flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1217 เพื่อนร่วมเป็นร่วมตาย

บทที่ 1217 เพื่อนร่วมเป็นร่วมตาย

เมื่อเห็นเช่นนี้ น้ำเสียงของหลินยี่ก็ดังขึ้น “เรื่องนี้นายไม่ได้เสียหายอะไร และยังช่วยหาฉินซีเจอ ลู่เซิ่น ทำไมนายต้องคัดค้านหนักขนาดนี้ล่ะ”

ลู่เซิ่นไม่ต่อปากต่อคำ เพียงแค่ยืนขึ้น พิจารณาหลินยี่

เขากับหลินยี่ร่วมเป็นร่วมตาย หลินยี่ยังเคยช่วยชีวิตเขา

แม้จะรู้ดีว่าหลินยี่แนะนำเช่นนี้เพราะหวังผลส่วนตัว แต่ลู่เซิ่นก็รู้เช่นกัน คำแนะนำนี้สำหรับตัวเขาแล้ว ทำได้ง่ายที่สุด

”ฉันจะส่งคนไปหาฉินซีต่อ” ความเงียบระหว่างสองคนไม่รู้ว่าเนิ่นนานเท่าไร ลู่เซิ่นเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน “สามเดือน ถ้าสามเดือนนี้ยังไม่ได้ข่าวของเธอ ฉันจะลองคิดข้อเสนอของนายอีกที”

หลินยี่โล่งใจ พยักหน้า “ก็ได้”

แน่นอนว่าเขาหวังว่าฉินซีจะปลอดภัย แต่…เท่าที่เขาเข้าใจองค์กร “เฟิง”แม้แต่ระดับลู่เซิ่น ใช้เวลาสามเดือน ก็ไม่แน่ว่าจะหาร่องรอยของคนที่พวกเขาตั้งใจปิดบังได้

สีหน้าของลู่เซิ่นไม่ค่อยดีนัก หลินยี่จึงไม่ได้พูดอะไร

“พี่คะ!” เวินจิ้งหอบขวดน้ำมาสองสามขวดผลักประตูเข้ามา

หลินยี่เพิ่งจะใช้ให้เธอไปซื้อน้ำ ที่จริงอยากจะให้เธอแยกไป เพื่อที่เขาจะหารือข้อเสนอของตัวเองเมื่อวานนี้กับลู่เซิ่นได้สะดวก

เวินจิ้งจึงไม่รู้เรื่องสักนิด ถูกพี่ชายของตัวเอง “ขาย” แล้ว

สายตาของลู่เซิ่นหยุดอยู่ที่ใบหน้าของเวินจิ้งครู่หนึ่ง ตอนที่หันมาทางหลินยี่ ก็เห็นรอยยิ้มกวนโมโหบนใบหน้าของเขา

ลู่เซิ่นตีสีหน้าขรึมเดินออกไปจากห้อง

……

ผลการตรวจร่างกายของหลินยี่เป็นไปด้วยดี ลู่เซิ่นไม่ได้อยู่เป็นเพื่อนต่อ ให้พวกเขากลับไปพักผ่อนที่บ้านตระกูลลู่ ส่วนตัวเองเดินทางต่อไปบริษัทลู่ซื่อ

ช่วงเช้าเขาไม่ได้ให้หลินหยังไปโรงพยาบาล แต่สั่งให้หลินหยังมาบริษัทลู่ซื่อช่วยจัดการเอกสารให้เขา ตอนที่เขาเดินออกมาจากลิฟต์ ก็เห็นหลินหยังหอบเอกสารกองหนึ่งเหมือนรอเขากลับมา

ลู่เซิ่นนวดตรงหว่างคิ้ว ทำท่าให้เขาเอาเอกสารไปวางที่ห้องทำงาน

รอจนหลินหยังวางเอกสารเตรียมจะออกไป ก็ถูกลู่เซิ่นเรียกไว้

“ผมจะส่งข้อมูลให้คุณ” ลู่เซิ่นสีหน้าอ่อนล้า แต่ดวงตาเป็นประกาย “คุณลองดูหัวข้อในข้อมูลที่ส่งให้นะ หาวิธีตามหาฉินซี ภายในสามเดือน ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรผมจะต้องหาเธอให้เจอ”

หลินหยังรีบพยักหน้ารับทราบ

เขาเพิ่งจะนั่งลงที่นั่งของตัวเอง ก็ได้รับข้อมูลที่ลู่เซิ่นส่งมาให้

องค์กรอะไรสักแห่ง เกาะส่วนตัว เขาอ่านอย่างตกตะลึง

เขาคาดไม่ถึง การหายตัวไปของฉินซีจะเกี่ยวข้องกับเรื่องพรรค์นี้

มีทางเดียว..ถึงจะเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของฉินซี แม้ต้องบุกน้ำลุยไฟเขาก็ต้องไปสืบหาตัวเธอให้ได้

สายตาของหลินหยังมุ่งมั่น

……

เวลาสามเดือนผ่านไปเหมือนติดปีก

อย่างน้อยแล้วสำหรับหลินหยังมันเป็นเช่นนั้น

ตามข้อมูลที่ลู่เซิ่นส่งมาให้หาทีมทหารรับจ้างที่มืออาชีพที่สุด และยังทำงานหน่วยข่าวกรอง กระทั่งไม่ขอให้หาคนที่ลักพาฉินซีไป ขอแค่รู้ว่าตอนนี้ฉินซีอยู่ที่ไหนกันแน่

แต่คนทั้งคน กลับหายวับไป ไม่มีร่องรอยอะไร

ไม่มีเส้นทางการใช้บัตรเครดิต ไม่มีบันทึกการใช้บัตรประชาชน ไม่มีพยานรู้เห็น กระทั่งไม่มีกล้องวงจรปิดจับภาพได้

คนทั้งคน ทำไมไม่มีร่องรอยอะไรทิ้งไว้ให้เห็น

แทบเรียกได้ว่าเขาวุ่นวายกับเรื่องนี้ทุกวัน แม้แต่ทีมที่ดีที่สุด ก็ยังไม่อาจให้คำตอบที่น่าพอใจได้

“ผู้ช่วยหลิน” ในที่สุดหัวหน้าทีมทหารรับจ้างก็ติดต่อเขา น้ำเสียงระมัดระวัง “คนที่คุณต้องการหา อยู่ที่เกาะส่วนตัวแห่งหนึ่ง หรือว่า…ไม่อยู่แล้ว”

หลินหยังสีหน้าเย็นชาอย่างที่ไม่ค่อยได้เห็น “ถ้าพวกคุณพิสูจน์ได้ว่าเธอตายแล้ว ผมจะจ่ายเงินให้คุณ”

หัวหน้าทีมจึงออกไปอย่างอับอาย

แม้แต่หลินหยังยังทรมานขนาดนี้ จิตใจลู่เซิ่นยิ่งทนทุกข์

ถ้าไม่ใช่เพราะถังย่าสัญญาว่าฉินซีปลอดภัยดี คงจะทำให้สงสัยว่าฉินซียังอยู่บนโลกนี้จริงหรือไม่

เขารอคอยข่าวดีจากหลินหยังทุกวัน แต่รายงานทุกวัน ไร้ความคืบหน้า “ยังไม่พบเบาะแสของคุณผู้หญิงครับ”

หนึ่งเดือนผ่านไป เขาไม่พูดอะไร เพียงแต่หลังจากรายงานประจำวันแล้ว ส่ายหน้าเงียบขรึม

ลู่เซิ่นรับรู้ ยังคงไม่มีข่าวเกี่ยวกับฉินซี

ใกล้จะครบสามเดือนเต็มแล้ว

เขายังคงไร้เบาะแสของฉินซี

น้อยครั้งจะได้เห็นลู่เซิ่นไม่พอใจตนเอง

เขาพอใจตัวเองมาตลอด มีความรับผิดชอบ

เพราะเขาอยู่มานานขนาดนี้ อะไรที่อยากได้ ไม่เคยพลาด

แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพลาด และยังทำให้คนที่สำคัญที่สุดหายตัวไป

จะให้เขายอมรับได้อย่างไร

ความเงียบขรึมและซูบผอมของลู่เซิ่นเห็นชัดขึ้น สีหน้าของเขาทำให้คนทั้งบริษัทลู่ซื่อรู้สึกหวาดกลัว

หลินยี่คอยถามความคืบหน้าเป็นระยะ แต่เมื่อเห็นสีหน้าของลู่เซิ่น ก็รู้ทุกอย่างแล้ว

เขาไม่ได้พูดถึงเรื่องที่ลู่เซิ่นเคยบอกว่าหลังจากสามเดือนถ้าตามหาฉินซีไม่เจอจะแต่งงาน เพียงแต่รอคอยอย่างเงียบๆ

กระทั่งคืนวันนั้นที่ฉินซีหายตัวไปครบสามเดือน

ลู่เซิ่นอารมณ์เสียทั้งวัน คนที่เข้ามารายงานทุกคนต่างหวั่นกลัวเขาจนใจเต้น

ยังดีที่ลู่เซิ่นไม่ชอบเอาเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานมาปนกัน ต่อให้อารมณ์เสียมากแค่ไหน ก็ไม่ทำให้พนักงานของตัวเองลำบากใจ

รอจนการทำงานทั้งวันเสร็จลง เขาให้หลินหยังปิดประตู ห้ามทุกคนเข้ามาส่วนตัวเองรินไวน์แก้วหนึ่ง ยืนที่หน้าต่างในห้องทำงาน

ห้องทำงานของเขาอยู่ที่ชั้น 22 มีหน้าต่างบานใหญ่ มองจากหน้าต่างลงไปเบื้องล่าง เห็นคนเดินเท้าและรถราตามท้องถนนด้านล่างราวกับมดตัวเล็กๆ

เขาเคยคิดว่าตัวเองจะยืนอยู่ที่สูงมองผู้คนที่เหมือนมดตลอดไป

แต่ฉินซีทำให้เขากลายเป็นเพียงคนธรรมดา

เรื่องที่หนักอึ้งในใจเขาตอนนี้ ทำให้เขาไม่ต่างอะไรกับ “มดน้อย” ที่จอแจอยู่ด้านล่าง

ล้วนถูกคนอื่นบีบคั้นชะตาชีวิตเท่านั้น

แต่เรื่องที่บีบคั้นพวกเขา อย่างมากก็เรื่องเงินหรือหน้าที่การงาน พวกเขาต้องใช้มันเลี้ยงดูครอบครัว เลี้ยงดูตัวเอง ปีนขึ้นไปสู่สถานะที่สูงขึ้น มีอำนาจใหญ่โตขึ้น

แต่คนที่ถูกนำมาบีบลู่เซิ่น มีแค่ฉินซีเท่านั้น

เขาจินตนาการชีวิตที่ไม่มีฉินซีไม่ออก แค่คิดเท่านั้น ก็รู้สึกว่าส่วนหนึ่งของจิตใจเบาโหวง

ส่วนหนึ่งของชีวิตเขาถูกบีบในมือคนอื่น เขาจึงขาดอิสระยิ่งกว่าคนด้านล่างนั้นเสียอีก ไม่อาจขยับเขยื้อนได้แม้แต่น้อย

กระดกไวน์ดื่มจนหมดแก้ว มือถือของลู่เซิ่นดังขึ้น

เขาเหลือบตามองสายเข้า สีหน้าเคร่งขรึมขึ้น

บนหน้าจอปรากฏชื่อ ถังย่า

flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

Options

not work with dark mode
Reset