ่งก็คือ โลหะที่ใช้ในการสร้างกระดูกสันหลังของพวกมัน คุณภาพไม่ภาพ หรือว่า เทคโนโลยีไม่ทันสมัยมากพอ ดังนั้นกระดูกสันหลังของพวกมันจึงอ่อนแอมาก การชนอย่างแรง ทำให้พวกมันกระดูกสันหลังหักได้……”
หลิวหย่งเฉียงบอกเล่าประสบการณ์ในการต่อสู้ระหว่างตนกับมนุษย์กลายพันธุ์อย่างละเอียด บอกให้ทุกคนฟัง เหมือนอย่างที่เขาพูด ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาปิดเป็นความลับ ถ้ามีการต่อสู้ขึ้นมา มีคนต้องตายทุกนาที ตอนนี้เก็บซ่อนเอาไว้ คือการทำร้ายตัวเองและเพื่อนร่วมรบเท่านั้น
ฉินหลั่งที่อยู่ด้านข้างได้ฟังกลับตกใจเล็กน้อย หรือว่าเทคโนโลยีในโลกบำเพ็ญเซียนล้ำหน้ากว่าโลกมนุษย์งั้นเหรอ?
หรือว่า โลกบำเพ็ญเซียนมีอารยธรรมอื่น……
หลิวหย่งเฉียงบอกทุกข้อควรระวังจนจบ แล้วพูดขึ้น:“หลังจากพวกนายกลับไป ต้องเอาข้อมูลนี้ไปกำชับกับเพื่อนร่วมทีมของพวกนาย คู่ต่อสู้ของเราไม่ใช่คนอ่อนแอ พวกเราห้ามไปยุ่งกับพวกมัน จำขึ้นใจรึยัง?
“จำขึ้นใจแล้ว!” ทุกคนตอบรับเสียงดัง
ฉินหลั่งหันหลังแล้วพูด:“อะต้า จำสิ่งที่หลิวหย่งเฉียงพูดเอาไว้ให้ดี เดี๋ยวต้องกำชับพวกของเรา”
“ครับ” ชายรูปร่างกำยำตอบรับทันที
นี่คือชายหนุ่มอายุยี่สิบหกยี่สิบเจ็ด เขาตัวสูงกว่าฉินหลั่งเล็กน้อย ใบหน้าของเขาเย็นชา ผมสั้นชี้โด่ง ดูมีพลัง แค่มองก็รู้แล้วว่าต้องเป็นทหารแน่นอน
ฉินหลั่งยิ้มแล้วพยักหน้า พร้อมกับเอ่ยถาม:“หลิวหย่งเฉียง ยังมีแผนการอะไรอีกไหม?”
“มี!”
หลิวหย่งเฉียงพูด:“ฉินหลั่ง เพื่อความสะดวกในการดำเนินงานและสั่งงาน ฉันคิดว่าจะแบ่งทีมปฏิบัติการกับนาย พวกเราคิดแผนปฏิบัติการร่วมกัน นายคิดว่ายังไง?”
ฉินหลั่งไม่มีประสบการณ์ด้านนี้ ดังนั้นในเมื่อหลิวหย่งเฉียงพูดแบบนี้แล้ว เขาเองก็ไม่มีความคิดอย่างอื่น จึงพยักหน้าแล้วพูด:“เรื่องแบบนี้นายตัดสินใจก็พอแล้ว”
“ได้ คนอื่นไปรวมตัวกันเพื่อเตรียมตัว ส่วนพวกนายที่เป็นหัวหน้าทีม ต้องจำสิ่งที่เมื่อกี้ฉันพูดให้ขึ้นใจ บอกกับทุกคนให้หมด”
“ครับ!” คนที่เหลือตอบรับทันที รวมถึงอะต้าด้วย ทุกคนออกไปอย่างรวดเร็ว ภายในห้องเหลือแค่ฉินหลั่งและหลิวหย่งเฉียงสองคนเท่านั้น
“พวกเราไปจ้างซินในครั้งนี้อาจจะไม่ราบรื่นเท่าไหร่ จัดการเรื่องที่บ้านเรียบร้อยรึยัง?” หลังจากที่ทุกคนออกไป หลิวหย่งเฉียงจึงผ่อนคลายลงบ้าง หยิบบุหรี่ขึ้นมาหนึ่งมวน ยื่นให้กับฉินหลั่ง ยิ้มแล้วเอ่ยถาม
ฉินหลั่งกลับขมวดคิ้วเป็นปมแล้วถาม:“ฉันอยากรู้ว่า จ้างซินเป็นที่แบบไหน?!”
“จ้างซิน?”
หลิวหย่งเฉียงอดไม่ได้ที่จะชะงัก “นายไม่รู้ว่าจ้างซินเป็นสถานที่แบบไหน? แล้วการบำเพ็ญเพียรพวกนั้นของนาย ยาที่ฝึกซ้อมเอาได้มาจากไหน?”
ฉินหลั่งตกใจ ดูท่าหลิวหย่งเฉียงก็ไม่ใช่คนธรรมดา!ยิ่งไปกว่านั้น เขารู้มากกว่าตน!
……
ฉินหลั่งอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย สำหรับความเย็นชานี้ แม้เพียงแค่พูด เขาก็รู้สึกไม่คุ้นเคยเท่าไหร่ จึงทำได้เพียงเปลี่ยนบทสนทนา เอ่ยถาม:“ออกเดินทางเมื่อไหร่?”
“รอให้เครื่องบินพร้อม” หลิวหย่งเฉียงพูด “พักผ่อนก่อนเถอะ เติมพลังให้พร้อม เดี๋ยวจะต้องเจอศึกหนัก”
ฉินหลั่งคลายยิ้มบางๆแล้วพูด:“ตอนออกเดินทางเรียกฉัน”
เดินตามแสงไฟบริเวณทางเดินกลับไปยังห้องพักผ่อน อะต้ากำลังตรวจดูอาวุธ เมื่อเห็นฉินหลั่งเดินเข้าไป เขาจึงลุกขึ้นทันที
“พักผ่อนกันก่อนเถอะ” ฉินหลั่งยิ้มพร้อมกับผายมือ นั่งบนเก้าอี้แล้วเอ่ยถาม:“เตรียมตัวกันพร้อมแล้วใช่ไหม?”
“เตรียมตัวกันพร้อมแล้วครับ” อะต้ายืนขึ้นทันที แล้วขานรับ
“คุณผู้ชาย คุณไปพักผ่อนก่อนเถอะครับ เดี๋ยวตอนออกเดินทางผมจะไปบอกคุณเอง” อะต้ายิ้มพร้อมกับพูด
ฉินหลั่งพยักหน้าเล็กน้อย พูด:“ถ้าอย่างนั้นลำบากพวกนายแล้ว”
“ไม่ลำบากครับ ไม่ลำบากครับ” ทุกคนพากันพูด
ฉินหลั่งเองก็หยิบปืนไรเฟิลอัตโนมัติ ถอดชิ้นส่วนทั้งหมดของปืนออกอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเช็ดด้วยความชำนาญ ความเร็วนั้น คนอื่นๆที่มองอยู่อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง
ความเป็นจริง สำหรับฉินหลั่งแล้ว ไม่ใช่ความเร็วอะไรทั้งนั้น เวลานี้เขาทำตามความคิดของตนเอง ทักษะการถอดชิ้นส่วนปืน กลายเป็นความสามารถของเขาไปนานแล้ว อย่าว่าแต่ปืนพื้นฐานพวกนี้ แม้แต่ปืนอย่างปืนเลเซอร์ เขาก็สามารถถอดชิ้นส่วนออกมาได้โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการคิดของสมอง
แน่นอน ถึงแม้ตอนนี้เขาต้องการ ก็ไม่มีปืนเลเซอร์ให้เขาถอดชิ้นส่วน
ความเร็วในตอนนี้ของฉินหลั่งไม่ถือว่าเร็วมาก เพียงเพราะเขากำลังคิดเรื่องอะไรบางอย่าง
ถ้าไม่เคยเห็นนักฆ่าภูตผีด้วยตาตนเองมาก่อน หลิวหย่งเฉียงไม่มีวันบอกจุดอ่อนของนักฆ่าภูตผีได้ถูกต้องและแม่นยำ
อีกทั้ง สำหรับเรื่องหลายอย่างของโลกบำเพ็ญเซียน ด้านบนดูรู้ดีมากกว่าตน ฉินหลั่งถึงขั้นคาดเดาว่า หลิวหย่งเฉียงคือยอดฝีมือของบำเพ็ญเซียน

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset