บทที่ 246 มาดูกันว่าใครเก่ง
โดย
Ink Stone_Fantasy
“นักสู้สุดสัปดาห์?” ฉินสือโอวถามด้วยความประหลาดใจ “มันคืออะไรน่ะ?”
ชาร์คตอบพร้อมยิ้มไปด้วย “บอสลืมแล้วเหรอว่าวันนี้วันอะไร? วันนี้มันวันเสาร์ วันหยุดสุดสัปดาห์แรกของเดือนสิงหา คนพวกนี้เขามาตกปลาในวันหยุดกันคนเลยเยอะแบบนี้ไง”
ฉินสือโอวนึกๆ ดู ก็จริงนะ วันนี้ตอนที่เขาออกทะเลก็เห็นว่าเรือตกปลากับเรือประมงขนาดเล็กที่ท่าเรือน้อยลงไปมาก ตอนแรกยังนึกว่าคนลากเรือกลับบ้านกันเพราะพายุ ตอนนี้มาดูๆ แล้วไม่ใช่แน่นอน แต่เจ้าของเรือของเรือพวกนั้นมาแล้ว
เขาเปิดวิทยุ ในช่องวิทยุสาธารณะมีคนร้องเรียนอยู่เรื่อยๆ ชาลส์เองก็มีตะโกนตามเป็นพักๆ
“ดูพวกบื้อนี่สิ เจ้าพวกนี้ไม่รู้เรื่องกฎเอาเสียเลย ไม่รู้หรืออย่างไรว่าเรือสองลำต้องห่างกันหนึ่งไมล์ทะเล?”
“พระเจ้า ช่วยลูกด้วย ตอนนี้ลูกจะตายแล้ว จะโดนพวกไก่อ่อนนั่นเล่นงานตายแล้ว!”
“อะไรกัน ที่ของฉันโดนใครก็ไม่รู้ยึดไปใช้แล้ว อย่ามาห้ามฉันคาร์ล ฉันจะเอามันให้ตาย!”
“ที่นี่มีคนบอสตันสองคน พวกมันกลับกล้าดีว่าพวกเราว่าบ้านนอก พรรคพวก ฉันว่าพวกเราควรจะต้องสั่งสอนไอ้พวกบัดซบพวกนี้สักหน่อย!”
ฉินสือโอวฟังคำพร่ำบ่นของกลุ่มคนพลางยิ้มไปด้วยโดยไม่ได้พูดอะไร เขาเอาบุชลงเรือตกปลาไปด้วย ทีนี้เจ้านี่ก็เริ่มเดินเพ่นพ่านไปทั่ว เขาจำเป็นต้องคอยดูอินทรีน้อยตัวนี้ ถ้าเกิดตกน้ำตายขึ้นมาทีนี้ไม่รู้จะไปร้องไห้ที่ไหนเลย
มีคนตะโกนเรียกฉินสือโอว ตอนที่เขาเปิดวิทยุกำลังจะพูด บุชก็ร้องออกมา
ทันใดนั้นเองก็มีคนถามขึ้น “กัปตันโชคช่วย ทำไมถึงมีเสียงนกอินทรีร้องด้วยละ?”
ฉินสือโอวกอดบุชไว้เพื่อให้มันเงียบแล้วตอบส่งเดช “อ๋อ นั่นก็เพราะฉันเลี้ยงนกโจรสลัดไว้ตัวหนึ่ง เซรีน่ากับชาลส์เคยเห็นมันมาแล้ว นั่นแหละที่ว่าทำไมฉันถึงหาปลาตัวใหญ่ได้เสมอ นกโจรสลัดของฉันมีประสาทดมกลิ่นที่ไวมาก”
ชาลส์พูดเป็นพยานให้เขาว่า “ใช่ ฉินมีนกที่เก่งมาตัวหนึ่ง เจ้านั่นทั้งฉลาดทั้งแข็งแกร่ง เจ๋งยิ่งกว่าอินทรีหัวขาวกับนกอินทรีทองเสียอีก ฉันละอิจฉาจะตายอยู่แล้ว”
พวกนายจะทำอะไรก็ทำไปเถอะ ฉินสือโอวรีบปิดวิทยุ ปล่อยเป็นแบบนี้ต่อไปคงต้องเกิดเรื่องแหงๆ ชาวประมงเฒ่าพวกนี้มีใครบ้างที่ไม่ใช่พวกสายตาเฉียบคม? พวกจะแยกความต่างระหว่างเสียงร้องของนกอินทรีหัวขาวกับนกโจรสลัดไม่ได้เชียวเหรอ? ดีที่ตอนนี้บุชยังเล็ก เสียงก็เลยไม่เหมือนกับนกอินทรีหัวขาวที่โตเต็มวัย
ฉินสือโอวกอดบุชไปดูด้านนอก เวลาผ่านไปก็มีเรือหาปลาสองสามลำแล่นมาอีก มีสองลำที่อยู่ข้างๆ เรือประมงบอลหิมะอย่างน่าหวาดเสียว เรือสองลำนำอยู่ด้านหน้าเป็นเส้นขนานในขณะที่อีกลำอยู่ด้านหลังระหว่างเรือทั้งสองลำ ระยะห่างของแต่ละลำไม่ถึงหนึ่งไมล์ทะเล
ระยะห่างแบบนี้ค่อนข้างอันตราย ชาร์คตะโกนบอกแต่ปรากฏว่าคนบนเรือประมงไม่มีใครสนใจเขาเลย พากันโยนคันเบ็ดเริ่มเตรียมตกปลา
ซีมอนสเตอร์ส่ายหน้าบอกเป็นนัยๆ ว่าไม่ต้องตะโกนแล้วก่อนจะพูดขึ้น “นายดูธงบนเรือตกปลาพวกนั้นสิ มีแต่คนจากอาร์บีเอฟเอฟทั้งนั้น ที่เราแขวนกันน่ะมีแต่ธงใบเมเปิล พวกนั้นจะมาเห็นแก่หน้าเราเหรอ?”
อาร์บีเอฟเอฟคือชื่อย่ออังกฤษของมูลนิธิกิจกรรมการพายเรือและการตกปลาอเมริกัน เป็นสาขาหนึ่งของมูลนิธิกิจกรรมกลางแจ้งซึ่งเป็นสมาคมกีฬากลางแจ้งที่ใหญ่มากของเขตอเมริกาเหนือ มีสมาชิกกว้างขวาง ฉะนั้นแม้ว่าเหล่าชาวประมงจะโกรธแค่ไหน ก็ทำอะไรคนพวกนั้นไม่ได้
‘นักสู้สุดสัปดาห์’ ที่ชาร์คพูดถึงก็หมายถึงคนพวกนี้ นี่คือชื่อที่พวกเขาใช้เรียกตัวเอง อย่าดูถูกคนพวกนี้เชียว แม้ว่าพวกเขาจะตกปลาเป็นงานอดิเรก แต่ก็มีคนเก่งมีฝีมือไม่น้อย มีนักตกปลาใหญ่มืออาชีพไม่น้อย
นอกจากนั้นคนพวกนี้โดยส่วนมากก็มีการงานที่มั่นคงกับวงสังคมที่กว้างขวาง การแหย่ให้พวกเขาโกรธไม่ใช่การกระทำที่ฉลาดเลย เหล่าชาวประมงจะไม่ปะทะกับพวกเขายกเว้นจะเจอเรื่องที่ทนไม่ได้จริงๆ
พอได้ฟังชาร์คอธิบายจนชัดเจน ฉินสือโอวก็ไม่สบอารมณ์ คนพวกนี้ออกจะเกินไปหน่อยนะ แย่งพื้นที่ทำมาหากินกับชาวประมงเพราะงานอดิเรกก็เรื่องหนึ่ง ไม่เคารพการใช้แรงงานของเหล่าชาวประมงสักนิด ยึดที่จอดเรือตามใจชอบ ขนาบข้างเรือของชาวประมง เหลือแค่ขึ้นเรือมาตบหน้ากันแล้วละ
“ถึงแม่ว่าฉันเองก็เป็นคนในสังคมชั้นสูงแต่ครั้งนี้ฉันสนับสนุนชาวประมง” ฉินสือโอวหวีขนให้บุชพลางพูดไปด้วย “ต้องให้พวกมันเจอดีสักหน่อย ทุกคน เตรียมตัว เราจะตกปลาทูน่าที่นี่ให้หมดทุกตัว!”
นีลเซ็นหัวเราะไปพูดไป “บอส งั้นคุณเป็นคนสังคมชั้นสูงหรือชนชั้นล่างกันแน่?”
ฉินสือโอวจงใจพูดเสียงเข้ม “วันนี้ฉันจะเป็นโรบินฮูดฮีโร่ในป่า รอฟังคำสั่งฉัน สั่งสอนพวกบัดซบนั่น!”
กำลังคุยเล่นกันอยู่ เสียงของเครื่องหาปลาโซน่าร์ก็ส่งเสียง ‘ติ๊ดๆ ’ มาจากห้องคนขับ นีลเซ็นมองไปแล้วพูดขึ้น “บอส มีปลาใหญ่ตัวหนึ่งอยู่ใต้น้ำหนึ่งร้อยฟุตนี่เอง! กำลังว่ายขึ้นมา พิกัดเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แปดสิบฟุต เจ็ดสิบฟุต…..”
สิ่งที่เครื่องหาปลาโซน่าร์ตรวจจับได้ก็คือพื้นที่รูปพัด ทรานสดิวเซอร์ส่งคลื่นเสียงจากใต้ท้องเรือ แบบนี้ทะเลยิ่งลึกพื้นที่ที่ครอบคลุมได้ก็ยิ่งกว้าง
เหล่าชาวประมงไม่อยากจะใกล้กับเรือของสมาคมตกปลามากเกินไปก็เพราะไม่อยากให้ช่วงรังสีโซน่าร์ของทั้งสองฝ่ายทับกัน ไม่อย่างนั้นพอปลาหนึ่งตัวปรากฏตัวขึ้นมา ทั้งสองฝ่ายก็จะตรวจจับได้ ทีนี้ก็กลายเป็นศึกแก่งแย่งกันได้ง่ายๆ
ตอนนี้ก็เกิดปัญหานี้อยู่ พอปลาตัวโตนี้ปรากฏตัวขึ้น เรือประมงสามลำก็ฮือฮาขึ้นมา เรืออีกสองลำที่มีชื่อว่า ‘เทพธิดาแห่งมหาสมุทร’ กับ ‘ทหารชุดเขียว’ ล้วนเป็นเรือตกปลาทูน่าทั้งคู่
ทูน่าครีบน้ำเงินตัวนี้ว่ายไปรอบๆ ในทะเลราวกับอัศวินจอมหยิ่ง ภายในเวลาหนึ่งนาที มันก็ว่ายวนรอบๆ เรือทั้งสามไปแล้วรอบหนึ่ง
เรือประมงทั้งสามลำต่างโปรยเหยื่อล่อปลา เรือลำอื่นๆ สังเกตเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ชาลส์รีบตะโกนใส่ช่องวิทยุสาธารณะทันที “ฉิน ฉิน เพื่อน เรือนายเจอปลาอีกแล้วเหรอ?”
ฉินสือโอวพูดตอบ “ใช่ ดูท่าแล้วน่าจะเป็นทูน่าครีบน้ำเงิน น่าจะประมาณเจ็ดแปดร้อยปอนด์มั้ง”
“นั่นก็ไม่เล็กแล้วนะ เจ็ดแปดร้อยปอนด์ เมื่อวานซืนที่ฉันจับได้ใหญ่ที่สุดก็แค่สี่ร้อยห้าสิบปอนด์”
“ฉิน สู้ๆ เอาชนะเจ้าพวกนั้นให้ได้ ให้พวกมันมาทางไหนกลับไปทางนั้นเลย!”
“พระเจ้าคุ้มครอง กัปตันโชคช่วย ปลาตัวนั้นเป็นของนายแน่!”
ฉินสือโอวเองก็คิดแบบนั้น การจะเอาชนะเรือเทพธิดาแห่งมหาสมุทรกับทหารชุดเขียวไม่กดดันสักนิด ความน่าดึงดูดของเหยื่อล่อทั้งสองฝ่ายไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน
เพียงแต่เขาประเมินความเจ้าเล่ห์ปลาตัวนั้นต่ำไป เรือทั้งสามลำต่างโปรยเหยื่อล่อ ทูน่าครีบน้ำเงินก็ว่ายวนรอบเรือทั้งสามลำไปเรื่อยๆ แล้วไล่กินเหยื่อทั้งหมด
เหยื่อล่อปลาเรือบอลหิมะดูน่าดึงดูดกว่าสำหรับมัน แต่มันก็ไม่ได้หยุดนิ่งอยู่ตรงนั้น ชาร์คปล่อยเหยื่อล่อที่เป็นปลาแฮร์ริ่งเป็นๆ ลงไปแล้ว แต่ปลาตัวนั้นกลับไม่หลงกล มันตั้งใจกินชิ้นปลาพวกนั้นแทน
ชาร์คเห็นว่าปลาตัวนั้นไม่หลงกลเสียทีจึงวิเคราะห์ “ถ้าฉันไม่ได้ทายผิดละก็ เจ้านั่นเคยตกหลุมพรางมา มันคงจะเคยโดนตกได้แล้วสุดท้ายหนีรอดมา ตอนนี้เลยฉลาดขึ้นมาเยอะ”
ฉินสือโอวคิดๆ ดู ใช้หัวใจโพไซดอนควบคุมให้ปลาตัวโตพวกนี้ไปตายไม่ได้ งั้นก็ต้องประลองกับพวกนั้นด้วยความชาญฉลาด
เขาให้ซีมอนสเตอร์ชะลอความเร็วของเหยื่อแล้วเอาคันเบ็ดทั้งหมดมาเปลี่ยนเป็นเอ็นเบ็ดที่มีหลายตะขอ ทุกๆ ตะขอล้วนมีชิ้นปลาแขวนอยู่แล้วค่อยโยนลงไปในน้ำ
อย่างที่คิด ทูน่าครีบน้ำเงินตัวนี้แต่ก่อนนี้กินจนเพลิน ตอนนี้เห็นใต้เรือประมงบอลหิมะก็มีชิ้นปลาแสนโอชะโผล่ออกมาอีกเลยพุ่งเข้าไปอ้าปากงับแล้วกลืนลงไปทันที
ก่อนที่มันจะกินมันสังเกตก่อนเป็นพิเศษแล้ว ชิ้นปลานั้นเป็นปลาตาย ไม่ใช่ปลาเป็นๆ ที่มีอันตราย
น่าเสียดายที่มันก็หลงกลจนได้ หลังจากกลืนชิ้นปลาลงไป ตะขอเบ็ดก็ไหลลงเข้าไปเกี่ยวข้างในปากของมัน
พอรู้ตัวว่าหลงกล ทูน่าครีบน้ำเงินแสนซวยตัวนั้นตกใจหน้าถอดสี เริ่มดิ้นรนอย่างสุดชีวิต แต่ขึ้นเขาง่ายลงเขายาก กินเหยื่อง่ายแต่คายตะขอยาก ในสถานการณ์แบบนั้นมันพยศไม่ได้อีกแล้ว
…………………………………….