มู่นวลนวลออกไปก่อน รอมู่หวันฉีที่หน้าประตู
มู่หวันฉีเห็นหน้าเธอทีไรไม่เคยให้สีหน้าที่ดีตลอด:”ดูเธอยังจะภูมิใจได้อีกนานแค่ไหน รอโดนพ่อเฉดหัวออกจากตระกูลหมู่เถอะ!”
“อ๋อ?ไล่ฉันออกจากตระกูลมู่?”มู่นวลนวลยิ้มอย่างอ่อนโยน:”ไม่อยากให้โม่ถิงเซียวมาลงทุนกับบริษัทแล้วหรอ?”
มู่หวันฉีตอบอย่างเย็นชา:”หึ เธอคิดว่าคนไร้ปัญญาแบบโม่ถิงเซียวในมือจะมีเงินด้วยหรอ?”
“อย่าปากดีนัก”มู่นวลนวลชำเลืองเธออย่างเยือกเย็น
“ทีเธอยังปากดีเลย ยังกล้ามาว่าคนอื่นหรอ?”มู่หวันฉีเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยแล้วยิ้มอย่างสะใจ ทันใดนั้นเธอก็คิดอะไรขึ้นมาทันที รอยยิ้มบนหน้าก็ค่อยๆเบาลง หันหลังกลับเข้าไปห้องทำงานของมู่ลี่หยาน
ณ ห้องทำงานของมู่ลี่หยาน
มู่หวันฉีนั่งตรงหน้าของเขา ทำหน้าจริงจัง:”พ่อ มีเรื่องหนึ่งลืมบอกให้พ่อเลยอะ ในมือของหมู่นวลนวลมีบัตรเครดิตแบบแพลตตินัมที่จะมีเฉพาะภายในตระกูลโม่!”
“เธอรู้ได้ไง?”มู่ลี่หยานถามด้วยความตกใจ:”เธอพึ่งไปอยู่บ้านโม่ถิงเซียวได้ไม่นานนิ ทำไหมโม่ถิงเซียวถึงให้บัตรเครดิตแบบแพลตตินัมกับเธอ?”
“ครั้งนั้นฉันไปกินข้าวกับชูฮันที่จิงติง ฉันเห็นกับตาว่าเธอหยิบบัตรเครดิตแบบแพลตตินัมออกมาจ่ายเงิน!”มู่หวันฉีพูดอย่างตื่นเต้น”
“ได้ข่าวว่าบัตรเครดิตแบบแพลตตินัมของตระกูลเป็นแบบคืออันลิมิเต็ด?”
บัตรเครดิตแบบแพลตตินัมของตระกูลโม่คืออันลิมิเต็ดในโลก มู่ลี่หยานก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า บัตรเครดิตแบบแพลตตินัมใบนี้ใช้ได้ไม่อั้นหรือเปล่า
แต่ถึงจะไม่ใช่อันลิมิเต็ดก็ตาม แต่ในฐานะมหาเศรษฐีอันดับต้นๆ เลขของบัตรเครดิตแบบแพลตตินัมก็ไม่ใช่น้อยๆหรอกนะ
เห็นมู่ลี่หยานเอาคำพูดของเธอเก็บไปคิด มู่หวันฉีพูดต่อว่า:”ถ้าพวกเราเอาบัตรเครดิตแบบแพลตตินัมจากมือของมู่นวลนวลได้ ก็ไม่ต้องไปเครียดเรื่องเงินลงทุนแล้วนะ!”
มู่ลี่หยานก็มีหวั่นไหวกับคำพูดบ้าง แต่ยังไงเขาก็เป็นนักธุรกิจเก่าแก่แล้ว ไม่เหมือนคนรุ่นใหม่ที่ทำอะไรก็ไม่คิดก่อนทำ
จะทำอะไรก็ต้องใช้สติไม่รีบร้อน
เขาคิดแล้วคิด พูดว่า:”แต่ ไม่ว่ายังไง บัตรเครดิตแบบแพลตตินัมก็คือโม่ถิงเซียวให้กับมู่นวลนวล เธอจะให้พวกเราใช้หรอ?”
มู่หวันฉีเห็นว่ามู่ลี่หยานหวั่นไหวแล้ว แววตาเปล่งประกาย:”พ่อเป็นพ่อแท้ๆของมู่นวลนวล พ่อให้กำเนิดเธอเลี้ยงดูเธอรักเธอ ก็แค่ยืมใช้บัตรเครดิตแบบแพลตตินัมเอง ไม่เห็นจะมีอะไรใหญ่โตเลย ถึงเธอจะเข้าใจผิดและไม่อยากให้บัตรเครดิตแบบแพลตตินัมกับพ่อ แต่ยังมีแม่……”
มู่ลี่หยานเงียบไปสักครู่ แล้วพยักหน้า
……..
มู่นวลนวลเลิกงานกลับถึงบ้าน กับข้าวยังไม่ทันได้ทำเสร็จ”โม่ถิงเซียว”ก็กลับมาแล้ว
ในคฤหาสน์เปิดเครื่องทำความร้อนไว้ เขาเข้ามาก็ถอดเสื้อกันหน้าออก เหลือแค่เสื้อเชิ้ตสีเข้มบางๆกับกางเกงสูท แลดูสูงมาก
เขาไปหาหมู่นวลนวลที่ห้องครัว
เขายืนพิงที่ประตู ใช้เสียที่ทุ้มต่ำถามว่า:”โครงการที่ไปคุยเป็นยังไงบ้าง?”
มู่นวลนวลกำลังหั่นผัก พูดอย่างเมินเฉย”ทำพังแล้ว”
เขาตอบอย่างจะยิ้มก็ไม่ใช่จะหัวเราะก็ไม่ใช่:”โครงการแรกก็ทำพังเลยเหรอ”
ฟังน้ำเสียงไม่ออกว่า เขากำลังจะหัวเราะเยาะเธอหรือป่าว
มู่นวลนวลหันหน้ามามองเธอ:”นั่นเป็นมู่หวันฉีทำพัง ไม่ใช่ฉันนะ”
แม้ว่ามู่หวันฉีจะโยนความผิดที่ทำโครงการพังใส่เธอ แต่เธอไม่ยอมรับมันแน่นอน
เธอพูดจบ ก็หันหลังไปหั่นผักต่อ
โม่ถิงเซียวก้มหน้าลง แล้วหัวเราะอย่าไร้เสียง
วันถัดมาเป็นวันเสาร์
มู่นวลนวลตื่นมาทำข้าวเช้าเช่นเคย “โม่ถิงเซียว”ก็ตื่นเช้าเช่นกัน
มู่นวลนวลเห็นเธอ ก็พูดว่า :”ลูกพี่ลูกน้องนายตื่นยัง? นายยกข้าวเช้าขึ้นไปให้เขาหน่อย”
“ไม่ยก”โม่ถิงเซียวตอบปฏิเสธไปไปโดยไม่คิด
ตัวเขาเองอยู่ตรงนี้แล้ว ยังจะให้ยกข้าวเช้าอะไรอีก
มู่นวลนวลจ้องเขา แล้วเรียกบอดี้การ์ดยกข้าวเช้าไปให้โม่ถิงเซียวกิน
เธอกินข้าวเสร็จก็ออกไปข้างนอกเลย
ปกติวันหยุดเสาร์อาทิตย์เธอไม่ค่อยจะออกไปข้างนอก โม่ถิงเซียวจึงแปลกใจว่าเธอจะไปไหนกันแน่ ก็เลยเรียกซือเย่ขับรถตามเธอไป
ผลที่ได้คือ มู่นวลนวลไปคลินิกจิตบำบัดที่หนึ่ง
ตรงข้ามคลินิก โม่ถิงเซียวนั่งอยู่ในรถ มองผ่านกระจกรถเข้าไปที่ประตูคลินิกจิตบำบัด:”เธอไปที่นั่นทำอะไร?”
ซือเย่นึกขึ้นได้เมื่อวันมู่นวลนวลเคยพูดในรถว่า:”นายหญิงน่าจะไปที่นั่นเพราะนายน้อยนะครับ”
เพราะเขาเหรอ?
โม่ถิงเซียวคิดอยู่สักพักหนึ่ง ก็ได้เข้าใจแล้วว่ามันเป็นเพราะอะไร
ผู้หญิงคนนี้คิดว่าเขามีปัญหาทางจิตใจ จึงไปที่คลินิก?
มู่นวลนวลมาอยู่บ้านตระกูลโม่สักพักหนึ่งแล้วก็ไม่เคยได้เห็นตัว”โม่ถิงเซียว”เลย ถ้าเป็นคนอื่น ก็คงจะคิดเหมือนกันว่า โม่ถิงเซียวมีปัญหาทางจิตใจ
ผู้หญิงคนนี้ใส่ใจเรื่องของโม่ถิงเซียวมากเลยนะ
ซือเย่มองดูหน้าของเจ้านายตัวเองที่เปลี่ยนสีหน้าไม่หยุด จึงค่อยๆถามดู:”นายน้อยคิดว่าเมื่อไหร่จะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงครับ?”
เมื่อไหร่เหรอ?
คำถามนี้โม่ถิงเซียวก็ตอบไม่ได้
ขณะนี้ หน้าประตูคลินิกจิตบำบัดก็มีรูปร่างของคนที่คุ้นเคยอยู่
ซือเย่มองเห็นชัดว่านั่นคือซือเฉิงยวี่ ก็ได้พูดว่า:”คุณชาย นั่นคือลูกพี่ลูกน้องของคุณนิ!”
โม่ถิงเซียวมองตามมือของซือเย่ที่ชี้ไปทางนั้น เเค่เเวบเเรกก็มองออกเลยว่าคนที่เเต่งตัวมิดชิดขนาดนั้นคือซือเฉิงยวี่
เขาสนิทกับซือเฉิงยวี่มาก จึงง่ายต่อการเห็นรูปร่างก็รู้เลยว่านั่นคือเขา
ซือเย่ไม่ได้รับการตอบรับอะไรจากโม่ถิงเซียว กำลังแปลกใจอยู่ ก็ได้ยินเสียงเปิดประตูรถ
โม่ถิงเซียวลงจากตรงไปที่คลินิกจิตบำบัด
ซือเย่ก็รีบตามไปด้วย
…….
ณ ห้องให้คำปรึกษาของคลินิกจิตบำบัด
หลังจากที่คุณหมอได้ฟังคำอธิบายของมู่นวลนวลแล้ว ก็ได้ทำสีหน้าเคร่งเครียดแล้วพูดว่า:”อาการแบบนี้เป็นผลกระทบมาจากบาดแผลเก่า มันน่าจะเกี่ยวกับประสบการณ์เก่าที่เขาเคยโดนมา กรณีแบบนี้ต้องพึ่งพาคนในครอบครัวคนใกล้ชิดมาช่วยแล้วแหละ”
มู่นวลนวลย้ำคำพูดอีกครั้ง:”ประสบการณ์เก่าๆที่เคยเจอมา?”
คุณหมออธิบายให้เธอฟังอย่างละเอียดอีกครั้ง: “มันก็คือเหตุการณ์ที่ทำให้เขาเกิดการกระตุ้นทางจิตใจมากขึ้น โดยปกติจะเกี่ยวข้องกับประสบการณ์ที่เจอในวัยเด็กและวัยรุ่น เนื่องจากในวัยนี้จิตใจของคนเรายังเติบโตได้ไม่เต็มที่และค่อนข้างที่จะเปราะบาง มันจึงทำให้มีผลกระทบตามมาทีหลัง”
คุณหมออธิบายได้ละเอียดมาก ฟังแล้วเข้าใจได้ง่าย
นี่กับสิ่งที่มู่นวลนวลคิดไว้ในใจไม่มีผิดเลย
เธอไม่ได้บอกอาการของโม่ถิงเซียวไปหมดทุกอย่าง บอกแค่ว่าสามีของเธอไม่ชอบพบปะกับผู้คน ชอบอยู่อย่างเงียบๆ
อาการต่างๆของโม่ถิงเซียวเป็นความลับที่ถูกเปิดเผยในเซี่ยงไฮ้ถ้าเธอบอกอาการต่างๆของโม่ถิงเซียวชัดเจนเกินไปหมออาจเดาได้ว่าเป็นโม่ถิงเซียว
“ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะคุณหมอ”
มู่นวลนวลขอบคุณคุณหมอเสร็จ ก็ได้ลุกออกไปทันที
เดินไปไม่กี่ก้าว ก็เจอผู้ชายสองคนที่กำลังมุ่งหน้ามาหาเธอ
ผู้ชายทั้งสองเดินมาทีละคน คนที่อยู่หน้าสุด แต่งตัวมิดชิด แต่ดูจากรูปร่างแล้วคุ้นชินตามาก
ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ผู้ชายถอดแว่นออก ไม่ว่าใบหน้าของเขาที่ยิ้มแย้ม หรือจะเป็นน้ำเสียงที่พูดออกมาอย่างอ่อนหวาน มันทำให้ทั้งหมดนี้เข้ากันได้อย่างอ่อนโยนมาก
“มู่นวลนวล เจอกันอีกแล้วนะ”
“ซือเฉิงยวี่?”
มู่นวลนวลตกใจและมองชายที่อยู่ตรงหน้าเธอ
เธอได้….ได้เจอกับซุปตาร์ซืออีกแล้ว!!!!
ซือเฉิงยวี่ได้เห็นทุกอาการของเธอหมด หลุดยิ้มออกมา:”ทำไมหรอ เจอผมมันน่าตกใจขนาดนั้นเลยหรอ?”
มู่นวลนวลพยักหน้า:”แค่ระยะเวลาสั้นๆในหนึ่งเดือน ฉันบังเอิญเจอคุณตั้งสามครั้ง ฉันรู้สึกว่าฉันสามารถไปซื้อหวยได้แล้วล่ะ”