บทที่ 16 ไม่สามารถขจัดเรื่องปลอมมาทำจริงได้
เวินจิ้งกระพริบตา หันไปมองมู่วี่สิง เขาหลับตาไปแล้ว
ความอุ่นของนิ้วเมื่อกี้ยังทิ้งไว้อยู่บนริมฝีปากของเธอ เวินจิ้งไม่รู้ว่าตัวเองไวต่อความรู้สึกขนาดนี้
เธอจับผ้าปูเตียง พูดอย่างกระวนกระวาย“ฉันไปนอนโซฟาดีกว่า”
แต่ยังไม่นั่งก็โดนมู่วี่สิงดึงไปอยู่ในอ้อมกอด เวินจิ้งนิ่งสนิท
“อย่าขยับ”
“ไม่ได้ มู่วี่สิง ฉันนอนกับคุณไม่ได้ ตอนนี้คุณปู่ไม่อยู่ เราไม่จำเป็นต้องแสดง!”เวินจิ้งยังยืนหยัด
แม้ว่าตอนนั้นเธอกับฉืออี้เหิงจะคบกันจนถึงขั้นใกล้จะแต่งงานแล้ว แต่ทั้งสองก็ยังไม่ใกล้ชิดกันขนาดว่าหลับด้วยกัน
ตอนนี้ยิ่งไม่เหมาะเข้าไปใหญ่
“พรุ่งนี้แม่บ้านจะมาตรวจดู เวินจิ้ง จำาสถานภาพของคุณตอนนี้ไว้ เวลาที่จำเป็นผมไม่สามารถขจัดเรื่องปลอมมาทำจริงได้!”เสียงของมู่วี่สิงเย็นชาอีกครั้ง ลมหายใจรดอยู่ที่หัวของเวินจิ้ง น่ากลัวมาก
เธอนิ่งไป คำนี้มู่วี่สิงก็เคยพูด แต่ในทางปฏิบัติแล้ว ลำบากมาก……
อีกอย่างเธอพบว่าดูเหมือนตัวเองจะไม่ไล่ที่มู่วี่สิงมาใกล้ชิด นี่ไม่ใช่เรื่องดี……
เธอวางมือบนศรีษะมองผู้ชายข้างๆ กัดฟันแล้วเอนตัวนอน
ยังไงซะมู่วี่สิงก็เคยบอกว่าไม่มีทางชอบเธอ ดังนั้น น่าจะไม่ทำอะไรเธอมั้ง?
พอคิดขึ้นมา เวินจิ้งก็ปลอบตัวเองไม่หยุด แล้วแปปนึงก็หลับไป
มู่วี่สิงลืมตาขึ้น ได้ยินเสียงลมหายใจข้างๆ ลมหายใจของเขาก็ค่อยๆร้อนแรงขึ้น
……
วันถัดมา เวินจิ้งตื่นมา คนข้างๆก็หายไป
แม่บ้านเข้ามาเคาะประตู มองไปรอบๆห้องนอนอย่างละเอียด จากนั้นก็ไปรายงานกับมู่เฉิง
“คุณท่าน เมื่อคืนคุณชายน้อยกับคุณนายนอนด้วยกันค่ะ”
“อืม”มู่เฉิงลูบคางอย่างพอใจ
พอลงไปที่ห้องรับแขก เวินจิ้งถึงรู้ว่ามู่เฉิงกับมู่วี่สิงออกไปแล้ว วันนี้เธอมีสัมภาษณ์ รีบกินข้าวเช้าแล้วออกไป
แต่ว่ามู่วี่สิงให้รถมารับส่งเธอ
ก็แค่ รถนี้ช่างดูไฮท์จริง……
“คุณนายครับ เชิญขึ้นรถ”คนขับรถยืนอยู่ข้างๆรถโรลส์-รอยซ์ เปิดประตูให้อย่างเคารพ
เวินจิ้งขมวดคิ้ว เธอไม่กล้านั่งรถหรูขนาดนี้ไปสัมภาษณ์ตำแหน่งเล็กๆ
“ฉันไปเองก็ได้”พูดจบ เวินจิ้งก็เดินออกไป
แต่ว่าคนขับรถได้รับคำสั่งไม่ให้อยู่ห่างจากเวินจิ้ง รถหรูนั่นเลยตามเวินจิ้งไม่ห่าง
“คุณกลับไปเถอะ ไม่ต้องมารับส่งฉัน”เวินจิ้งเคาะหน้าต่างรถอย่างทนไม่ไหว。
คนขับรีบลงมา แล้วโค้งตัวเปิดประตูให้อย่างเคารพอีกครั้ง“คุณนาย คุณชายกำชับมา ต่อไปผมคือคนขับรถของคุณนายรับส่งคุณนายปกติ”
มุมปากของเวินจิ้งยกขึ้นเลยโทรหามู่วี่สิง
เธอไม่อยากให้ชีวิตถูกรบกวน
แต่ว่าปลายสายมีเสียงตอบมาว่ากำลังยุ่ง ปกติแล้วมู่วี่สิงไม่เข้าเวรก็ไปห้องผ่าตัด ช่วงกลางวันแบบนี้ยากที่จะติดต่อ
“คุณนาย ขึ้นรถครับ”คนขับรถยังพูดอย่างมีมารยาท
เวินจิ้งหมดหนทางเลยได้แต่ขึ้นรถไป แต่ว่ายังไม่ถึงที่สัมภาษณ์ก็ลงจากรถแล้วเดินไปเองและก็ไม่สนว่ารถนั้นจะตามเธอ
พอสัมภาษณ์เสร็จ เวินจิ้งก็ได้รับสายของอั้ยเถียนบอกว่าบริษัทการผลิตยาเทียนอีถูกรับซื้อต่อแล้ว พวกเธอน่าจะไม่ต้องลาออกแล้ว
“จริงเหรอ?ใครรับซื้อน่ะ?”เวินจิ้งถาม ตอนนี้บริษัทการผลิตยาเทียนอีก็ค่อนข้างเละเทะ ใครยอมรับช่วงต่อเนี่ย
“ไม่รู้สิ แต่ฉันได้ข่าวมาจริงๆ ได้ยินว่าฝ่ายตรงข้ามพื้นเพแข็งแกร่งมาก มั่นคงสุดๆไม่รู้ว่าจะมีการปลดพนักงานไหม ”อั้ยเถียนถอนหายใจอีกรอบ
เวินจิ้งจับโทรศัพท์แน่น ถ้าแบบนี้ก็ดีเหลือเกิน เธอไม่อยากไปหางานใหม่อยู่แล้ว
“งั้นเรารอข้อความกันเถอะ”
“อ้อใช่ คืนนี้เธอไม่ไปจริงเหรอ?”อั้ยเถียนถามเธอ
เวินจิ้งขมวดคิ้ว“ฉันเปลี่ยนความตั้งใจละ”
เธออยากรู้ว่าฉืออี้เหิงจะให้อะไรเธอ และก็ดีที่ให้เธอทิ้งความคิดครั้งสุดท้ายนี้ไป