บทที่ 131 ฉันสั่งให้ฆ่าเขาซะ
“คุณชายคาง คุณยังโอเคอยู่หรือเปล่าครับ”
กลุ่มลูกน้องของคางตี๋ช่วยพยุงตัวเขาไว้ คางตี๋นวดขมับตัวเอง ก่อนจะยืดตัวตรง พอมองที่ฝ่ามือแล้วพบว่ามีเลือดติดอยู่ เขาเบิกตาโตอย่างโมโห เขาถูกเลี้ยงดูเอาอกเอาใจมาตั้งแต่เล็กจนโต ปกติจะมีแต่เขาที่รังแกคนอื่น ไม่เคยมีใครกล้าทำร้ายเขามาก่อน
“รุมมัน เอาให้เละจนแม่มันดูไม่ออกว่าเป็นลูกตัวเอง แล้วจับยัยนั่นมาให้กู มันต้องการจะปกป้องยัยนั่นไม่ใช่หรือไง กูก็อยากจะรู้เหมือนกัน ว่ามึงจะปกป้องยังไง”คางตี๋ชี้หน้าเหรินห้าวอย่างโมโห กลุ่มลูกน้องรีบตอบรับคำสั่ง
“แม้แต่คุณชายคางมึงยังกล้าทำร้าย อยากตายหรือไงวะ”
“ถ้าอยากตายก็บอกตั้งแต่ทีแรกสิวะ”
“เอาให้ตายเลย”
……
บรรดาลูกน้องด่าว่า ก่อนจะพุ่งตัวเข้าหาเหรินห้าวทันที พี่หลงกับพี่เฟยถึงขั้นยกเก้าอี้ขึ้นเตรียมฟาดใส่
ในเวลานี้ถึงแม้เหรินห้าวจะหวาดกลัว แต่เขากลัวว่าเหรินซินจะถูกทำร้ายมากกว่า เหรินห้าวดึงเหรินซินมาปกป้องไว้ด้านหลังตนเอง ก่อนจะคิดในใจ ถึงแม้ตนเองจะถูกรุมทำร้ายจนตาย ก็ไม่ยอมให้เหรินซินถูกทำร้ายแม้แต่นิดเดียว
“เพี๊ยะ”บรรดาลูกน้องพุ่งเข้ามา แล้วตบหน้าเหรินห้าวอย่างแรง จนเหรินห้าวเลือดไหลออกมาจากปาก แต่เหรินห้าวก็ยังไม่ขยับหนี เขาดึงเหรินซินมาปกป้องไว้ด้านหลัง ดวงตาแน่วแน่ ขอแค่เขายังมีชีวิตอยู่ เขาก็ไม่ยอมให้ใครพาตัวเหรินซินไปเด็ดขาด
“ถอยออกไปซะ”
พี่หลงตะโกนสั่ง ทำให้บรรดาลูกน้องที่ยืนขวางอยู่ด้านหน้าเหรินห้าวพากันถอยออกห่าง ก่อนที่พี่หลงจะส่งเสียงฮึกเหิมแล้วฟาดเก้าอี้ใส่ศีรษะของเหรินห้าว จนเก้าอี้แตกหักเป็นสองท่อน
เหรินห้าวรู้สึกเจ็บศีรษะมาก เหมือนถูกไม้เสียบเข้าไปในสมอง จนเหรินห้าวเริ่มรู้สึกมึนงง แต่ถึงจะเป็นแบบนี้ แต่เขาก็ยังปกป้องเหรินซินไว้ด้านหลังเหมือนเดิม
“พี่คะ…”ในตอนที่เก้าอี้ถูกฟาดลงมา เหรินซินตกใจกลัวมาก เธอยกมืออุดหู หลับตา แล้วก้มตัวลง จนขดตัวกลม
ตอนที่เธอลืมตาขึ้นมาดู เหรินห้าวก็ยังคงยืนปกป้องเธออยู่ตรงหน้า แต่ศีรษะของเขากลับมีเลือดไหลออกมา เหรินซินตกใจกลัว ทั้งโมโหทั้งซาบซึ้งใจ เธอประคองศีรษะของเหรินห้าวไว้ พร้อมกับถามเสียงสะอื้น “พี่ ฮึก พี่เป็นยังไงบ้างคะ พี่เป็นยังไงบ้างคะ…”
“ที่แท้ก็พี่น้องกันนี่เอง จัดการมัน ตายแล้วกูรับผิดชอบเอง”
คางตี๋ตะโกนอย่างโมโห “ยังมีอีกคน จัดการมันด้วย ถ้าจับผู้หญิงคนนั้นมาได้ก็ยกให้พวกมึงจัดการเลย”
คางตี๋พูดจบ บรรดาลูกน้องก็มองไปทางหวางเหยา ในขณะเดียวกัน ยินถิงก็ถูกเลือดของเหรินห้าวปลุกความกล้าขึ้นมา เขารีบดึงหวางเหยามาปกป้องไว้ด้านหลัง
ยินถิงตั้งปณิธานไว้ในใจ เขาจะไม่ทำให้เพื่อนขายหน้า ถ้าวันนี้ต้องถูกรุมทำร้ายจนตาย เขาก็ยังสามารถตายไปพร้อมกับเพื่อนได้ แค่นี้ก็ไม่มีอะไรที่จะต้องเสียดายแล้ว
เพราะแบบนี้ เหรินห้าวกับยินถิงจึงได้แต่ต้านทานไว้อย่างยากลำบาก ถ้าดูจากความไม่หวาดกลัวต่อผลที่จะตามมาของอีกฝ่าย พวกเขาทั้งสองคนคงจะต้านทานไว้ได้แค่ห้านาที ลมหายใจของพวกเราคงจะหมดลงแล้ว
ตอนนี้เหรินซินกับหวางเหยาไม่มีรอยบาดแผลเลยแม้แต่น้อย แต่ะวกเธอกำลังร้องไห้อย่างหนัก เหรินซินอยากเข้าไปปกป้องพี่ชาย แต่กลับถูกเหรินห้าวดึงให้อยู่ด้านหลัง
หวางเหยาเองก็ถูกยินถินปกป้องไว้ด้านหลัง หวางเหยาดึงชายเสื้อด้านหลังของยินถิงไว้แน่น เธอตกใจกลัวจนเสียสติไปแล้ว
ลูกค้าและพนักงานในร้านอาหารต่างก็ทนมองเหตุการณ์ทั้งหมด แต่พวกเขาไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ เพราะถ้ายื่นมือเข้าไปช่วย พวกเขาคงจะสร้างความเดือดร้อนให้ตัวเอง ใครจะกล้าเอาชีวิตของตัวเองไปเสี่ยงกันล่ะ คนส่วนใหญ่จะไม่กล้าเข้าไปยุ่ง ลูกค้าที่พาลูกมาด้วย ต่างก็รีบพาลูกออกจาดร้านไปอย่างรวดเร็ว
พอเห็นเหรอนห้าวกับยินถิงถูกรุมทำร้ายอย่างหนัก คางตี๋ถึงได้อารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง สองคนนี้กล้ามามีปัญหากับเขา ก็ต้องได้รับโทษที่สาสม
“เฮ้ย ทำอะไรน่ะ หยุดเดี๋ยวนี้”
ในเวลานี้เอง ฉินหลั่งที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ พอเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า ก็ทั้งตกใจทั้งโมโห เมื่อตะกี้เขาออกไปเข้าห้องน้ำ แล้วคุยโทรศัพท์ ให้เสิ่นวั่นเชียนไปรับอู๋ยี่หยวนสองแม่ลูกออกมา แล้วจัดเตรียมที่พักที่ปลอดภัยให้พวกเธอยู่
เขาได้ยินเสียงแว่วๆว่ามีการทะเลาะกันด้านนอก แต่คิดไม่ถึงว่าจะเป็นพวกเหรินห้าว
ในตอนนี้มีชายฉกรรจ์ห้าหกคนกำลังรุมทำร้ายเหรินห้าวกับยินถิงอยู่ ฉินหลั่งพุ่งตัวเข้าไปโดยไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว
“โอ๊ย”
“อ้าวเฮ้ย”
ฉินหลั่งเตะชายฉกรรจ์กระเด็นออกไปสองคน ก่อนจะคว้าขวดเหล้าบนโต๊ะ แล้วฟาดใส่ศีรษะของลูกน้องอีกสองคน โดยไม่แม้แต่จะเก็บเรี่ยวแรง
“เพล้ง เพล้ง”
เสียงที่ดังออกมา คือเสียงขวดเหล้าแตกกระจาย ส่วนลูกน้องอีกคนที่ยังเป็นปกติ แต่ก้นขวดยังมีรอยเลือดติดอยู่ด้วย แล้วยังไหลลงมา
ในขณะเดียวกัน สองคนที่ถูกตีด้วยขวดเหล้าต่างก็ล้มลงไปบนพื้นแล้วเรียบร้อย
คนหนึ่งนอนแดดิ้นเหมือนปลาที่ถูกน้ำร้อนราดตัว ส่วนอีกคนนอนสลบเหมือดไปแล้วเรียบร้อย บาดแผลบนศีรษะมีเลือดไหลออกมาเป็นสาย พี่หลงรีบก้มตัวลงไปสำรวจลมหายใจ
“คุณชายคางครับ ตายแล้วครับ”พี่หลงหันไปส่ายหน้าให้คางตี๋
ลูกน้องคนอื่นๆพอเห็นว่าฉินหลั่งโหดเหี้ยมยิ่งกว่าพวกเขา แค่ตีครั้งเดียวก็ทำอีกฝ่ายตายทันที จึงเริ่มรู้สึกหวาดกลัว จนถอยตัวออกห่างจากฉินหลั่ง แล้วตั้งท่าระวังตัว
“พวกนายเป็นยังไงบ้าง”ฉินหลั่งมองไปทางเหรินห้าวกับยินถิง บนศีรษะของทั้งสองคนมีเลือดไหลออกมา บนร่างกายมีรอยเท้าเต็มไปหมด บริเวณข้อศอกกับหัวเข่ามีแผลฉกรรจ์ ฉินหลั่งเห็นแล้วรู้สึกปวดใจมาก
พอเห็นฉินหลั่งเข้ามาช่วยพวกเธอเหมือนซุปเปอร์ฮีโร่ เหรินซินกับหวางเหยาก็ดีใจ รู้สึกว่าว่าฉินหลั่งเท่ห์มากเลย ถึงแม้ตอนนี้เขาจะทำหน้าเคร่งเครียด แต่พวกเธอก็ไม่รู้สึกกลัวเลย แต่กลับรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้เด็ดเดี่ยวและกล้าหาญมาก บนร่างของเขาเหมือนมีกลิ่นไอเสน่ห์ของความเป็นชายเปร่งประกายออกมา
“ยังไหวอยู่…”เหรินห้าวตอบกลับ ทั้งที่แทบจะลืมตาไม่ขึ้น ก่อนจะทรุดตัวลงบนพื้นพร้อมกับยินถิง
“พี่คะ พี่เป็นยังไงบ้างคะ…”เหรินซินพุ่งความสนใจทั้งหมดกลับไปที่พี่ชาย เธอเข้าไปกอดเหรินห้าวไว้ แล้วร้องไห้ออกมาอย่างหนัก หวางเหยาเองก็นั่งดูแลข้างๆยินถิง
“ไม่เป็นไร พี่สบายมาก น้องไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว”เหรินห้าวระบายยิ้ม
ฉินหลั่งรีบโทรเรียกรถพยาบาล ให้มารับพวกเขาไปโรงพยาบาล
“เกิดอะไรขึ้นกัน คุณชายคาง มีอะไรกันเหรอครับ”ในขณะที่สถานการณ์ตกอยู่ในความตะลึงงัน มีเสียงพูดดังเข้ามาจากด้านนอก และคนที่พูดก็คือเหลียงฮุยนั่นเอง
อาส้วยเดินตามหลังของเขา และยังใส่ชุดแปลกประหลาดอยู่เช่นเดิม บนใบหน้าใส่หน้ากากสีขาว ตอนที่เขาเห็นฉินหลั่งอยู่ในห้องด้วย จึงหยุดมองอยู่สักพัก
“คุณได้รับบาดเจ็บเหรอครับ ใครเป็นคนทำครับ มันอยากตายแล้วหรือไงกัน”
เหลียงฮุยหยุดยืนตรงหน้าคางตี๋ แล้วถามอย่างเป็นห่วง พอเห็นสายตาของคางตี๋พุ่งตรงไปทางกลุ่มของฉินหลั่ง เหลียงฮุยจึงมองไปทางฉินหลั่ง ก่อนจะแสยะยิ้มออกมา
“ทำไมถึงเป็นมึงอีกแล้ว กล้าดียังไง ถึงได้มีปัญหากับคุณชายคาง อยากตายมากเลยสินะ”
“เหลียงฮุย เจ้านี่มือหนักมาก คุณอย่าทำอะไรบุ่มบ่าม เดี๋ยวผมโทรเรียกลูกน้องมาเพิ่ม แล้วค่อยจัดการมันให้ตาย”คางตี๋มองไปทางฉินหลั่งอย่างระมัดระวัง การมาที่หย่งเหอหยวนในครั้งนี้เขาไม่ได้เตรียมตัว ลูกน้องที่พามาจึงกระจอกมาก เมื่อตะกี้เขาได้โทรไม่เรียกลูกน้องที่มีฝีมือดีมาแล้ว ให้พวกเขารีบมาที่หย่งเหอหยวนอย่างรวดเร็ว
“คุณชายคางครับ เจ้านี่กล้ามีปัญหากับคุณ ผมที่ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนของคุณ จะทนได้ยังไงกัน ผมจะช่วยคุณจัดการเจ้าพวกนี้เองครับ สั่งสอนให้พวกมันรู้ ว่าไม่ใช่ใครพวกมันก็สามารถมีปัญหาด้วยได้”
เหลียงฮุยทำท่าทางเหมือนอยากจะช่วยคางตี๋แก้แค้นเต็มที เขาคิดว่านี่เป็นโอกาสที่เขาสามารถประจบสอพลอคางตี๋ ให้ความสัมพันธ์สนิทกันมากขึ้นได้
“ที่สำคัญนะครับ คุณชายคางคงจะยังไม่รู้ ว่าก่อนหน้านี้เจ้าบ้านี่ก็เคยทำร้ายผมมาก่อน แล้วยังทำให้ผมสารภาพรักกับผู้หญิงที่ผมรักไม่สำเร็จอีก ครั้งนี้ไม่ใช่แค่เพื่อคุณ แต่เพื่อตัวผมเองด้วย ผมจะปล่อยให้เจ้าบ้านี่อวดดีต่อหน้าคุณได้ยังไงกันครับ”
“ได้ คุณเองก็น่าจะรู้ ว่าเขามีฝีมือไม่เลว อีกทั้งยังโหดมาก เล่นซะลูกน้องผมตายไปแล้วหนึ่งคน ผมกลัวว่าคุณจะสู้มันไม่ได้…”คางตี๋ชอบใจกับคำพูดของเหลียงฮุย ภายในใจรู้สึกสนิทสนมกับเหลียงฮุยหลายส่วน
“คุณชายคางเข้าใจผิดแล้วครับ ถึงผมจะสู้กับมันไม่ไหว แต่คนระดับเรา ไม่จำเป็นต้องลงมือกับคนระดับนี้หรอกครับ มือเราจะสกปรกเปล่าๆ”เหลียงฮุยพูดอย่างโอ้อวด ก่อนจะมองไปทางอาส้วย “ให้เขาไปจัดการก็พอแล้วครับ”
หลายวันมานี้ อาการบาดเจ็บของอาส้วยดีขึ้นมากแล้ว อีกทั้งเหลียงฮุยก็เคยถามเขาแล้ว ว่าฝีมือระดับเขา ทำไมครั้งที่อยู่ผับโอวโล่ถึงถูกฉินหลั่งทำร้ายจนบาดเจ็บได้ อาส้วยบอกว่า ตอนนั้นเขาเผลอ ถึงถูกฉินหลั่งใช้มีดแทง เดิมทีฉินหลั่งไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา เหลียงฮุยเองก็คิดเหมือนกัน ถ้าดูจากฝีมือของอาส้วย ถ้าจะฆ่าฉินหลั่งนั้นง่ายดายมาก ครั้งที่แล้วถือว่าผิดพลาดไปเล็กน้อยเท่านั้น
“เขาน่ะเหรอ”คางตี๋มองไปทางอาส้วยอย่างแปลกใจ คนตัวเตี้ยแบบนี้ อีกทั้งยังตัวซูบผอม พอเห็นแล้วทำให้ยิ่งสงสัยว่าจะสู้กับอีกฝ่ายไหวหรือเปล่า
“คุณชายเหลียง คุณเองก็เห็นแล้ว ตรงนั้นมีคนตายไปแล้วคนหนึ่ง เขารูปร่างบึกบึนกว่าลูกน้องสุดประหลาดของคุณอีกนะ คุณอย่าส่งลูกน้องคุณไปตายดีกว่า พวกเรารอลูกน้องของคุณชายคางมาจัดการเถอะ”ในขณะนั้น เกาหยวนพูดขัดขึ้นมาซะก่อน
พวกเขาทั้งสองคนล้วนแต่อยากตีสนิทกับคางตี๋ แน่นอนว่าเกาหยวนไม่ต้องการให้เหลียงฮุยได้หน้า จนได้รับความไว้วางใจจากคางตี๋ ที่สำคัญ เดิมทีเขากับเหลียงฮุยก็ไม่ค่อยถูกหน้ากันอยู่แล้ว
“อ้อ คุณชายเกา ดูเหมือนจะมีอยู่ประโยคหนึ่งบอกว่า ถึงตัวจะเล็กแต่ใจใหญ่ แต่ก็ไม่เป็นไรครับ คุณคงจะเรียนมาน้อย ผมไม่ถือสา”เหลียงฮุยพูดดูถูกเกาหยวน
“คุณ” เกาหยวนพุ่งตัวเข้าไปเตรียมจะทะเลาะกับเหลียงฮุย
“โอ๊ย” ตอนที่เขาเดินมาตรงหน้าเหลียงฮุย ยังไม่ทันที่เขาจะพูดอะไรสักคำ ก็ถูกอาส้วยเข้ามาจับไว้ ก่อนจะถูกทุ่มตัวลงบนพื้น เกาหยวนร้องอย่างเจ็บปวดอยู่บนพื้น ส่วนอาส้วยนั้นกลับไปยืนอยู่ข้างเหลียงฮุยตามเดิม
“ไม่เลวนี่ ในที่สุดก็ช่วยจัดการคนเลวให้เจ้านายได้แล้ว”เหลียงฮุยลูบศีรษะของอาส้วยเบาๆ เหมือนกำลังลูบขนสุนัขอยู่
“ดีมาก เจ้านี่ฝีมือไม่เลวเลย งั้นก็ให้เขาไปจัดการกับสามคนนั้น อย่าออมแรงเด็ดขาด เอาให้ตาย ผมรับผิดชอบเอง”เหลียงฮุยถลึงตามองฉินหลั่งอย่างเคียดแค้น
“ได้ครับ ตามคำบัญชาคุณชายคางครับ”เหลียงฮุยคิดว่าถ้าครั้งนี้เขาจัดการพวกฉินหลั่งได้ ไม่ใช่แค่แก้แค้นให้ตัวเองได้ แต่ยังได้รับความไส้วางใจจากคางตี๋ด้วย ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวแบบนี้จะไม่ทำได้ยังไง เหลียงฮุยตบบ่าอาส้วย แล้วชี้ไปทางฉินหลั่ง “อาส้วย ไป จัดการฆ่าเจ้านั่นซะ ถ้าทำภารกิจนี้สำเร็จ ฉันจะเพิ่มเงินเดือนให้นายอีกห้าร้อยหยวน แล้วจะพานายไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้นายด้วย ให้นายหล่อเหลาเหมือนคุณชายคาง เร็วเข้า”เหลียงฮุยยื่นมีดสั้นให้อาส้วย แล้วผลักเขาไปข้างหน้า อาส้วยหรี่ตามองฉินหลั่ง แต่กลับไม่ขยับตัว
ฉินหลั่งยืนอยู่ตรงหน้าพวกเหรินห้าว แล้วมองหน้าอาส้วยนิ่ง
“อาส้วย นายเป็นอะไรไป รีบไปฆ่าพวกมันสิ ตัดหัวพวกมันลงมา เร็วเข้า” เหลียงฮุยยืนสั่งการอยู่ข้างหลังอาส้วย
แต่อาส้วยที่จับมีดสั้นไว้ในมือ แต่กลับไม่ขยับเลย ถึงแม้จะไม่เห็นใบหน้า แต่ก็ยังสามารถมองเห็นดวงตาคู่นั้นของเขา
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมเขาถึงไม่ฟังคำสั่งคุณ”คางตี๋ขมวดคิ้วมองไปที่เหลียงฮุย
เหลียงฮุยยิ้มแหย ก่อนจะเดินเข้าไปหาอาส้วย แล้วตบท้ายทอยของอาส้วยอย่างแรง “เจ้าบ้า นายไม่ฟังคำสั่งฉันใช่ไหม ไท่ฆ่ามันเดี๋ยวนี้ เร็วเข้า”
รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 131 ฉันสั่งให้ฆ่าเขาซะ
Posted by ? Views, Released on October 21, 2021
, รวยชั่วข้ามคืน?!
ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!
Recommended Series
Comment
Facebook Comment