Emperor of Steel-กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล – ตอนที่ 35 การพัฒนาเหมือง (4)

บทที่ 35 การพัฒนาเหมือง (4)
“นายน้อย! นายน้อย?! นายน้อย?!”
ลุคที่กำลังอ่านหนังสือเวทมนตร์ที่ยืมมาจากมิวท์เริ่มขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงเรียกของฟิลิปที่ดังไม่หยุดหย่อน
“มีอะไรเซอร์ฟิลิป? ทำไมเจ้าถึงมายืนครวญครางเปแนเด็กแบบนี้กัน?”
“ข้าจะไม่ร้องครวญครางได้ยังไง? เมื่อไหร่ท่านจะทำตามสัญญาที่บอกว่าจะซื้อกิกันท์ให้ข้ากันละ?”
ย้อนกลับไปที่เมืองลาเมอร์ ลุคได้ให้คำมั่นสัญญากับฟิลิปที่เวทีสนามประลองกิกันทื เขาบอกกับฟิลิปว่า ถ้าเขาชนะกิกันท์ของฝั่งเคานต์โมนาร์ช ลุคก็จะซื้อกิกันท์ตัวใหม่ให้ฟิลิป
ด้วยคำพูดเหล่านั้นฟิลิปชนะการแข่งขัน แต่ลุคกลับยุ่งกับเรื่องอื่นๆ มากจนไม่สามารถทำตามที่สัญญาได้สักที
ท้ายที่สุดฟิลิปผู้เบื่อหน่ายกับการรอคอย จึงพยายามเรียกร้องความเป็นธรรมด้วยวิธีของเขาเอง
“ท่านจะทำแบบนี้ไม่ได้ ผู้คนจะคิดยังไงกัน หากพบว่าลูกหลานของนักรบผู้ยิ่งใหญ่รากันต์เป็นคนไม่รักษาสัญญา ข้าสาบานได้เลยว่าพวกเขาจะต้องชี้นิ้วใส่ท่านแน่นอน”
“ข้าควรจะเปลี่ยนไอ้สารเลวนี่ให้กลายเป็นเดธไนท์ดีไหมนะ”
แต่ผู้เชี่ยวชาญที่พูดมากไร้สาระยังเป็นอะไรที่มีประโยชน์กว่าเดธไนท์ที่โง่เง่า
ในทางกลับกันลุคได้ตัดสินใจที่จะสอดแนมหอคอยเวทมนตร์เวอร์ริทัสและการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดขึ้นกับที่นั่นในช่วง 500 ปีที่ผ่านมา
“ตกลง งั้นเรามาทำสัญญาซื้อกิกันท์กันเลย”
“อ๊ะ?!”
เมื่อได้ยินแบบนั้น ฟิลปก็รีบวิ่งไปหาลุคทันที
แต่เมื่อเซอร์โรเจอร์ได้ทราบข่าวเกี่ยวกับการซื้อกิกันท์
“นายท่าน นี่ท่านจะซื้อกิกันท์ตัวใหม่อย่างนั้นหรอ?”
“ก็ฟิลิปต้องการนี่นา”
เมื่อเห็นลุคพูดแบบนั้นฟิลิปก็เริ่มมองไปที่โรเจอร์อย่างหวาดกลัว
และราวกับว่าโรเจอร์มีแสงสว่างในดวงตาของเขา เขาหันไปหาลุคแล้วพูดว่า
“ถ้าอย่างนั้นข้าจะไปกับท่านเอง”
“นายพลอัศวินจะไปด้วยอย่างนั้นหรอ?”
“ใช่ เนื่องจากช่วงนี้มีมอนสเตอร์ออกมาให้เห็นเป็นจำนวนมาก มันจึงไม่ใช่เรื่องดีเลยที่จะออกไปโดยไม่มีอัศวินคุ้มกัน ดังนั้นข้าคิดว่าข้าควรไปเองดีกว่า”
เมื่อโรเจอร์พูดแบบนั้น เขาก็มองไปที่ฟิลิปด้ยหน้าตาที่น่าเกลียด
“นอกจากนี้ข้ายังมีความรู้เรื่องกิกันท์ค่อนข้างมาก หากท่านพาฟิลิปไปด้วย ท่านจะต้องได้กิกันท์ห่วยๆที่มีข้อบกพร่องที่น่ารำคาญและมีประสิทธิภาพต่ำอย่างแน่นอน”
“ไม่นะ นี่ท่านยังมองข้าเป็นมนุษย์อยู่ไหมเนี่ย…”
เสียงสะอื้นเล็กๆหลุดออกมาจากปากของฟิลิป แต่ในไม่ช้าเขาก็หยุดเมื่อเห็นโรเจอร์กำหมัดแน่น
หลังจากเห็นอย่างนั้นลุคก็ตัดสินใจพาโรเจอร์ไปด้วย
เขารู้ว่าการไม่ซื้อกิกันท์ก็เป็นทางเลือกหนึ่งเช่นกัน แต่มันจะเป็นการดีที่สุดที่จะซื้อมาเพื่อปิดปากของฟิลิป
และแล้วลุค,โรเจอร์และฟิลิปก็เดินทางไปทางเหนือ
ในตอนแรกพวกเขาคิดที่จะเดินทางโดยใช้เรือ อย่างไรก็ตามเนื่องจากภัยแล้งที่ผ่านมาเรือในแม่น้ำสายใหญ่จึงถูกระงับการเดินทางเพราะฉะนั้นการเดินทางทางบกจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
“เพราะระดับแม่น้ำที่ลดลงแท้ๆ เราถึงไม่สามารถใช้เรือได้”
ขณะที่ฟิลิปบ่นเหนื่อยเกี่ยวกับการขี่ม้า โรเจอร์ก็โต้กลับมาที่เขาในทันที
“เรืออาจจะเกยตื้นได้ แต่อัศวินที่เกลียดการขี่ม้า? หึ! ผู้คนจะพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้”
“ก็คงจะพูดว่าข้าเป็นคนขี่ม้า จะว่าไปนายท่านกำลังจะไปซื้อกิกันท์ แล้วการซื้อมือถือล่ะ ตอนนี้โทรศัพท์มือถือกำลังเป็นที่นิยมในหมู่ขุนนางมากๆเลยนะท่าน”
“ข้าไม่ต้องการมัน ข้าไม่ชอบเสียเงินไปกับสิ่งของไร้ค่า”
รถที่เคลื่อนที่ด้วยเครื่องจักรไอน้ำนั้นเป็นยานพาหนะที่ไม่ได้แตกต่างจากเกวียนในการขนส่งมากนัก
นอกจากนี้ความเร็วของมันยังเร็วพอๆกับรถม้าซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงถูกมองว่าหรูหรามากกว่ายานพาหนะ
“ถ้าข้าจะซื้ออะไรสักอย่าง ข้าก็จะซื้อของที่มีน้ำหนักมากๆเช่นกิกันท์ที่สามารถบรรทุกและขนของทีละหลายๆชิ้นได้”
รถพ่วงที่กำลังเคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงกันข้ามเองก็เป็นรถที่ใช้ไอน้ำเช่นกัน มันมีคนห้าคนกำลังถือผ้าชิ้นใหญ่ห่อของที่บรรทุกมา พร้อมกับชายและหญิงที่แต่งตัวเหมือนพ่อค้านั่งล้อมมัน
“มันคืออะไร?”
“มันเป็นธงที่ข้าก็ไม่เคยเห็นมาก่อนเช่นกัน”
ทั้งสามคนขับรถออกข้างทางเพื่อให้รถพ่วงผ่านไป
รถพ่วงหยุดลงชั่วขณะและชายที่ดูโง่ๆก็ทักทายพวกเขา
“สวัสดี พวกท่านกำลังเดินทางไปที่ไหนกัน?”
“….แล้วเจ้าละ?”
โรเจอร์ถามเป็นตัวแทนของพวกเขา
“พวกเราเป็นพ่อค้าเร่ของหอการค้าปีศาจ พวกเราเดินทางไปทั่วพื้นที่ชนบทเพื่อซื้อหรือขายสินค้าพิเศษ”
“หอการค้าปีศาจ? ข้าไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน”
“ฮ่าฮ่าฮ่า นั่นเป็นเพราะเราเพิ่งเปิดเมื่อไม่นานมานี้”
ชายคนนั้นพูดขณะมองไปที่ลุค
“เจ้ามาจากดินแดนใดกัน?”
“ข้าไม่ได้มาจากสถานที่ที่มีชื่อเสียงมาก และข้าก็ไม่สามารถพูดได้ว่าสถานที่ใดมีชื่อเสียงมากในทุกวันนี้”
“หืม.. ขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ใช่แล้ว เนื่องจากพวกข้ามีงานยุ่งงั้นพวกข้าจะขอไปก่อนนะ”
ฟิลิปดูผิดหวัง หลังจากนั้นลุคและฟิลิปก็เดินทางต่ออย่างรวดเร็ว
เมื่อคนหนึ่งในรถพ่วงเห็นชายทั้งสามคนจากไปแล้ว เขาก็ได้พูดกับพ่อมดที่อยู่ในรถพ่วงว่า…
“กัปตันทิเกล นั่นคือ…”
“เราจะบรรลุ ‘เป้าหมาย’ ของเราที่รากันต์อย่างแน่นอน แต่เขาแตกต่างจากที่เราได้ยิน”
ทิเกลหยิบกระดาษออกมาจากมือของเขา บนกระดาษแผ่นนั้นมีคำอธิบายเกี่ยวกับลุคแห่งรากัน ลอร์ดหนุ่มแห่งรากันต์บันทึกอยู่….

Emperor of Steel

Emperor of Steel

กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล เซย์ม่อน เขาคือชายผู้ซึ่งอยู่บนจุดสูงสุดของของศาสตร์มนต์ดำ เขาคือชายผู้ถูกขนานนามว่าปราชญ์แห่งความมืด เขาคือชายผู้ถูกตีตราว่าเป็นราชาปีศาจ สิ่งเหล่านี้ได้ทำให้ผู้คนต่างพากันหวาดกลัวเขา และทำให้เขาถูกสังหารลงโดยจักรพรรดิดาบในที่สุด “ไม่ ข้าจะไม่ยอมปล่อยให้มันจบลงแบบนี้!” ในที่สุดแล้ว ด้วยความปรารถณาอันแรงกล้าที่อยากจะมีชีวิตต่อของเขา มันได้ทำให้เขากลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง แต่โชคชะตาและความจริงนั้นโหดร้าย เขากลับมาเกิดใหม่หลังจากเวลาได้ล่วงเลยไปแล้วกว่า 500 ปี.. ชีวิตในครั้งนี้ของเขาจักถือกำเนิดใหม่ในฐานะผู้สืบทอดของศัตรูคู่แค้นของเขา จักรพรรดิดาบ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset