รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 67 มีเกาหยวนอยู่ไม่มีปัญหาแน่นอน

บทที่ 67 มีเกาหยวนอยู่ไม่มีปัญหาแน่นอน
จื่อซวนเกสท์เฮ้าส์อยู่ทางตอนใต้สุดของเมืองจีนหลิง เป็นโรงแรมสไตล์โบราณลานบ้าน
ในตอนที่เกาหยวนขับรถมาถึงนั้น พวกฉินหลั่งก็เช็กอินกันเสร็จแล้ว ความจริงเสิ่นวั่นเชียนเป็นคนจัดการทุกอย่าง พวกฉินหลั่งแค่พักผ่อนเท่านั้นพอ
เกาหยวนจอดรถเสร็จ ก็โทรศัพท์หาฉินหลั่ง
ฉินหลั่งออกมาอย่างรวดเร็ว พาพวกเกาหยวนเดินเข้ามายังจื่อซวนเกสท์เฮ้าส์
ในเวลานี้ เป็นเวลามืดค่ำแล้ว
ภายในจื่อซวนเกสท์เฮ้าส์ โคมไฟถูกจุดขึ้นอย่างสว่างไสว เห็นเพียงภายในของลาน ต้นสนขึ้นปกคลุมเต็มไปหมด ทางเดินเลี้ยวคด ไกลๆมีสระน้ำ ผิวน้ำมีใบบัวกลมๆลอยอยู่ ดอกบัวสีชมพูขึ้นกันสะโอดสะอง ราวกับหญิงสาวรูปร่างผอมบาง ภายในสวนมีการก่อสร้างอย่างสวยงาม เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก
ที่นี่สวยจริงๆด้วยแฮะ มองไปรอบๆ ติงหรุ่ยเอาแต่คิดในใจ
“ฉันว่าแล้วให้เขาเลือกโรงแรมต้องแย่มากแน่ๆ ที่นี่สะอาดก็จริง แต่นานๆพวกเราจะมาเที่ยวจีนหลิงทั้งที เธอจะให้พวกฉันนอนบ้านชั้นเดียวอย่างนี้เหรอ?ถ้าจะนอนบ้านชั้นเดียว ยังจะต้องวิ่งเล่นมาที่นี่ด้วยเหรอ?”ถึงแม้จื่อซวนเกสท์เฮ้าส์จะไม่ได้แน่เหมือนกับที่หลิวหงคิดไว้ แต่หล่อนก็ยังรู้สึกว่าไม่ได้ดีเด่นอะไรมาก
หล่อนชอบโรงแรมตึกสูงใหญ่เหมือนBerkeley Hotel แต่ไม่ใช่“บ้านชั้นเดียว”เหมือนกับจื่อซวนเกสท์เฮ้าส์อย่างนี้
ลางเนื้อชอบลางยา ทุกคนต่างมีความชื่นชอบส่วนตัว ในสายตาของคนบางคน การแสดงละครลิงตามท้องถนนสนุกกว่าหนังขอฮอลิวูด นี่จึงไม่สามารถพูดอะไรได้
ในเวลานี้เอง เกาหยวนกับติงหรุ่ยไม่พูดอะไร ถึงแม้พวกเขาจะไม่รู้ว่าจื่อซวนเกสท์เฮ้าส์แพงขนาดไหน แต่พวกเขาเข้าใจ ว่าแบบนี้จีนหลิงมีเยอะมาก โรงแรมที่สามารถปลูกสร้างแบบบ้านชั้นเดียวต้องไม่แย่แน่ๆ อาจจะเทียบอะไรกับBerkeley Hotelไม่ได้ แต่ถ้าให้เกาหยวนไปจองโรงแรมแล้วล่ะก็ เขาต้องจองได้ไม่ดีเท่านี่อย่างแน่นอน
ถึงแม้ว่าหลิวหงทั้งสามจะกล่าวโทษไม่หยุด แต่สุดท้ายก็ยังคงต้องพักที่นี่ เหนื่อยกันมาทั้งวัน พวกหล่อนก็เหนื่อยล้ามากแล้วจริงๆ
วันที่สอง หลังจากที่หลิวหงทั้งสามอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ก็เดินตามกันออกมาจากในห้อง
“ถึงโรงแรมนี้จะเป็นแบบบ้านชั้นเดียว แต่ตอนนอนก็สบายมากเลยนะ”หลี่น่ายังเซอร์ไพรส์เล็กน้อย
“สบายอะไรกัน เป็นเพราะเมื่อวานพวกเราเหนื่อยเกินไปต่างหาก เพราะฉะนั้นเลยรู้สึกแบบนั้น”เฝิงโหย่หลันพูดพลางเบะปาก“เห้อ พวกเรารู้สึกกันไหม ว่าโรงแรมนี้มีคนพักน้อยมากๆ เมื่อคืนฉันไม่มีอะไรทำเลยไปเดินเล่นในโรงแรมมารอบหนึ่ง พบว่าไฟที่นี่เปิดยังไม่ถึงครึ่งเลย พวกเธอลองคิดกันดูสิ ห้องที่เปิดไฟสว่าง ยังมีพนักงานของพวกเขาอีก ตัดพวกเขาออกไป แขกจริงๆก็มีแค่ไม่กี่คนเอง”
“โรงแรมใหญ่ขนาดนี้ แขกกลับน้อยมาก ฉันล่ะแปลกในจริงๆว่าพวกเขาอาศัยอะไรในการหาเงินเนี่ย”
“นี่ เธอก็กังวลอะไรที่มันไม่ใช่เรื่อง เธอไม่ลองคิดดูเหรอ ว่านี่เป็นโรงแรมที่แฟนของจงยู่เป็นคนหามา ถ้าดีล่ะก็ เขาจะพาพวกเรามาเหรอ? ฉันว่านะเป็นเพราะโรงแรมนี้ใกล้เจ๋งมากกว่า แบบนี้ ทุกอย่างเลยมีคำอธิบายยังไงล่ะ เพราะว่าไม่มีใครพัก เลยเจ๊ง ลดราคา ไอ้หมอนั่นพาพวกเรามาอยู่ที่นี่เพื่อรับมือกับพวกเรา”หลิวหงพูดเหมือนหัวใจเป็นดั่งกระจก
หลี่น่า กับเฝิงโหย่หลันต่างพากันพยักหน้า
“เมื่อคืนฉันไปถามพนักงานมาว่าพวกเขามีโฮสไหม พวกเขาบอกว่าไม่มี น่าโมโหชะมัดเลย”หลิวหงพูดกับพวกหล่อนด้วยเสียงเบา
“ถ้าอย่างงั้นพวกเราจะไปหาฮาที่ไหนล่ะ?เมื่อคืนฉันฝันถึงผู้จัดการโจวของร้านอาหารฝรั่งสะแดนโกแล้วนะ ถ้าจัดการลากเขามาขึ้นเตียงได้นะแจ่มไปเลย”หลี่น่าพูดอย่างตั้งตารอคอย
“ฉันก็เหมือนกัน ผู้จัดการโจวหล่อมากเลยนะ”เฝิงโหย่หลันพูดอย่างบ้าผู้ชาย
“ดูพวกเธอสิ วางใจเถอะ ถ้ามีโอกาส จะต้องจัดการเอาเขามาเป็นของเล่นของพวกเราให้ได้ สองวันนี้พวกเราก็ลองหาในเมืองจีนหลิงดู ยัยแรดอย่างเธอสองคนต้องเล่นกันจนพอใจแน่”หลิวหงรู้สึกคันอยู่ในใจเหมือนกัน
“คุณผู้หญิงทั้งสามคะ พวกคุณทานอาหารกันรึยังคะ?ในโรงแรมของเรามีสถานที่รับประทานอาหารอยู่ที่ตึกเจิ้งทง ดิฉันจะให้พนักงานพาพวกคุณไปนะคะ อาหารเครื่องดื่มทุกอย่างฟรีค่ะ”พนักงานผู้หญิงที่ทำหน้าที่อยู่ตรงเค้าท์เตอร์ หลังจากที่มองดูหลิวหงพวกหล่อนแล้ว จึงพูดขึ้นอย่างยินดี
“ไม่ต้องหรอก”หลิวหงปฏิเสธความหวังดีของรีเซฟชั่นสาว ในใจคิดพึมพำ อาหารของโรงแรมที่ใกล้จะเจ๊ง จะมีอะไรอร่อย ยังฟรีอีก นี่ยิ่งแสดงให้เห็นว่า ต้องเป็นของถูกๆ
แต่ว่าพูดตามจริง โรงแรมถึงใกล้จะเจ๊งแล้ว แต่รีเซฟชั่นสาวกับพนักงานหน้าตาสวยทุกคนเลย
ในเวลานี้นั้นเอง ช่ายหนงก็ได้เดินออกมาพอดี
“คุณผู้หญิงคะ โรงแรมของเรามีอาหารกับเครื่องดื่มฟรีด้วยนะคะ อยู่ตรงตึกเจิ้งทงค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะให้พนักงานพาไปนะคะ”รีเซฟชั่นสาวเดินไปหาช่ายหนง หัวหน้าสั่งไว้แล้ว ว่าจะต้องต้อนรับบริการให้ดี
มีอาหารฟรีให้ทาน แน่นอนว่าช่ายหนงยินดีที่จะทานมาก พนักงานพาช่ายหนงไปรับประทานอาหาร หลิวหงทั้งสามต่างพากันแอบหัวเราะ เดินออกไปยังห้องโถง
“พวกเธอดูสิ สวนใหญ่ขนาดนี้ ตอนเช้าเวลาดีขนาดนี้ มีแค่คนไม่กี่คนเดินเล่นอยู่ โรงแรมนี้ไม่เจ๊งแล้วใครจะเจ๊งล่ะ?อาหารยังกินฟรีอีก คนระดับล่างอย่างช่ายหนงเท่านั้นแหละที่จะไปทาน ไปกันเถอะ พวกเราออกไปหาอะไรกินกันข้างนอกเถอะ”
“พวกเธอว่า เสี่ยวหลงเปาเซี่ยงไฮ้ดีหรือเต้าฮวยดีล่ะ?”หลิวหงถามไปที่ทั้งสองอย่างได้ใจ
“ไปแล้วค่อยดูกันเถอะ”
“ก็ได้ กินเสร็จแล้ว พวกเราไปเที่ยวรอบเมืองกันดีกว่า ไปดูสิว่าที่ไหนมีโฮสบ้าง ให้ยัยแรดอย่างพวกเธอสองคนแก้คันเล่นๆ”ทั้งสามหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน เดินออกไปจากจื่อซวนเกสท์เฮ้าส์
เวลาผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ พวกหลิวหงไม่ชอบจื่อซวนเกสท์เฮ้าส์ ไม่ทานอาหารที่นี่แม้แต่มื้อเดียว เอาแต่เที่ยวเล่นอยู่ในเมืองจีนหลิง
พวกหล่อนได้สืบเสาะหาสถานที่มีโฮส ทั้งสามเดินเข้าไปใช้จ่ายทั้งหมดสองครั้ง เล่นสนุกกันจริงๆนั่นแหละ แต่หลิวหงเป็นคนเลี้ยงทั้งสองครั้ง ทั้งหมดใช้ไปเป็นจำนวนเงินสี่หมื่นกว่า
ถึงแม้หลิวหงจะมีเงิน แต่การออกมาเที่ยวครั้งนี้ถ้าหากใช้เงินไปมาก จะทำให้สามีสงสัยเอาได้ เพราะฉะนั้น หลิวหงจึงไม่กล้าใช้เงินในบัตรแล้ว
วันนี้นั่นเอง พวกเธอพบบังเอิญพบกับช่ายหนงอีกแล้ว เวลาแค่หนึ่งอาทิตย์ พวกเธอรู้สึกว่าสีผิวของช่ายหนงดูขาวผุดผ่องขึ้น ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมามาก ทั้งสามรู้สึกแปลกใจมาก
“พวกเธอจะไปกินข้าวพร้อมกันที่ตึกเจิ้งทงไหม?อาหารที่นั่นอร่อยมากเลยนะ”ช่ายหนงชักชวน
“ช่างเถอะ อยู่บ้านเธอก็กินแต่หมั่นโถวผักดอง ได้กินบะหมี่ที่ทำจากแป้งข้าวโพดหน่อย เธอก็รู้สึกอร่อยแล้ว พวกเราไม่กินข้างนอกกันดีกว่า”หลิวหงมองด้วยสายตาดูถูกช่ายหนง แล้วพาพวกหลี่น่าเดินออกไปจากจื่อซวนเกสท์เฮ้าส์
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ พวกเธอก็เริ่มไปช้อปปิ้งตามห้างต่างๆของจีนหลิง ดูอย่างเดียวไม่ซื้ออะไร
พอเดินเที่ยวจนถึงเวลาสิบเอ็ดโมงครึ่ง ท้องของทั้งสามก็เริ่มร้องโครกคราก
“ข้างหน้ามีร้านอาหารฉงชิ่ง พวกเราไปกินกันเถอะ”หลิวหงมีเงินมากที่สุด เป็นผู้นำของทั้งสอง เธอบอกว่าไปไหนก็ไปไหน ทั้งสามพูดคุยกัน แล้วเดินไปยังร้านอาหารที่อยู่ละแวกนั้นร้านหนึ่ง
เดินไปได้ไม่กี่ก้าว หลิวหงก็หยุดเดิน เธอมองเห็นผู้หญิงคนหนึ่งรู้สึกคุ้นหน้าเป็นอย่างมาก
“พี่ลี่”หลิวหงเรียกไปหนึ่งครั้ง ผู้หญิงที่อยู่ด้านหน้าก็หันกลับมา หลิวหงรู้สึกเซอร์ไพรส์มาก ผู้หญิงคนนี้เป็นเจียงลี่จริงๆด้วย
บ้านของหลิวหงทำธุรกิจเกี่ยวกับเภสัชกรรม ตอนนี้กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องร่วมธุรกิจกันกับโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เจียงลี่เป็นภรรยาของเจ้าของโรงพยาบาลนั้นพอดี
ตอนนี้คุยกันถึงขั้นคุยกันต่อไปไม่ได้ ถ้าหากได้รับการสนับสนุนจากเจียงลี่ ถ้าอย่างนั้นงานนี้ก็จะได้รับอย่างไม่มีปัยหา
“พี่ลี่คะ เป็นพี่จริงๆด้วย”หลิวหงรีบเดินไปที่ตรงหน้าของเจียงลี่“คิดไม่ถึงว่าพี่จะมาที่จีนหลิง บังเอิญจริงๆ”
“เธอเองหรอกเหรอ หลิวหง พวกเธอจะไปไหนกันหรอ?”เจียงลี่ก็พูดคุยกับหลิวหงสนิทสนม
“เอ่อ……”หลิวหงชะงักทันที เธออยากใช้โอกาสครั้งนี้ในการคุยเรื่องธุรกิจกับหลิวหง ถ้าไปร้านอาหารฉงชิ่ง มันจะดูโลว์คลาสไปหน่อยรึป่าว หลิวหงคิดได้ในทันที“พวกเรากำลังจะทานอาหารกันน่ะค่ะ พี่ลี่คะ พี่ยังไม่ได้ทานอะไรเลยใช่ไหม ไปด้วยกันไหมคะ ไปร้านอาหารฝรั่งสะแดนโกไหมคะ ที่นั่นบรรยากาศไม่เลวเลยนะคะ”
นึกถึงวันที่มาถึงจีนหลิงวันนั้นได้ทานอาหารมื้อใหญ่ในร้านอาหารฝรั่งสะแดนโก ตอนนี้หลิวหงยังไม่ลืมรสชาติเลย เธอเอาแต่ด่าตัวเองในใจ ถ้าวันนี้ไม่ได้พบกับพี่ลี่นะ ฉันยังคิดไม่ได้เลยว่าจะไปกินข้าวที่ไหน มีความเกี่ยวข้องกับเกาหยวน ไปไหนก็กินฟรีหมด
“สะแดนโก?ที่นั่นหรูหรามากเลยนะคะ ใช้จ่ายสูงขนาดนี้ ฉันว่าหาอะไรทานกันแถวนี้เถอะ”เจียงลี่พูดไปหัวเราะไป เธอเคยได้ยินเพื่อนในจีนหลิงของตัวเองพูด สะแดนโกเป็นหนึ่งในร้านอาหารที่แพงที่สุดของจีนหลิง ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปจะสามารถรับได้
เห็นได้ชัดว่าเจียงลี่ไม่มีความมั่นใจ นี่ยิ่งเป็นการดีใหญ่เลย ตัวเองเลี้ยงอาหารหล่อนที่สะแดนโก หล่อนจะต้องมองฉันสูงส่งแน่ๆ แล้วตนค่อยให้หล่อนช่วย หล่อนจะต้องช่วยอย่างเกรงใจอย่างแน่นอน
“ไม่เป็นไรหรอกคะ พี่ลี่ พี่วางใจเถอะ พวกเราอยู่ต่างถิ่นได้บังเอิญพบเจอกันก็ไม่ง่าย ฉันได้เลี้ยงอาหารพี่จะปฏิเสธไม่ได้นะคะ ไปกันเถอะคะ”พูดจบ หลิวหงก็ไม่สนใจว่าเจียงลี่จะยินยอมหรือไม่ ดึงเธอไปยังข้างนอก หล่อนเรียกรถไปหนึ่งคัน พาพวกเธอไปยังร้านอาหารฝรั่งร้านสะแดนโก
“ที่นี่ทำอาหารได้ไม่เลวเลยนะคะ ครั้งก่อนพวกเราเคยมาทานอาหารที่นี่……”หลิวหงพูดไปด้วย พาเจียงลี่เดินเข้าไปในร้านไปด้วย ในเวลานี้นั่นเอง ที่นั่งในร้านนั่งเต็มกันหมดแล้ว ยังมีคนจำนวนสิบกว่าคนต่อแถวรอกันในส่วนพื้นที่รอคิว
“หลิวหง เธอดูสิยังต้องรออีกนะ ไม่เราไปหาร้านอื่นกินกันไหม?”ในใจของเจียงลี่รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ดูในฐานะกับทรัพย์สินเงินทอง หลิวหงเทียบกับตัวเองไม่ได้ ตนเองมาที่นี่รู้สึกใจคอไม่ค่อยดีเลย เธอไม่อยากเชื่อเลยว่า หลิวหงจะมีเงินกินอาหารที่นี่ อย่าได้รอจนถึงตอนนั้นแล้วเกิดเป็นเรื่องขายหน้านะ
“นี่ พี่ลี่ หาร้านใหม่อะไรกันคะ รอก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวพวกเราก็จะมีที่ว่างกันแล้วค่ะ”หลิวหงพูดอย่างใช้สายตาคิดไปเอง คราวก่อนพวกเขามาที่นี่ ก็ไม่มีที่ว่างไม่ใช่เหรอ ขอเพียงแค่เอ่ยถึงชื่อของเกาหยวนในร้านอาหาร เชื่อว่าปัญหาทุกอย่างก็จะหมดไปเอง
“ฉันขอตัวก่อนนะคะเดี๋ยวมา”หลิวหงขยิบตาให้เจียงลี่ แล้วเดินไปยังหน้าเคาท์เตอร์อย่างมั่นใจ
“เธอไปไหนหรอ?”เจียงลี่ถามพวกเฝิงโหย่หลัน“คงไม่ได้บอกให้พนักงานหาโต๊ะให้เราหรอกนะ?เป็นไปไม่ได้ หล่อนคิดว่าที่นี่คือมณฑลอย่างนั้นเหรอ แบบนี้จะเป็นการขายหน้านะ”
ในใจของเจียงลี่รู้สึกร้อนรนเป็นอย่างมาก ถ้ารู้ว่าหลิวหงจะเป็นผู้หญิงไร้สมองแบบนี้ เธอคงไม่มากับหล่อนหรอก
“พี่ลี่คะ พี่วางใจเถอะ คนอื่นๆอาจจะทำไม่ได้ แต่หลิวหงทำได้แน่นอน”เฝิงโหย่หลันพูดอย่างมั่นใจ“เพราะว่าหล่อนมีลูกเขยที่ดี คราวก่อนที่พวกเรามาทานอาหารกันที่นี่ ได้ลูกเขยของหล่อนนี่แหละค่ะหาที่ให้”
“ลูกเขยของหล่อนเป็นใคร เก่งขนาดนั้นเชียวเหรอ?”เจียงลี่ถามขึ้นอย่างแปลกใจ
“ลูกเขยของหล่อนน่ะชื่อเกาหยวน เก่งมากๆ คราวก่อนเขามาถึง ผู้จัดการของที่นี่ไม่พูดพร่ำทำเพลง หาที่ให้พวกเราทันที อีกทั้งอาหารทั้งหมดยังฟรีอีกต่างหาก ยังมอบไวน์แดงให้พวกเราด้วย ท่าทีอ่อนน้อมมากเลยค่ะ”หลี่น่าพูดกับเจียงลี่“เพราะฉะนั้นหลิวหงไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน”

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset