รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 349 เชิญธิดาเทพแห่งพรรคกลับบ้าน

บทที่ 349 เชิญธิดาเทพแห่งพรรคกลับบ้าน
จงยู่ยืนขึ้นจากเก้าอี้นกฟินิกซ์ ใบหน้าซีดเซียวเล็กน้อย เธอไม่เข้าใจว่าทำไมชาวต่างๆ ชาติแปลกๆ พวกนี้ถึงได้อ่อนน้อมกับเธอขนาดนี้
ใบหน้าที่เหมือนดอกไม้ท่ามกลางสายฝนของเธอทำให้ผู้พิทักษ์ฉานเย่วจิตใจหวั่นไหว ลักษณะท่าทางของจงยู่จะว่ายังไงดี นอกจากธิดาเทพแห่งพรรคสำนักช้างจันทรา ก็ไม่มีใครมีเสน่ห์ได้ขนาดนี้อีกแล้ว พวกสาวๆ ที่ถูกมัดอยู่บนเสาหินเพื่อรอการเผาเมื่อก่อนนั้น ไม่มีใครเทียบกับออร่าของจงยู่ได้สักคน
“พวกนาย……เป็นใครกัน? มาจากอินเดียงั้นเหรอ? พวกเราไม่รู้จักนะ”จงยู่เหมือนกวางน้อยที่ตกใจกลัว
“ธิดาเทพแห่งพรรค!พวกเรามาจากเมืองอมูลองที่อินเดีย คุณจงเสวี่ยนเย่นส่งพวกเรามารับธิดาเทพแห่งพรรคกลับบ้าน คุณผู้หญิงคิดถึงลูกสาวทุกวันคืน กินไม่ได้ นอนไม่หลับ โชคดี ที่ในที่สุดในประเทศจีน พวกเราก็ตามหาท่านธิดาเทพแห่งพรรคเจอ”
ผู้พิทักษ์ฉานเย่วโพล่งเรื่องไร้สาระออกมา แนบหัวลงกับพื้น แต่ว่าสายตาก็ไม่ได้ละเลยความตื่นตัว เขาเป็นคนที่มีฝีมือด้านการต่อสู้สูงที่สุดในบรรดาสี่ผู้พิทักษ์ และก็สามารถปรับตัวได้ตามสถานการณ์ และในหัวก็ไม่ได้มีศีลธรรมอยู่ในนั้นเลย เพราะแบบนี้ซ่าหมี่เทอถึงได้ชื่นชมยกย่องเขา
“คุณจงคือลูกสาวแท้ๆ ของจงเสวี่ยนเย่นยังงั้นเหรอ? ” ในห้องโถงปั่นป่วน แล้วก็มีเสียงดังเล็กน้อย
ผู้คนมีความรู้สึกแคลงใจเหมือนมีเมฆหมอกปกคลุมไว้ รู้สึกว่าโลกใบนี้ช่างลึกลับเสียจริง จงเสวี่ยนเย่นตายไปเมื่อ20ปีก่อนไม่ใช่เหรอ?
มีเพียงแค่จงเส่นซานเท่านั้นที่รู้ความเป็นไปเป็นมาของเรื่องนี้ เขารีบตะโกนว่า “จงยู่ อย่าไปฟังเขา คนคนนี้มันมีแผนชั่ว ต้องไม่ใช่คนดีอะไรอย่างแน่นอน รีบมานี่เลย”
จงเส่นซานโบกมือ แล้วก็มีหลายสิบคนพุ่งไปข้างหน้าทันที เตรียมจะไปแย่งคนกลับมา และผู้พิทักษ์ฉานเย่วก็ไม่ได้ลังเลเลยแม้แต่นิดเดียว เขาบินด้วยความเร็วที่สุด จับจงยู่ไว้เบาๆ ทำให้ร่างกายที่สวยงามและประณีตของจงยู่เต้นขึ้นมาทันที จงยู่พูดว่า “ปล่อยฉันลงนะ นายคิดจะทำอะไร!? ”
ผู้พิทักษ์ฉานเย่วจะกล้าทำร้ายจงยู่แม้แต่น้อยที่ไหนกัน เขาพูดด้วยความเคารพว่า “ธิดาเทพแห่งพรรค ที่ผมพูดจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่นั่น คุณไปก็ได้รู้แล้ว กระผมคงต้องล่วงเกินก่อนนะครับ! ”
แล้วผู้พิทักษ์ฉานเย่วก็พ่นคาถา ไม่รู้ว่าพูดอะไรออกมา มือขวายกจงยู่ขึ้น มือซ้ายก็ยกขึ้นแบบลวกๆ แล้วก็มีกลิ่นฉุนอบอวลไปทั่วห้องโถง ทุกคนเอามือปิดจมูก ถอยไปด้านหลัง หลีกเลี่ยงก๊าซพิษ
ผู้พิทักษ์ฉานเย่วจะกล้าปล่อยควันพิษให้ธิดาเทพแห่งพรรคได้อย่างไรกัน ธิดาเทพแห่งพรรคต้องสะอาดบริสุทธิ์ ห้ามได้รับบาดเจ็บอะไรใดๆ เด็ดขาด พอทุกคนถอยหลังไป ผู้พิทักษ์ฉานเย่วก็แค่แตะเบาๆ แล้วจงยู่ก็หลับตาไปในทันที ค่อยๆ สลบไปบนเก้าอี้ในห้องโถง
สายตาของผู้พิทักษ์ฉานเย่วเยือกเย็น เหมือนกับว่ามีฟ้าผ่ามาที่ห้องโถง ตอนนี้เองผู้พิทักษ์เห้าเย่ว ผู้พิทักษ์หลั่งเย่วและผู้พิทักษ์เฟิงเย่วก็รู้กัน มาล้อมรอบตัวของผู้พิทักษ์ฉานเย่ว ผู้พิทักษ์ฉานเย่วพูดอย่างอึมครึมและเยือกเย็นว่า
“จงจิ่วเจินล่ะ? หรือว่ามันจะเป็นพวกที่ไม่กล้าเผชิญหน้ากับความจริง ไม่กล้าเจอหัวหน้าของสำนักช้างจันทราตลอดไปงั้นเหรอ? ”
“ฆ่าพวกมัน ฆ่าพวกมัน! ” บ้านตระกูลจงเต็มไปด้วยเสียงของความโกรธเกรี้ยว ลักพาตัวลูกสาวของบ้านตระกูลจง แถมยังดูถูกเหยียดหยามเจ้าบ้านอีก นี่จะกลั่นแกล้งบ้านตระกูลจงหรือยังไง?!
“ฮิๆๆ จงจิ่วเจินนะจงจิ่วเจิน แกไม่กล้าออกมาเจอหน้าฉันสินะ ไม่ว่าแกจะมาหรือไม่มา ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงจุดจบของบ้านตระกูลจงได้หรอก ผู้พิทักษ์สาม เริ่มได้เลย! ”
ใบหน้าของผู้พิทักษ์ทั้งสี่ดูโหดร้ายทารุณอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ หัวหน้าสำนักเคยบอกก่อนที่จะออกเดินทางว่า ถ้าเกิดว่าจงยู่เป็นลูกสาวของจงเสวี่ยนเย่น และบ้านตระกูลจงก็ปกปิดข้อเท็จจริงนี้ นั่นก็คือการทรยศสำนักช้างจันทรา ต้องฆ่า ฆ่า ฆ่า!
ทันใดนั้นคอปกเสื้อสีดำของผู้พิทักษ์ฉานเย่วก็กระพือราวกับว่ามีลมเป่า ล้อมๆ นั้นเต็มไปด้วยความแปลกประหลาดที่ไม่สามารถอธิบายได้ หลังจากที่เขาพูดว่าให้เริ่มได้นั้น ก็เห็นเส้นเลือดของผู้พิทักษ์สามปูดขึ้น ท่าทางทะยานอย่างรวดเร็ว จิตสังหารที่แข็งแกร่งกระจายไปทั่วบ้านตระกูลจง ในใจของทุกคนรู้สึกหนาวเหน็บ ราวกับว่ามีน้ำแข็งอยู่ในใจ ตั้งแต่หัวจรดเท้า
“ทุกคนระวัง! ” จงเส่นซานตะโกนออกมาด้วยความตกใจ แล้วก็เห็นว่าจู่ๆผู้พิทักษ์เห้าเย่วก็กระทืบเท้า แล้วก็คำรามออกมา เหมือนกับสิงโตที่คำรามอยู่ในป่า ตามมาด้วยควันดำที่ตลบไปทั่วทุกสารทิศ พื้นใต้เท้าของเขาแตกเป็นลวดลายเหมือนกระดองเต่า ตอนที่นักวิทยายุทธบ้านตระกูลจงไม่ทันระวังตัวนั้น ก็ถูกผู้พิทักษ์เห้าเย่วจับด้วยมือทั้งสองข้าง แล้วก็ฟันฝ่ามือลงไป ฝ่ามือที่คมกริบราวกับมีดฟันลงที่หัวของนักวิทยายุทธ เลือดพลุ่งพล่าน!
ว้าว!
เสียงร้องแปลกๆ ของหลั่งเยว่และเฟิงเยว่ดังขึ้นในห้องโถง เหมือนกับว่าเข้าไปในสถานที่ที่ไม่มีคนอยู่ ลงมือจัดการ เท้าและฝ่ามือบินว่อนอยู่ตรงหน้า เพียงแค่เวลาสั้นๆ เท่านั้น ขบวนนักวิทยายุทธบ้านตระกูลจงทั้งหมดก็กลายเป็นศพในทันที บางคนยังไม่ทันแม้แต่จะร้องอะไร ก็กลายเป็นวิญญาณใต้ฝ่ามือไปแล้ว
บ้านตระกูลจงต้องตะลึงพรึงเพริด ไม่คิดว่าคนอินเดียพวกนี้จะมีวิธีการที่โหดเหี้ยมขนาดนี้!
“พี่ใหญ่! เข้าไปพร้อมกันเถอะ! ” จิตใจของผู้คนเต็มไปด้วยความปวดร้าว แม้แต่ผู้หญิงและเด็กก็ต่างหยิบเก้าอี้ขึ้นมา บางคนก็หยิบมีดที่เอาไว้หั่นอาหาร บางคนก็กำหมัดเปล่าๆ ทุกคนมีศัตรูคู่แค้นร่วมกัน
“ว้าว คิดว่าจะจะหนีจากการลงโทษจากเทพเจ้าช้างได้ด้วยวิธีนี้ยังงั้นเหรอ! ” ดวงตาที่ร้ายกาจของผู้พิทักษ์ฉานเย่วกวาดไปทั่วห้องโถงอีกครั้ง พอดีกับที่ตอนนี้มีเด็กคนหนึ่งถือมีดตัดฟืนพุ่งตรงเข้ามาที่ด้านหลังของเขาด้วยความเลือดร้อน
ผู้พิทักษ์ฉานเย่วไม่ได้แม้แต่มองเลยด้วยซ้ำ เหวี่ยงหมัดขวาออกไป หมัดนั้นเต็มไปด้วยลมที่พัดโหมอย่างรุนแรง ตรงไปที่ศีรษะของชายหนุ่ม ศีรษะของชายหนุ่มคนนั้นถูกผ่าครึ่ง เลือดไหลลงมาราวกับน้ำตก ผู้พิทักษ์ฉานเย่วก็เหมือนกับปีศาจ เดินเข้าไปใกล้วัยรุ่นคนนั้นพร้อมกับหัวเราะคิกคัก เอามือสัมผัสไปที่เลือดสีแดงสดแล้วยิ้ม หลังจากนั้นก็ออกแรงบิด แล้วก็โยนศีรษะที่ผิดรูปนั้นเข้าไปในกลุ่มฝูงชน
แล้วก็ได้ยินเสียงกรีดร้อง คุณนายน้อยสองของตระกูลจงจับหัวนั้น ดวงตาของเธอเบิกกว้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ช็อก จู่ๆ เธอก็กอดศีรษะนั้นแน่น เอาหน้าแนบ พร้อมกับเอามือลูบเบาๆ น้ำเสียงสั่นเครือ “ฝูเอ๋อ ฝูเอ๋อ ลูกจะไม่เป็นไร จะไม่เป็นไร……”
เสียงที่น่ารันทดนั้นทำให้บ้านตระกูลจงหัวใจแตกสลาย แล้วก็เห็นคุณนายน้อยสองน้ำตาทะลักออกมา มือของเธอเปื้อนไปด้วยเลือดของลูกชายตัวเอง แล้วเธอก็เอาศีรษะของเขาวางไว้ที่พื้นเบาๆ หลังจากนั้นก็เอาทั้งสองมือจับหัวของตัวเองไว้แน่น ทึ้งผมของตัวเอง ขดตัวแล้วพูดอย่างลุกลี้ลุกลนว่า
“ไอ้เวร ไอ้สำนักช้างจันทราเวร……”
มีความตื่นตระหนกในดวงตาของคุณนายน้อยสอง ตอนนี้เธอตกอยู่ในสภาวะบ้าคลั่งไปแล้ว เขาคือลูกชายเพียงคนเดียวของเธอ พึ่งจะกลับมาจากไปเรียนที่อังกฤษ ไม่คิดเลยว่าจะมาโดนสังหารแบบน่าเวทนาเช่นนี้ ศีรษะของจงฝูนั้น ตายังเบิกกว้าง ตายตาไม่หลับ!
“รีบวิ่งเร็ว! ” พวกลูกคนรวยบางคนก็ตกใจอย่างมาก จับหัวของตัวเองแล้วก็วิ่งไปทางประตู แต่ว่าพอวิ่งไปแล้วก็พบว่าประตูทุกบานถูกปิด เด็กๆ บางคนที่นำหน้าไปโดนผู้พิทักษ์ทั้งสี่คนตัดหัว แล้วก็โยนเข้าไปในฝูงชนเหมือนกับมดยังไงยังงั้น
เลือด รสชาติของเลือด กลิ่นของเลือด ปกคลุมไปทั่วทุกคน
จงเส่นซานตัวสั่นด้วยความกลัว เขาแตะอุปกรณ์แจ้งตำรวจบนร่างกาย แต่ว่า อุปกรณ์นั้นได้หายไปแล้ว พ่อล่ะ ตอนนี้ความปลอดภัยของพ่อเป็นยังไงบ้าง? จงเส่นซานมีเครื่องหมายคำถามขนาดใหญ่อยู่ภายในใจ
ในสถานการณ์ฉุกเฉินแบบนี้ จู่ๆ อุปกรณ์แจ้งตำรวจก็หายไป หรือว่ามันหายไปในฝูงชนตอนที่กำลังสับสนวุ่นวายรึเปล่า?
อันตรายกำลังใกล้เข้ามา ผู้พิทักษ์ฉานเย่วที่เยือกเย็นกำลังใกล้เข้ามา จงเส่นซานมีลางสังหรณ์ใจที่ไม่ดีอย่างมาก สถานการณ์แห่งความสุขที่หาที่เปรียบไม่ได้เมื่อกี้ได้หายไปหมดแล้ว ตอนนี้ทุกคนตกอยู่ในความหวาดกลัวและความเกลียดชัง

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset