ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 176 สุดยอดนักยิงธนู

บทที่ 176 สุดยอดนักยิงธนู
โดย
Ink Stone_Fantasy

ทั้งสองเอาเกี๊ยวไปที่ทะเลสาบด้วย หู่จือและเป้าจือเดินตามมาลิ้นห้อย ดูเหมือนว่าพวกมันชักจะหมดความอดทนแล้ว เมื่อครู่นี้คุณลุงฮิคสันกระซิบกับฉินสือโอวว่าพอไม่มีแขกเด็กสี่คนก็จะจับคู่แสดงความรัก โดยการยัดเยียดเกี๊ยวน้ำให้เจ้าสุนัขทั้งสองกินจนพวกมันพะอืดพะอม
เกี๊ยวจะไม่ถูกทิ้งให้เสียของ เมื่อถึงริมทะเลสาบเขาก็ยื่นเกี๊ยวให้กับอีวิลสันที่กำลังงีบหลับอยู่ใต้ร่มไม้
ชายหนุ่มรูปร่างกำยำเปิดกล่องอาหารเทเข้าในปากของเขาโดยไม่จิ้มน้ำส้มสายชูเลยสักนิด จากนั้นเสียงเคี้ยว ‘แจ๊บๆๆ’ ก็ดังขึ้น และเพียงไม่กี่คำเกี๊ยวก็ถูกกินจนหมดกล่อง
การยิงปลาไม่ควรทำในตอนเที่ยงวันอย่างยิ่งเพราะมีอากาศร้อนเกินไป อีกทั้งแสงแดดที่ตกกระทบบนผิวน้ำทะเลสาบก็ทำให้แสบตา หนำซ้ำยังเป็นอันตรายต่อดวงตาด้วย
สภาพอากาศแบบนี้เหมาะสำหรับการตกปลา โดยเฉพาะบริเวณริมทะเลสาบเฉินเป่าที่มีต้นไม้ประเภทต้นหลิวและต้นเมเปิลมากมายจนทำให้มีเงาไม้ร่มรื่น
เห็นได้ชัดว่าชาร์คคงคาดเดาเอาไว้แล้วเขาจึงนำเก้าอี้เอนที่ฉินสือโอวชอบใช้มาด้วย แต่เสียดายที่พอฉินสือโอวกางออกก็ถูกเหมาเหว่ยหลงแย่งไปนั่งทันที
อีวิลสันถอดเสื้อผ้าของเขาแล้วให้ฉินสือโอวรองนั่ง เขายิ้มแล้วชี้ไปที่เสื้อนั้น ส่วนเขากลับไปนั่งเปลือยกายอันอ้วนท้วนอยู่ใต้ต้นไม้
ฉินสือโอวไม่ปฏิเสธ หลังจากนั่งลงเขาก็พยักหน้าให้อีวิลสันและยกนิ้วให้อีวิลสันที่กำลังยกยิ้มยินดีอย่างโง่งม
เขานั่งลงแล้วเอาเบ็ดตกปลาออกมา แต่เขายังขาดเหยื่อที่จะใช้อยู่
ฉินสือโอวจึงเป่านกหวีดขึ้นมา หู่จือและเป้าจือวิ่งไปหา เขาชี้ไปยังเบ็ดตกปลา จากนั้นหู่จือและเป้าจือก็รีบวิ่งไปคนละทิศละทางเพื่อหาที่เปียกชื้นแล้วใช้เล็บตะกุยพืชน้ำผลัดใบออกก่อนจะขุดไส้เดือนขึ้นมา
เหมาเหว่ยหลงนอนมองจากบนเก้าอี้เอน เขาตะลึงไปกับความฉลาดแสนรู้ของหู่จือและเป้าจือ แม้ว่าตั้งแต่ที่เขามาถึงฟาร์มปลา เขาจะได้เห็นไอคิวสูงลิ่วของเจ้าสองตัวนี้มาแล้วครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ทุกครั้งมันก็ยังทำให้เขารู้สึกตะลึงงันได้อยู่ดี
เมื่อเขาเห็นหู่จือคาบไส้เดือนมาวางไว้บนมือของฉินสือโอว เขาก็อดพูดออกมาไม่ได้ “ฉินโซ่ว ถ้าสุนัขของนายสองตัวนี้คลอดลูกเมื่อไร นายจะต้องเอามาให้ฉันตัวหนึ่งนะ มันฉลาดแสนรู้จริงๆเลย”
ฉินสือโอวลูบหูของหู่จือด้วยความรักและทะนุถนอมแล้วพูดขึ้น “บ้านนายสิเลี้ยงสุนัขสองตัว หู่จือและเป้าจือเป็นลูกชายของฉันต่างหาก นายเข้าใจไหม?”
เหมาเหว่ยหลงฉีกมุมปากเย้ยหยัน แต่ปรากฏว่าหู่จือและเป้าจือกลับเงยหน้าขึ้นพร้อมแยกเขี้ยวใส่เขาจนเผยให้เห็นคมเขี้ยวแหลมคม เหมาเหว่ยหลงรีบยกมือขึ้นเป็นสัญญาณว่ายอมแพ้ จากนั้นเขาไม่พูดอะไรอีกเลยจนทำให้ฉินสือโอวมีความสุขขึ้นมา
ชาร์คเตรียมน้ำมันกานพลูเอาไว้ ฉินสือโอวป้ายน้ำมันลงไปบนลำตัวของไส้เดือนและหย่อนตะขอลงไปในน้ำ หลังจากนั้นไม่นานสายเบ็ดของเขาก็ตึง ปลาติดเบ็ดแล้ว
ฉินสือโอวหมุนรอกเบ็ดกลับ เขาทดสอบแรงดึงแล้วพบว่าแรงดึงไม่น้อยเลยเขาจึงพูดขึ้นมา “นายอยากยิงปลาหรือเปล่า? มาสิ ฉันจะลากปลาตัวนี้ขึ้นฝั่ง เดี๋ยวนายเห็นปลาเหนือน้ำแล้วนายก็ยิงได้เลย”
เหมาเหว่ยหลงพูดออกมาอย่างผิดหวัง “หา นี่คือการยิงปลาเหรอ”
ฉินสือโอวกลอกตามองเขาและพูดขึ้น “ไม่ใช่อยู่แล้ว ปัญหาคือทักษะการยิงของนายดีพอหรือยัง ถ้าตอนนี้นายไม่ฝึกเลย อีกเดี๋ยวไปยิงปลาในทะเลสาบ นายจะยิงโดนไหม?”
เหมาเหว่ยหลงพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ “เรื่องนั้นยังต้องพูดอีกเหรอ ก็แค่การยิงธนู นายคิดว่าพี่ชายไม่เคยยิงมาก่อนหรือไง?”
ปลาในทะเลสาบมีขนาดใหญ่มาก หากมีปลาติดเบ็ดติดต่อกันก็คงเดาได้ว่ามันต้องเป็นปลาคาร์ฟเอเชียแน่
ตอนนี้ปลาคาร์ฟเอเชียกำลังกระจัดกระจายอยู่ในทะเลสาบเฉินเป่า ตั้งแต่ใจกลางทะเลสาบจรดริมทะเลสาบ แทบทุกพื้นที่ในทะเลสาบมีแต่ปลาคาร์ฟอยู่เต็มไปหมด
หู่จือและเป้าจือไล่จับปลาอย่างเมามัน พอเห็นสายเบ็ดตึงก็กระโดดลงน้ำทันที ฉินสือโอวผิวปากเพื่อเอาใจช่วยคู่หูทั้งสอง เขาลากปลาตัวใหญ่มาเกือบถึงผิวน้ำจนครีบสีดำของมันโผล่พ้นน้ำขึ้นมา
เหมาเหว่ยหลงยืนอยู่ข้างๆ เขาใส่ลูกธนูแล้วง้างสายเล็งออกไป ฉินสือโอวดึงคันเบ็ดขึ้น เขาก็ง้างธนูแล้วปล่อยลูกธนูอันแหลมคมพุ่งออกไปถูกปลาตัวนั้นดัง ‘ฟุบ’ อย่างแม่นยำ
ลูกธนูสมัยนี้ล้วนแต่เป็นแบบหัวธนูล่าสัตว์สามใบมีด หลังจากยิงโดนปลาตัวนั้นแล้ว มันดิ้นไปมาไม่กี่วินาทีก็หมดแรง
ฉินสือโอวยกมันขึ้นมาแล้วพบว่ามันเป็นปลาเฉาฮื้อตัวใหญ่ยาวครึ่งเมตร
เหมาเหว่ยหลงถาม “กินได้ไหม?”
ฉินสือโอวพยักหน้าแล้วพูดขึ้น “กินได้แน่นอน ปลาเฉาฮื้อตัวนี้เอามาทำปลาย่างเสฉวนได้ นายเองก็เอาผงปรุงปลาย่างสำเร็จมาด้วยนี่”
เหมาเหว่ยหลงกล่าว “เหมือนฉันจะได้ยินมาว่าปลาคาร์ฟเอเชียพวกนี้มีปริมาณจุลธาตุและโลหะหนักเกินกว่าปกตินี่นา”
หลังจากได้ยินสิ่งที่เขาพูด ฉินสือโอวหัวเราะแล้วพูดขึ้น “นายไปฟังใครเขาพูดมา พูดจาไร้สาระน่า ปลาพวกนี้กินแต่สาหร่ายและพืชน้ำ สภาพแวดล้อมสะอาดแค่ไหนนายดูเอาก็รู้แล้ว กินอาหารธรรมชาติ อยู่ในสภาวะปลอดสารพิษ แล้วพวกมันจะมีโลหะหนักเกินมาตรฐานได้ยังไง?”
อีวิลสันดึงปลาออกจากตะขอเบ็ดอย่างมีความสุข มือข้างหนึ่งจับปลาเพื่อตัดหัวและสับหางก่อนจะเอาตัวปลาใส่ในถังเก็บอุณหภูมิขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งบด
เมื่อครู่นี้ขณะที่ปลาตัวนั้นกำลังดิ้นรน มันก็ทำให้ปลาในน่านน้ำรอบๆแตกตื่นตกใจว่ายหนีไปเช่นกัน ดังนั้นเมื่อฉินสือโอววางเบ็ดลงอีกครั้งจึงไม่มีปลากินเบ็ดเป็นเวลานานพอสมควร
เมื่อเหมาเหว่ยหลงตกปลาไม่ได้เลย เขาก็รู้สึกง่วงและงีบหลับไป
ฉินสือโอวเองก็หมดอารมณ์เช่นกัน เขาจึงเสียบเบ็ดไว้ริมน้ำและงีบหลับไป เมื่อหู่จือและเป้าจือเลียริมฝีปากพลางมองดูเจ้านายหลับไปอยู่สักพัก เจ้าสองตัวนี้ก็กระโดดลงไปในทะเลสาบแล้วเริ่มเล่นน้ำทันที
หลังจากนอนหลับไปครู่หนึ่ง จู่ๆ หู่จือและเป้าจือก็เห่าขึ้นมาเสียงดัง ฉินสือโอวรีบลืมตาขึ้นและพบว่าคันเบ็ดของเขาหายไป หู่จือและเป้าจือเห่าอยู่ใต้น้ำ เขาจึงสันนิษฐานว่าน่าจะถูกปลาลากออกไป
หายไปก็ไม่เป็นไร ฉินสือโอวไม่ได้รู้สึกเสียดายสักนิดเพราะที่บ้านยังมีเบ็ดอยู่หลายคัน
ตอนนี้ดวงอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลงแล้ว อากาศจึงไม่ร้อนเท่าไร และตอนนี้พวกเขาก็สามารถยิงปลาได้แล้ว
ฉินสือโอวพาเหมาเหว่ยหลงขึ้นเรือสตาร์ทเครื่อง เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนระอุรวมกับเสียงดังก้องของเครื่องยนต์ท้ายเรือจึงทำให้ปลาคาร์ฟเอเชียแตกตื่นและกระโดดพ้นเหนือพื้นน้ำ
ปลาคาร์ฟตัวใหญ่กว่าเจ็ดสิบเซนติเมตรกระโดดไปมาที่หัวเรือ ฉินสือโอวเลิกคิ้ว เหมาเหว่ยหลงไม่ทันสังเกตเห็นท่าทีของเขาแต่สัมผัสได้ถึงสายตาเย็นชาที่อยู่ตรงหน้า ลูกธนูอันแหลมคมจึงพุ่งออกไปปักเข้าที่หัวของปลาคาร์ฟดัง ‘ฟุ่บ’
ปลาคาร์ฟตัวใหญ่ยังคงดึงดันดิ้นรนสุดกำลังอยู่ใต้น้ำ ขณะที่ฉินสือโอวกำลังจะดึงสายเบ็ด อีวิลสันที่นั่งอยู่ท้ายเรือก็รีบพุ่งเข้ามาคว้าสายเบ็ดและยกมันขึ้นมาบนเรือ จากนั้นมือของเขาก็ยกมีดขึ้นตัดฉับจนหัวปลาถูกตัดออกไปทันที!
“หมอนี่มันนิสัยรุนแรงจริงๆ นายจัดการเขาได้ไหม” เหมาเหว่ยหลงถาม
ฉินสือโอวชี้ไปยังปลาตัวใหญ่ที่กำลังสะบัดตัวดิ้นไปมา แล้วพูดอย่างเกียจคร้าน “พอเถอะ นายรีบยิงปลาของนายไปคนของฉัน ฉันจัดการเองได้”
อีวิลสันเอาน้ำแข็งบดกลบปลาอย่างระมัดระวังและตั้งหน้าตั้งตารอ อืม มันคงเป็นมื้อที่อิ่มหนำสำราญอีกมื้อ
เมื่อครู่นี้ตอนที่เหมาเหว่ยหลงยิงปลาเฉาฮื้อบนฝั่ง เขาทำได้ดีมาก ท่าการถือธนู ความแข็งแกร่งในการง้างคันธนู และมุมเล็ง ท่าทางพวกนั้นต่างไม่เลว ดังนั้นฉินสือโอวจึงไร้ความกังวลใดๆ
เขารู้ว่าเหมาเหว่ยหลงเป็นคุณชายผู้หลงใหลเกี่ยวกับการทหาร แม้ไม่เคยยิงปืนมาก่อน แต่เขาจะต้องเคยใช้อาวุธเย็นประเภทหน้าไม้มาไม่น้อย
แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากที่เหมาเหว่ยหลงขึ้นเรือมาแล้วเขากลับก็จนปัญญา เพราะการยิงธนูบนเรือที่โคลงเคลงกับการยิงธนูบนฝั่งแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง การยิงเป้าเคลื่อนที่และยิงเป้านิ่งก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเช่นกัน…
หลังจากที่ปลาคาร์ฟเอเชียเหล่านี้ตื่นตกใจไปแล้วมันก็กระโดดน้ำขึ้นลงอย่างรวดเร็วจนน้ำสาดกระเซ็นยากต่อการเล็งเป้า แม้ว่าเหมาเหว่ยหลงจะเล็งไปยังปลาตัวหนึ่งอย่างแม่นยำ แต่พอเรือประมงโครงเครงเขาก็หมดอารมณ์
ในการยิงปลาต้องอาศัยความหนักแน่น ความแม่นยำ และต้องไร้ความปรานี สามสิ่งนี้สำคัญมาก หากขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไปก็จะไม่สามารถยิงปลาได้
ปัญหาของเหมาเหว่ยหลงก็คือไม่หนักแน่น ไม่แม่นยำ และมีความปรานี…
ตรงหน้าของฉินสือโอวมีซองใส่ลูกธนูวางเรียงกันอยู่เหมือนฉากกั้น ลูกธนูแหลมคมพุ่งออกไป ‘ฟุบฟุบ’ จนเกือบจะเรียกได้ว่าเป็นสุดยอดนักยิงธนูได้เลยล่ะ และปลาคาร์ฟที่เขาหมายตาไว้ก็ไม่มีตัวไหนหนีรอดไปได้สักตัว
หลังจากนั้นนกฟริเกตนิมิตส์บินวนบนอากาศสองรอบแล้วมันจึงบินลงมา
นี่เป็นมุมมองที่โหดร้าย นกขนาดใหญ่มักล่านกชนิดอื่นตลอดทั้งปี มันมีดวงตาสีทองดุจเปลวเพลิงและปากเหล็กแหลมคม มันบินว่อนอยู่เหนือเรือประมง และเมื่อเห็นปลาใหญ่ปลาเล็กขนาด 20 เซนติเมตรกระโดดขึ้นมา มันก็จะโฉบลงมาแล้วอ้าปากคาบปลาไปทันที จากนั้นมันก็โยนลงมาที่เรือประมง
ฉินสือโอวใช้มีดตัดบางส่วนแล้วโยนมันให้กับนิมิตส์เพื่อเป็นรางวัล จากนั้นเขาก็เอ่ยปากชมไม่หยุด “สมกับที่เป็นผู้บัญชาการกองทัพเรือที่แข็งแกร่งที่สุดของสหรัฐฯ ทำได้ดีมาก ที่รัก ต้องจับปลาเล็กแบบนี้สิ ทำให้ดีๆ นะ กลับไปฉันจะแต่งตั้งให้นายเป็นจอมพลเรือ!”
อืม ไม่เลวจริงๆ ทีแรกเขาก็ไม่รู้ว่าจะเลี้ยงนิมิตส์ไว้ทำไม แต่ดูเหมือนตอนนี้เขาจะรู้แล้วว่ามันสามารถทำอะไรได้ตั้งมากมาย
เหมาเหว่ยหลงรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมานิดหน่อย จากนั้นเขาก็ยกข้อความอันโด่งดังของโรเบิร์ตคัปปาซึ่งเป็นนักข่าวภาคสนามขึ้นมา “ถ้าคุณยิงได้ไม่แม่นยำ นั่นเป็นเพราะคุณไม่ได้อยู่ใกล้พอ”
หลังจากที่ปลอบใจตัวเองแล้วเขาก็ขึ้นไปยืนบนหัวเรือ ฉินสือโอวเองก็ตะลึงพลางพูดขึ้น “อย่าทำอะไรแปลกๆนะ กลับมา ระวังปลาจะสะบัดให้ตกเรือ!”
ตอนที่เขามาทะเลสาบครั้งแรก เขาถูกปลาคาร์ฟสะบัดตกลงไปในน้ำ ด้วยเหตุนี้นี่เองที่ทำให้เขาได้รับนิ้วทองจิตสำนึกโพไซดอน
ฉินสือโอวถูกปลาคาร์ฟสะบัดตกน้ำครั้งล่าสุดจนทำให้ชะตาชีวิตของเขาเปลี่ยนไป แต่เขาไม่คิดว่าถ้าเหมาเหว่ยหลงถูกสะบัดตกน้ำ ชะตาชีวิตของหมอนั่นก็จะเปลี่ยนไปเช่นกัน
……………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset