รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 416 ลูกสาวเศรษฐีอันดับหนึ่งชอบไถเงิน

บทที่ 416 ลูกสาวเศรษฐีอันดับหนึ่งชอบไถเงิน
“งั้นพี่ใหญ่ ฉันเชื่อพี่ ทว่าคืนนี้คงไม่ได้แล้วแหละ?” จ้าวซิงกล่าวออกมา
“ยังต้องเรียนต่ออีก” จ้าวซิงพูดเสริม
“ได้ งั้นรอวันหยุดสุดสัปดาห์! ฉันเป็นพี่ใหญ่ของแก ฉันมีเรื่องให้แกทำแกคงไม่ปล่อยผ่านทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อนใช่ไหม” ชายชุดดำถาม
“พี่ใหญ่ ไม่เป็นแบบนั้นหรอก” จ้าวซิงตอบ
“ดี งั้นแกทำเรื่องนี้สำเร็จ ฉันก็จะไม่เอาเงินจากแกอีกแล้ว แต่ถ้าเล่นตลกกับฉัน หมายความว่าหักหลังพี่ใหญ่ คนที่หักหลังพี่ใหญ่ตามกฎแล้วเป็นไง แกเข้าใจดี” ชายชุดดำพูดจาอย่างโหดเหี้ยม
“ฉันเข้าใจ พี่ใหญ่” จ้าวซิงตบหน้าอกตอนที่กล่าวออกมา
“นักเรียนหญิงที่พามาต้องสวยนะ พามาเยอะยิ่งดี! ลงไปได้แล้ว!” ชายชุดดำโบกมือไล่ คนพวกนั้นเอาตัวจ้าวซิงลงจากรถแล้วปล่อยตัวไป
เมื่อจ้าวซิงเดินกลับไปแล้ว ชายชุดดำก็ยิ้มให้อย่างเย็นชา
ระยะนี้ เสี่ยหลายๆ คนในที่นี่ต้องการนักเรียนตัวจริงเสียงจริง ชายชุดดำเลยคิดจ้าวซิงที่ช่วยชี้ช่องทางให้
หลังจากที่จ้าวซิงเรียกเพื่อนผู้หญิงออกมาแล้ว ต้องมีเรื่องแน่ ถ้าไม่มีเรื่องแล้วทำไมพี่ใหญ่ต้องทำให้เรื่องมันลำบากด้วย?
อีกฝั่ง ฉินหลั่งรีบไปยังห้องทำงานของครูใหญ่อย่างเร่งด่วน
ในห้องทำงานครูใหญ่มีนักเรียนผู้หญิงอยู่มากมาย มีทั้งเอามือปิดปากยืนร้องไห้กระซิกกระซี้ นักเรียนผู้หญิงเหล่านั้นดูเหมือนว่าจะได้รับความตกใจจนเสียสติไปอยู่ไม่น้อย บนใบหน้ายังมีรอยขีดข่วน เป็นรอยแผลที่โดนคนทำร้ายมา
ฝั่งตรงข้ามของพวกผู้หญิงเหล่านี้คือนักเรียนที่สูงปราดเปรียว เด็กนักเรียนคนนี้ผมสีฟ้า มุมปากกระตุกขึ้น แววตาดูไม่ใส่ใจอะไรทั้งสิ้น แถมยังใส่ถุงมือสีดำที่ไม่มีนิ้วมือแยกออกมา ใบหูข้างหนึ่งมีต่างหูวงใหญ่ร้อยเอาไว้ บริเวณลำคอมีรอยสักที่มีเสืออ้าปากโผล่ออกมาแวบๆ ใบหน้าแต่งหน้าเข้ม ริมฝีปากสีฉูดฉาดจนเป็นจุดเด่น
นักเรียนหลายคนร้องไห้ระงมพร้อมทั้งกำลังพูดอะไรสักอย่าง นักเรียนหญิงที่มีรอยสักแสดงท่าทีทั้งดูถูกดูแคลน ท่าทางเย็นชามาก
พอมองแวบๆ ก็คือสาวๆ ที่ยืนอยู่ข้างทางเช่นนั้นแหละ
ฉินหลั่งเดินเข้ามาแล้วกวาดตามอง ดวงตาหลายคู่ต่างจ้องเขา
“ทำไม?” ตอนนี้ฉินหลั่งรู้สึกว่าการที่รับปากว่าจะมาที่โรงเรียนมัธยมหัวเจี๋ยนั้นมันเป็นเรื่องที่แสนทรมานอย่างหนึ่ง ไม่เหมือนกับฉากฆ่ากันในสนามการประลองฝีมือ และก็ไม่มีความรู้สึกผ่อนคลายสบายใจเหมือนตอนที่อยู่เถาหยวน เพราะมันเป็นความรู้สึกที่เหมือนโดนบีบบังคับเหมือนเล่นพ่อแม่ลูกมาครั้งแล้วครั้งเล่า
แน่นอนว่าฉินหลั่งรู้สึกว่าเรื่องพวกนี้มันแสนจะธรรมดากว่าการผายลมเสียอีก เพราะว่าเขาผ่านเรื่องมาตั้งมากมายแล้ว
“ทำไม?” จูจี้เหวินยิ้มให้อย่างเย็นชา พร้อมทั้งตบโต๊ะไปด้วย “หรือว่าเรื่องนี้มันเล็กๆ หรือยังไง? ถึงได้ทำหน้าไม่ทุกข์ไม่ร้อนเลย? ฉันจะบอกแกให้ รอให้ทางตำรวจมาแล้ว หม่าเซียวเซียวต้องติดคุกก็ได้! เพราะว่านี่เป็นเรื่องที่แสนทุเรศของกฎที่เข้มงวดของโรงเรียน โรงเรียนมัธยมหัวเจี๋ยของเราเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงโด่งดัง แล้วจะให้ปล่อยผ่านเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ไปได้เหรอ?!”
ไอ้เหี้ย ทางราชการมีกฎเข้มงวด แต่ว่าฉินหลั่งรู้ดีว่า จูจี้เหวินอาศัยกฎพวกนี้ เอามาเพื่อจงใจพูดกับฉินหลั่งโดยเฉพาะ!
เวลานี้หลิวซูเซิงที่เป็นหมาคอยเลียแข้งเลียขารีบพูดเสริมทันที
“นี่มันผิดกฎหมาย”
ตะเบ็งเสียงดังลั่นจนเหมือนว่าเป็ดโดนเอามีดจ่อคอหอยเช่นนั้น
ก่อนหน้านี้ใครล่ะไม่รู้ว่าหม่าเซียวเซียวมีพฤติกรรมรุนแรงในโรงเรียนมัธยมหัวเจี๋ย แต่ด้วยอำนาจทางบ้านของหม่าเซียวเซียว จูจี้เหวินทำได้แค่ปิดตาไว้ข้าง ทำเหมือนมองไม่เห็นไม่มีเรื่องนี้เกิดขึ้น เพราะว่าพ่อของหม่าเซียวเซียวเป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งของเขตเฟิงโจว ใครกล้าจะไปแตะต้องลูกสาวของเขา แต่ว่าตอนนี้ไม่เหมือนเดิม จูจี้เหวินเริ่มทำตัวแตกแยก เขาต้องการจะใช้วิธีในการจัดการฉินหลั่ง ดังนั้นเลยกล้าที่จะเอาเรื่องกับหม่าเซียวเซียว
ไหนๆ ก็ลงมือแล้ว งั้นต้องทำเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องใหญ่ เพื่อจะจัดการฉินหลั่งให้ได้!
“อาจารย์จู คุณนี่มันเก่งจริง ไปขุดเรื่องไหนมาสร้างประเด็นอีกล่ะ?” ฉินหลั่งยิ้มให้
“เหรอ คุณพูดอะไรก็ไม่มีประโยชน์แล้ว เพราะว่าผมแจ้งตำรวจไปแล้ว” จูจี้เหวินพูดอย่างได้ใจ
“หืม? งั้นไม่มีเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับคุณแล้วสิ เดี๋ยวให้ทางตำรวจเข้ามากันการเถอะ คุณไปได้แล้ว” ฉินหลั่งกล่าว
“พูดมาได้ไงว่าฉันไม่เกี่ยว ฉันเป็นถึงคณบดีฝ่ายวิชาการ ทุกเรื่องในโรงเรียนฉันเป็นคุณดูแลทั้งหมด หม่าเซียวเซียวคนนี้เป็นเด็กในชั้นเรียนของพวกคุณ หลังเลิกทบทวนวิชาในห้องแล้วไม่ยอมกลับบ้าน แถมยังแอบมาที่หอพักหญิงแล้วเรียกเก็บค่าคุ้มครองอีก คนคนนี้ถูกตกเป็นผู้ต้องหา”
จู้จี้เหวินใช้นิ้วชี้มาที่ใบหน้าหม่าเซียวเซียวที่หน้าต่างหยิ่งจองหอง
“อาจารย์จู แกเองก็เป็นนักศึกษาที่จบมาจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง ตอนนี้ยังเป็นคณบดีฝ่ายวิชาการ ควรเป็นแบบอย่างครูที่ให้กับนักเรียน ให้เกียรติคนอื่น พ่อมึงสอนว่าเวลาพูดกับคนอื่นใช้นิ้วมาชี้หน้าคนอื่นถือว่าเป็นพฤติกรรมที่สมควรไหม?” ฉินหลั่งสบถด่าทันที แถมแสดงท่าทีกับจูจี้เหวินที่มีแต่อาการเรียกร้องความยุติธรรมแต่ความจริงมีแต่ความเคียดแค้นเต็มอก ก็ไม่สมควรจะไว้หน้าอีกแล้ว
“ไอ้แซ่เฉิน แก…ทุกครั้งที่เห็นหน้าฉันก็ด่าทอฉัน …. ทำให้ฉันขายหน้าทุกครั้ง!” จูจี้เหวินโมโหได้แต่มันเขี้ยวเคี้ยวฟัน
“คุณกำลังปกป้องในทางสิ้นคิด เธอแบล็คเมล์เพื่อน ทุบตีเพื่อน แถมยังเรียกเก็บค่าคุ้มครอง พวกเราตักเตือนเธอไปไม่กี่ประโยคแล้วยังไง?! หรือว่าเด็กผู้หญิงที่ถูกทำร้ายไม่ใช่คนหรือไง?” หลิวซูเซิงรีบพูดแขวะ
“ความเห็นใจของพวกนายฉันจะไม่เข้าใจได้ยังไง? แกทำทุกอย่างก็เพื่อช่วยเหลือนักเรียนหญิงที่ถูกตบแบบนี้เหรอ?” ฉินหลั่งใกล้จะหลุดหัวเราะอยู่แล้ว เขาย่อมรู้เรื่องหม่าเซียวเซียวเพราะว่าเขาเองก็เป็นครูประจำชั้นยังไงย่อมต้องจัดการให้เรียบร้อยอยู่แล้ว แต่ว่าเมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับ “อาจารย์” ทั้งสองคนที่จิตใจหยาบช้า เขาก็รู้ทันทีว่าอย่าตกหลุมพรางของพวกเขาอย่างง่ายดาย
“หม่าเซียวเซียว หล่อนมากับฉัน!” ฉินหลั่งเดินเข้ามาพร้อมทั้งดึงหม่าเซียวเซียวมาด้วย
“ไอ้แซ่เฉิน ฉันขอเตือนแก ตอนนี้เธอตกเป็นผู้ต้องสงสัย! แกเห็นแก่ตัวปล่อยตัวเธอไปก็ถือว่าสมรู้ร่วมคิดด้วย!” จูจี้เหวินรีบดึงสติกลับ พร้อมทั้งตะคอกหลักการในเชิงยุติธรรมออกไป!
“ใครบอกล่ะว่าฉันจะปล่อยตัวเธอไป ฉันก็แค่ไม่อยากให้เธอเห็นตัวอย่างไม่ดีที่ฉันพามาด้วย”
ฉินหลั่งพาหม่าเซียวเซียวมาทางเดิน แคบๆ ข้างห้องทำงาน
จากนั้นก็หันกลับไปถาม
“เซียวเซียวเอาเงินพวกหล่อนไปเท่าไหร่?”
นักเรียนหญิงเหล่านั้นร้องไห้จนไม่มีเสียงพูดออกมา ความจริงแล้วจูจี้เหวินได้สัญญากับพวกเธอเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ว่าให้พวกเธอแกล้งทำตัวน่าสงสารเอาไว้
“ทำไม? แซ่เฉิน แต่ต้องการหาทางปิดปากเหรอ?” จูจี้เหวินลุกขึ้นยืนแล้วเอามือเท้าสะเอวพร้อมทั้งตะคอกใส่
“เด็กสาวแนวฮิปฮอปคนนั้น ดูก็รู้แล้วว่าไม่ได้เรื่องอะไรสักอย่าง ช่างหน้าด้านจริงๆ! แกอยากจะปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ ฝันไปเถอะ!” หลิวซูเซิงด่าทันควัน
“เพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะ!”
ฉินหลั่งใช้หลังมือตบหน้าจูจี้เหวินไปสามที จูจี้เหวินไม่ทันได้ป้องกันไว้ก่อน จากนั้นก็หมุนตัวไปหลายรอบถึงล้มไปกองกับพื้น
“ดีนี่! แกกล้าทำร้ายคณบดี?!” หลิวซูเซิงตะโกนอย่างบ้าคลั่ง ท่าทางตีโพยตีพายอย่างสุดกำลัง
“แกก็โดนด้วย!” ฉินหลั่งรีบพุ่งเข้าหาทันที พร้อมทั้งตบหน้าหลิวซูเซิงหลายทีติดต่อกัน หลิวซูเซิงกรีดร้องเหมือนหมูที่กำลังโดนเชือด จากนั้นก็ล้มลงไปกองกับพื้นอย่างไม่มีเสียง
น้ำหนักที่ตบหน้าถึงสามครั้งย่อมมีแน่นอน แต่ว่าเหตุที่หลิวซูเซิงเป็นลมไปนั้น เขาตกใจจนเป็นลมไปต่างหาก
เวลานั้นด้านนอกได้ยินเสียง จนมีอาจารย์หลายคนวิ่งเข้ามาหา
“เฮ้ย เกิดเรื่องอะไรขึ้น? คณบดีจู? อาจารย์หลิว?!”
จูจี้เหวินกุมหน้าเอาไว้แล้วพยายามลุกขึ้น
“ฉินหลั่งทำร้ายคน! อย่าให้เขาวิ่งไปได้! ตำรวจใกล้จะเข้ามาทุกที!”
อาจารย์หลายคนต่างตกใจจนต้องมองไปทางฉินหลั่ง ทั้งหมดนี่ฉินหลั่งเป็นคนทำเหรอ? เขายังโหดเหี้ยมมาก ขนาดจูจี้เหวินก็ใกล้จะเป็นหมาหัวเน่าไปแล้ว

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset