รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 671 บัวหิมะเทียนซาน

บทที่ 671 บัวหิมะเทียนซาน
วันนั้นอาหลินบอกว่าจะไปเยี่ยมเยือนแก๊งแถ่จ่างภายในสามวัน ซึ่งนั่นก็หมายความว่าภายในใจของหลินเส้าโสเห็นว่ายังไม่อาจสร้างปมแค้นได้ ดังนั้นเป็นธรรมดาที่ฉินหลั่งจะไม่เป็นมิตรกับฉิวกงเฉิงสักเท่าไหร่ เป็นเพียงแค่มารยาทเท่านั้นเอง
ฉิวกงเฉิงกลับยังคงท่าทางเป็นมิตรเหมือนเดิม “พ่อหนุ่มฉิน ที่ฉันมาในวันนี้ หนึ่งคือเพื่อขออภัยสำหรับความหยาบคายของหลานสาวของฉัน ฉิวฟาชุ่ยถูกฉันเอาอกเอาใจมาตั้งแต่เด็ก การกระทำกำเริบเสิบสาน ฉันได้ตำหนิเขาอย่างรุนแรง และกักบริเวณเขาแล้ว”
“เพื่อแสดงความจริงใจของฉัน ฉันขอมอบบัวหิมะเทียนซานของล้ำค่าของแก๊งให้ บัวหิมะเทียนซานนี้มีประวัติศาสตร์มากว่าห้าร้อยปี ยังคงสีสันสดใสเหมือนใหม่ บางทีอาจจะมีประโยชน์สำหรับหมอฉิน”
“ฉันขอพูดอย่างจริงจัง ณ ที่นี้ หวังว่าท่านจะสามารถบอกต่อ ฉันไม่ทราบว่าตอนนี้ราชาหนานอยู่ที่ไหน แต่ฉันขอกล่าวต่อราชาหนานด้วยความจริงใจว่าขออภัย ล่วงเกินแล้ว”
“ข้อที่สาม ฉันได้ยินมาว่าพ่อหนุ่มฉินยังเป็นหมอเทวดาท่านหนึ่ง พอดีกับที่ร่างกายของฉันมีบางที่ที่ไม่ง่ายต่อการรักษา ถึงแม้ที่แก๊งแถ่จ่างพอจะมีหมออยู่บ้าง แต่เหมือนกับว่าจะไม่ค่อยเข้าใจอาการป่วยของฉัน ตัวฉันเองก็พอจะเข้าใจแพทย์แผนจีนอยู่บ้าง ดังนั้นจึงหวังว่าจะได้รับการชี้แนะจากพ่อหนุ่มฉินสักหน่อย”
เหตุผลทั้งสามข้อของฉิวกงเฉิง ค่อนข้างจะเข้าถึงหลักการของมนุษย์ได้อย่างลึกซึ้ง เป็นธรรมดา ที่จะสามารถขจัดความโกรธแค้นในใจคนออกไปได้ ทำให้ความขุ่นเคืองที่ผ่านมาถูกกวาดล้างจนหมดสิ้น
ฉินหลั่งมองหลินเส้าโสแวบหนึ่ง บนใบหน้าของหลินเส้าโสมีแววเย้ยหยันปรากฏขึ้นมา เห็นได้ชัดว่า หลินเส้าโสค่อนข้างจะเข้าใจฉิวกงเฉิง ฉินหลั่งเป็นคนฉลาด จึงรับรู้ได้ในทันที หลานสาวของฉิวกงเฉิงแขนขาด คนในแก๊งเสียชีวิตไปสี่คน ตามหลักแล้วไม่น่าจะมีสีหน้าท่าทางอ่อนโยนเช่นนี้ ในทางกลับกันยังมาขอโทษถึงที่ หรือว่าเขาจะไม่โกรธแค้นเลยหรือ เขาถือศีลกินเจเป็นประจำหรือยังไง?
ยุทธภพเต็มไปด้วยอันตราย คนหน้าเนื้อใจเสือก็มีอยู่มาก ฉินหลั่งคิดอยู่สักพัก ทันใดนั้นเขาก็ยิ้มออกมาและกล่าวขึ้น
“คุณฉิว แก๊งแถ่จ่างบุกโจมตีในยามวิกาลนั้น ในเมื่อเรื่องได้เกิดขึ้นแล้ว ท่านจะขอโทษและอธิบายอะไรล้วนไม่จำเป็นแล้ว ส่วนจะให้อภัยหรือไม่นั้น ผมก็ยังไม่รู้”
“หากผมถูกคนรังแก แล้วให้อภัยฝั่งตรงข้ามอย่างง่ายดาย ถ้าหากเผยแพร่ออกไป เกรงว่าผู้คนคงไม่เห็นผมอยู่ในสายตาแล้ว”
กล่าวไป ฉินหลั่งพลางมองหลินเส้าโสอีกครั้ง หลินเส้าโสท่าทางเมินเฉย เขาส่ายหัวเล็กน้อย
ฉินหลั่งน้ำเสียงสูงขึ้น กล่าว “อาหลินของผมยังไม่สะดวกที่จะพบคุณในตอนนี้ ดังนั้นตอนนี้ผมเป็นตัวแทนที่มีอำนาจทั้งหมดในการเจรจา”
พูดไปฉินหลั่งพลางผลักกล่องของขวัญกลับคืนไป
“พ่อหนุ่มฉิน ที่ฉันมาในครั้งนี้ก็เพื่อลบล้างความคับข้องใจระหว่างฉันและคุณกับราชานานด้วยความจริงใจ คืนดีและกลับไปเป็นเหมือนเดิม อยู่ในยุทธภพ หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเสียดสีกันบ้าง แต่ถ้าทุกคนยกความสันติสุขเป็นสิ่งสำคัญ ถอยคนละก้าว เรื่องราวก็จบลงแล้ว”
ฉิวกงเฉิงไม่ได้โมโห และไม่ได้รับบัวหิมะเทียนซานกลับมา แต่หัวเราะ
“พ่อหนุ่มฉินคุณเป็นคนจิตใจกว้างขวาง ให้โอกาสฉันได้ชดใช้สักครั้ง จะว่ายังไงฉันกับหมอเทพสวี่ก็มีมิตรภาพที่ลึกซึ้งต่อกัน โบราณว่า ไม่เห็นแก่หน้าภิกษุสงฆ์ก็ควรเห็นแก่หน้าพระพุทธรูป ต่อไปทุกคนล้วนเป็นมิตรสหาย ไม่จำเป็นต้องทำให้เกิดความวุ่นวายอีก”
“หรือว่า ถ้าพ่อหนุ่มเห็นว่าฉันไม่มีความจริงใจพอ พ่อหนุ่มมีความต้องการอะไรรีบบอกมาได้เลย จะให้ฉันทำยังไง พ่อหนุ่มถึงจะพอใจ ฉันก็จะไปทำ”
ฉิวกงเฉิงในฐานะพี่ใหญ่แก๊งแถ่จ่าง ดูมีความจริงใจอย่างมาก วางตัวเองให้อยู่ในตำแหน่งที่ต่ำต้อย พูดกล่อมฉินหลั่งทุกวิถีทาง
แต่ทว่าฉินหลั่งกลับไม่ยอมรับมัน “รอคุณได้เจอกับอาหลินแล้วค่อยพูดเถอะ เรื่องนี้ อาหลินถึงมีอำนาจตัดสินใจ”
“แต่ว่า คุณฉิวเดินทางมาแต่ไกล ถ้าหากคุณต้องการหาหมอ พวกเราเปิดร้านยาพอดี คุณสามารถตรวจได้เลย เรื่องนี้ผมสามารถจัดการได้”
“ราชาหนานไม่มีเวลามาพบฉัน?” ฉิวกงเฉิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ในใจของเขานั้นรีบร้อนที่จะเจอหลินเส้าโสเป็นอย่างมาก แต่เขาก็ดูออกว่าฉินหลั่งไม่ได้ใส่ใจสักเท่าไหร่ หรือไม่ก็ตั้งใจกลั่นแกล้ง ดังนั้นจึงไม่ยึดมั่นอีกต่อไป เช่นนั้นก็รอมีโอกาสแล้วค่อยแก้ไขเรื่องนี้แล้วกัน ใจร้อนไปก็ไม่มีประโยชน์
“อาหลินไม่สะดวกพบคุณ” ฉินหลั่งกล่าวซ้ำอีกครั้ง
“งั้นก็ได้ เช่นนั้นพวกเราไม่พูดเรื่องนี้แล้ว พ่อหนุ่มฉิน คุณลองตรวจดูให้ฉันก่อนเถอะ” พูดไป ฉิวกงเฉิงก็นั่งลงไปบนเก้าอี้ ยื่นมือออกไปให้ฉินหลั่งตรวจ
และในตอนนั้นเอง หลินเส้าโสก็หันหลังเดินเข้าไปยังลานหลังบ้าน ที่ลานหลังบ้านมีห้องอยู่ห้องหนึ่ง เดิมทีเคยเป็นห้องที่ทำงานของหมอเทพสวี่ พื้นที่กว้างขวาง ฉินหลั่งจัดให้หลินเส้าโสพักอยู่ที่นี่โดยไม่ฟังเสียงใด ๆ
หลินเส้าโสพักผ่อนอยู่ในห้อง ภายในห้องโถง ฉินหลั่งจับไปที่ข้อมือของฉิวกงเฉิง และรู้ในทันที ร่างกายของฉิวกงเฉิงแข็งแรงมาก ชีพจรแข็งแกร่ง สงบนิ่งและมีพลัง หนุ่มกว่ารูปร่างหน้าตาในวัยห้าสิบของเขาเสียอีก
ฉิวกงเฉิงสีหน้าสงบนิ่ง ที่เขาบอกว่ามาหาหมอนั้นเป็นเพียงแค่ข้ออ้าง ในแก๊งแถ่จ่างอะไรบ้างที่ไม่มี? และตัวเองเป็นคนระดับไหนกัน? เมื่อฝึกฝนศิลปะการต่อสู้จนถึงระดับที่แน่นอนแล้ว เดิมทีตัวเองก็เป็นแพทย์ที่ได้มาตรฐานคนหนึ่ง
ฉิวกงเฉิงเพียงแค่ให้หน้าฉินหลั่ง และในขณะเดียวกันก็เป็นการเปิดเผยศิลปะการต่อสู้ของตนเองออกมา
พี่ใหญ่ในวงการศิลปะการต่อสู้อย่างเขา ให้ฉินหลั่งตรวจโรคให้ เดิมทีก็เป็นเพียงแค่ลูกเล่นอย่างหนึ่ง ถ้าหากเผยแพร่ออกไปละก็ฉินหลั่งจะต้องมีหน้ามีตาอย่างแน่นอน
ฉินหลั่งแตะข้อมือฉิวกงเฉิงอีกครั้ง สัมผัสได้ถึงพลังภายในที่แข็งแกร่งอย่างมาก กำลังวิ่งแล่นอยู่ในร่างกายของฉิวกงเฉิงไม่หยุด อย่างมากมายมหาศาล ศิลปะการต่องสู้ของฉิวกงเฉิง ถ้าหากฉินหลั่งเดาไม่ผิดล่ะก็ อย่างน้อยก็เป็นปรมาจารย์ แต่ว่าระดับใดนั้น เขาก็ไม่อาจคาดเดาได้
สายตาที่ฉิวกงเฉิงมองฉินหลั่งยังคงเป็นมิตรเหมือนเดิม ราวกับว่าเป็นสหายเก่าที่ไม่ได้เจอกันนาน “พ่อหนุ่มฉิน ร่างกายของฉันเป็นยังไงบ้าง?”
“ไม่เลว ไม่เลย คุณฉิวเป็นผู้อาวุโสของฉิวฟาชุ่ย แต่ร่างกายดีกว่าเขาเป็นสิบเท่าอย่างแน่นอน เพียงแต่……”
“เพียงแต่อะไร?” ฉิวกงเฉิงรู้สึกสนใจขึ้นมาทันที พลางเอ่ยถาม
“เพียงแต่ สองวันมานี้ไฟในใจของคุณฉิวสูงขึ้น ความโกรธสะสม ในใจคิดมากจนเกินไป จะต้องใช้ยากล่อมประสาทสักสองสามตัว ยากล่อมประสาทของร้านหุยชุนของผมมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คุณฉิวลองใช้ดู”
พูดไป ฉินหลั่งพลางมองฉิวกงเฉิงด้วยความหมายที่ลึกซึ้ง ฉิวกงเฉิงเข้าใจขึ้นมาในทันที สีหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อย ฉินหลั่งได้รับรู้ถึงความรู้สึกภายในใจของเขาจากการจับชีพจรแล้ว ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีก
มันก็ใช่ หัวหน้าแก๊งแก๊งแถ่จ่างแขนขาด เรื่องนี้บุคคลระดับปรมาจารย์อย่างฉิวกงเฉิงจะไม่มีความรู้สึกใด ๆ เลย ก็คงเป็นไปไม่ได้
เขาเตรียมที่จะลุกขึ้นกล่าวขอบคุณ ในตอนนี้เองฉินหลั่งกล่าวขึ้น “อย่าขยับ!”
ฉิวกงเฉิงทำได้เพียงนั่งลง พลางคิดอยู่ในใจเทคนิคในการรักษาของนายก็นับว่ายอดเยี่ยม แต่ในสายตาฉันแล้วไม่นับอะไร
แต่ทว่าในคำพูดประโยคถัดมานั้นทำให้ฉิวเฉินกงเริ่มประหลาดใจ
“คุณฉิว ร่างกายของคุณล้ำค่า เดิมทีถือเป็นเรื่องดี เพียงแต่ว่ากลับมีจุดหนึ่งที่อันตรายถึงชีวิต ท้องของคุณเคยโดนกระบี่แทง เส้นเอ็นและเส้นเลือดเสียหายอย่างหนัก”
“ในวันนี้ปากแผลหายดีแล้ว เหลือเพียงรอยแผลเป็นก็จริง แต่ในความเป็นจริงแล้วมันยังไม่เคยหายดีเลย”
“ภายนอกเหมือนหายดี แต่ความจริงยังไม่หายดี ผู้ป่วยกรณีนี้มีมากมาย เช่นเหล่าทหารผ่านศึกที่มีความดีความชอบโดดเด่น ข้างกายมีหมอฝีมือดีมากมาย แต่ว่าก็ยังมีบ่อยครั้งที่มีเศษกระสุนตกเหลืออยู่ในร่างกาย จนกระทั่งถึงวันเผาถึงได้แยกจากร่างกาย”
“พูดตามข้อเท็จจริงแล้ว คุณเป็นถึงปรมาจารย์ แผลจากกระบี่ไม่น่าจะทำให้เป็นแผลนานขนาดนี้ เพียงแค่เข้าขั้นปรมาจารย์ ต่อให้ได้รับบาดเจ็บในขณะใช้กำลังภายใน ก็จะหายเป็นปกติไปเอง ไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ แต่ว่าของคุณนี่แปลกมาก มันยังคงคงอยู่อยู่เหมือนเดิม”

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset