รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 613 ความตั้งใจของหยางจ้างกั๋ว

บทที่ 613 ความตั้งใจของหยางจ้างกั๋ว
“แล้วถ้าหลงเย้นตอบตกลงเงื่อนไขของหยางจ้างกั๋วบิดเบือนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องราวทั้งหมดที่เธอเห็น ก็เท่ากับว่าเธอเอาจิตสำนึกและความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของตัวเองมาเป็นการแลกเปลี่ยนขายให้กับหยางจ้างกั๋ว เธอก็จะกลายเป็นเด็กผู้หญิงที่ไม่คำนึงถึงความรู้สึกผิดชอบชั่วดี”
ถ้าหากหลงเย้นกลายเป็นแบบนี้ก็เท่ากับว่าหยางจ้างกั๋วได้ควบคุมความคิดของเธอเรียบร้อยแล้ว หลักฐานข้อเท็จจริงที่หยางจ้างกั๋วใช้เส้นสายสร้างขึ้นมา มันสามารถนำข่มขู่บุคคลที่มีความขัดแย้งกับเขาด้วย โดยเฉพาะหลงเย้น เธอแทบจะไม่มีทางโต้แย้งด้วยซ้ำ สิ่งที่เธอทำได้มีเพียงทำตามคำสั่งของหยางจ้างกั๋วอย่างเชื่อฟัง
“คุณลองคิดดูถ้าหากต่อไปผมถูกตัดสินข้อหาฆ่าคนโดยไม่เจตนา แล้วจู่ๆก็มีคนเปิดโปงว่าพยานหลายสิบคนถูกติดสินบนเพื่อให้ผมพ้นข้อกล่าวหา……..”
เขามองไปทางส้งฉางซิง “คุณว่าผมจะถูกสาธารณชนวิพากษ์วิจารณ์อย่างไง?”
“มันจะบดขยี้นายจนตายโดยตรง!”
ส้งฉางซิงเก็บรอยยิ้มของตัวเอง นั่งตัวตรงแล้วพูด “ความคิดเห็นของประชาชนกำลังเดือด ทางการเสื่อมเสียชื่อเสียง และนายจะกลายเป็นวายร้ายตัวยงไปโดยปริยาย บวกกับการประท้วงที่สนามบินจะบีบบังคับจนทางการต้องสั่งลงโทษนายอย่างหนักเพื่อปิดเรื่องนี้ให้เงียบ”
“ไอ้พวกสาระเลว เป็นการวางแผนที่ร้ายกาจจริงๆ”
“ปกติไอ้เด็กน้อยตระกูลหยางคนนั้นมารยาทดีดูไม่มีพิษไม่มีภัยและเป็นคนที่มีความสามารถ อาจจะใช้อำนาจในการกลั่นแกล้งผู้อื่นเป็นบางครั้ง แต่คิดไม่ถึงว่าจิตใจของเขาจะเลวทรามได้ขนาดนี้”
ถ้าหากหยางจ้างกั๋วเป็นคนร้ายกาจอย่างที่ฉินหลั่งพูด ส้งฉางซิงรู้สึกว่าต่อไปคงจะต้องคอยระวังหยางจ้างกั๋วคนนี้บ้าง จะได้หลีกเลี่ยงการตายโดยไม่รู้สาเหตุ
“ถูกต้อง พยานเท็จพวกนั้นไม่เพียงแต่จะช่วยผมพ้นข้อกล่าวหา มันยังจะกลายเป็นมีดสองคมที่หันกลับมาแทงผมให้ตาย”
ฉินหลั่งพยักหน้าเล็กน้อย “เกรงว่าถึงแม้หยางจ้างกั๋วจะไม่ฆ่าผมในทันที แต่เขาก็สามารถใช้บุญคุณครั้งนี้มาขี่เล่นบนหัวของผม”
“ดังนั้นคุณต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นกลาง อย่าปล่อยให้พวกเขาเปลี่ยนคำให้การ”
ในขณะเดียวกันเขาก็พึมพำกับตัวเองในใจ หลงเย้นเอ๋ยเธอยังไม่รู้จักความโหดร้ายของโลกใบนี้……
“ไม่ต้องเป็นห่วงฉันจะคอยรับผิดชอบคดีนี้เอง จะไม่ปล่อยให้ใครยื่นมือเข้ามายุ่งอย่างแน่นอน”
ส้งฉางซิงพยักหน้าเล็กน้อย หลังจากนั้นลุกขึ้นเดินไปรอบๆห้อง “แต่ถ้าดูอย่างผิวเผินแล้ว ทั้งพยานและวัตถุล้วนมีผลกระทบต่อนายมาก”
“นอกจากยังไม่มีคนเห็นเมิ่งเหมินเหมินเป็นคนโดดลงไปเองด้วย สถานที่เกิดเหตุก็ไม่มีหลักฐานอะไรให้ตรวจสอบเลย”
“พวกเราหารอยเท้าของเมิ่งเหมิงเหมิงเจอ แต่ไม่สามารถหาข้อพิสูจน์มายืนยันว่าเขาไม่ได้ตั้งใจเหยียบโดนหรือว่าเขาเป็นคนถีบตกลงไปเอง”
“นายอยากจะพ้นข้อกล่าวหาทั้งหมดมันคงจะยาก”
เขารู้ดีว่าฉินหลั่งมีวิธีมากมายที่สามารถออกจากที่นี่ได้
เฉพาะในฐานะผู้ลาดตระเวนที่หนึ่งก็เพียงพอที่เขาจะบดขยี้ของหลายสิ่งหลายอย่างแล้ว แต่การทำแบบนี้มันจะทำให้ชื่อเสียงของเขาเปื้อนไปตลอดชีวิต
และแน่นอนฉินหลั่งก็ต้องใช้ชีวิตพร้อมกับแบกรับชื่อเสียงในฐานะฆาตกรไปตลอดชีวิต
“ตอนนี้ด้วยหลักฐานในที่เกิดเหตุมันยากที่จะทำให้นายพ้นข้อกล่าวหา”
บนใบหน้าของฉินหลั่งไม่มีท่าทีของความหนักใจเลยสักนิด เห็นได้ชัดว่าเขามีวิธีแก้ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนี้แล้ว “แต่ว่าพวกเราสามารถเปิดช่องว่างจากตัวของเมิ่งเหมิงเหมิง…….”
ส้งฉางซิงหรี่ตาลง “เมิ่งเหมิงเหมิง?”
ฉินหลั่งพยักหน้าเล็กน้อย หลังจากนั้นบอกให้ส้งฉางซิงเดินเข้ามาแล้วกระซิบที่ข้างหูของเขา
ส้งฉางซิงเริ่มแรกมีท่าทีไม่เข้าใจ แต่ไม่นานตาของเขาก็ลุกวาวเป็นประกายและในที่สุดเขาก็แสดงความมั่นใจออกมา “คิดจะแก้เงื่อนกระดิ่งก็ย่อมต้องมีคนผูก”
“ถูกต้อง ถูกต้อง นี่เป็นวิธีการเพื่อให้ศัตรูเปิดช่องว่าง”
เขายกนิ้วโป้งให้กับฉินหลั่ง หลังจากนั้นก็เดินตรงไปทางประตู “ฉันจะสั่งให้คนจัดการเดี๋ยวนี้”
“ปัง—–”
ส้งฉางซิงเพิ่งเดินไปถึงได้ครึ่งทาง ประตูห้องก็ถูกคนผลักออกอย่างแรง
หลังจากนั้นก็มีผู้ชายหน้าเหลี่ยมเดินเข้ามาโดยมีคนเจ็ดหรือแปดคนรายล้อม
ข่งซิงน่าก็อยู่ในนั้นด้วย
ฉินหลั่งเงยหน้าขึ้นมอง
ผู้ชายหน้าเหลี่ยมน่าจะมีอายุประมาณห้าสิบ ร่างกายสูงใหญ่ยืดอกหลังตรงโดยเฉพาะดวงตาคู่นั้นดูเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์ใดๆ เผยให้เห็นถึงท่าทางของผู้บังคับบัญชา
เขามีหน้าตาคล้ายคลึงกับส้งฉางซิงอยู่หลายส่วน
ทั้งห้องเนื่องจากการมีอยู่ของเขามันทำให้เต็มไปด้วยแรงกดดันที่หนักแน่นจนทำให้รู้สึกหายใจลำบาก
ข่งซิงน่าเงียบสนิทไม่กล้าพูดอะไร
ส้งฉางซิงตกตะลึงไปชั่วขณะ หลังจากนั้นก็พูดออกมาโดยไม่รู้ตัว “พี่ใหญ่ พี่มาได้ยังไงเนี่ย?”
หลังจากนั้นเขาขมวดคิ้วแล้วพูด “ฉินหลั่งนี่เป็นพี่ชายของฉัน ส้งฉางเว่ย”
“รู้ว่าแกทำเรื่องไร้สาระแล้วฉันจะไม่มาได้ยังไง?”
ส้งฉางเว่ยพูดตำหนิส้งฉางซิง “โตขนาดนี้แล้วอะไรที่ควรทำอะไรที่ไม่ควรทำ ไม่รู้บ้างเลยเหรอ?”
“แกคิดว่าที่นี่เป็นบ้านของตัวเองหรือยังไง ใครอนุญาตให้แกใช้อำนาจบิดเบือนกฎหมายเพื่อเรื่องส่วนตัว?”
ส้งฉางซิงรีบอธิบาย “พี่ใหญ่ ผมไม่ได้……..”
“หุบปาก!”
“มานี่ตั้งแต่เช้ายังบอกว่าไม่อีก?”
หลังจากที่ส้งฉางเว่ยด่าว่าส้งฉางซิงเป็นชุด เขาสองมือไขว้หลังเดินตรงไปพูดกับฉินหลั่งด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม “แกก็คือฉินหลั่ง”
“มีเรื่องอะไรก็จัดการตามกระบวนการ แกเรียกน้องชายของฉันมาทำไม?”
“ฉันจะขอบอกแกเป็นครั้งสุดท้าย พวกเราสองพี่น้องไม่ใช่เด็กวิ่งเต้นของแก เรื่องของแกแกก็จัดการเอง”
“แกอย่ามาลากคนอื่นให้ซวยไปด้วย!”
“คุณเป็นใคร? มีสิทธิ์อะไรมาสั่งสอนผม?” ฉินหลั่งรู้สึกขำเล็กน้อย
“ฉันเป็นรองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการยา ฉันไม่มีสิทธิ์กักขังแกแต่ฉันมีสิทธิ์ที่จะอบรมแก เพราะแกก็เป็นหมอคนหนึ่งและฉันยิ่งมีสิทธิ์อบรมน้องชายของฉัน”
“แกทำแบบนี้ก็เท่ากับจะลากน้องชายของฉันจมน้ำไปด้วยอีกคน แกรู้จักน้องชายของฉันได้ยังไง ช่างเป็นคนที่รู้จักใช้ลู่ทางเพื่อช่วยตัวเองเสียจริง!” ส้งฉางซิงพูดด้วยความโกรธ
เป็นหมอคนหนึ่งมีความเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมแล้วยังไม่ยอมสารภาพแต่โดยดี และยังคิดจะเดินทางลัดใช้ความสัมพันธ์ลากส้งฉางซิงจมน้ำไปด้วยอีกคน ในสายตาของส้งฉางเว่ยรู้สึกดูถูกมาก
“พี่ น้องฉินไม่ได้เป็นคนลากผมลงน้ำ แต่ผมมารับผิดชอบเรื่องนี้เองต่างหากเพราะนี่คือหน้าที่ของผม ผมควรจะสืบหาความจริงไม่ใช่ใส่ร้ายคนอื่น” ส้งฉางซิงพูด
“ถุ้ย!”
“ฉันจะไม่อนุญาตให้เรื่องแบบนี้มาทำให้เสื่อมเสียเด็ดขาด!” ส้งฉางซิงพ่นลมออกจากจมูก
ฉินหลั่งพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา “คุณฉางเว่ย คุณเข้าใจผิดแล้วผมไม่ได้เดินทางลัด…….”
“ยังจะเล่นลิ้นอีก?”
ส้งฉางเว่ยมองฉินหลั่งด้วยสีหน้าที่เย็นชา
ผู้ชายคนนี้คิดจะผูกมิตรมาถึงครอบครัวของเขามันช่างกล้าดีเสียจริง
ถ้าหากเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับส้งฉางซิง ส้งฉางเว่ยแทบอยากจะกดดันและสอบสวนฉินหลั่งให้หนักเพื่อที่จะได้รู้ว่ามีผู้เคราะห์ร้ายกี่คนแล้วด้วยซ้ำ
ฉินหลั่งแบมือทั้งสองข้าง “ผมไม่ได้เล่นลิ้น ที่ผมเรียกผู้กำกับส้งมาก็เพื่อหวังว่าเขาจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นกลาง ไม่ปล่อยให้คนอื่นมาช่วยผมให้พ้นข้อกล่าวหา”
“ไร้สาระสิ้นดี!”
ส้งฉางเว่ยพ่นลมออกจากจมูก เขาไม่ได้ถามรายละเอียดแต่กลับมองว่าฉินหลั่งเป็นคนยุยง “นอกจากฉางซิงแล้วยังจะมีใครช่วยแกให้พ้นจากข้อกล่าวหาอีก?”
“ที่แกเรียกเขามาก็เพื่อที่จะให้เขาปกป้องแกไม่ใช่เหรอ?
แกจะให้เขาบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นกลาง คิดว่าพวกเราเป็นพวกสมองหมูหรือยังไง?”
“อายุก็ยังน้อยเรื่องเคารพกฎหมายและวินัยไม่มีเลย แต่พวกเรื่องเหลวไหลไร้สาระนี่เก่งจริง”
ไม่รู้ว่าเขาไปโกรธมาจากไหน “มีฉันอยู่ เรื่องพวกนี้ของแกมันไม่ง่ายหรอก”
“คดีนี้ฉันจะใช้ความสัมพันธ์ทั้งหมดเพื่อยับยั้งไม่ให้ส้งฉางซิงมีส่วนร่วม และฉันจะส่งจดหมายไปแผนกที่เกี่ยวข้องเพื่อขอให้ส้งฉางชิงอยู่ห่างจากคดีนี้”
ส้งฉางเว่ยขัดคำพูดของซ่งฉางซิงพร้อมกับนิ้วมือชี้ไปที่พวกข่งซิงน่า “ควรจะทำยังไงก็ทำอย่างนั้น ไม่ต้องสนใจส้งฉางซิง”
ส้งฉางเว่ยในฐานะที่เป็นรองผู้อำนวยการของสำนักงานคณะกรรมการยา เส้นสายของเขาถือว่าแข็งแกร่งกว่าของส้งฉางซิงไปมาก ยิ่งไปกว่านั้นส้งฉางซิงยังเป็นน้องชายแท้ๆของเขา การที่เขาจะหยุดส้งฉางซิงไม่ว่าจะด้านอิทธิพลหรือความสัมพันธ์ มันแทบจะสามารถสร้างความกดดันให้กับฉินหลั่งได้อย่างมาก
ถึงแม้ว่าส้งฉางเว่ยจะไม่ใช่คนของกรมตำรวจ แต่ก็ไม่มีใครกล้าเพิ่งเฉยต่อคำพูดของส้งฉางเว่ย

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset