บทที่ 1218 ระงับอารมณ์
ลู่เซิ่นรับสายในที่สุด
“ประธานลู่คะ” เสียงถังย่ายังคงไม่เปลี่ยน เสียงที่อ่อนหวานเต็มไปด้วยความเกรงใจ
เขาเคยคิดว่าน้ำเสียงของถังย่าฟังแล้วมืออาชีพมาก แต่ฟังตอนนี้ ในใจรู้สึกถึงแต่ความรังเกียจ
หลังจากที่ถังย่ามาคุยอวดอำนาจขององค์กร เขาไม่ได้ลงมือกับถังย่าไม่ใช่เพราะหวั่นกลัวองค์กรที่อยู่เบื้องหลังเธอ ที่จริง เขารู้ดีทั้งหมด ให้ถังย่ามาพูดอย่างนั้น ไม่ต้องแปลกใจหลังจากทั้งสองฝ่ายเปิดศึก ให้ถังย่าเป็นคนส่งข่าว
สมัยโบราณมักจะมีคำกล่าวทูตถูกบั่นหัวเพื่อสร้างขวัญกำลังใจ จ้านเซินส่งเธอมา แสดงให้เห็นว่า เขาไม่สนใจความเป็นความตายของถังย่าลู่เซิ่นจะจัดการอย่างไรก็ได้
แต่ลู่เซิ่นระงับอารมณ์ตนเอง
เขาอยากจะหาช่องทางระบายความคับแค้นของตนเอง เขาอยากจับถังย่ามากกว่าใคร ทรมานเธอ ระบายความโกรธและขมขื่นที่เขาหาฉินซีไม่เจอ ออกมาให้หมด
แต่เขาไม่ได้ทำอย่างนั้น
เพราะถังย่ายังมีประโยชน์
ถ้าไม่มีถังย่าการติดต่อของเขากับองค์กรก็จะถูกตัดขาด เขาจะยิ่งไม่มีเบาะแส ที่จะหาร่องรอยของฉินซีเจอ
ลู่เซิ่นในช่วงสามเดือนนี้ ไม่ได้ทำอะไรกับถังย่าเพียงแต่ส่งคนไปจับตาทุกการกระทำและความเคลื่อนไหวของเธออย่างใกล้ชิด ไปจนถึงดักฟังโทรศัพท์ของเธอ และแฮคคอมพิวเตอร์ของเธอ
ยังดีที่ เขาไม่ถึงกับคว้าน้ำเหลว
ถังย่ามักจะติดต่อกับคนที่ไม่แสดงเบอร์โทร บางครั้งคอมพิวเตอร์ก็จะได้รับอีเมล์ที่เพิ่มการเข้ารหัสแอดเดรส แม้ว่าขณะนี้จะยังไม่สามารถถอดรหัสได้ ไม่มีทางตามหาอีเมล์แอดเดรสได้ แต่แทบจะยืนยันได้ คนนั้น จะต้องเป็นคนขององค์กร หรืออาจเป็นจ้านเซินเองก็เป็นได้
แม้ว่าจะรู้ข้อมูลพวกนี้…แต่ก็ไม่ช่วยให้เขาหาร่องรอยของฉินซีได้
บางครั้งเขาถึงกับสงสัยถังย่าน่าจะรู้ว่ามือถือและคอมพิวเตอร์ของเธอถูกแฮค ปล่อยข้อมูลบางอย่าง เพียงเพื่อทำให้เขาสับสน ให้ความหวังเขานิดหน่อย จากนั้นก็คอยดูเขาทำอะไรที่ไม่มีประโยชน์ หัวเราะเยาะเขาลับหลัง
เขาจึงคิดไม่ถึงถังย่าจะโทรมาหาเขาในเวลานี้
แน่นอนว่าลู่เซิ่นไม่พินอบพิเทาถังย่าเพียงแต่ทำเสียงสั้นๆ ให้รู้ว่าเขากำลังฟัง
ถังย่าดูเหมือนจะไม่ใส่ใจที่ประมาทฉินซี เธอหัวเราะนิดหนึ่ง ถามขึ้น “จำที่ฉันบอกครั้งก่อนได้มั้ยคะ หลังจาก คุณฉินกลับมาปกติ ฉันจะให้เธอได้คุยกับคุณ จำได้มั้ยคะ”
ลู่เซิ่นเบิกตากว้างทันที
แน่นอนว่าเขาจำได้
แต่เขารู้สึกมาตลอดว่าคำพูดของถังย่าเป็นแค่คำลวง เป็นข้ออ้างไม่ให้เขาติดต่อกับฉินซีในตอนนั้น
หรือว่า เขาจะได้คุยกับฉินซีจริงๆ
ถังย่าเหมือนจะอ่านความคิดของลู่เซิ่นทะลุปรุโปร่ง ประโยคต่อไปประหนึ่งราดน้ำเย็นลงบนสมองของลู่เซิ่นที่กำลังดีใจ
“ต้องขอโทษด้วยค่ะ ตอนนี้ฉินซียังไม่ฟื้นฟูจนถึงระดับที่จะคุยกับโลกภายนอกได้โดยตรง”
ลู่เซิ่นขมวดคิ้ว
ถังย่ากำลังทำอะไร แหย่เขาเล่นหรือไง
ความโกรธของเขาดูเหมือนถังย่าจะรับรู้ได้ทางโทรศัพท์ แต่เธอยังคงยิ้มไม่รีบร้อน พูดต่อไป “แต่ ฉันมีคลิปของฉินซี ไม่รู้ว่าคุณสนใจอยากดูมั้ย”
สีหน้าของลู่เซิ่นเคร่งขรึมยิ่งขึ้น
เขารู้ดีว่า คลิปสามารถตัดต่อได้ถังย่าคงไม่ได้ใจดีส่งข่าวฉินซีโดยไม่มีต้นสายปลายเหตุ เธอต้องมีเป้าหมายอะไรสักอย่างแน่
แต่ถ้าจะปฏิเสธ…ลู่เซิ่นไม่อาจปฏิเสธได้
เขาไม่ได้เจอหน้าฉินซีมาสามเดือนแล้ว
เขาต้องการข้อมูลใดๆ ที่เกี่ยวกับฉินซีใจจะขาด
ถึงแม้จะไม่ได้คุยกับฉินซี สักรูปภาพหนึ่ง เสียงและข้อความ ต่อให้รู้ว่าเป็นของปลอม รู้ว่าถังย่ามีแผนอะไร เขาก็ไม่มีทางปฏิเสธได้ลง
ลู่เซิ่นรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนเดินทางที่เดินในทะเลทรายมายาวนาน น้ำหมดนานแล้ว ปากแห้ง เดินสะเปะสะปะตาพร่าลาย คอแห้งผาก หิวน้ำจนแทบจะล้มลงเพราะขาดน้ำ
ถ้าในตอนนี้ เขาหิวน้ำแทบตาย มีคนยื่นน้ำให้เขาแก้วหนึ่ง แม้จะรู้ว่าในน้ำนั้นมีพิษ เขาก็ไม่ลังเลที่จะดื่มมัน
ในเมื่อ…ดื่มยาพิษก็ดับกระหายได้เช่นกัน
เขาเงียบงันชั่วขณะหนึ่ง ก็ตอบว่า “ดู”
ถังย่าหัวเราะเบาๆ เหมือนจะคาดเดาคำตอบของเขาอยู่แล้ว จึงพูดขึ้น “ฉันจะส่งคลิปให้คุณ คุณคอยรับนะคะ แต่…คุณอาจจะดูแล้ว ในเมื่อ คอมพิวเตอร์ของฉัน คุณคอยจับตาดูอยู่”
พูดจบ เธอก็หัวเราะคิกๆ ไม่รอลู่เซิ่นพูดอะไร ก็วางสาย
สีหน้าของลู่เซิ่นยุ่งเหยิงกว่าเดิม
เขารู้ว่าถังย่ารู้ดีเรื่องที่มือถือและคอมพิวเตอร์ของเธอ ถูกเฝ้าติดตาม
หมายเลขและอีเมล์นั้น อาจจะเป็นของจริง เพราะมั่นใจว่าลู่เซิ่นสืบไม่ได้ หรืออาจเพราะ…เป็นแค่ระเบิดควัน
ลู่เซิ่นเกลียดที่สุดที่ตัวเองถูกปั่นหัวอย่างคนโง่ แต่ถังย่าบอกเขาชัดเจน เขาถูกเล่นเข้าแล้ว
ลู่เซิ่นไม่มีทางเลือกอื่น
ถ้าไม่ใช่เพราะฉินซี
ถ้าฉินซีไม่ได้อยู่ในมือพวกเขา ลู่เซิ่นคงไม่งอมืองอเท้าอย่างนี้
อย่างน้อยก็คงไม่เหมือนตอนนี้ ถูกคนบีบชะตาชีวิต ถูกข่มเหงตามใจ
ตอนที่ความโกรธของลู่เซิ่นสะสมขึ้นมาทีละน้อย มือถือของเขาสว่างขึ้น
ถังย่านั่นเองที่ส่งคลิปมา
ลู่เซิ่นแทบจะสลัดความคิดเมื่อครู่ออกไปทันที รีบเปิดคลิปดู
คลิปใช้เวลาโหลดช้าๆ อยู่สองสามวินาที เขาเห็นว่านิ้วมือของตัวเองสั่น
แค่ไม่กี่วินาที คลิปก็เริ่มเล่น
คลิปใช้มือถืออัด
ภาพในคลิปนั้น ฉินซีนั่งที่โซฟาตัวหนึ่ง มือประคองหนังสือ กำลังตั้งใจอ่านหนังสือ
คนที่ถือมือถือถ่ายคลิปเรียกชื่อเธอ “ฉินซี!”
เธอค่อยเงยหน้าขึ้นช้าๆ
เธอมองมือถืออย่างงงๆ จากนั้นมองเหนือกล้องขึ้นไป คงจะมองคนที่ถ่ายคลิป ถามขึ้น “ถ่ายฉันทำไม”
คนถ่ายคลิปหัวเราะเบาๆ ไม่ได้ตอบคำถาม แต่กลับถามเธอ “ตอนบ่ายออกทะเล ไปมั้ย”
ฉินซีคิดนิดนึง ส่ายหน้า “ไม่ไป วันนี้แดดแรง ออกไปเดี๋ยวไหม้แดด”
คนถ่ายคลิปทำเสียง “อ้อ” พูดกับเธอ “งั้นคุณอยากไปเมื่อไร ค่อยบอกผมละกัน”
ฉินซีพยักหน้า มองกล้องอีกครั้ง
คลิปเล่นถึงตรงนี้ก็หยุดไป
ลู่เซิ่นมองหน้าจอมือถือนิ่งอึ้ง
เขาไม่ได้เห็นฉินซีมานานมากแล้ว
เธอมองกล้องพอดี ทำให้ลู่เซิ่นมองเห็นเธอได้ชัดเจน
ไม่ได้เจอหน้ากันสามเดือนแล้ว ฉินซีดูผอมลง แต่สภาพจิตใจดีมาก อย่างน้อยสายตาก็สดใส
แต่เห็นชัด ความตั้งใจของถังย่าไม่ใช่ให้เขาเห็นฉินซี