รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 587 กลับสู่สามัญ

บทที่ 587 กลับสู่สามัญ
ฉินหลั่งโคจรปราณแท้เล็กน้อยหลังจากนั้นกดที่หัวของอิงจิ่งหลั่งเบาๆแล้วพูด
“เรียบร้อย”
“ขอบคุณคุณฉิน ขอบคุณคุณฉิน พระคุณของคุณฉินฉันจะไม่มีวันลืม” อิงจิ่งหลิงก้มหน้าลงในใจเต็มไปด้วยความนับถือ
“เธอไม่ต้องดีใจ ฉันแค่ยืดระยะเวลากำเริบของอาการออกไปเท่านั้น ก็แค่อาการกำเริบจะถี่น้อยลงไม่ได้รักษาจนหายขาด”
ฉินหลั่งพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย “อาการของเธอจะกำเริบครั้งต่อไปในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าและฉันจะทำการรักษาให้เธอล่วงหน้า ที่ฉันทำแบบนี้ไม่ได้เป็นเพราะว่าสงสารเธอแต่เป็นเพราะว่ามีข้อแม้”
“ข้อแม้อะไร ข้อแม้ของคุณฉินฉันยอมทำตามทุกอย่าง” อิงจิ่งหลิงก้มหน้าลงพูดพร้อมกับในใจสั่นสะท้าน
“ฉันจะทำลายวรยุทธทั้งหมดของเธอ ต่อไปเธอก็จะเป็นเพียงแค่คนธรรมดาได้หรือเปล่า?” ฉินหลั่งยกฝ่ามือขึ้น
“ได้!” อิงจิ่งหลิงตอบกลับไปโดยแทบจะไม่ลังเลสักนิดพร้อมกับพยักหน้า
ฉินหลั่งพยักหน้าแล้วจี้จุดลงบนร่างกายของอิงจิ่งหลิง เธอรู้สึกสัมผัสได้ถึงปราณแท้ภายในร่างกายของตัวเองเหมือนถูกไฟฟ้าช็อต หลังจากนั้นร่างกายของเธอสั่นสะท้านและต่อมาก็ผ่อนคลายลง
ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดหรือแม้กระทั่งไม่ได้รู้สึกอะไรมาก อิงจิ่งหลิงกำหมัดของตัวเอง เหมือนกับคนธรรมดาทั่วไปไม่มีความแข็งแกร่งของวรยุทธหลงเหลืออยู่
เธอคิดว่าฉินหลั่งได้ทำลายวรยุทธ์ของเธอไปแล้ว แต่ในความเป็นจริงฉินหลั่งเพียงแค่ปิดกั้นจุดชีพจรหลักของเธอรอให้วันไหนฉินหลั่งอารมณ์ดี วรยุทธของอิงจิ่งหลิงยังสามารถฟื้นฟูกลับมาได้
สีหน้าของอิงจิ่งหลิงดูปกติไม่มีความโกรธหรือความเกลียดในทางกลับกันมันดูเต็มไปด้วยความขอบคุณ
“ได้โปรดช่วยรับฉันไว้ด้วย หญิงสาวชาวญี่ปุ่นอย่างเราคาดหวังที่จะได้อยู่ข้างกายของชายที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุด ฉันจะทำหน้าที่สาวใช้ให้ดีที่สุด ได้โปรดนายท่านรับฉันไว้ด้วย! ขอร้อง!”
ผู้หญิงคนนี้จริงใจมากเธอเอาหน้าผากแนบชิดกับพื้น ทำให้ฉินหลั่งรู้สึกว่าความคิดของผู้หญิงญี่ปุ่นแปลกมาก
ไม่ได้รู้สึกถึงความเกลียดชังหรือไม่มีความเจ็บปวดเลยสักนิด? ฝ่ายตรงข้ามดูเต็มเปี่ยมไปด้วยความขอบคุณไม่เห็นแววของความเครียดแค้นเลย
ฉินหลั่งไม่ได้สนใจเธอ
ส่วนอิงจิ่งหลิงก็ไม่ย่อท้อเธอคุกเข่ารออยู่ที่หน้าประตูสามวันสามคืนรอให้ฉินหลั่งยอมตอบตกลง
วันที่สี่ ฉินหลั่งพบว่าอิงจิ่งหลิงที่คุกเข่าอยู่หน้าประตูร้านยาปุ่นฉ่าวตัวแข็งทื่อไปแล้ว
เขาขมวดคิ้ว หลายวันมานี้สวี่ซีเหวินอยู่กับเขามาโดยตลอด และรู้สึกเกินความคาดหมายเกี่ยวกับพฤติกรรมของอิงจิ่งหลิง ด้วยจรรยาบรรณของแพทย์จึงพาอิงจิ่งหลิงเข้ามาอยู่ในคลินิกแทน
“นายท่าน โปรดรับฉันไว้ด้วยฉันไม่มีบ้านให้กลับไปแล้ว ช่วยสงสารฉันด้วยเถิด” หลังจากที่อิงจิ่งหลิงฟื้นขึ้นมาประโยคแรกที่เธอพูดคือคำนี้
“เถ้าแก่ฉินรับเธอไว้เถอะ พวกเราต่างก็เป็นผู้หญิงฉันดูออกว่าเธอมีความจริงใจและซื่อสัตย์ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าระหว่างพวกคุณเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ตอนนี้เธอสามารถพึ่งพาได้อย่างแน่นอน สัมผัสที่หกของผู้หญิงมักไม่เคยผิดพลาด” สวี่ซีเหวินอดไม่ได้ที่จะขอร้องเเทน
เก็บนักฆ่าเลือดเย็นแบบนี้ไว้ในร้าน? ฉินหลั่งขมวดคิ้ว
“ก็ได้ ตอนนี้ฉันเป็นเถ้าแก่ของร้านยาปุ่นฉ่าวที่เพิ่งรับช่วงต่อ หมอ ผู้ช่วยหรือภารโรงก็ไม่มีสักคน”
“เธอมาเป็นผู้จัดการของร้านยาปุ่นฉ่าวก็แล้วกัน แน่นอนผู้จัดการเป็นแค่ในนามความจริงก็คือทำงานของภารโรง”
ฉินหลั่งเสนอสวัสดิการในการรับสมัครงาน “เงินเดือนเริ่มต้นไม่สูงมาก เริ่มที่ห้าพัน กินฟรีอยู่ฟรีและมีค่าคอมมิชชั่นให้ด้วย”
อิงจิ่งหลิงดูประหลาดใจมาก “หา นายท่านเป็นเจ้าของร้านยาปุ่นฉ่าว?”
“อืม” ฉินหลั่งตอบอย่างเย็นชา
ในใจของอิงจิ่งหลั่งรู้สึกซาบซึ้งมาก เธอรู้ดีว่าฉินหลั่งตั้งใจรับเธอไว้
ไม่อย่างนั้นไม่ต้องพูดถึงห้าพันแม้แต่ห้าร้อยก็ไม่มีใครรับนักฆ่าอย่างเธอ
“คุณไม่กลัวฉันแก้แค้นเหรอ?” อิงจิ่งหลิงพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา
“เธอกล้าเหรอ ผิดพลาดนิดเดียวฉันก็จะทำให้เธอตายดีกว่ามีชีวิต…….” ในแววตาของฉินหลั่งเผยให้เห็นถึงความเยือกเย็นทำให้อิงจิ่งหลิงเย็นวูบในใจ
เธอรู้สึกละอายใจกับสิ่งที่ทำและตัดสินใจในอดีตแล้ว
ชีวิตของเธอเป็นของฉินหลั่ง
“แล้วแต่นายท่านจะลงโทษ”
อิงจิ่งหลิงยื่นมือออกไปจับมือกับฉินหลั่ง
รอยยิ้มของทั้งสองทำให้ลืมบุญคุณความแค้นทั้งหมด
เมื่อมีคลินิกหนึ่งแห่งก็เท่ากับว่าฉินหลั่งมีที่ยืนแล้ว เขาคิดไม่ถึงว่าหลังจากที่เริ่มกิจการมันเต็มไปด้วยเรื่องที่เหนือความคาดหมาย
เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจะอยู่ในวงการแพทย์หรืออสังหาริมทรัพย์
เย็นจีนเต็มไปด้วยความโหดร้ายและทารุณ ฉินหลั่งไม่ได้รีบร้อนหลังจากที่สั่งงานทุกอย่างให้กับอิงจิ่งหลิงแล้วก็สั่งให้สวี่ซีเหวินไปรับสมัครพนักงาน
เพียงแต่ว่าตลอดทั้งสามวันไม่มีคนมาสมัครงานที่ร้านยาปุ่นฉ่าวเลย ไม่ต้องพูดถึงหมอแม้แต่นักการภารโรงก็ไม่เห็นมีใครมาถาม สวี่ซีเหวินนึกถึงร้านยาปุ่นฉ่าวที่คึกคักและอัดแน่นไปด้วยคนในอดีต แต่ตอนนี้เหลือเพียงความว่างเปล่าทำให้เธออดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าอมทุกข์
แต่ฉินหลั่งดูเหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไรเลยและยังอาศัยช่วงเวลาที่ว่างอบรมอิงจิ่งหลิงเป็นชุด
วันที่สี่ เมื่อฉินหลั่งไม่เห็นคนไข้หลังจากที่กินข้าวเช้าเสร็จก็แวะไปที่สถานบำบัดฟื้นฟู
วันนี้เป็นวันนัดตรวจของหลินเส้าโสแต่ปรากฏว่าตาแก่หมอเทพสวี่หายหัวไปไหนไม่รู้ หลินเส้าโสจึงโทรศัพท์มา ฉินหลั่งจึงทำได้แต่ต้องแวะมาดู
เก้าโมงเช้า ที่สถานบำบัดฟื้นฟูฉินหลั่งตรวจอาการของหลินเส้าโสแล้วรู้สึกประหลาดใจกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพร่างกายของเขา
“ฉินหลั่ง ฉันเป็นอะไร?”
หลินเส้าโสพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นเหมือนกับก้อนน้ำแข็งพันปีที่ทำให้ผู้คนรู้สึกยากที่จะเข้าใกล้
แต่สำหรับฉินหลั่งมันดูอ่อนโยนเหมือนกับสายลมฤดูใบไม้ผลิ เขาพูดออกมาทีละคำ “ไม่เป็นอะไร อาหลินคุณยังไหว แค่คุณบอกผมมาตามตรงก็พอ”
“อาหลิน สภาพร่างกายของคุณแตกต่างจากคนทั่วไป”
ฉินหลั่งค่อยๆปล่อยชีพจรของหลินเส้าโสแล้วยิ้ม “เดิมทีผมคิดว่าคุณต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามเดือนในการฟื้นฟูกลับสู่สภาวะของคนปกติ ครึ่งปีถึงจะกลับไปเป็นเหมือนกับยี่สิบปีก่อน”
“แต่เมื่อลองตรวจดูร่างกายของคุณฟื้นตัวได้พอสมควรแล้ว”
“ถึงแม้จะไม่รู้ว่ากำลังของคุณฟื้นฟูกลับมามากแค่ไหนแล้ว แต่ทางด้านจิตใจถือว่าดีมาก”
“เรียกได้ว่าคุณฟื้นตัวเต็มที่แล้ว เป็นอิสระแล้ว”
และเขายังได้ตบน่องทั้งสองข้างของหลินเส้าโส “แน่นอนว่าช่วงนี้คุณอย่าเพิ่งฝืนมากเกินไป ขาทั้งสองข้างของคุณจะค่อยๆปรับสภาพเข้ากับร่างกายไปเรื่อยๆ”
“ฮ่าๆๆๆ การที่ฉันหายดีล้วนแต่เป็นความดีความชอบของแก
หลินเส้าโสดูดีใจมาก “ถ้าหากไม่มีทักษะการแพทย์ของแกและการชำระล้างของแก รวมไปถึงเขียนใบสั่งยาไว้ให้ด้วย ฉันจะดูกระปรี้กระเปร่าได้ขนาดนี้เหรอ?”
เขารู้สึกชื่นชมในตัวของฉินหลั่งมาก
“อาหลินเกรงใจเกินไปแล้ว นี่เป็นหน้าที่ส่วนหนึ่งของหมอ”
ฉินหลั่งยิ้มแล้วยิ้มอีก “คุณอย่ามองผมเป็นคนนอกแบบนี้สิ”
“เด็กน้อย แกไม่เข้าใจ”
หลินเส้าโสจับมือของฉินหลั่งไว้พร้อมกับตบที่หลังมือของเขา “ถ้าหากฉันไม่ได้พบกับแก ถึงแม้ไม่ตายก็กลายเป็นคนพิการไปแล้ว”
“และฉันคงไม่มีวันจุดประกายความหวังของตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง”
น้ำเสียงของเขาจริงใจมาก “ตอนนี้โลกที่มืดมนมันดูสว่างขึ้น ฉันรู้สึกขอบคุณแกมาก”
ไม่รู้ว่าทำไมฉินหลั่งถึงรู้สึกว่าสายตาที่หลินเส้าโสมองตัวเองมันแปลกๆ และมักจะจับมือของเขาไว้ราวกับว่ากลัวเขาจะจากไปอย่างกะทันหัน
“วันนี้แดดดีและอารมณ์ของฉันก็ดีด้วย ฉินหลั่งพาฉันไปเดินเล่นที่วัดหน่อย”
จู่ๆหลินเส้าโสก็พูดความต้องการของตัวเอง “ฉันอยากจุดธูปบูชาพระ”
ฉินหลั่งพยักหน้าเล็กน้อย “ได้ ผมจะพาคุณไป”
ที่ด้านข้างของสถานบำบัดฟื้นฟูเอกชนแห่งนี้ติดกับอารามวัด ปกติไม่ได้มีผู้คนมาจุดธูปบูชามากนัก ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่มาพักรักษาตัวที่สถานบำบัดฟื้นฟูไปจุดธูปและพักผ่อน

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset