รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 667 ประชุมเดือดภายในแก๊ง

บทที่ 667 ประชุมเดือดภายในแก๊ง
คืนวันต่อมา แก๊งแถ่จ่างรวบรวมไพร่พลในแก๊ง ภายในห้องโถงของแก๊งที่จุคนได้หลายพันคน จึงเต็มไปด้วยศีรษะผู้คนมืดฟ้ามัวดินมารอคอย ขณะที่แขนที่ขาดของฉิวฟาชุ่ยได้นำเข้าไปในห้องโถง ภายในแก๊งก็ส่งเสียงดังอื้ออึง ผู้คนเต็มไปด้วยความโกรธแค้น รอคอยคำตัดสินของพวกลูกพี่ใหญ่ที่รวมกันอยู่ในห้องข้างนอกห้องโถง
ห้าพิการแห่งเขาหัวซาน ยังมีหัวหน้าแก๊งออกโรงด้วยตัวเอง อาศัยวิชาการต่อสู้ของห้าพิการ ยังมีความยิ่งใหญ่ขั้นเทพของหัวหน้าแก๊ง รวมทั้งความเกรียงไกรนับพันปีของแก๊งแถ่จ่าง ทุกคนก็ต้องหวังว่าการที่จะไปแย่งชิงของวิเศษชิ้นหนึ่ง มันคงง่ายดายเหมือนกับหยิบของในตะกร้าเสียอีก
ก่อนหน้านั้นพวกเขาก็รู้ว่า ฉินหลั่งคนนี้ชื่อเสียงโด่งดังมาก ในช่วงนี้ได้ข่าวว่ามีผู้กล้าฝีมือดีก็ยังพ่ายแพ้ให้กับฉินหลั่ง จึงกล่าวได้ว่าพวกเขานึกว่าได้เตรียมพร้อมค่ายกลอันใหญ่โตเพื่องานนี้โดยเฉพาะ แต่กลับต้องพ่ายแพ้ยับเยินกลับมา ฉิวฟาชุ่ยใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธแค้น ลูกน้องที่ห้อมล้อมข้างกายเธอก็ล้วนโกรธแค้นแทน ดวงตาแทบจะพ่นไฟออกมา จะว่าไปแล้ววิธีการต่อสู้ของห้าพิการไม่อ่อนหัดแน่นอน ฉิวฟาชุ่ยก็ยิ่งแข็งแกร่งกว่าห้าพิการยิ่งนัก หัวหน้าแก๊งถึงกับต้องตัดแขนเพื่อร้องขอชีวิต ฝ่ายตรงข้ามยังไม่ยอมเลิกรา เป็นใครก็ไม่อาจทนได้
“หลินเส้าโส แก๊งแถ่จ่างข้าจะสู้กับเจ้าจนตายไปข้างหนึ่งไปเลย!” เสียงดังลั่นขึ้น ชายหยาบกร้านคนหนึ่งก็ทุบโต๊ะด้วยกำปั้นอย่างแรงด้วยความโกรธแค้น ออกแรงทุบจนเกิดรอยร้าวบนโต๊ะขึ้น
ฉิวฟาชุ่ยส่งเสียงอันเยือกเย็น “แก๊งแถ่จ่างข้าได้รับความอัปยศอดสูเพียงนี้ ข้าอุตส่าห์ใช้แผนการอันเหมาะสมในขณะนั้น ไม่เช่นนั้นคงไม่มีชีวิตรอดถึงวันนี้!”
“ท่านทั้งหลาย หลินเส้าโสจะมาเยือนภายในสามวัน พวกท่านมีแผนการรับมือที่แยบยลอะไรหรือไม่?”
ลูกน้องทุกคนก็ล้วนแต่นิ่งเฉย นอกจากจะยอมสู้ตายแล้วยังจะทำอะไรได้อีก? แก๊งแถ่จ่างอยู่ได้มานับพันปีนั้น ก็อาศัยจิตวิญญาณในการต่อสู้อย่างไม่เกรงกลัวความตายทั้งนั้น
“ท่านหัวหน้าอย่าได้กังวลใจ พวกเราแก๊งแถ่จ่างไม่ใช่พวกไร้ชื่อคนมีความสามารถมีมากล้น หลินเส้าโสคนนี้ ในยุทธภพได้หายสาบสูญไปนานแล้ว เป็นเพียงผู้ป่วยอัมพาตยี่สิบกว่าปีไม่แตกต่างกับคนที่ตายแล้ว ในสำนักหมิงก็ไม่มีตำแหน่งสำหรับเขาแล้ว ตอนนี้เขากลับเข้ามาท่องยุทธภพอีกครั้ง เพียงแค่อยากจะสร้างชื่อเสียงให้โด่งดังเร็วขึ้น ก็เลยเริ่มลงมือที่แก๊งแถ่จ่าง วิชาการต่อสู้ของคนนี้ ก็จะไปดูแคลนไม่ได้ แต่ว่าแก๊งเรามีผู้อาวุโสสิบท่านล้วนมีฝีมือยอดเยี่ยมทั้งนั้นมี ชื่อเสียงโด่งดังมานานแล้ว เขาก็น่าจะรู้จัก จะให้เขาเหิมเกริมไม่ได้เด็ดขาด!”
ลูกน้องคนหนึ่งลุกขึ้นมากุมมือทั้งสองแล้วกล่าวขึ้นมา
“ผู้อาวุโสสิบท่านเก่งกาจสามารถแน่นอน ฮึ่ม แต่ว่าหลินเส้าโสมาคราวนี้จะต้องมีการเตรียมตัวที่ดี เขาจะสู้คนเดียวต่อสิบคนก็เป็นการท้าประลองกับผู้อาวุโสสิบท่านใช่หรือไม่? พวกเราจะประมาทไม่ได้เด็ดขาด” ฉิวฟาชุ่ยกล่าวด้วยเสียงเย็นชา พูดถึงด้านวิชาการต่อสู้แล้ว ฉิวฟาชุ่ยกับผู้อาวุโสสิบท่านก็มีฝีมือไม่แตกต่างกันมากนัก มีหลายคนในจำนวนนั้นก็ยังมีฝีมือที่เก่งกาจเหนือฉิวฟาชุ่ยอีกด้วย
ฉิวฟาชุ่ยสามารถที่จะเป็นผู้นำของผู้กล้าภายในแก๊งแถ่จ่างได้นั้น ก็อาศัยการสืบทอดตำแหน่งมาจากบรรพชนที่ส่งต่อกันมา จึงไม่ใช่อาศัยเพียงแค่วิชาการต่อสู้เท่านั้น
“เจ้าตัวเศษขยะ!”
เสียงดังมาจากประตูข้างนอกชายชราหนวดเคราผมหงอกเดินบุกเข้ามา หนวดเคราและเส้นผมดูแข็งราวกับแท่งเหล็ก แลดูเหมือนอ๋าวป้ายเลยทีเดียว
เมื่อเห็นชายชราผู้นี้เดินเข้ามา ฉิวฟาชุ่ยรวมทั้งผู้คนกลุ่มหนึ่งก็รีบลุกขึ้นยืน ฉิวฟาชุ่ยน้ำตาคลอเบา
“ท่านลุง ท่านมาแล้ว…”
“เจ้านี่มันเศษขยะ!” บุคคลที่ดูเหมือนอ๋าวป้ายกล่าวด้วยความโทสะ “ตั้งแต่ข้าสละตำแหน่งหัวหน้าแก๊งแล้วก็พยายามที่จะช่วยสนับสนุนให้เจ้าขึ้นมาแทน แต่เมื่ออยู่ในภาวะคับขันก็ทำอะไรไม่ได้เรื่องสักอย่าง!”
“ข้าเป็นหัวหน้าแก๊งมายี่สิบปี แก๊งแถ่จ่างก็รุ่งเรืองขึ้นทุกวัน เจริญก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ ใครจะรู้เพียงไม่กี่ปีมานี้เจ้าก็สร้างข่าวน่าอับอายเช่นนี้ขึ้นมา!”
“แก๊งแถ่จ่างข้า ทุกคนล้วนแต่เป็นวีรบุรุษผู้กล้าใครจะคิดว่าเสี่ยวชุ่ยจะรักตัวกลัวตายเช่นนี้ หลินเส้าโสนั้นเป็นเพียงแค่คนป่วยอัมพาตที่เพิ่งจะฟื้นฟูสภาพกลับคืนมา ต่อให้สู้จนเหลือเพียงคนสุดท้าย เจ้าก็ไม่ควรจะตัดแขนตัวเองเพื่อคุกเข่าขอชีวิต!”
“เจ้าไม่เพียงแต่ทำให้ข้าฉิวเชียนจ้างขายหน้าแล้ว แต่ยังทำให้แก๊งแถ่จ่างข้าที่มีประวัติยาวนานมานับพันปีต้องเสียหน้าอีกด้วย!”
ฉิวเชียนจ้างคำรามสุดเสียงแต่ก็กล่าวด้วยเหตุผลที่ถูกต้อง ลูกน้องล้วนก้มหัวหลบหน้าด้วยความละอายใจ ฉิวฟาชุ่ยก็ยังเป็นสตรีเพศ เอาตัวรอดเมื่อยามคับขัน พวกเขาในใจก็ค่อนข้างไม่พอใจเช่นกัน
เพียงแต่ว่าหัวหน้าแก๊งแถ่จ่างนั้นมีอำนาจล้นฟ้า เป็นเจ้าชีวิตเหนือหัว ฉิวฟาชุ่ยก็เปรียบเสมือนฮ่องเต้สมัยโบราณ ไม่มีใครกล้าที่จะท้าทายอำนาจของเธอต่างหาก
ตอนนี้การปรากฏตัวของฉิวเชียนจ้าง ทำให้ผู้คนต่างมุ่งสายตาไปยังอดีตหัวหน้าแก๊ง
ฉิวเชียนจ้างเป็นหัวหน้าแก๊งมายี่สิบปี อาศัยความสามารถและความเก่งกาจจึงจะได้ขึ้นมาเป็นหัวหน้าได้ ซึ่งแตกต่างจากการขึ้นครองตำแหน่งของฉิวฟาชุ่ยอย่างสิ้นเชิง พี่น้องตระกูลฉิวรวม 13 คน มีเพียงฉิวเชียนจ้างคนเดียวที่ขึ้นดำรงตำแหน่งหัวหน้า ไม่ใช่ไม่มีเหตุผล วิชาศิลปะการต่อสู้ของเขาสูงส่งมากจนเป็นที่กล่าวขานว่า สามารถเทียบเท่ากับนักปราชญ์ของแก๊งแถ่จ่างเมื่อพันปีที่แล้ว เมื่อตอนฉิวเชียนจ้างอายุยังน้อยก็เป็นคนมีเหตุมีผล เขาเป็นคนที่ 2 ในจำนวน พี่น้อง 13 คน มีชื่อเล่นว่าเอ้อโก่ว เมื่อเติบโตขึ้นรู้สึกว่าคำว่า เอ้อโก่วดูไม่น่าเกรงขาม เป็นเพราะว่าชื่นชมหัวหน้าแก๊งแถ่จ่างในสมัยราชวงศ์ส้ง ฉิวเชียนจ้างเขาจึงตัดสินใจเปลี่ยนชื่อตัวเองเป็นเชียนจ้าง ตั้งปณิธานว่าจะเดินตามรอยบรรพชนสร้างผลงานอันลือลั่นให้ประจักษ์แก่ชาวโลก ฉิวเชียนจ้างที่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์ของแก๊งแถ่จ่าง แต่เดิมแก๊งแถ่จ่างเป็นสำนักที่มีวิชาการต่อสู้ที่มีตำแหน่งสูงส่งในประวัติศาสตร์ แต่ว่าถูกใส่ร้ายป้ายสีจากนักประวัติศาสตร์ทั้งหลาย จึงทำให้ฉิวเชียนจ้างเกิดความโกรธแค้นมาก ดังนั้นเขาจึงทุ่มเทพยายามทุกอย่างเพื่อรักษาปกปักสมบัติของบรรพชนไว้ นับว่าเป็นการทุ่มเททั้งเลือดเนื้อและชีวิตเลยทีเดียว
ยี่สิบปีที่ผ่านมา สมาชิกของแก๊งมีจำนวนมากกว่าพันคน มีเพียบพร้อมทั้งกำลังคนและเสบียงอาหาร ในบริเวณเขตหัวซานนับได้ว่ายังไม่มีแก๊งหรือสำนักใดสามารถต่อกรได้ หรือแม้แต่ทั้งเขตภาคตะวันตกเฉียงเหนือ
ชื่อเสียงก็ขจรไกลไปอย่างทั่วถึง ดังนั้นเขาจึงรู้สึกพอใจในผลงานที่ประสบความสำเร็จด้วยดี จึงขอเกษียณอายุด้วยการลาออกจากตำแหน่ง เพื่อตัวเองจะได้พักผ่อนหาความสุข
โดยปกติแล้วเขาจะท่องเที่ยวไปตามธรรมชาติ จะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการบริหารภายในแก๊ง ตอนนี้ฉิวฟาชุ่ยตัดแขนตัวเองก็ไม่มีใครกล้าที่จะบอกให้เขารู้ แต่เรื่องใหญ่โตเช่นนี้ มีหรือที่เขาจะไม่รู้ ดังนั้นจึงรีบเร่งเข้ามาด้วยความโกรธแค้นอย่างยิ่ง
น้ำเสียงของฉิวเชียนจ้างดูเหมือนโกรธจัดที่ไม่ได้ดั่งใจ “แค่เศษขยะที่นั่งบนรถเข็นมา 20 ปี พวกเจ้ายังแตกตื่นขนาดนี้ อย่าว่าแต่พวกเจ้าร่วมมือกัน เพียงแค่เสี่ยวชุ่ยคนเดียว ข้าก็ไม่เชื่อว่าจะสู้เศษขยะนี้ไม่ได้!”
“ตกใจอะไร? พวกเจ้าตกใจอะไร?”
ฉิวเชียนจ้างโมโหสุดขีด ขวัญกำลังใจของแก๊งมั่นคงขึ้นมาทันที สถานการณ์ก็สงบลง
“ท่านลุง ข้าไม่ดีเอง ข้าไร้ความสามารถ ข้าขี้ขลาดกลัวตาย” ฉิวฟาชุ่ยใบหน้าไม่ปรากฏความโกรธแต่อย่างใด มือจับป้องแขนที่ขาดแล้วกล่าวว่า
“ท่านลุง เป็นเพราะข้าปฏิบัติงานในแก๊งล้มเหลว ยังทำให้ห้าพิการต้องมาตายอีกด้วย ข้าในฐานะหัวหน้าแก๊ง ก็หลีกเลี่ยงความรับผิดชอบไม่ได้ ข้ายอมรับการลงทัณฑ์จากท่านทุกอย่าง รวมทั้งให้พ้นจากตำแหน่ง”
“ข้ามีชีวิตรอดกลับมา แท้จริงแล้วไม่ใช่เพราะอยากเอาตัวรอด แต่เพราะอยากจะกลับมาส่งข่าวให้กับแก๊ง หลินเส้าโสไม่ใช่เศษขยะอย่างที่พวกเราคิด พวกเราอย่าไปประมาทคู่ต่อสู้ หากมีหลินเส้าโสคุ้มครองอยู่ ผงขาวหยุนเซียนคงไม่ตกอยู่ในมือพวกเราอย่างง่ายดายหรอก”
“ผงขาวหยุนเซียน? มันคืออะไร?” ฉิวเชียนจ้างหน้าเปลี่ยนสี
“ยาเทวดาชนิดหนึ่ง วิเศษมากพอที่จะสามารถสืบทอดต่อไปเป็นพันปี สร้างบุญกุศลให้กับลูกน้องในแก๊ง ได้รับข่าวจากหม่าเล่วลูกน้องที่อยู่นอกแก๊ง” ฉิวฟาชุ่ยกล่าวต่อไปว่า “หลินเส้าโสคนนั้นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าเคยพบปะหลายครั้ง ข้าเห็นว่า วิชาศิลปะการต่อสู้ของเขาตอนนี้อย่างมากก็เทียบได้เพียงแค่แปดส่วนของเมื่อก่อน ยังไปไม่ถึงยอดสูงสุด”
“หากเขาโกรธขึ้นมาบุกทลายแก๊งแถ่จ่าง ถึงแม้พวกเราไม่กลัว เขาจะบุกเดี่ยวเข้ามา แต่ว่าในแก๊งจะได้รับความเสียหายแน่นอน ดังนั้นพวกเราจะต้องรีบเตรียมตัวให้พร้อม ภายในสามวัน เขาคุยว่าจะบุกเข้ามา”
“ฮึ่ม ฮึ่ม ข้าเป็นผู้นำแก๊งแถ่จ่างมา 20 ปี คลื่นลมแรงเพียงใดข้าไม่เคยเห็นบ้าง หลินเส้าโสสังหารคนของข้า บังคับให้หลานสาวตัดแขน ข้าไม่ไปหาเขาแต่เขากลับมาหาถึงแก๊งแถ่จ่าง เขานึกว่าใต้หล้านี้ไม่มีใครสู้เขาได้หรืออย่างไร?”
“ข้าหวังให้หลินเส้าโสเจ้าเศษสวะนั่นรีบมาให้ถึงโดยเร็ว ข้าอยากจะดูว่าเขาจะมาอาละวาดในแก๊งยังไง? ” ฉิวเชียนจ้างน้ำเสียงยิ่งดุดันขึ้น เคราบนใบหน้าชี้ชันขึ้น แลดูน่ากลัวยิ่งนัก ดูเหมือนดั่งเสือจ้องตะครุบเหยื่อ ทำให้คนมองเห็นแล้วตกใจกลัว

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset