รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 612 กินโทรศัพท์

บทที่ 612 กินโทรศัพท์
ฉินหลั่งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างไม่ใส่ใจ แต่ปรากฏว่าโทรศัพท์ที่ข่งซิงน่าโยนให้เขาเป็นโทรศัพท์ที่แบตเตอรี่หมดแล้ว
ฉินหลั่งโยนโทรศัพท์ที่โทรออกไม่ได้ลงบนโต๊ะ “คุณผู้หญิงข่ง คุณทำแบบนี้มันไม่มีความหมายเลย”
“มีความหมาย? อะไรที่เรียกว่ามีความหมาย? ถ้าหากนายมีพรรคพวกล่ะ ฉันเอาโทรศัพท์ให้นายตอนนี้ เพื่อให้นายเรียกพวกเขามาช่วยนายแหกคุกเหรอ อ๋อ นายคงจะเห็นว่าฉันเป็นคนโง่สินะ?” ข่งซิงน่าสองมือกอดอกยิ้มอย่างเย็นชา
ในขณะเดียวกัน ในสำนักงานกรมตำรวจแห่งหนึ่ง
“ตูด ตูด……”
ส้งฉางซิงเพิ่งจะนั่งลงได้ไม่ถึงสิบวืนาที เสียงโทรศัพท์ที่แสบแก้วหูดังขึ้น เขาขมวดคิ้วแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
“ใครครับ?” ส้งฉางซิงพูด
ฝ่ายตรงข้ามพูดอะไรไม่กี่คำ ส้งฉางซิงกระโดดลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที แววตาเคร่งขรึมและตั้งใจฟังคำพูดของฝ่ายตรงข้าม
“สถานีตำรวจหน่วยย่อย?”
ส้งฉางซิงพูดเสียงสูง “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
หลังจากนั้นน้ำเสียงของส้งฉางซิงจริงจังขึ้นมาทันที “หน่วยไหน?”
“ได้ ได้ ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้……”
สถานีตำรวจ ฉินหลั่งมองดูโทรศัพท์เครื่องที่ไม่สามารถโทรออกไปได้ด้วยแววตาที่สับสน ข่งซิงน่าคนนี้หวาดระแวงเกินไป
“นี่! เลิกแสดงได้แล้ว! ตั้งใจทำตัววางมาด อยากจะขู่พวกเราใช่หรือเปล่า?”
“ที่นายกำลังจะโทรหาถ้าหากไม่ได้จะโทรหาพรรคพวกที่เหลวไหล ฉันข่งซิงน่ายอมกินโทรศัพท์ทั้งเครื่องเลย”
เพื่อนร่วมงานทั้งสองคนของเธออดไม่ได้ที่จะขำ มองฉินหลั่งก็เหมือนกับมองตัวตลก
ยิ่งไปกว่านั้นที่สถานีตำรวจไม่ว่าคนแบบไหนก็มีทั้งนั้น พวกคนที่ทำตัววางมาดมีอำนาจเยอะแยะไป แต่พอถูกใส่กุญแจมือก็กลายเป็นเด็กดีคุกเข่าขอร้องอ้อนวอนก็มี
ข่งซิงน่าไม่ได้ให้โอกาสฉินหลั่งได้แสดงออกด้วยซ้ำ เธอตั้งใจเอาโทรศัพท์ที่แบตหมดแล้วให้ฉินหลั่ง
ฉินหลั่งยิ้มเล็กน้อย “ผมมักจะรู้สึกว่าพวกคุณต้องดวงซวยแน่ จริงนะ ลางสังหรณ์แบบนี้มันไม่เคยมีมาก่อนเลย”
“ปัญญาอ่อน ทำตัวไร้สาระ”
“ละครที่จะโทรหาคนมาช่วยพังไม่เป็นท่า คราวนี้ก็เลยจะมาเล่นจิตวิทยาไร้สาระกับพวกเราใช่หรือเปล่า?”
“หายนะบ้าบออะไร……”
ข่งซิงน่าพูดพร้อมกับใบหน้าที่เยาะเย้ย “นายพูดไร้สาระแบบนี้มีความหมายหรือเปล่า?”
“ฉันไม่เข้าใจเลย ทำไมหลงเย้นถึงต้องเป็นห่วงนายและขอความเห็นใจแทนนาย”
“เปลี่ยนเป็นฉัน คงจะปล่อยให้คนไร้สารอย่างนายไสหัวไปไกลๆตั้งนานแล้ว”
เพื่อนร่วมงานทั้งสองคนก็ส่ายหัวให้กับฉินหลั่ง แสร้งทำเป็นละอายใจแทน
ใครจะไปรู้ฉินหลั่งไม่เพียงแต่ไม่รู้สึกแย่ในทางกลับกันเขากลับหัวเราะแล้วหัวเราะอีก
เพราะไม่ว่ายังไงฉินหลั่งก็สามารถออกจากที่นี่ได้ดังนั้นเขาจึงไม่รู้สึกเป็นกังวลเลยสักนิด
“พอแล้ว นายไม่ยอมรับข้อกล่าวหาก็ไม่เป็นไร พวกเรามีเวลาเล่นกับนายเยอะแยะ”
ข่งซิงน่าเก็บของพร้อมกับพูดติดตลก “พวกเราไปกินอาหารเช้าก่อน กินเสร็จแล้วค่อยมาเล่นกับนายต่อ ส่วนนายหิวข้าวแล้วก็ลองพิจารณาตัวเองให้ดี”
“หรือไม่ก็รอให้คนใหญ่คนโตที่ไหนมาช่วยนาย”
เธอมั่นใจ ปล่อยให้ฉินหลั่งลำบากซะหน่อยก็จะกลายเป็นเด็กดีเอง
ฉินหลั่งไม่ได้สนใจ เขาหลับตาลงพักสายตาอีกครั้ง
“เกินจะเยียวยาแล้วไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา คิดว่าตัวเองเป็นใคร”
ข่งซิงน่าหัวเราะอย่างเย็นชา หลังจากนั้นก็เดินออกไปพร้อมกับเพื่อนร่วมงาน ตอนที่เพิ่งเดินไปถึงทางออกโถงทางเดิน ก็มีรถออดี้หลายคันขับเข้ามาจอดลงตรงพื้นที่โล่ง
ดูจากป้ายทะเบียนก็รู้เลยว่าเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรมตำรวจ
หลังจากนั้นประตูรถถูกเปิดออก พวกข่งซิงน่ามองเห็นผู้กำกับตี๋และพวกหัวหน้าของตัวเองกำลังรายล้อมชายวัยกลางคนคนหนึ่ง
พวกเขาเดินตรงเข้ามาขึ้นบันได
สีหน้าของพวกข่งซิงน่าเปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอรีบเดินตรงเข้าไปต้อนรับ “ผู้กำกับตี๋สวัสดีตอนเช้า คุณมาได้ยังไง”
“ไม่ต้องเรียกผมผู้กำกับตี๋ วันนี้ผมจะเกษียณแล้ว”
ผู้กำกับตี๋ผายมือไปทางชายวัยกลางคนที่อยู่ด้านข้างเล็กน้อย “นี่ถึงจะเป็นหัวหน้าของพวกคุณ ผู้กำกับส้ง คุณส้งฉางซิง”
พวกข่งซิงน่ารู้สึกตกใจเล็กน้อย ทำไมถึงรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาผู้กำกับส้งคนนี้?
ส้งฉางชิงพูดตรงเข้าประเด็นด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย “พวกคุณเพิ่งจับคนที่ชื่อฉินหลั่งมาใช่หรือเปล่า?”
“ผมต้องการพบเขาเดี๋ยวนี้!”
ส้งฉางซิงพูดพร้อมกับเดินตรงเข้าไปในห้องโถง
ฉินหลั่ง?
พวกข่งซิงน่ารู้สึกตกตะลึงพร้อมกัน บนหน้าผากเริ่มมีเหงื่อผุดออกมา
พวกเขานึกถึงคำทำนายของฉินหลั่งเมื่อกี้ขึ้นมาทันที
ไม่ว่ายังไงพวกเขาก็คิดไม่ถึงว่าจะมีภาพเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น
“น้องฉินหลั่ง นายเจอปัญหาใหญ่แล้ว”
ใกล้เวลาสิบโมงประตูห้องถูกเปิดออกอีกครั้ง ส้งฉางซิงในเครื่องแบบเดินตรงเข้ามา
สีหน้าของเขาดูเป็นกันเองและแฝงไปด้วยความเป็นห่วง
เขาปิดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดแล้วพูดอย่างช่วยไม่ได้ “ฉันคือผู้กำกับส้งฉางซิง ฉันรู้จักนายน้องฉิน”
“ครั้งนี้นายวู่วามไปหน่อย”
ส้งฉางซิงรินน้ำชาร้อนให้กับฉินหลั่งหนึ่งแก้ว “แต่ว่าฉันก็เข้าใจ ได้ยินมาว่านายแค้นเขา ความโกรธมันเป็นเรื่องที่ยากจะหลีกเลี่ยง……”
ฉินหลั่งลืมตาขึ้นมา หลังจากนั้นหยิบชาขึ้นมาดื่มเพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่น “ผู้กำกับส้งผมรู้จักคุณด้วยเหรอ? รู้สึกว่าพวกเราจะไม่เคยเจอกันมาก่อน และไม่มีความสัมพันธ์อะไรกันด้วย? ผมดูออกว่าคุณดีกับผมมาก”
“เหอๆ น้องฉินเรื่องนี้นายไม่ต้องสนใจเอาเป็นว่าฉันรู้จักนายก็พอ” ส้งฉางซิงดูอ่อนโยนและสนิทชิดเชื้อมาก มันเหมือนกับว่าเป็นเพื่อนเก่าแก่ที่ไม่ได้เจอกันมานาน
ฉินหลั่งก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ ความรู้สึกของเขาบอกว่าผู้กำกับส้งไม่ใช่คนเลว เขาจึงพูดขึ้น
“ถ้าหากผมบอกว่าผมไม่ได้ฆ่าคน เมิ่งเหมิงเหมิงเป็นคนกระโดดลงไปเองคุณเชื่อหรือเปล่า?”
ส้งฉางซิงผงะ “กระโดดลงไปเอง?”
ฉินหลั่งพยักหน้า “ถูกต้อง เขาใช้ชีวิตเพื่อกำหนดเกม”
“ผมอยากจะเอาชีวิตของเขาก็จริง แต่ว่าเขาชิงลงมือฆ่าตัวตายไปก่อน”
“ดังนั้นเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับผมเลย ผมไม่ได้ทำและผมก็ไม่สามารถยอมรับว่าไม่ใช่?”
เขากำลังระบายให้ส้งฉางซิงฟัง
“ใช้ชีวิตกำหนดเกม……”
ส้งฉางซิงเป็นคนฉลาด ไม่ช้าแววตาของเขาก็ลุกวาวเป็นประกาย “ดูเหมือนเรื่องนี้จะลึกซึ้งกว่าที่คิด”
“ถ้าไม่ลึกซึ้ง แล้วจะเอาผมมาขังอยู่ที่ระหว่างเรื่องราวได้ยังไง”
ฉินหลั่งพูดติดตลก “เมิ่งเหมิงเหมิงไม่ใช่คนธรรมดา แต่เขากลับเลือกที่จะฆ่าตัวตายเรื่องนี้ผมคิดไม่ถึงอย่างแน่นอน”
“อืม ฉันรู้จักตระกูลเมิ่ง” ส้งฉางชิงพูดด้วยอารมณ์ที่ขี้เล่นพร้อมกับหรี่ตาลง “แต่ว่าฉันส้งฉางซิงเป็นคนมีชื่อเสียงทางด้านไม่เคยไว้หน้าใครและเป็นคนจริงจัง”
ความหมายของเขาก็คือไม่กลัวอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลัง
ส้งฉางซิงนั่งลงตรงข้ามของฉินหลั่ง “ระหว่างทางมาฉันก็พอเข้าใจสถานการณ์บ้างแล้ว แล้วก็ได้ข่าวมาว่าหยางจ้างกั๋วคุณชายใหญ่ตระกูลหยางช่วยนายวิ่งเต้นไปทั่วเพื่อที่จะให้นายพ้นข้อกล่าวหา”
“หยางจ้างกั๋วเป็นถึงคุณชายใหญ่ที่มีชื่อเสียงของเมืองเย็นจีน เมื่อเอาเมิ่งเหมิงเหมิงมาเทียบกับเขาแล้วถือว่ายังห่างชั้นกันอยู่มาก นายรู้จักหยางจ้างกั๋วหรือว่าตระกูลหยางหรือเปล่า?”
“หยางจ้างกั๋วเกลี้ยกล่อมให้พยานหลายสิบคนเปลี่ยนคำให้การ บอกว่าเมิ่งเหมิงเหมิงไม่ทันระวังร่วงจากมือของนาย”
“เมื่อเป็นแบบนี้มันจะส่งผลอิทธิพลต่อเจตนาฆ่าคนเพื่อท้าทายกฎหมายของนายมาก แบบนี้ก็จะกลายเป็นฆ่าคนโดยไม่เจตนาและโทษหนักก็จะกลายเป็นเบา”
“เขายังให้หลงเย้นร่วมมือเพื่อช่วยนายด้วย”
เขาพูดเสริมอีกคำ “หลงเย้นก็ตอบตกลงแล้ว”
“เพื่อช่วยผมให้พ้นจากข้อกล่าวหา?”
“หยางจ้างกั๋ว? เขาเป็นตัวอะไร?”
“ผมไม่รู้จักคนคนนี้ก็เหมือนกับที่ไม่รู้จักคุณ แต่ในความรู้สึกของผมคุณคือผู้สูงศักดิ์ ส่วนหยางจ้างกั๋วคนนั้นพวกเราไม่เคยเจอหน้ากันเลยด้วยซ้ำ”
เมื่อได้ยินคำพูดทั้งหมดของเขาฉินหลั่งหรี่ตาลงหลังจากนั้นยิ้มเล็กน้อย “หยางจ้างกั๋วคนนี้กำลังทำให้ผมไม่มีทางเลือกมากกว่า”
“ในความคิดของผมที่เขาทำแบบนี้ก็เพื่อแลกมาซึ่งความรู้ที่สึกดีของหลงเย้น ผมว่าคุณชายหยางคนนี้ใช้ผมเพื่อทำให้หลงเย้นจดจำความดีของเขาไปตลอดชีวิต”

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset