บทที่ 520 ขั้นที่ยอดเยี่ยมที่สุดlowมาก
ร่างเหย่หยวนเม๋ยจื่อกระเด็นออกจากแรงกระแทก กระแทกที่โต๊ะอย่างแรง โต๊ะไม่สามารถทนต่อแรงนี้ได้ แตกเป็นเสี่ยง ๆทันที อาหารและเครื่องดื่มตกลงพื้น
เพียงแค่ตบหนึ่งที เหย่หยวนเม๋ยจื่อก็จืดจางไปเลย เลือดไหลออกจากมุมปาก
ผู้ชมเงียบกันทั้งห้อง
ตะลึงกันหมด แม้แต่เสี้ยงเฟยสงที่ไม่พอใจก็ตะลึงมาก
ลูกศิษย์ศิลปะการต่อสู้คนอื่นๆมองฉินหลั่งอย่างตะลึง เดากันว่าแรงตบของฉินหลั่งต้องมีแรงที่ทรงพลังมาก
เมื่อครู่ตอนที่ทุกคนสู้กับเหย่หยวนเม๋ยจื่อ รู้ถึงความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้เป็นอย่างดีในใจ มันดีมากในระดับไหน ดังนั้นบ้านตระกูลจงจึงส่งนักศิลปะการต่อสู้ที่มีกำลังภายในที่ยอดเยี่ยมไปรับมือ
แต่เพียงแค่ฉินหลั่งตัวต่อตัว ในสถานการณ์ที่ลงมือโดยมีด เหย่หยวนเม๋ยจื่อไม่เพียงฆ่าฉินหลั่งไม่ได้ ตรงกันข้ามกลับลอยออกไปเพราะแรงน้อยนิดของฉินหลั่ง
ดุร้าย ดุร้ายมาก
ดุร้ายกว่าฉันเหลิ่งเชียนชีวเป็นหลายร้อยหลายพันเท่า…………เหลิ่งเชียนชีวใบหน้าแสดงออกถึงความชื่นชม แต่เดิมเขาเสนอฉินหลั่งเป็นประธานก็เพื่อขอบคุณที่ช่วยลูกสาวของเขาไว้ ไม่ค่อยยอมรับในศิลปะการต่อสู้ของฉินหลั่งเท่าไหร่ วันนี้เพียงแค่ตบเดียว ก็เข้าใจเลยว่าฉินหลั่งนี้สุดยอดจริงๆ ตัวเองก็ยอมรับว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉินหลั่ง
เหย่หยวนเม๋ยจื่อใบหน้าเศร้าโศกและโกรธ เดิมทีต้องการสร้างความหายนะให้กับฉินหลั่ง แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกทุบตีเป็นหมูตายในภายในไม่กี่วินาที
“ไอ้ชั่วหน้าด้าน”
เหย่หยวนเม๋ยจื่อตกต่ำถึงสุดขีด “คุณกล้าตบหน้าฉันได้อย่างไร”
“ผลัวะ”
เหย่หยวนเม๋ยจื่อยังไม่ทันตอบกลับ ฉินหลั่งก็ตบลงมาอีกหนึ่งที เหย่หยวนเม๋ยจื่อล้มแล้วบินออกไปอีกหนึ่งครั้ง ครั้งนี้แรงกงว่าครั้งแล้วมาก เหย่หยวนบินไปไกลกว่าสิบเมตร หัวกระเซิงอายมาก ดิ้นอยู่บนพื้นหลายสิบวินาทีก่อนจะลุกขึ้นอีกครั้ง
โดนตบหน้าข้างละหนึ่งที หน้าของเหย่หยวนเม๋ยจื่อบวมจนดูไม่ได้ แม้แต่ตาก็ยังหรี่ลง มองไม่เห็นเค้าโครงเดิมเลย
คนสวย เมื่อครู่ตอนเข้ามาอย่างร้อนรน นั่นคือใบหน้าที่สวยงาม
ผู้คนที่ตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายนี้ อดไม่ได้ที่จะยิ้ม
“ท่านไร้ยางอายเอง พูดจาเยาะเย้ยถากถาง ไม่เคารพศิลปะการต่อสู้เย็นจีนของฉัน ก็ต้องโดนตบหน้าเช่นนี้ล่ะ”
ฉินหลั่งหายใจเข้าเบาๆ มองไปที่ฝ่ามือที่เรียบเนียนของตัวเอง
ต่อมา ฉินหลั่งก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ไม่ได้มีเชิงอะไร ตรงไปที่หน้าของเหย่หยวนเม๋ยจื่อตบไปมา เหย่หยวนเม๋ยจื่อส่ายหน้าซ้ายขวาไปมา น่าสังเวชมาก
จนฉินหลั่งเบื่อในที่สุด ถึงตบท้ายเหย่หยวนเม๋ยจื่อบินออกไป
บรรยากาศในสถานการณ์ จะอธิบายอย่างไรดี ทุกคนอ้าปากค้าง พูดไม่ออก
ฝีมือการต่อสู้เยี่ยมมาก กลายเป็นลูกบอลแล้ว เหย่หยวนเม๋ยจื่อ คนสวยของญี่ปุ่น อุส่าเดินทางมาที่นี่เป็นระยะทางหลายพันไมล์ เพื่อมาลิ้มรสการตบ
น่าสังเวช นักต่อสู้ทุกคนที่มีสถานะมักจะให้ความสำคัญกับใบหน้าของตัวเองมากที่สุด โดยเฉพาะญี่ปุ่นก็ไม่ต่างกัน หน้าของเหย่หยวนเม๋ยจื่อถูกตบจนพังไปหมดเลย คงไม่ชักมีดฆ่าตัวตายนะ
เป็นความอับอายที่ไม่เคยมีมาก่อน ศิษย์เอกของสำนักหมอผี แย่เหมือนนักเลงข้างถนนที่กำลังแคะจมูกใบหน้ายุ่งเหยิง ที่โกรธที่สุดคือ ไม่มีโอกาสหลบได้ หลบไม่ได้แม้แต่ครั้งเดียว
ก่อนหน้าที่ใช้สายตาชำเลืองมองฉินหลั่งด้วยความรังเกียจและดูถูก ความเย่อหยิ่ง ตอนนี้มันกลายเป็นเรื่องตลกที่สุด
ไม่มีแค่เหย่หยวนเม๋ยจื่อคาดไม่ถึง แม้แต่ศิษย์พี่กลฉีขุยใบหน้าก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
ศิษย์น้องเหย่หยวนเม๋ยจื่อกลายเป็นคนอ่อนแอตั้งแต่เมื่อไหร่
แค่ภายในไม่เสี้ยววินาที ก็ถูกตบจนก้มหาฟันบนพื้น สีหน้าของนักสู้หายไปทันที
สำหรับนักศิลปะการต่อสู้ท่านอื่นๆที่เข้าร่วมงานเลี้ยงในครั้งนี้ ทุกคนรู้สึกตื่นเต้น วงการศิลปะการต่อสู้มีประธานที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่ง นี่ไม่ใช่กำลังหัวเราะพูดคุยกันอยู่ดีๆ ก็ถูกบินหายไปอย่างไม่รู้ตัวเหรอ
เมื่อก่อนเคย ได้ยินมาว่าประธานฉินเก่งมาก แต่ก็เพียงแค่ได้ยิน ไม่เคยเห็นตัวจริง ตอนนี้ได้เห็นกับตาแล้ว แค่ยกมือก็ฆ่าคนได้ ทุกคนเป็นคนในวงการ รู้ดีว่าถ้าฉินหลั่งคิดจะเอาชีวิตเหย่หยวนเม๋ยจื่อ แค่ครึ่งท่าขบวน เหย่หยวนก็ไปพบยมบาลแล้ว
เหลือเชื่อ ศิลปะการต่อสู้ของท่านประธานอยู่ในระดับไหน
“คุณคือปรมาจารย์ขั้นที่ยอดเยี่ยมที่สุด”
กลฉีขุยเดินมา สีหน้าเคร่งขรึมมาก แต่ก็ไม่กล้าที่จะดูถูกฉินหลั่งอีก แต่มีการระวังตัวเล็กน้อย
เป็นไปได้อย่างไร
ปรมาจารย์ขั้นที่ยอดเยี่ยมที่สุด
รวมเหย่หยวนเม๋ยจื่อไปด้วยกับนักสู้ของญี่ปุ่น สีหน้าทุกคนเปลี่ยน ตะลึงมาก ที่ศิษย์พี่พูดเป็นเรื่องจริงเหรอ
คนคนนี้เป็นปรมาจารย์ขั้นที่ยอดเยี่ยมที่สุด แทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเลย
แต่พวกเขาก็รู้ว่าส่วนใหญ่ก็ถูกต้อง เพราะศิษย์พี่ไม่กล่าวผิด
เพียงไม่กี่ตบ ก็สามารถทำให้ตัวเองบินออกไปแล้ว เหย่หยวนเม๋ยจื่อรอยยิ้มขมขื่น นี่เป็นสิ่งที่ปรมาจารย์ทั่วไปไม่มีทางทำได้ เหมือนว่าตัวเองเป็นหมูที่โง่มากตัวหนึ่ง เหมือนว่าไม่มีศิลปะการต่อสู้ในตัวเลย
แต่เดิมตั้งใจจะมาฆ่าฉินหลั่ง ใครจะไปรู้ ในสายตาของทุกคนในตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากตัวตลกตัวหนึ่ง
ณ เวลานี้ฉินหลั่งยิ้นอย่างเย็นชา “ปรมาจารย์ขั้นที่ยอดเยี่ยมที่สุด”
“ฮ่าๆ” เขายักไหล่ “ฉันlowขนาดนั้นเลยเหรอ”
“อะไรนะ” กลฉีขุยมุมปากกระตุกเล็กน้อย
ฟังความหมายของฝ่ายตรงข้าม ศิลปะการต่อสู้ของฉินหลั่งสูงกว่าขั้นที่ยอดเยี่ยมที่สุดอีกเหรอ ขั้นที่สูงกว่าขั้นที่ยอดเยี่ยมที่สุดก็มีแค่แดนฟ้า แดนฟ้าเหรอ
แดนฟ้า กลฉีขุยตั้งสติ……….
ทันใดนั้นกลฉีขุย ตะโกนออกมา “ฉันไม่เชื่อว่าที่ประเทศจีนจะมีปรมาจารย์ที่เป็นแดนฟ้า มีคนที่เหนือกว่าปรมาจารย์ของฉัน ฉินหลั่ง คุณก็แค่คุยโวโอ้อวดตัวเอง เพื่อยกระดับตัวเองเพื่อจะได้นั่งบนตำแหน่งประธานอย่างมั่นคง”
จงเส่นซานเบ้ปากอยู่ข้างๆ “ไอ้โง่”
คนอื่นไม่รู้ แต่จงเส่นซานรู้ดีว่า ฉินหลั่งไม่เคยสนใจตำแหน่งประธานนี้เลย รับตำแหน่งแบบไม่เต็มใจด้วยซ้ำ พ่อของตัวเองต้องพยายามแค่ไหนถึงได้เชิญฉินหลั่งออกจากถ้ำ เพื่อมารับตำแหน่งนี้ได้
“ฮ่าๆ ฉันประเมินคุณต่ำไป คุณเป็นปรมาจารย์คนที่ใกล้ชิดแดนฟ้า แต่คุณสบายใจได้ ฉันก็คือปรมาจารย์แดนฟ้า อาจารย์ของฉันก็คือปรมาจารย์แดนฟ้าระดับสาม สูงกว่าชั้นสามระดับ แต่จะเลื่อนระดับได้หนึ่งระดับนั้นต้องใช้เวลาในการฝึกฝนสิบกว่าปีหรือทั้งชีวิต คุณ กับฉันดูเหมือนจะไม่แตกต่างกันมาก แต่ แตกต่างในเรื่องเวลาหลายสิบปีในการฝึกฝน”
“ศิษย์น้องเหย่หยวนเม๋ยจื่อ แม้ชื่อเสียงจะโด่งดังในญี่ปุ่น ล้มลงเพราะมือคุณนั้นย่อมมีสาเหตุ ประมาทดูถูกศัตรู ก็ต้องเสียเปรียบ หวังว่าคุณจะจำเหตุผลข้อนี้ไว้” กลฉีขุยพูดช้าๆ
“อืม ศิษย์พี่” เหย่หยวนเม๋ยจื่อที่ถูกทุบตีเหมือนหมู ก้มหน้าด้วยความนับถือ และยอมรับ
“ฉินหลั่ง…….” กลฉีขุยหันไปหาฉินหลั่งอย่างช้าๆ ยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “ฉันอยู่บนโลกนี้มาหลายสิบปี แต่ยังไม่เคยเห็นปรมาจารย์แดนฟ้าที่หนุ่มขนาดนี้มาก่อน โดยเฉพาะที่ประเทศจีน ศิลปะการต่อสู้ที่สูญหายไป แต่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว และเก่งขนาดนี้ได้อย่างไร วันนี้ฉันขอประลองกับคุณสักครั้ง เพื่อดูว่าคุณแน่อย่างที่นักสู้ในประเทศจีนที่โม้ไว้หรือไม่”
“เพราะ ฉันก็คือแดนฟ้า แดนฟ้าที่หาที่เปรียบไม่ได้ ศิลปะการต่อสู้ที่สูงที่สุด”
“มา มา มา คุณรีบเข้ามา มาประลองกับฉัน”
กลฉีขุยสีหน้าดูเย่อหยิ่งสุด ๆ เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อว่าฉินหลั่งเป็นปรมาจารย์แดนฟ้า เขาเย้ยหยันศิลปะการต่อสู้ของประเทศจีน เต็มไปด้วยความรังเกียจ
ขณะพูด กลฉีขุยชักดาบยาวที่เอวออกมา สองมือถือดาบไว้ ยกปลายมีดขึ้น แววตาเย็นชา จ้องฉินหลั่งอย่างไม่กะพริบตา