ตอนที่ 366 ปัญหาท้าทาย
เวลานี้เผยปิงปิงกับกู้หลียวนเฝ้าอยู่ที่ข้างเตียง ซูจิ่วซือเอนหลังพิงหมอน เนื่องจากบาดเจ็บรุนแรง และมีอาการเวียนหัว
“ข้าจะไปคิดบัญชีกับเขา จงมั่วเจียงเจ้าคนสารเลว”
กู้หลียวนเห็นซูจิ่วซือบาดเจ็บหนัก เตรียมจะไปหาจงมั่วเจียง ซูจิ่วซือห้ามเขาไว้ “หลียวน อย่าไป ข้าไม่เป็นไรหรอก”
“จิ่วซือ เจ้าคงไม่ปกป้องคนสารเลวใช่ไหม!”
“เจ้าสู้เขาไม่ได้”
ซูจิ่วซือตอบเรียบๆ
“…”
กู้หลียวนไม่รู้จะพูดอย่างไร ไม่มีอะไรจะโต้แย้งซูจิ่วซือ เขาสู้จงมั่วเจียงไม่ได้จริงๆ อย่าว่าแต่สู้เลย แม้แต่จะเข้าใกล้ก็ยังยาก
เผยปิงปิงอยู่ข้างๆ อดหัวเราะไม่ได้
“มีอะไรน่าหัวเราะ สู้เขาไม่ได้เป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่หรือ ข้าไม่ใช่มือสังหาร” กู้หลียวนอยากรักษาหน้า พูดอย่างบึ้งตึง
เผยปิงปิงหยุดยิ้ม หันไปนั่งข้างเตียงซูจิ่วซือ “จิ่วซือ วางใจเถอะ พอเกิดเรื่องอย่างนี้จงมั่วเจียงปล่อยเจ้าแน่ การกระทำครั้งนี้น่าละอายมาก เขาคงตัดใจได้แล้ว วันหลังอย่าพุ่งเข้าชนอีก เกือบโดนจุดสำคัญ ถ้าโดน คงตายแน่”
“ข้าไม่ได้คิดให้ดี”
เผยปิงปิงยกนิ้วหัวแม่มือ “เมื่อก่อนข้ารู้สึกว่าฟู่เฉินหรงชอบเจ้าเกินไป ดูเหมือนว่าเจ้าไม่ได้ทำอะไรให้ฟู่เฉินหรงเลย เวลานี้ข้าเพิ่งรู้ เจ้าทั้งสองต่างก็รักกัน เจ้าเองก็รักเขามาก”
“พูดเหลวไหล”
กู้หลียวนต่อว่า
“คนใจแคบ” เผยปิงปิงตีหน้ายักษ์ใส่กู้หลียวน “แค่หัวเราะเจ้า ทำไมถึงแค้นฝังใจ ไม่พูดเหลวไหลก็ได้ เอาละเรามาพูดจริงจัง จิ่วซือ เจ้าไม่คิดจะบอกเฉินหรงหรือ”
“ในเมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะไปจากที่นี่ ก็ไม่จำเป็นต้องบอกเขา เฉินหรงจะได้ตื่นเต้น ข้าไม่อยากให้เขาเป็นห่วง”
กู้หลียวนขมวดคิ้ว “กลัวแต่ว่าเขาจะตื่นตกใจ! ถ้าเขารู้ว่าเจ้าได้รับบาดเจ็บ คงเป็นห่วงจนปวดตั้งแต่ใจไปถึงตับ”
ฟู่เฉินหรงคิดอย่างไรกับซูจิ่วซือ กู้หลียวนเห็นกับตาอยู่แล้ว เขาพูดถึงแต่ซูจิ่วซือ แทบจะถือเอาซูจิ่วซือเป็นคำขวัญประจำใจไปแล้ว
คำพูดนี้ทำให้ซูจิ่วซือหัวเราะ นึกถึงฟู่เฉินหรง หัวใจของนางก็รู้สึกอบอุ่น อดยิ้มไม่ได้
“ฟู่เฉินหรงรักจิ่วซือแค่ไหน แต่เวลานี้ยังมีเฟิงชิงสุ่ย
จิ่วซือ เรื่องนี้เจ้าต้องใส่ใจ เฟิงชิงสุ่ยไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา นางมีอำนาจทหารอยู่ในมือ เป็นคนที่สามารถช่วยฟู่เฉินหรงได้อย่างแท้จริง ถ้านางจะช่วยฟู่เฉินหรงคงต้องมีเงื่อนไข พอถึงตอนนั้นเจ้าจะทำอย่างไร
พอเจ้าไปถึงเมืองหลวงก็ไร้ที่พึ่ง ตกอยู่ในอันตรายยิ่งกว่าอยู่ที่แคว้นเว่ย การรับมือกับเฟิงชิงสุ่ยไม่ใช่เรื่องง่าย”
เผยปิงปิงถือว่าซูจิ่วซือเป็นเพื่อนแท้ จึงเป็นห่วงซูจิ่วซือจริงๆ เรื่องที่นางพูดซูจิ่วซือคิดไว้แล้ว เฟิงชิงสุ่ยไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา นางมีอำนาจทหารอยู่ในมือ และเป็นคนฉลาด
แม้นางไม่เคยใกล้ชิดเฟิงชิงสุ่ย แต่นางก็เคยได้ยินเรื่องราวมามาก นางประเมินได้ว่าเฟิงชิงสุ่ยเป็นผู้หญิงที่ฉลาดเป็นพิเศษ ผู้หญิงอย่างนี้จะเป็นคู่ต่อกรที่เข้มแข็งที่สุดของนาง
หลังจากไปถึงเมืองหลวงตูเฉิง งานแรกสุดที่นางจะทำก็คือสร้างฐานอำนาจของตัวเอง เงินทองนางไม่ขัดสน ซูเหิงย่อมสนับสนุนนาง เวลานี้นางต้องการฐานะ จึงจะตั้งหลักในเมืองหลวงได้อย่างเปิดเผย
“ปิงปิงพูดถูก เฟิงชิงสุ่ยน่ากลัวจริงๆ พอไปถึงเมืองหลวง ถ้าเราพึ่งพาเฉินหรง เราก็จะไม่มีฐานะที่อะไร ไม่อาจทำให้ใครหันมาสนใจได้”
——
ตอนที่ 367 ลูกสาวคนโตสกุลมู่
ซูจิ่วซือสั่นหัว “เราไปพึ่งฟู่เฉินหรงไม่ได้ ไปอยู่ที่วังตะวันออกก็ไม่ได้ เพราะไม่เป็นผลดีต่อเราแน่ หลียวน ถ้าอยู่วังตะวันออก ข้าก็จะเป็นแค่นางกำนัลที่ไม่มีใครรู้จักไม่มีฐานะอะไร เจ้าเองก็เป็นได้แค่องครักษ์ ฐานะอย่างนี้ไม่อาจพูดคุยกับใครได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการต่อกรกับเฟิงชิงสุ่ยซึ่งหน้า”
“เจ้ามีแผนอย่างไร”
ซูจิ่วซือพูดอย่างนี้ แสดงว่านางมีวิธีอยู่แล้ว คำถามนี้กู้หลียวนคิดแล้วคิดอีกก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เขาไม่อยากเป็นขุนนาง เคยวางแผนว่าจะเปิดร้านเหล้าที่เมืองหลวงตูเฉิง แต่ซูจิ่วซือจะทำอะไร ฐานะของนางเป็นปัญหาสำคัญ
เดิมทีเขาคิดว่าจะยกปัญหานี้ให้ฟู่เฉินหรง แต่ดูแล้วซูจิ่วซือมีแผนของตัวเอง
“พวกเจ้าเคยได้ยินชื่อสกุลมู่ไหม”
“ข้าเคยได้ยิน สกุลมู่เป็นหนึ่งในห้าตระกูลใหญ่ในเมืองหลวง ตั้งหลักฐานมั่นคง สืบทอดมาเป็นร้อยปี และรักษาจุดยืนที่เป็นกลางมาตลอด ไม่เข้าร่วมการต่อสู้กับรัชทายาท วางตัวอยู่นอกความขัดแย้ง จิ่วซือ เจ้าคงไม่คิดจะอาศัยสกุลมู่ใช่ไหม!”
เผยปิงปิงพูดต่อ
ซูจิ่วซือพยักหน้า “ใช่ สกุลมู่นี่แหละ ข้าสอบถามชัดเจนแล้ว สกุลมู่มีลูกสาวคนโตพลัดพรากไปนานหลายปี
เรื่องนี้เป็นปมในใจของเจ้านายกับนายหญิงสกุลมู่มาตลอด หลายปีมานี้ได้ตามหาลูกสาวที่หายไป เวลานี้นางอายุพอๆ กับข้า”
“เจ้าจะปลอมตัวเป็นลูกสาวบ้านนี้” เผยปิงปิงมองซูจิ่วซือด้วยความประหลาดใจ ถามอย่างสงสัย “เป็นความคิดที่ดี ปัญหาอยู่ที่ว่าจะปลอมตัวอย่างไร
สกุลมู่สืบหาลูกสาว คงมีคนแอบอ้างไม่น้อย แต่เวลานี้สกุลมู่ยังไม่ยอมรับใครทั้งนั้น แสดงว่าคนที่แอบอ้างไม่ประสบความสำเร็จ ข้าเดาว่าลูกสาวคนโตที่หายไปคงมีไฝอะไรอยู่ การแอบอ้างปลอมตัวจึงไม่ใช่เรื่องง่าย”
“ปลอมตัวไม่ได้จริงๆ สกุลมู่ไม่ใช่จะหลอกง่ายๆ
ข้าให้อาจารย์ช่วยสืบเรื่องนี้ ลูกสาวคนโตสกุลมู่มีไฝสีแดงรูปผีเสื้อที่ไหล่ซ้าย และมีจี้หยกสีขาวรูปผีเสื้อติดตัว ข้าให้คนไปตามหานางแล้ว”
เดิมทีกู้หลียวนนึกว่าซูจิ่วซือจะปลอมตัวเป็นลูกสาวคนโตสกุลมู่ ฟังอยู่นาน จึงรู้ว่านางจะไปตามหาหญิงคนนี้ ช่างเป็นงานที่ยากเย็นแสนเข็ญยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร
“จิ่วซือ สกุลมู่เป็นสกุลใหญ่มีกิจการมากมาย ตามหาลูกสาวตั้งหลายปียังไม่พบ เกรงว่าลูกสาวคนโตสกุลมู่คงตายไปนานแล้ว โอกาสที่พวกเราจะพบมีน้อยมาก
“หลียวน เจ้าพูดถูก เราตามหานางคงไม่ใช่เรื่องง่าย
สกุลมู่ตามหามาหลายปี พยายามอย่างไรก็ไร้ผล น่าจะมีสาเหตุสองประการ
ถ้าไม่ใช่เพราะนางตายไปแล้ว ก็ยังมีอีกสาเหตุหนึ่งคือนางอยู่ในสถานที่ที่สกุลมู่ตามหาไม่เจอ
เราต้องพยายามไปหาที่ที่สกุลมู่ไม่เคยไปมาก่อน
หลังจากเด็กหญิงคนนั้นพลัดพรากไปอาจจะถูกขาย ถ้าถูกขาย นางคงจะกลายเป็นสาวใช้หรือนักร้อง สกุลมู่คงไม่อยากจะเชื่อว่าลูกสาวของตนตกอยู่ในสภาพที่น่าอนาจอย่างนี้ พวกเขาคิดเสมอว่ามีคนรับเลี้ยงลูกสาว แต่ข้าไม่คิดอย่างนี้”
“ถ้าอย่างนั้น การตามหาไม่ใช่ง่ายๆ สาวใช้กับนักร้องมีมากมาย”
“เวลานี้ไม่มีทางอื่น ลองเสี่ยงไปหา ถ้านางยังมีชีวิตอยู่ คงเป็นคนสวย ปีนี้อายุสิบเจ็ด เป็นไปได้มากว่ายังอยู่ที่แคว้นเจียง”
“งั้นเราก็เสี่ยง ข้าจะส่งคนไปตามหา ทุกคนร่วมแรงร่วมใจกัน กำหนดจุดสำคัญ ไม่แน่อาจจะพบแม่นางคนนั้น
ข้ารู้สึกว่าจิ่วซือวิเคราะห์มีเหตุผล เด็กผู้หญิงที่หายไป โอกาสที่มีคนรับเลี้ยงน้อยมาก โดยทั่วไปจะถูกขาย คนจนขายลูกแลกเงินมีมากมาย”