รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 725 ทุกอย่างได้ชัดเจนแล้ว

บทที่ 725 ทุกอย่างได้ชัดเจนแล้ว
“เลขาต่ง รบกวนคุณช่วยเปิดประตูด้วย”
เสียงที่สุภาพมีมารยาทของชายคนหนึ่งดังมาจากข้างนอก น้ำเสียงราบเรียบ แต่ในน้ำเสียงที่ราบเรียบนั้นมีแววของการออกคำสั่งซ่อนอยู่
เสียงนี้ทำให้ผู้คนที่อยู่ข้างในรู้สึกตื่นตัว หยางจ้างกั๋วขมวดคิ้วเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าจะมีคนกล้ามาสร้างความโกลาหลที่อาคารตระกูลหยาง
“รบกวนคุณช่วยเปิดประตูด้วย!”
ไม่ถึงสองวินาที เสียงนี้ก็ได้เอ่ยขึ้นซ้ำอีกครั้ง และน้ำเสียงก็หนักขึ้น จากนั้นไม่นานก็มีเสียงปังดังขึ้น ทันใดนั้นประตูห้องก็ได้ถูกถีบเปิดออก
หยางจ้างกั๋วที่กำลังถือถ้วยกาแฟเดินไปข้างหน้าอย่างไม่ทันระวัง เขารีบหลีกทางทันที แก๊งหญิงชายในเครื่องแบบท่าทางดุร้ายน่ากลัวบุกเข้ามาจากข้างนอก
มีคนแสดงหมายจับออกมา มีคนแสดงหมายค้นออกมา มีคนยกกล้องบันทึกวิดีโอขึ้นและเริ่มทำการบันทึก และมีตำรวจหญิงที่ติดตามมาพุ่งตรงเข้าไปหาหล่วนฝู
อู๋ชิวหลงตะลึงตาโต: “พวกคุณคิดจะทำอะไรหน่ะ?!”
หยางสิ้นเค่อตบโต๊ะดังปัง: “รู้ไหมว่าที่นี่คือที่ไหน? บังอาจเสียจริง!”
ชายวัยกลางคนคนหนึ่งตอบกลับด้วยน้ำเสี่ยงเย็นชา: “คุณหยาง คุณหล่วน คุณชายหยาง”
“ท่านนี้คือรองประธานอู๋ชิวหลง ประธานกรรมการของบริษัทตระกูลหยางสินะ” ชายวัยกลางคนเอ่ยถามอู๋ชิวหลงด้วยท่าทางเฉยเมย
อู๋ชิวหลงหึในลำคอ และไม่ได้ตอบอะไร ชายวัยกลางคนกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงเย็นชา: “คุณหล่วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลิต และจำหน่ายสินค้าด้อยคุณภาพ ซึ่งเป็นอันตรายร้ายแรงต่อความปลอดภัยของร่างกายมนุษย์ ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างหนัก ผมขอเชิญตัวพวกคุณกลับไปกับพวกเราเพื่อทำการสอบปากคำ……”
ชายในเครื่องแบบสองสามคนยืนมือขึ้นไปวางบนหัวไหล่ของหยางสิ้นเค่อและอู๋ชิวหลง ราวกับคีมล็อก ทำให้พวกเขาไม่สามารถขยับตัวได้ในทันที
แต่หล่วนฝูกลับแข็งกร้าวเป็นพิเศษ ปากของเขาไม่หยุดที่จะตะโกนอย่างโมโห ขัดคืน ถูกตำรวจสองนายกดแขนเอาไว้ เขาไม่ให้ความร่วมมือเลยแม้แต่น้อย และถูกลากเดินออกไปข้างนอก
หยางจ้างกั๋วโมโหอย่างสุดขีด: “เป็นใครกันแน่? ใครเป็นคนส่งพวกแกมา? ใครให้อำนาจและความกล้ากับพวกแกถึงได้มาจับคนถึงที่นี่?!”
“ข้างบนกำกับดูแล คุณซ่งเซ็นหมาย!” ชายวัยกลางคนออกคำสั่ง: “มีอะไรไม่พอใจ ก็ร้องเรียนมาได้เลย!”
“เอาตัวไป!”
โรงงานผลิตยาเยว่จิ้นถูกสั่งปิด ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดถูกเรียกคืน หล่วนฝูและเหอซินหย่าถูกควบคุมตัว หยางจ้างกั๋วก็ถูกยึดพาสปอร์ตห้ามออกไปนอกพรมแดน ผงขาวเฟยเยว่ที่ก่อนหน้านี้สามารถเรียกลมเรียกฝน ผู้คนสรรเสริญบอกต่อในท้องตลาด เพียงชั่ววินาทีกลับกลายเป็นหนูข้ามถนนที่ใครเห็นก็คิดตี มีจุดจบที่ต้องตกอับอยู่ในท่ามกลางคำด่าว่าที่เหม็นเน่า
ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันหล่วนฝูยังได้ปรากฏตัวอยู่บนหน้าปกของหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์อยู่ไม่น้อย และในวันนี้ก็ได้กลายเป็นตัวแทนของโรงงานที่ไร้คุณธรรมไปแล้ว
บริษัทของหล่วนฝูถูกทุบทำลายจนเละเทะไปหมด อาคารตระกูลหยางก็ถูกคนราดน้ำมันเอาไฟเผา ในขณะเดียวกันนักข่าวนับร้อยที่เคยช่วยทำโฆษณาให้กับผงขาวเฟยเยว่ เพื่อที่จะลบล้างตัวเองออกจากความเกี่ยวข้องกับผงขาวเฟยเยว่ ต่างทยอยกันเปลี่ยนทิศทางปลายกระบอกปืนต่อว่าหล่วนฝูเห็นผลประโยชน์แล้วลืมคุณธรรม จิตใจเหี้ยมโหดราวหมาป่ามีคนถึงขั้นเจตนาขุดเรื่องเหม็นเน่าของตระกูลหยางออกมา ให้เรื่องอื้อฉาวของตระกูลหยางรุนแรงขึ้นกว่าเดิม สรุปก็คือ แค่ระยะเวลาเพียงไม่กี่วันคำยกยอสรรเสริญที่ได้มาต้องแลกกับความอาฆาตแค้นอย่างที่สุดในวันนี้
ในขณะที่บริษัทตระกูลหยางตกอยู่ในวิกฤตจากการถูกสาธารณชนวิพากษ์วิจารณ์ ฉินหลั่งที่อยู่ที่ร้านหุยชุนก็กำลังยุ่งวุ่นวายอยู่ไม่หยุด
ในตอนนี้โรงพยาบาลศูนย์เย็นจีนได้กลายเป็นศูนย์ปฏิบัติการหลักที่รักษาอาการที่เกิดจากผงขาวเฟยเยว่ แต่ทว่าโรงพยาบาลศูนย์เย็นจีนไม่อาจจะรับรองผู้ป่วยที่มากมายขนาดนี้ได้ ผู้ป่วยราวสามพันกว่าราย แม้กระทั่งทางเดินก็ยืนเต็มไปด้วยผู้คน ดังนั้นฉินหลั่งจึงตัดสินใจ ผู้คนส่วนหนึ่งสามารถมารับการรักษาที่ร้านหุยชุนได้
สวี่ซีเหวิน ลม อาจารย์หมอทั้งแปด อิงจิ่งหลิง และหลินเส้าโสทุกคนต่างก็ยุ่งจนไม่อาจปลีกตัวได้ไปไหนได้
หลู่เหม่ยเฉินและเหว่ยฝ่าเทียนถึงแม้จะไม่ได้ปรากฏตัวอยู่ที่ห้องโถงด้านหน้า แต่ก็ได้คอยช่วยเหลืออยู่ที่ลานด้านหลัง ตลอดเวลาตั้งแต่เช้าจรดเย็น
ผู้ช่วยทนายความสองสามคนหอบเอกสารเดินเข้าเดินออก โทรศัพท์มือถือของหลู่เหม่ยเฉินและเหว่ยฝ่าเทียนดังแล้วดังอีก หลู่เหม่ยเฉินพลางรักษาการติดต่อกับหลงเย้นอยู่ตลอดเวลา เพื่อจะได้เข้าใจและรับรู้ถึงสถานการณ์ล่าสุดของโรงพยาบาลศูนย์เย็นจีน พลางเร่งรัดให้ทางหลินอานรีบส่งของมาที่เย็นจีน
เหว่ยฝ่าเทียนในฐานะทนายความคนหนึ่ง ก็คอยช่วยหลู่เหม่ยเฉินจัดการข้อพิพาทระหว่างบริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉินและตระกูลหยาง เขาเองก็ยุ่งแทบเป็นแทบตายเช่นก็น
มีเพียงฉินหลั่ง ที่หลับตาผ่อนคลายอยู่ตลอดเวลา ราวกับเรื่องทุกอย่างไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขาเลย
“ผงขาวเฟยเยว่ขายออกไปทั้งหมดแปดหมื่นชุด ทางตัวแทนจำหน่ายได้ขายไปแล้วจนหมด มีผู้ใช้ยาแล้วราวสองหมื่นคนซึ่งมากจนน่าตกใจ ภายในจำนวนนั้นมีสามพันรายที่เกิดอาการตอบสนองที่ไม่ดี ส่วนคนอื่น ๆ ยังอยู่ในระหว่างสังเกตการณ์และสุ่มตรวจ”
“ผู้ป่วยที่ได้รับอันตรายหลังจากการใช้ผงขาวเฟยเยว่ทั้งหมด ในตอนนี้ได้ถูกพวกเรารับรักษาจนแทบทั้งหมดแล้ว ทั้งยังดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว ผู้ป่วยกลุ่มแรกที่หายดีได้กลับไปหมดแล้ว ชื่อเสียงและเกียรติยศของโรงพยาบาลศูนย์เย็นจีนและร้านหุยชุนในตอนนี้ได้สูงจนกลายเป็นสถิติใหม่ มีในตำแหน่งที่ค่อนข้างสูงอยู่ในใจของผู้ป่วย”
“และคุณ ได้กลายเป็นมโนธรรมของโลกธุรกิจ เป็นแบบอย่างของวีรบุรุษที่สู้อย่างโดดเดี่ยว”
“เมื่อสักครู่ทนายของตระกูลหยางได้โทรมาหาฉัน พวกเขาได้ยกเลิกการฟ้องร้องที่ร้องเรียนบริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉินของเราเป็นที่เรียบร้อย ไม่สืบหาความรับผิดชอบทางกฎหมายของพวกเราอีกต่อไป คืนหลี่ซินก็จะสามารถกลับมาได้อย่างปลอดภัย”
“หยางสิ้นเค่อบอสใหญ่แห่งตระกูลหยางโทรมาด้วยตัวเอง และได้ดำเนินการขออภัยจากพวกเราอย่างลึกซึ้ง พวกเขาแสดงท่าทีว่า จะให้ความร่วมมือสำหรับการเรียกของพวกเราอย่างเต็มที่ รวมทั้งบอกว่ายินดีที่จะชดเชยสำหรับความเสียหายทุกอย่าง
อู๋ชิวหลงแห่งบริษัทตระกูลหยาง แล้วก็เป็นผู้อาวุโสที่มีบทบาทสำคัญในบริษัทตระกูลหยาง เขาแสดงท่าทีด้วยตัวเอง ยินดีที่จะสั่งซื้อยารักษาแผลของร้านหุยชุนจำนวนสามพันชุด ดำเนินการช่วยเหลือผู้ป่วยอย่างไม่คิดเงิน เพื่อแสดงออกถึงความรู้สึกผิดของตนเอง
“ทางด้านสำนักงานคณะกรรมการยาก็หวังว่าผลิตภัณฑ์ของพวกเราจะสามารถวางจำหน่ายตามร้านยาได้โดยเร็ว เพื่อให้ผู้ป่วยที่ได้รับอันตรายจากการใช้ผงขาวเฟยเยว่สามารถหาซื้อด้วยตนเองได้อย่างสะดวก แบบนี้ประสิทธิภาพและสถานการณ์ก็จะลดลงได้มาก ถ้าหากเป็นไปได้ พวกเขายินดีที่จะให้ความช่วยเหลือที่สอดคล้อง”
เวลาใกล้ค่ำ หลู่เหม่ยเฉินปรากฏตัวขึ้นที่ข้างกายฉินหลั่ง รายงานสถานการณ์ล่าสุดกับฉินหลั่ง พลางชงชาพลางรายงานการพัฒนาของเรื่องราวทั้งหมดให้ฉินหลั่งฟัง
ภายในใจหลู่เหม่ยเฉินทราบดี ภายนอกฉินหลั่งดูผ่อนคลาย แต่ความจริงแล้วเรื่องราวทุกอย่างล้วนทับถมอยู่บนตัวของเขาเพียงลำพัง เขาเป็นคนที่ควบคุมเรื่องราวทุกอย่าง จะต้องคิดเยอะกว่าคนทั่วไปเป็นพิเศษ เขาใส่ใจกับความก้าวหน้าทุกอย่างของเรื่องราวอยู่ตลอดเวลา
เมื่อได้ยินการรายงานจากหลู่เหม่ยเฉิน ฉินหลั่งยิบแก้วชาขึ้นมาดื่มหนึ่งคำ ยิ้มกล่าว: “ทุกอย่างเกี่ยวกับการร้องขอความเห็นใจและการไปมาหาสู่ของตระกูลหยางตอนนี้ยังไม่ต้องไปใส่ใจ ตอนที่พวกเขาจะเล่นงานพวกเราก็ไม่ได้เสแสร้งนอบน้อมถ่อมตัวแบบนี้ แต่ละคนต่าง หยิ่งผยอง เงินเยอะอำนาจมาก แทบอยากจะหยิกพวกเราให้ตาย
“ดังนั้นเป็นธรรมดาที่พวกเราจะไม่แสดงสีหน้าที่ดีต่อพวกเขา รีบเตรียมคดีความทันที เรื่องราวทุกอย่างให้เหว่ยฝ่าเทียนเป็นคนรับผิดชอบจัดการ
“เรื่องของสำนักงานคณะกรรมการยา ให้ไปจัดการหลงเย้นไปจัดการ คนที่หลินอานล่วนเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านยาและการรักษา เธอรู้ว่าจะรับมือประสานงานกับผู้คนเหล่านี้ยังไง”
“เรื่องราวทั้งหมดได้แน่นอนแล้ว ตอนนี้เรื่องราวเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนั้นคุณไม่ต้องไปคิดแล้ว ผลประโยชน์ที่สูญเสียไปจะต้องเอากลับคืนมาได้มากกว่าเดิมในสักวัน หยางจ้างกั๋วจะต้องไม่กล้าที่จะทำอะไรเพื่อล้างแค้นไประยะหนึ่งอย่างแน่นอน”
เขาขยี้หัวแล้วหันไปมองหลู่เหม่ยเฉิน: “หลายวันมานี้คุณก็เหนื่อยล้าไม่น้อย รีบไปนอนพักผ่อนก่อน ต่อไปเวลาแห้งการนับเงินก็จะมาถึงจริง ๆ แล้ว”
นี่เป็นประโยคที่ฉินหลั่งกล่าวได้อบอุ่นและอ่อนโยนที่สุด หลู่เหม่ยเฉินมองฉินหลั่งด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อนแวบหนึ่ง ในสายตามีหยดน้ำตาไหลผ่านแวบหนึ่ง: “คุณนี่นะ คุณคิดว่าฉันจะนอนหลับเหรอ?”
“คุณมีคำถามอะไร ก็ถามมาเลย ผมไม่รังเกียจที่จะบอกทุกอย่างกับคุณ” เห็นได้ชัดว่าฉินหลั่งรู้ว่าในใจหลู่เหม่ยเฉินกำลังคิดอะไรอยู่ เขากล่าวอย่าตรงๆ ไม่อ้อมค้อม
“ฉินหลั่ง ทุกอย่างนี่เป็นแผนการที่คุณคิดไว้ตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหม?”
ฉินหลั่งตอบรับสายตาของหลู่เหม่ยเฉินอย่างไม่กังวล: “ใช่ เรื่องทุกอย่างผมได้วางแผนไว้แล้ว หยางจ้องกั๋วหยาบคายไร้มารยาทกับคุณเมื่อตอนอยู่ที่อาณาเขตของตระกูลเสี้ยง และวันนั้นหยางจ้างกั๋วได้ออกมาก่อเรื่อง วางแผนที่จะกำจัดผมลง เขาก็ได้ผิดไปแล้ว เขาประเมินผมต่ำไป ประเมินต่ำไปอย่างรุนแรง การกระทำของเขา คือต้องการเล่นผมให้ถึงตาย”
“หลังจากนั้นการกระทำของเขาไม่มีขาด ผมเพียงแค่แกล้งทำเป็นไม่รู้เท่านั้นเอง ผมตัดสินใจที่จะสั่งสอนเขาตั้งนานแล้ว ให้เขารู้ว่าคนที่เขาหาเรื่องไม่ได้รังแกง่ายขนาดนั้น วันนั้นเขาได้ยั่วยุคุณ ผมสั่งสอนเขา ก็เพื่อให้เขาได้พบเห็นผงขาวหยุนเซียน เขาเป็นคนที่ละโมบโลภมากและไร้ยางอาย จะต้องติดกับอย่างแน่นอน”
“หากผมไม่ลงโทษเขาอย่างที่เขาควรจะได้รับบ้าง เขาก็จะเล่นงานผมด้วยวิธีต่างๆ นานา คนบางคนต่ำช้าสามานย์ ไม่รู้จักพอ คุณตบมันสักครั้ง มันก็จะเข้าใจในทันที และอาจเปลี่ยนเป็นเชื่อฟังไปเลยก็เป็นได้”
“สำหรับลูกผู้ลากมากดีมีเงินอย่างเขา เขามีทรัพยากรและเส้นสายมากมาย เขาสามารถพลาดได้เป็นร้อยครั้ง แต่ผมกลับจะพลาดไม่ได้แม้แต่ครั้งเดียว”
“ไม่เช่นนั้นละก็ผมอาจจะต้องเสียอะไรบางอย่างไป แน่นอนว่าตัวผมเองไม่เป็นอะไร แต่บวกคุณจะต้องพบกับความยุ่งยากแล้ว”
ฉินหลั่งตรงไปตรงมาอย่างมาก: “ใครทำแบบไหนก็ต้องได้รับแบบนั้น ทุกอย่างคือกรรมใดใครก่อกรรมนั้นย่อมตามสนอง หากเขาเป็นคนที่ดี ไม่หาเรื่องก็จะไม่ต้องซวย”
“ใช่ บริษัทตระกูลหยางครั้งนี้ได้รับความเสียหายอย่างหนักสมคำร่ำลือ คุณดูหุ่นของพวกเขาสิ ต่ำจนน่าตกใจ เมื่อก่อนผงขาวตระกูลหยางเคยผูกขาดตลาด ฐานะในตลาดเหล่านี้เกิดการสั่นคลอนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คุณสร้างผงขาวอีกชนิดขึ้นมา จุดประสงค์ก็คือล่อให้เขามาติดกับ ใช่หรือไม่?”
“เพื่อทำให้หยางจ้างกั๋วลดความระแวดระวังลงให้เหลือน้อยที่สุด คุณมาร่วมมือกับฉัน ปลอมแปลงให้ตัวเองเป็นคนที่ไม่มีเงินทุนเลยแม้แต่น้อย เป็นคนไม่มีสมองที่รีบร้อนอยากจะร่ำรวย และไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย พยายามร่วมมืออย่างเต็มที่ ทำอย่างกระตือรือร้น จริงไปหมดทุกอย่าง ไม่มีอะไรที่ปลอมเลยสักอย่าง ต่อให้หยางจ้างกั๋วมีหัวใจสุนัขจิ้งจอก ก็มองเงื่อนงำอะไรไม่ออก”
“แต่ว่า ฉันไม่เข้าใจ เกิดอะไรขึ้นกับหยูฉิงกันแน่ หล่อนเป็นคนสนิทของฉันเชียวนะ ทำไมถึงหักหลังฉันได้ นี่เป็นแผนการของคุณหรือเปล่า?” หลูเหม่ยเฉินทำใจยอมรับเรื่องจริงที่หยูฉิงจากไปไม่ได้จริง ๆ
ฉินหลั่งส่ายหน้า: “ไม่ใช่ หยูฉิงไม่ได้อยู่ในขอบเขตสมมติฐานของผม ผมเพียงแค่คาดเดาว่า หยางจ้างกั๋วท่าทางมั่นอกมั่นใจขนาดนั้น จะต้องใช้เงินจำนวนมากซื้อใจคนเพื่อใช้เป็นเครื่องมือของตัวเองอย่างแน่นอน แต่ที่ผมคิดไม่ถึงก็คือ คนคนนั้นจะเป็นหยูฉิง เรื่องนี้ทำให้ผมรู้สึกปวดร้าวมาก หยูฉิงไม่ควรที่จะเป็นแบบนี้ แต่เธอกลับได้ทำแบบนี้ไปแล้ว ถ้าหากผมรู้อยู่ก่อนแล้วว่าเธอก็คือคนที่หยางจ้างกั๋วใช้เงินซื้อคนนั้น ผมจะต้องยับยั้งเธออย่างแน่นอน ต่อให้ไม่มีหยูฉิง ตำรับยาผงขาวหยุนเซียนก็ต้องถูกขโมยอยู่ดี ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นหยูฉิง”
น้ำเสียงของหลู่เหม่ยเฉินหดหู่เล็กน้อย: “คนตายเพราะทรัพย์ นกตายเพราะอาหาร ผงขาว กระตุ้นให้คนเกิดความโลภมากมาย ฉันไม่รู้ว่าในตอนนั้นหยูฉิงคิดอะไรอยู่ ถึงต้องเอาตำรับยาผงขาวนี้มาให้ได้ ฉินหลั่ง คุณชั่งโหดเหี้ยมจริง ๆ เลย”
“โหดเหี้ยม?” ฉินหลั่งยิ้ม: “สำหรับหยูฉิงแล้วผมไม่มีความเห็นอะไรเลย ผมก็ไม่ยินดีที่จะเห็นเธอเอาชีวิตไปทิ้ง แต่ถ้าตัวหล่อนรนหาที่ตายเอง ผมก็ทำอะไรไม่ได้ พูดอีกอย่างก็คือ เธอตายอย่างคุ้มค่า จริง ๆ แล้วก็คือสมควรตาย”
หัวใจหลู่เหม่ยเฉินสั่นสะท้าน เธอพูดอะไรไม่ออก ภายในใจรู้สึกเสียใจขึ้นไปอีก เธอคิดไม่ถึงว่าฉินหลั่งจะเฉยเมยกับชีวิตหนึ่งชีวิตแบบนี้ ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ เลยสักนิด
และเห็นชัดว่าฉินหลั่งได้มองเห็นความรู้สึกเสียใจนั่นของหลู่เหม่ยเฉิน เขาคิดที่จะอธิบายสักหน่อย แต่พอคิดแล้วคิดอีก ยังคงเก็บกดไว้ไม่พูดอะไร
ทุกอย่างล้วนไม่มีประโยชน์ หยูฉิงได้ตายไปแล้ว
หยูฉิงตายเอง ตัวเองยังส่งคนไปหาทางช่วยเหลือ อีกอย่างเป็นหยางจ้างกั๋วที่ส่งคนไปฆ่าเธอ จริง ๆ แล้วไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับฉินหลั่งเลย เพียงแต่ว่าฉินหลั่งไม่อยากจะอธิบายแล้ว

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset