รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 586 ร้านยาที่อ้างว้าง

บทที่ 586 ร้านยาที่อ้างว้าง
เหตุผลที่เหล่าพนักงานของร้านยาปุ่นฉ่าวกล้าแข็งข้อกับฉินหลั่งเป็นเพราะว่าพวกเขารู้สึกว่ายังไงฉินหลั่งก็ต้องเชิญพวกเขากลับมา
เพราะฉินหลั่งไม่เพียงแต่ไม่มีความสามารถอะไรยิ่งไปกว่านั้นไม่มีแขกประจำหมุนเวียนเข้ามา เขาเพิ่งเข้ามาดำเนินกิจการร้านยาปุ่นฉ่าวถ้าหากไม่พึ่งพาพวกเขาแล้วจะเปิดร้านยังไง?
อย่างมากก็สามวัน ฉินหลั่งจะต้องมาคุกเข่าต่อหน้าพวกเขา
หลังจากนั้นคนไข้หลายสิบคนสบตากัน ลังเลอยู่พักหนึ่งแล้วก็วิ่งหนีหายไปหมด
แม้แต่ชายวัยกลางคนและคุณนายสุดสวยก็หายไปด้วย
ถึงแม้ว่าฉินหลั่งจะทำได้ดีและพูดถูกทุกอย่าง แต่ยังไงพวกเขาก็ยังเชื่อมั่นทักษะการแพทย์ของอานซินและคนอื่นๆมากกว่า
หลังจากที่คนพวกนี้จะไป ร้านยาปุ่นฉ่าวก็เหลือเพียงความว่างเปล่า
ห้องโถงที่กว้างใหญ่เงียบสงบเหลือเพียงฉินหลั่งและสวี่ซีเหวินสองคน
สายลมเย็นพัดผ่านยิ่งทำให้รู้สึกหนาวสั่น
“เถ้าแก่ฉิน นี่…….”
สวี่ซีเหวินมองดูคลินิกที่ว่างเปล่า รู้สึกเหนื่อยใจอย่างบอกไม่ถูก
เธอคิดไม่ถึงว่าพอฉินหลั่งมาถึง ร้านยาปุ่นฉ่าวที่อัดแน่นไปด้วยผู้คนก็ว่างเปล่าในทันที
แล้วแบบนี้จะไปอธิบายกับพ่อยังไง
“เห้อ คนไปหมดแล้ว ได้พักหายใจสักที”
ฉินหลั่งหาเก้าอี้ตัวหนึ่งแล้วนั่งลง เพลิดเพลินกับการพักผ่อนที่หาได้ยากอย่างเกียจคร้าน
ถึงแม้ว่าเขาจะกลายเป็นเจ้านายที่ไม่มีลูกน้อง แต่อย่างน้อยในวงการแพทย์ก็มีจุดยืนของตัวเองแล้ว
ความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับโชคชะตา เดิมทีทักษะการแพทย์เป็นเพียงวิชาลับแขนงหนึ่งของยาวเย่วกง เมื่อหลายปีก่อนตอนที่อาจารย์ยายและลูกศิษย์คนอื่นๆเก็บตัวฝึกฝนในภูเขา จำเป็นต้องมีทักษะการแพทย์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของตัวเอง อาจารย์ยายอาศัยหลักและเหตุผลของวรยุทธ์คิดค้นทักษะการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมมากมาย ในขั้นแดนวิถีแห่งเซียนทักษะการแพทย์เรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นของประเทศจีน เพียงพอที่จะทำการรักษาอย่างภาคภูมิใจ
ดังนั้นฉินหลั่งจึงไม่ได้รู้สึกเป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องที่คนพวกนี้ไปแม้แต่นิดเดียว ยิ่งไปกว่านั้นไปให้หมดถึงจะดี แบบนี้เขาถึงจะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ได้
“เถ้าแก่ฉินคนไปหมดแล้ว”
สวี่ซีเหวินที่ยืนอยู่ด้านข้างของฉินหลั่งแทบจะร้องไห้ออกมาโดยไม่มีน้ำตา “ต่อไปร้านยาปุ่นฉ่าวจะดำเนินกิจการต่อยังไงเนี่ย?”
“ไม่มีคนถือว่าเป็นเรื่องดี เราจะได้พักหายใจอย่างเต็มที่ หรือว่าเธอชอบให้งานยุ่งตั้งแต่เช้าจนมืด?”
ฉินหลั่งหาว “ตอนนี้ไม่มีคนฉันขอนอนสักงีบ เธอไปเดินช็อปปิ้งก่อนก็ได้”
สวี่ซีเหวินหัวเราะอย่างขมขื่น “ไม่ใช่แบบนั้น ถ้าไม่มีคนคลินิกจะไม่เจ๊งเหรอ?”
ฉินหลั่งพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา “เจ๊งก็เจ๊งสิ พวกเราขาดสนเงินค่าปรึกษานั่นด้วยเหรอ?”
“ถึงแม้ฉันจะไม่มีชื่อเสียงและเส้นสายเหมือนท่านวี่ แต่ด้วยความสามารถของฉันยังไงก็สามารถสร้างผลกำไรได้ยี่สิบหรือสามสิบล้าน และภายในหนึ่งปีเปิดอีกสักสองสามสาขา แค่นี้คลินิกก็สามารถอยู่ได้แล้ว”
เขาโบกมือเบาๆ “เธอไปเที่ยวเถอะ”
สวี่ซีเหวินกำลังจะอ้าปากพูดแต่ทันใดนั้นสายตาของเธอก็สังเกตเห็นเงาร่างหนึ่ง
เธอหันมองไปที่ประตู ตรงนั้นมีผู้หญิงสวมหมวกและค้ำไม้เท้าเพิ่มมาอีกหนึ่งคน
ฉินหลั่งหันหน้าไปมองแล้วสะดุ้ง “อิงจิ่งหลิง?”
“สวัสดี ที่นี่ยังรับพนักงานภารโรงหรือเปล่า…….” อิงจิ่งหลิงที่เดินเข้ามาในห้องโถงมองไม่เห็นฉินหลั่ง เธอจ้องมองไปที่ใบรับสมัครพนักงานที่ติดอยู่ตรงหน้าประตูแล้วตะโกนถาม
ร้านยาปุ่นฉ่าวกว้างใหญ่คนมากและต้องทำงานหนักมาก ดังนั้นพนักงานภารโรงจึงเข้าออกยังเป็นว่าเล่นและแทบจะต้องเปิดรับสมัครตลอดปี
“ไม่รับแล้ว”
สวี่วีเหวินตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ “คุณลองไปดูที่อื่นเถอะ”
ร้านยาปุ่นฉ่าวแทบจะเจ๊งอยู่แล้วยังจะจ้างพนักงานอีกทำไม?
ฉินหลั่งลุกขึ้นมา “สวัสดี”
อิงจิ่งหลิงพี่กำลังจะจากไปพร้อมกับใบหน้าที่ผิดหวังเมื่อได้ยินมีคนพูดขึ้นก็หันกลับไปมอง
“ฉินหลั่ง?”
ทันทีที่เห็นฉินหลั่งสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปในทันที หลังจากนั้นก็ก้มหน้าแล้วรีบเดินไปทางประตู
รีบเขย่งไม้เท้าของตัวเองเดินด้วยความเร่งรีบ
“เห้อ เห็นฉันแล้วทำไมต้องเดินหนีด้วย?”
ฉินหลั่งรีบเดินตามออกไปจับแขนของอิงจิ่งหลิงไว้ “เธอกำลังหางานอยู่เหรอ?”
เขารู้ดีอิงจิ่งหลิงในตอนนี้คงจะตกอับถึงขีดสุดแล้ว โรคลมบ้าหมูไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปจะสามารถรักษาได้ยิ่งไปกว่านั้นหอการค้าเทียนอิงที่เธออาศัยอยู่ก็ถูกฉินหลั่งจัดการไปแล้ว
ดังนั้นเมื่อเห็นเธอหลบหน้าของตัวเองจึงทำให้ฉินหลั่งเริ่มรู้สึกสนใจขึ้นมาบ้างเล็กน้อย
อิงจิ่งหลิงก้มหน้าไม่ได้ตอบกลับ เพียงแต่ว่าในแววตาของเธอเต็มไปด้วยความอับอายอย่างเห็นได้ชัดราวกับว่าไม่อยากให้เห็นฉินหลั่งเห็นสภาพที่ตกอับของเธอ
ฉินหลั่งพูดติดตลก “สำนักหมอผีไม่ได้ให้เธอกลับไปญี่ปุ่นเหรอ?”
“ไม่ใช่ คุณฉินฉันไม่มีหน้ากลับไปต่างหาก สำนักหมอผีเป็นเรื่องจริง ตอนนี้ฉันก็เหมือนกับสุนัขที่ไร้เจ้าของ”
อิงจิ่งหลิงแสดงสีหน้าที่น่าสังเวช แต่เสน่ห์และความงามที่น่าหลงใหลของเธอยังคงปรากฏให้เห็น
“เธอเคยบอกจะทำข้อตกลงร่วมกับฉัน เธอจะแฝงตัวเข้าไปทำงานให้ฉันในสำนักหมอผีแต่ดูเหมือนว่าเธอจะผิดคำพูดแล้ว” ฉินหลั่งพูด
“ไม่ คุณฉิน คุณยังจำได้หรือเปล่าว่าทำไมเหลิ่งเชียนชีวถึงไปช่วยเหลือคุณที่วิลล่าได้พอดี? นั่นเป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้ฉันแอบชี้ทางให้กับเขา”
อิงจิ่งหลิงพูด “ฉันเป็นคนมีสัจจะพูดคำไหนคำนั้น เพียงแต่ว่าฉันรู้สึกว่าผลลัพธ์เหล่านี้มันยังไม่เพียงพอที่จะมาเจรจากับคุณเรื่องการปลดปล่อยความทรมานของฉัน”
“โอ๋?” ฉินหลั่งครุ่นคิด ดูเหมือนว่าการปรากฏตัวของเหลิ่งเชียนชีวมันก็ถือว่าพอดีเป๊ะ หรือว่าอิงจิ่งหลิงจะคอยช่วยเหลืออยู่ในมุมมืดจริง?
“แล้วทำไมเธอถึงได้ตกอับมาถึงขนาดนี้ได้?” ฉินหลั่งถาม จอมยุทธ์ฝีมือระดับสูงไม่น่าเป็นแบบนี้ ถึงแม้ว่าฉินหลั่งจะลงโทษเธอแต่ก็ไม่น่าจะตกอับได้ถึงขนาดนี้
เธอคนนี้มีแผนการมากมาย จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นเป็นไปได้หรือไม่ที่เธอตั้งใจแต่งตัวแบบนี้ก็เพื่อที่จะทำให้ได้รับความเห็นอกเห็นใจจากฉินหลั่ง?
“คุณฉิน คุณต้องกำลังสงสัยฉันอยู่แน่ แต่ตอนนี้ฉันได้ลาออกจากวงการนักฆ่าแล้ว คนอย่างพวกเราใช้เงินเหมือนสายน้ำไม่เคยมีเงินเก็บ บวกกับโรคของและโทษของฉันดังนั้นฉันจึงทำได้แต่หางานทำชั่วคราวเพื่อหาที่อยู่อาศัย” อิงจิ่งหลิงพูด
“คุณสบายใจได้ ก่อนที่ฉันจะได้ช่วยคุณแก้ปัญหาสำคัญฉันจะไม่มีทางมารบกวนคุณอย่างแน่นอน ฉันไปล่ะคุณฉิน”
อิงจิ่งหลิงหันหลังแล้วเดินไปทางด้านนอกด้วยความยากลำบาก
“รอก่อน!”
ฉินหลั่งหยุดอิงจิ่งหลิงไว้อีกครั้ง “อิงจิ่งหลิง บุญคุณความแค้นระหว่างเธอกับฉันยังไม่จบสิ้น เธอไม่เกลียดฉันเหรอ?”
“ฉันไม่เกลียดคุณ ไม่เกลียดจริงๆ คนที่ทำงานอย่างพวกเราถ้าหากมีความเกลียดชังเกรงว่าพวกเราคงจะตายเพราะความเกลียดชังของศัตรูไปตั้งนานแล้ว ทั้งหมดย่อมมีเหตุและผล ฉันรู้สึกว่าคุณเป็นคนใจกว้างด้วยซ้ำที่ไม่ได้ฆ่าฉัน นี่ถือว่าเป็นพระคุณอันใหญ่หลวงแล้ว” อิงจิ่งหลิงพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา
“อืม เธอพูดแบบนี้แล้วฉันรู้สึกพอใจมาก” ฉินหลั่งพูด “วันนี้ฉันเป็นที่ปรึกษา เธอลองเล่าอาการของเธอให้ฉันฟังหน่อย”
วันนี้ฉินหลั่งถือว่าอารมณ์ดี ดังนั้นเมื่อเห็นสภาพที่น่าสงสารเขาอิงจิ่งหลิงเขาจึงอยากจะช่วยเธอรักษา เพียงแต่ว่าไม่แน่ว่าจะรักษาให้หายขาด อีกฝ่ายเป็นนักฆ่า ถ้าหากรักษาเธอให้หายเธอก็จะกลับไปฆ่าคนอีก
อิงจิ่งหลิงรู้สึกอึ้งไปทั้งตัว เธอหันกลับมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินเห็นเพียงเธอรีบเอามือของตัวเองเช็ดน้ำตา
หลังจากนั้นก็คุกเข่าลงกับพื้นอย่างเชื่องช้าแล้วเอาหัวโขกกับพื้นคาราวะฉินหลั่งสามครั้งอย่างจริงจัง
“คุณฉินเป็นคนดีมีจิตใจเมตตาอิงจิ่งหลิงจะไม่ลืมพระคุณครั้งนี้ ฉันเป็นคนมีบาปติดตัวคิดจะเอาชีวิตของคุณ แล้วฉันจะคู่ควรรับความเมตตาจากคุณได้อย่างไง ฉันสมควรตาย ฉันสมควรตาย……”
“อืม เธออย่าเพิ่งซาบซึ้ง มานี่ก่อน” ฉินหลั่งโบกมือ อิงจิ่งหลินที่คุกเข่าอยู่ตรงพื้นใช้เข่าทั้งสองข้างคลานไปข้างหน้าเหมือนกับสุนัขที่เชื่อฟังเจ้าของ
ตั้งแต่เธอยังเป็นเด็กสิ่งที่ได้ยินและได้เห็นล้วนแต่เป็นหญิงร้ายชายโฉดที่คนนี้โหดเหี้ยมกว่าคนนั้น หลังจากที่ถูกฉินหลั่งลงโทษเธอกลับรู้สึกขอบคุณที่สามารถมีชีวิตรอดมาได้ และในใจของเธอเต็มไปด้วยความซาบซึ้งที่มีต่อฉินหลั่ง เพราะในคืนนั้นถ้าหากเป็นเธอ เธอจะไม่มีทางไว้ชีวิตอย่างแน่นอน
เมื่อฉินหลั่งได้พบกับเธอ เธอไม่ได้ทำตามข้อตกลงจนสำเร็จด้วยซ้ำ แต่ฉินหลั่งไม่เพียงแต่ไม่ได้ใส่ใจและยังเอ่ยปากจะรักษาเธอ เรื่องนี้มันยิ่งทำให้อิงจิ่งหลิงรู้สึกซาบซึ้งจนเห็นฉินหลั่งกลายเป็นผู้มีพระคุณไปแล้ว
บางครั้งความคิดของคนญี่ปุ่นก็มักจะแปลกแบบนี้…….

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset