บทที่ 724 หนึ่งประโยคกำหนดจุดจบ
“คุณอาหล่วน ลองคิดทบทวนดูนะ พวกเราชะล่าใจไปจริง ๆ ฉินหลั่งได้ขุดหลุมพรางเอาไว้” หยางจ้างกั๋วเดินเข้ามา เขายกแก้วชาขึ้นมาใบหนึ่ง เส้นเลือดสีเขียวบนมือปรากฏออกมาให้เห็น พยายามรักษาน้ำเสียงให้ปกติที่สุด”
“เป็นเกมที่มันวางไว้ตั้งแต่แรก มันเสแสร้งแกล้งทำตอนที่อยู่ต่อหน้าผม ใช้ผงขาวหยุนเซียนหยุดเลือดให้หลู่เหมื่อยเฉิน มันรู้อยู่แล้วว่าผมทำธุรกิจผงขาว แน่นอนว่าผมจะต้องเข้าใจผงขาวดี และสามารถรับรู้ได้ถึงความล้ำค่าของผงขาวหยุนเซียน”
“มันเป็นการหลอกล่อ จุดประสงค์ก็คือทำให้ผมเกิดความปรารถนาที่รุนแรงต่อผงขาวหยุนเซียน และลงมือต่อผงขาวหยุนเซียน”
“เพื่อที่จะให้ผมลดการป้องกันลง มันยังจงใจดึงหลู่เหม่ยเฉินเข้ามาร่วมมือด้วย”
“เช่นนี้แล้ว ไม่เพียงทำให้ผมลดการป้องกันลง ยังทำให้ผมสามารถยืมมือของหยูฉิงฉกเอาตำรามาได้อย่างง่ายดาย”
“ผมเสียทั้งกำลังคนและกำลังทรัพย์ หลังจากที่ได้ตำรามา ฉินหลั่งกลับไม่ได้เร่งรีบที่จะจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของตัวเอง แต่กับเว้นช่องว่างไว้ให้ผมแย่งชิงเพื่อจดทะเบียน ชิงเพื่อที่จะผลิตก่อน และได้ตำรับยามาครอบครองของแท้จริง”
หยางจ้างกั๋วพ่นลมหายใจออกมา: “แบบนี้ผมก็จะกลายเป็นเจ้าของอย่างแท้จริง และผงขาวโย่วฉินกลับกลายเป็นเพียงเงาที่ได้แต่อยู่ใต้ผม”
หยางจ้างกั๋วรู้ว่าตัวเองได้ตกหลุมพรางเข้าแล้ว แต่น่าเสียดายที่ฉินหลั่งทำให้เขาไม่มีแรงที่จะบินคืนสู่ท้องฟ้าได้
และนี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เขาโกรธแค้นฉินหลั่งมากขึ้นกว่าเดิม คนคนนี้กลอุบายล้ำลึก ไม่อาจคาดเดาได้เลยจริง ๆ
หล่วนฝูถอนหายใจตาม: “เช่นนี้แล้ว ผลประโยชน์เป็นของพวกเรา ความเสี่ยงก็เป็นของพวกเราเพียงแต่ว่าความเสี่ยงเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ผลประโยชน์ที่ได้รับก่อนหน้านี้ล้วนกลายเป็นศูนย์”
คิ้วทั้งสองข้างของหล่วนฝูขมวดแน่น ใบหน้ามีความโกรธ ความรู้สึกโชคดีอันน้อยนิดที่เหลืออยู่ในใจ ถูกคำพูดของหยางจ้างกั๋วกระแทกจนแตกสลาย
เดิมทีหล่วนฝูไม่มีความรู้สึกใด ๆ ต่อฉินหลั่ง และไม่เคยเห็นคนที่ทำอะไรไม่ใช้สมองแบบนั้นอยู่ในสายตา เพียงแต่คาดไม่ถึงว่าพวกเขาบริษัทตระกูลหยางทั้งหมดกลับถูกโจมตีโดนจุดสำคัญ และเป็นตัวเองที่เสียหายหนักสุด
ในเวลานี้ หยางสิ้นเค่อได้ยินดังนั้นก็พ่นลมหายใจฮึออกมาอย่างหนัก ๆ : “เทียบกับความเสียหายของพวกเราในตอนนี้แล้ว ผลประโยชน์เพียงกระจิริดนั่น น้อยจนไม่คู่ควรที่จะเอ่ยถึง”
“ลูกค้ายกเลิกการสั่งซื้อทั้งหมด คลื่นแห่งการคืนของตอนนี้ได้มาถึงแล้ว สำนักงานคณะกรรมการยาสั่งห้ามขายสินค้า ยังต้องชดเชยมูลค่ามหาศาลให้กับไอ้โง่เง่าเต่าตุ่นฉิวกงเฉิงนั่น โกลาหลวุ่นวายไปหมด จนไฟจะลุกท่วมหัวแล้ว”
“ที่น่ารังเกียจที่สุดก็คือ ฉินหลั่งยังเสแสร้งวิ่งไปทั่วทุกสารทิศเพื่อแจ้งว่าผงขาวเฟยเยว่มีปัญหา”
“ในตอนนั้นมันต้องเผชิญกับใบหน้าเย็นชา แต่ทว่าในตอนนี้ดูแล้วมันได้ลบล้างข้อครหาของตัวเองไปโดยชิ้นเชิง”
“ในเมื่อผงขาวเฟยเยว่ได้รับการรับรองว่าไม่ใช่ตำรับยาของเขาแล้ว เช่นนั้นผลที่ตามมาทุกอย่างไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับเขาเลย อีกทั้งเขาได้ขอร้องอ้อนวอนไปทั่วทุกหนแห่ง ใช้กำลังทั้งหมดแล้ว พยายามอย่างที่สุดแล้ว แต่ทว่าทุกคนล้วนไม่เชื่อ เป็นปัญหาของทุกคน ไม่ใช่ปัญหาของฉินหลั่ง”
“ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเรื่องเป็นแบบนี้ ไม่เพียงประชาชนสื่อมวลชนและพวกส้งฉางเว่ย ยังทำให้ตนเองกลายเป็นคนที่มีภาพลักษณ์เป็นวีรบุรุษที่น่าเศร้าและหมอที่มีคุณธรรม”
“ทิศทางความคิดเห็นของสาธารณชนได้เปลี่ยนไปในชั่วข้ามคืน ต่างพากันชื่นชมความพยายามของฉินหลั่งอย่างไม่ขาดสาย เป็นเยาวชนดีเด่นของยุคสมัยใหม่ เป็นคู่ปรับกับพวกโรงงานไร้คุณธรรม ร่างอวตารของยุติธรรม
ในขณะเดียวกัน โรงพยาบาลศูนย์เย็นจีนกำลังทำเงินได้มากมาย ผู้คนนับเงินจนมือไม้อ่อนไปหมด
“ฉินหลั่งได้ทั้งชื่อเสียงและผลประโยชน์ น่ารังเกียจ น่ารังเกียจที่สุด จิตใจมันช่างเลวทรามต่ำช้าเสียจริง”
“มันครอบครองเอาผลประโยชน์ไปหมด ยังบีบจนพวกเราต้องตกอยู่ในสภาพตกอับและต้องหาทางออก”
ดูความทุกข์ยากของตระกูลหยาง แล้วดูความสุขสมหวังของฉินหลั่งในตอนนี้สิ แทบอยากจะหยางสิ้นเค่อสับฉินหลั่งออกเป็นชิ้น ๆ ฆ่าให้ตายอยู่กับที่
หล่วนฝูเงยหน้าขึ้นมองดูทุกคน: “ประธานเค่อ พี่หลง คุณชายหยาง ตอนนี้พวกเราจะทำยังไงกันดี?”
“ทำยังไง?”
“ตอนนี้นายรู้แล้วเหรอว่าต้องพูดว่าจะทำยังไง?”
“ฉันเคยบอกกับพวกนายแล้วว่าอย่าหุนหันพลันแล่น อย่าได้ใจร้อนแสวงหาความสำเร็จ แต่พวกนายก็ไม่ยอมฟัง หล่วนฝู นายก็อายุไม่น้อยแล้ว เป็นผู้ใหญ่มีความรอบคอบ ทำไมถึงได้ถูกผลประโยชน์ครอบงำได้ล่ะ?”
อู๋ชิวหลงหัวเราะเยาะ: “ในวันนี้ทุกอย่างได้พังไปหมดแล้ว แต่กลับมาถามพวกเราว่าต้องทำยังไง? ไม่คิดว่ามันตลกไปหน่อยเหรอ? พวกเราเป็นอะไรกัน? จะต้องมารับผิดชอบให้นาย?”
อู๋ชิวหลงมีบทบาทสำคัญในบริษัทตระกูลหยาง เป็นเหมือนกับอ๋องหมวกเหล็ก แต่ทว่าหัวหน้าพ่อบ้านของตระกูลหยางคนหนึ่ง แม้ภายนอกจะเรียกเขาว่าพี่หลวง แต่ความจริงแล้วกลับไม่ค่อยจะเห็นเขาอยู่ในสาย โดยส่วนตัวแล้วอู๋ชิวหลงมองหล่วนฝูเป็นขันทีใหญ่ เพราะว่าจนถึงตอนนี้หล่วนฝูยังไม่มีบุตรภรรยา เหมือนขันทีไม่มีผิด ดังนั้นทั้งสองต่างคนต่างไม่เห็นอีกฝ่ายอยู่ในสายตา
ตอนนี้เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ขึ้นกับหล่วนฝู อู๋ชิวหลงทั้งโมโหทั้งรู้สึกพอใจอยู่ลับ ๆ ในที่สุดก็ได้เห็นขันทีใหญ่ถูกเจ้านายด่าว่า แน่นอนว่าเขาจะไม่พูดอะไรที่น่าฟังอย่างแน่นอน
บริษัทตระกูลหยางพัฒนามาจนถึงวันนี้ได้ พูดได้ว่าได้มาถึงยุคสมัยของใหม่เข้าแทนที่ของเก่า ระหว่างเก่าใหม่สุดท้ายก็ยังคงมีแนวความคิดที่ไม่เหมือนกันอยู่บ้าง ดังนั้นหยางจ้างกั๋วจึงตั้งใจและไม่ตั้งใจที่จะตั้งข้อจำกัดบางประการสำหรับผู้บริหารอาวุโสระดับสูง และภายในใจของผู้บริหารอาวุโสระดับสูงก็เข้าใจดี หยางจ้างกั๋วต้องการบีบพวกเขาออกจากเวทีประวัติศาสตร์
แน่นอนว่าหยางสิ้นเค่อและเหล่าผู้บริหารต่างก็ไม่ยินยอม พวกเขาได้เสพสุขกับสิทธิมาเป็นเวลานาน จะต้องไม่ยินดีที่จะยอมสละตำแหน่งง่าย ๆ อย่างแน่นอน ดังนั้นจึงรวมตัวกันต่อสู้กับกลุ่มคนรุ่นใหม่ เวลานี้เห็นได้ชัดว่าหล่วนฝูได้เลือกฝ่ายแล้ว
หล่วนฝูสนับสนุนหยางจ้างกั๋วมาโดยตลอด สำหรับคำสั่งของหยางจ้างกั๋วแล้วเขาจะปฏิบัติตามอย่างเต็มที่ ดังนั้นหยางจ้างกั๋วจึงพึ่งพาและไว้ใจเขามาก และใช้เขาเป็นข้อบังคับที่สร้างความสมดุลให้กับตัวเองเพื่อต่อกรกับเหล่าผู้อาวุโสกว่า เป็นบุคคลในฝ่ายผู้อาวุโสเพียงหนึ่งเดียวที่เชื่อฟังตนเอง
และแน่นอนว่าฝ่ายผู้อาวุโสจะต้องไม่ยอม พวกเขาเห็นหล่วนฝูเป็นฝ่ายยอมจำนน เพราะว่าใกล้ชิดสนิทสนมกับหยางจ้างกั๋วมากจนเกินไป ดังนั้นฝ่ายผู้อาวุโสจำนวนมากล้วนไม่ค่อยชอบหน้าหล่วนฝู
ดังนั้นในการประชุมผู้อาวุโสในวันนี้ต่างก็ต่อว่าหล่วนฝูอย่างคลุ้มคลั่ง เห็นได้ชัดว่ามีการถือโอกาสแอบแฝงอยู่ข้างใน
หล่วนฝูเปลือกตากระตุกอยู่ตลอดเวลา เปลี่ยนเป็นเมื่อก่อนมีใครบ้างจะกล้า ในวันนี้ตัวเองได้ผิดพลาด เขาก็ทำได้เพียงแค่อดกลั้น ไม่มีอะไรที่สามารถพูดได้ ไม่เช่นนั้นก็คงกลายเป็นการเถียงไปข้าง ๆ คู ๆ ยิ่งไม่เป็นผลดีกับตนเอง
“คุณอาหลง คุณอาเค่อ คำพูดที่ไม่มีประโยชน์พวกนั้นอย่าพูดมันอีกเลย”
หยางจ้างกั๋วไอออกมาหนึ่งครั้ง เดินไปอยู่ข้างหน้าหล่วนฝูแล้วกล่าว: “เรื่องนี้ผมและหล่วนฝูได้ใจใหญ่ไปจริง ๆ ถูกสารเลวฉินหลั่งลอบเล่นงาน”
“ดังนั้นพวกคุณจะลงโทษยังไงก็แล้วแต่ พวกเราจะไม่โกรธเคืองต่อว่าใด ๆ แน่นอน”
“ผมแค่หวังว่าเรื่องนี้จะสงบลงโดยเร็ว บริษัทตระกูลหยางก็จะได้รับความเสียหายน้อยลงมาหน่อย”
ในใจเขาเข้าใจดี ครั้งนี้ได้ทำให้เกิดปัญหาขนาดใหญ่ ทำให้วงศ์ตระกูลต้องเสียหายอย่างใหญ่หลวง และทำให้เกิดผลกระทบที่ไม่เป็นผลดีต่อการผลิตและจำหน่ายผงขาวตระกูลหยาง ภายในใจของเหล่าผู้อาวุโสจะต้องไม่พอใจอย่างแน่นอน
ดังนั้นเขาจึงออกมายอมรับผิดโดยตรง เหล่าคณะกรรมการผู้บริหารจะต้องตั้งข้อสงสัยต่อความสามารถในการเป็นผู้นำของเขา ฝ่ายตรงข้ามพูดอีกอย่างทำอีกอย่าง ปากไม่ตรงกับใจ เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่เข้าใจหลักแห่งความจริงนี้
เมื่อเห็นว่าหยางจ้างกั๋วได้ยืนออกมายอมรับความผิดด้วยตนเอง คิวที่ขมวดของหยางสิ้นเค่อและเหล่าคณะกรรมการผู้บริหารก็ผ่อนคลายลง สีหน้าท่าทางอ่อนโยนขึ้นมาก จากนั้นก็กล่าวเสียงหนัก: “ท่านประธาน คุณและหล่วนฝูเอาเงินออกมาคนละพันล้าน เพื่อรับมือกับปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดจากโรงงานผลิตยาเยว่จิ้น”
หยางจ้างกั๋วพยักหน้า: “ไม่มีปัญหา ยังมีส่วนของอาหล่วน ผมจะเป็นคนออกเอง จุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นจากผม อาหล่วนเพียงแค่ปฏิบัติตาม เป็นผมที่ทำให้เขาต้องพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย”
ภายในใจของหล่วนฝูรู้สึกอุ่นขึ้นมา สีหน้าท่าทางที่เหน็บหนาวของเขาก็เริ่มอบอุ่นขึ้น ความหม่นหมองก็ลดน้อยลง
“ท่านประธาน เรื่องนี้ใหญ่เกินไป ขณะนี้เหล่าสมาชิกในครอบครัวล้วนไม่พอใจมาก กำลังใช้ทุกวิถีทางเพื่อรายงานต่อข้างบน ร้องขอโรงงานผลิตยาเยว่จิ้นให้คำอธิบายที่น่าพึงพอใจต่อทุกคน”
“โทรศัพท์ของสำนักงานคณะกรรมการยาถูกโทรจนแทบจะระเบิดแล้ว แต่ละคนล้วนต้องการให้พวกเราออกมาให้คำอธิบายกับพวกเขา ดังนั้นเรื่องนี้จะต้องมีคนออกมาเป็นแพะรับบาป แบกรับเรื่องราวทั้งหมด”
หยางสิ้นเค่อกล่าวเสริมขึ้น: “แพะรับบาปจะเป็นพนักงานธรรมดาของบริษัทไม่ได้ จะต้องเป็นคนที่มีตำแหน่ง ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถอธิบายกับข้างบนได้”
อู๋ชิวหลงเงยหน้าขึ้น: “ยังไงจ้างกั๋วก็เป็นทายาทผู้สืบทอดของตระกูลหยาง จะให้มีเรื่องแปดเปื้อนติดตัวไปไม่ได้ คงต้องลำบากประธานหล่วนแล้วล่ะ ถึงเวลาที่จะต้องแสดงความจงรักภักดีแล้ว”
หล่วนฝูริมฝีปากกระอักกระไอ: “ได้……”
“ไม่ได้! ผมไม่รับปากอย่างเด็ดขาด! จะให้ประธานหล่วนเป็นแพะรับบาปไม่ได้” หยางจ้างกั๋วปฏิเสธอย่างไม่ลังเล: “แพะตัวนี้ ผมเห็นว่าเหอซินหย่านั่นเหมาะสมที่สุด หล่อนเป็นพนักงานใหม่ของบริษัท ภายนอกเป็นฝ่ายประชาสัมพันธ์ ความจริงแล้วเป็นรองประธานของบริษัท มีอำนาจมากมาย”
ฝูหล่วนเม้มริมฝีปาก ภายในใจรู้สึกตื้นตันอย่างสุดซึ้ง
“ตัวของผงขาวเฟยเยว่ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่เหอซินหย่าถูกความโลภครอบงำ ใช้ยาสมุนไพรที่ด้อยคุณภาพมาปรุงเป็นยาขี้ผึ้ง ทำให้เกิดปัญหาการผลิตที่ใหญ่หลวง เรื่องนี้พวกเราจะไม่ผ่อนปรนเด็ดขาด ดังนั้นจะต้องให้เหอซินหย่าออกมารับผิดชอบต่อสาธารณชน”
หยางจ้างกั๋วชัดเจนและตรงประเด็น: “ได้ยินมาว่าบ้านของเหอซินหย่าก็ไม่ใช่ตระกูลธรรมดาทั่วไป สบายใจได้ เทียบกับตระกูลหยางแล้ว เรื่องเธอและครอบครัว ผมจะเป็นคนจัดการเอง”
“อืม เหอซินหย่าก็ได้เหมือนกัน”
หยางสิ้นเค่อมองฝูหล่วนแวบหนึ่ง หันหน้าพลางกล่าว: “เรื่องนี้นายรีบไปจัดการให้เรียบร้อยโดยเร็ว อีกไม่นานฝ่ายตำรวจก็จะจับผู้ต้องหา จะต้องให้สิ้นสุดโดยเร็วที่สุด”
หยางจ้างกั๋วพยักหน้า: “ไม่มีปัญหา”
ในเวลานี้อู๋ชิวหลงพลันเอ่ยขึ้นมา: “เรื่องนี้คลื่นลมแรงมาก นายกับหล่วนฝูออกไปหลบก่อนเถอะ”
ท่าทางที่เดิมทีผ่อนคลายของหยางจ้างกั๋วเปลี่ยนไปทันที เขาขมวดคิ้วแล้วกล่าว: “ทำไมล่ะครับ? ชดเชย แพะรับบาป ต่างก็แก้ไขได้แล้ว ทำไมถึงยังต้องให้พวกเราหนีเอาตัวรอดลีกล่ะ?”
“ใช่ พวกนายหนีไปแล้ว ตัวคนไม่ได้อยู่ที่จีนแล้ว พวกเรานำเงินไปเจรจากับเหอซินหย่า จัดการกับเรื่องราวทุกอย่างให้เรียบร้อย”
หยางสิ้นเค่อจิบชาคำหนึ่ง มองหลานชายด้วยท่าทางเมินเฉย: “ถ้าหากพวกนายยังอยู่ที่เย็นจีน ผู้คนมากมายจับตามองพวกนายอยู่ พวกเราก็ทำอะไรไม่สะดวก ผู้คนเหล่านั้นจะต้องได้ทีขี่แพะไล่ มาหาเรื่องพวกนาย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตัวฉินหลั่งเอง มันจะต้องเสนอข้อเรียกร้องที่สูง และเรียกร้องให้พวกเราดำเนินการตามขั้นตอนอย่างแน่นอน”
“หากทำตามขั้นตอนล่ะก็ หล่วนฝูเป็นผู้รับผิดชอบสูงสุด จ้างกั๋วเป็นคนควบคุมที่แท้จริง พวกนายจะต้องติดคุกอย่างแน่นอน”
“เมื่อพวกนายไปแล้ว เหอซินหย่าก็จะขึ้นมาอยู่อันดับแรก ควบคุมเหอซินหย่าให้ทำให้ความโกรธของประชาชนให้ลดลง แล้วก็สอดคล้องกับการรอคอยของสาธารณชน ก็ไม่มีใครถือโอกาสซ้ำเติมอีกแล้ว พูดได้ว่าสำเร็จตามขั้นตอนอย่างง่ายดาย”
“ดังนั้น ออกไปหลบสักระยะ เป็นผลดีกับตัวพวกนายเอง แล้วก็เป็นประโยชน์ต่อบริษัท ไม่ต้องถูกคนต่ำต้อยฉวยโอกาส”
บนหน้าของหยางจ้างกั๋วและหล่านฝูมีแววไม่พอใจ ยังไงก็คิดไม่ถึงว่า จุดจบของเรื่องนี้จะกลายเป็นแบบนี้ ท้องสองถูกบีบบังคับให้ออกไปนอกประเทศ เรื่องนี้ถึงจะจบลงได้”
“ไม่ต้องลังเลแล้ว เสียเวลาเปล่า” อู๋ชิวหลงไอครั้งหนึ่ง: “ฉันได้ยินข่าวลือมา พวกฉิวกงเฉิงกำลังวางแผน เตรียมถือโอกาสนี้เล่นงานพวกนายให้อยู่หมัด เอาให้พวกนายไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้อีก”
หยางจ้างกั๋วและหล่วนฝูสบตากัน พยักหน้าอย่างจำใจ: “ก็ได้ พวกเราออกไปหลบสักระยะ เพื่อบริษัทแล้ว ก็คงมีเพียงต้องทำแบบนี้”
ในใจของพวกเขาทราบดี ในตอนนี้พวกเขาทั้งสองก็คือตัวปัญหา บริษัทตระกูลหยางได้เตรียมที่จะไล่พวกเขาออกไปแล้ว นี่เป็นทางเลือกที่จะทำให้ได้รับผลประโยชน์สูงสุด แม้แต่เป็นหยางจ้างกั๋วเอง ก็จะต้องก้มหัวให้กับผลประโยชน์ส่วนรวมของบริษัท คำพูดของอู๋ชิวหลงและหยางสิ้นกั๋วก็คือสัจธรรม และเป็นตัวแทนของความคิดเห็นของทั้งบริษัท เช่นนั้นแล้วแล้วทำไมเขาต้องหาเรื่องน่าเบื่อให้ตัวเอง“ขอโทษด้วยค่ะ คุณชายหยางกำลังประชุมอยู่ พวกคุณจะบุกเข้าไปไม่ได้ รบกวนให้รออยู่ข้างนอกนะคะ!”
ในตอนนี้เองเสียงร้องของเลขาก็ได้ดังมาจากข้างนอก กำลังพยายามห้ามใครบางคนอยู่
รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 724 หนึ่งประโยคกำหนดจุดจบ
Posted by ? Views, Released on October 22, 2021
, รวยชั่วข้ามคืน?!
ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!
Recommended Series
Comment
Facebook Comment