ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 120 สัญลักษณ์ปลาดังคิลออสเตียส

บทที่ 120 สัญลักษณ์ปลาดังคิลออสเตียส
โดย
Ink Stone_Fantasy

ยามที่เห็นฉินสือโอวพาอีวิลสันกลับมาที่ฟาร์มปลา สีหน้าของชาร์ค ซีมอนสเตอร์และนีลเซ็นนั้นเต็มไปด้วยความตกตะลึง
“บอส ทำไมคุณถึง ทำไมถึงพาเขากลับมาด้วยล่ะ?”ชาร์คที่มีท่าทีตื่นตระหนกพูดขึ้นมาว่า “คุณไม่รู้ เฮ้อ ให้ตายสิ มีบางเรื่องที่คุณยังไม่รู้……”
“ฉันรู้ทุกเรื่องนั่นแหละ ชาร์ค เรื่องที่ฉันรู้มีมากกว่าที่นายคิดเสียอีก”ฉินสือโอวยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “อีกอย่าง มีเรื่องที่ดูเหมือนว่าพวกนายจะยังไม่ค่อยรู้แน่ชัดนัก ฉันเป็นเจ้าของฟาร์มปลาแห่งนี้ การจ้างพนักงาน ก็เป็นอำนาจของฉันไม่ใช่เหรอ?”
ซีมอนสเตอร์แบมือออกแล้วพูดกับเขาว่า “ไม่ใช่ว่าพวกเราสงสัยในตำแหน่งของคุณนะ บอส แต่ว่าถ้าคุณอยากได้ชาวประมงล่ะก็ ในเมืองมีชาวประมงเก่งๆไม่น้อยกว่าห้าสิบคนที่กำลังรอให้คุณไปจ้างอยู่”
ฉินสือโอวชี้ไปที่ชาร์คที่อยู่ข้างนอกประตู “แต่ว่า พวกเขาสูงถึงสองเมตรไหมล่ะ? พวกเขามีร่างกายที่ทรหดอย่างนี้ไหม? ฉันรู้จักการให้อภัยคน และฉันแค่ต้องการคนที่แข็งแรงบึกบึนแบบนี้!”
ชาร์คกับซีมอนสเตอร์หันมามองหน้ากัน แล้วจึงหันกลับไปมองอีวิลสันมนุษย์ยักษ์ที่มีร่างกายใหญ่โตเหมือนภูเขาที่อยู่ด้านนอก ทันใดนั้นพวกเขาก็ไม่มีคำจะพูดออกมา
พวกเขาคิดกันมันก็ถูก คนงานที่ฉินสือโอวจ้าง ก็ดูเหมือนว่าล้วนแต่เป็นคนที่มีรูปร่างภายนอกดุดัน ลักษณะภายนอกของนีลเซ็นนับว่าดูดีที่สุดแล้ว แต่เขาก็เป็นคนเดียวในบรรดาคนเหล่านี้ที่เคยฆ่าคนจริงๆมาก่อน เป็นทหารกองทัพภาคพิเศษ!
แท้จริงแล้วในใจของฉินสือโอวนั้น มนุษย์ยักษ์ที่มีความบึกบึนเหนือระดับทั่วไปแต่ไม่ได้มีสติปัญญาที่หลักแหลมอย่างอีวิลสัน เมื่อเทียบกับชาร์คและซีมอนสเตอร์ที่เป็นชาวประมงที่เก่งกาจแล้วก็ถือว่ามีความสำคัญกว่ามากนัก! คนคนนี้ เขาอยากสั่งสอนจนกลายเป็นมือขวาที่ีล่วงรู้ความลับของเขาได้!
ฉินสือโอวคิดว่าจะพาอีวิลสันไปจัดการอาบน้ำเสียหน่อย แต่เมื่อกลับมาก็พบว่า หู่จือและเป้าจือกลับพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว พวกมันกระโดดเข้าใส่หน้าอกของเขา ด้านหลังเป็นฉงต้าที่ช่วงนี้กำลังกินอิ่มนอนหลับจนอ้วนพลุ้ย
ฉงต้าก้าวเอาขาสั้นๆของมันวิ่งออกมา ทว่าครู่ต่อมาก็เจอเข้ากับอีวิลสัน
ร่างกายใหญ่ยักษ์ของอีวิลสันทำให้มันรู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก หรืออาจจะพูดได้ว่าฉงต้ารู้สึกว่าศักดิ์ศรีความเป็นหมีน้ำตาลของมันถูกยั่วยุ จึงตะปบอุ้งเท้าสี่ข้างลงไปบนพื้นมันยื่นคอพร้อมยกหัวขึ้นแล้วส่งเสียงคำรามของราชาออกมา “โฮ่! โฮ่โฮ่! โฮ่โฮ่โฮ่!!! โฮ่ โฮ่……”
ทันใดนั้นเสียงคำรามก็ขาดหายไป ต่อมาก็มีเสียงร้องอย่าน่าเวทนาดังขึ้นมา “ฮู ฮู ฮู ฮู!”
ในตอนที่ฉงต้าเห็นอีวิลสัน อีวิลสันก็มองเห็นมันเช่นกัน มองเห็นหมีสีน้ำตาลปรากฏตัวขึ้นที่ข้างกายของฉินสือโอว สองก้าวใหญ่ๆของเขาก็บุกไปข้างหน้า มือใหญ่จับเข้าที่คอของฉงต้าแล้วจึงยกมันขึ้นมา จากนั้นก็กดมันลงไปบนพื้น!
เหมือนกับนกเหยี่ยวที่กำลังจับนกตัวน้อย เหมือนกับเสือร้ายกับลามะ แม้ว่าจะเป็นหมีสีน้ำตาลที่เป็นเจ้าแห่งป่าเขาแต่เมื่ออยู่ในมือของเขามันกลับไม่มีแรงที่จะตอบโต้กลับเลยแม้แต่น้อย จึงถูกกดตัวลงกับพื้นอย่างไร้ซึ่งอารมณ์โกรธไว้อย่างนั้น
ต่อมา หมัดขวาของอีวิลสันก็ถูกยกขึ้นมาราวกับค้อน ‘ตุ้บตุ้บ’ ค้อนใหญ่สองอันทุบลงมาแล้ว อีกนิดเดียวอึของฉงต้าก็เกือบจะถูกทุบจนแตกออกมา!
กับเจ้าหมอนี่ ฉงต้าจะวิ่งก็วิ่งไม่ไหว จะตีก็ตีไม่ได้ จะหลบก็หลบไม่พ้น นอกจากร้องออกมาอย่างน่าเวทนาแล้วมันจะยังทำอะไรได้อีก?
ฉินสือโอวและคนอื่นๆตกใจเป็นอย่างมาก ต่างคนต่างก็เร่งรีบเข้าไปใช้กำลังยื้อแย่งเอาลูกหมีสีน้ำตาลออกมาจากมือของอีวิลสัน อีวิลสันมีแรงฮึดเต็มเหนี่ยว ชาร์ค ซีมอนสเตอร์ นีลเซ็น ล้วนแต่เป็นขุนพลกล้าที่ยังมีชีวิตอยู่ ทุกคนรวบรวมแรงทั้งหมดเข้าด้วยกัน พวกเขาถูกอีวิลสันลากๆถูๆ แต่สุดท้ายก็แย่งฉงต้ามาไม่ได้อยู่ดี
หรือจะต้องเป็นฉินสือโอวที่ต้องลงมือ ให้นีลเซ็นเอาโซ่พันที่รอบๆข้อพับขาของอีวิลสันไว้ก่อน ต่อมาฉินสือโอวจึงคว้าเอาโอกาสนี้แย่งฉงต้าลงมาจากมือของอีวิลสัน นับว่าช่วย ‘ชีวิตหมี’ ตัวหนึ่งเอาไว้ได้
เมื่อมองเห็นฉินสือโอวที่กอดฉงต้าอยู่ อีวิลสันก็เบิกดวงตากระดิ่งทองแดงของเขาแล้วตะโกนลั่นว่า “มันเป็นหมีนะ มันกัดคน! กินคน! รีบโยนมันทิ้งเร็วเข้า อย่าปล่อยให้มันกัดนาย! “อย่าปล่อยให้มันกัดนายได้นะ!”
ฉงต้าถูกตีจนตะลึงตาค้างไปแล้ว ตอนนี้แม้แต่จะส่งเสียงคำรามก็ยังทำไม่ได้ ขาสี่ข้างของมันเกาะบนตัวของฉินสือโอวไว้นิ่งๆ เหมือนกับโคอาล่าตัวหนึ่ง มันมุดหาอกของเขาไม่หยุด
เกือบจะโดนตีตายซะแล้ว!
กลายเป็นหู่จือและเป้าจือมีใจกล้าหาญ เจ้าหมาตัวน้อยสองตัวกระโดดซ้ายขวาหูใหญ่ๆก็ถูกพับไปด้านหลัง ขนสีทองบนตัวก็สะบัดขึ้น พวกมันแยกเขี้ยวยิงฟันแล้วเห่าสู้ “โฮ่งโฮ่ง! โฮ่งโฮ่งโฮ่ง!!”
“ไม่ต้องพากันเสียงดังแล้ว เงียบกันให้หมด!”ฉินสือโอวตวาดลั่น เด็กๆทั้งสี่คนที่เพิ่งจะลงมาจากอาคารก็เกิดอาการตัวสั่น พากันนั่งยองๆแล้วมองภาพเหตุการณ์ในห้องรับแขกข้างล่างผ่านช่องระหว่างราวจับบันได
ทั้งคนทั้งหมาต่างก็เงียบลง ฉินสือโอวผ่อนลมหายใจออกมาหนึ่งครั้ง เขาลากฉงต้ามาแล้วพูดกับอีวิลสันว่า “ฟังนะ อีวิลสัน นี่คือฉงต้า เป็นเพื่อนของเรา เพื่อน! เข้าใจไหม? มันเป็นเพื่อน! ต่อไปนายต้องห้ามตีมันนะ!”
“มันเป็นหมีนะ มันกัดคน!” อีวิลสันเถียงเขากลับ
ฉินสือโอวดึงฉงต้ามาเพื่อให้เขาเห็นว่าลูกหมีตัวนี้ไม่กัดคน แต่ปรากฏว่าตอนนี้ฉงต้าถูกอีวิลสันทำให้ตกใจจนขวัญกระเจิงแล้ว มันร้องตะโกนพร้อมทั้งเอาอุ้งเท้าเกาะยึดพื้นบ้านไว้ให้ตายก็ไม่ยอมขยับไป
อธิบายไปแล้วหนึ่งครั้ง อีวิลสันจึงเพิ่งจะเข้าใจ เขาพยักหน้าแล้วพูดว่า “โอเค นี่เป็นหมีที่ไม่กัดคน ต่อไปฉันจะไม่ตีมันแล้ว”
แต่อีกครู่เดียว ตาดวงโตของเขาก็มีสายตาดุร้ายสว่างวาบขึ้นมาอีก “แต่ถ้ามันกัดคน งั้นฉันจะตีมันให้ตายเลย!”
ฉงต้าตัวสั่นเทิ้ม มันตกใจแววตาดุร้ายนั่นจนจะร้องไห้อยู่แล้ว!
ฉินสือโอวผลักอีวิลสันเข้าไปในห้องนอนแล้วไปเปิดน้ำให้เขา เสื้อผ้าขาดๆ พวกนั้นไม่สามารถซักได้แล้ว โชคดีที่ซีมอนสเตอร์ก็สูงราวๆหนึ่งจุดเก้าเมตร จึงหาเสื้อทีเชิ้ตสองตัวกับกางเกงชั้นในตัวใหญ่มาให้เขาได้ เจ้าหมอนี่ก็สวมใส่อย่างแน่นเปรี๊ยะ เหมือนกับผู้ใหญ่ที่ใส่เสื้อผ้าของเด็กอย่างไรอย่างนั้น
ซีมอนสเตอร์พูดกับฉินสือโอวอย่างหดหู่ใจว่า “บอส ผมรู้สึกว่าที่นี่ไม่เหมือนฟาร์มปลาเลย นับวันก็ยิ่งเหมือนสถานสงเคราะห์มากกว่า คุณดูสิ เด็กสี่คน อีวิลสัน ลูกหมาสองตัวที่เก็บมาเลี้ยง แถมยังมีหมีสีน้ำตาลที่นั่งกินนอนกินไปวันๆอีกต่างหาก”
ฉินสือโอวยิ้ม “วางใจเถอะ ฉันเลี้ยงเจ้าพวกนี้ได้น่า อีกทั้งอีวิลสันก็ยังแรงเยอะอย่างกับวัว ต่อไปถ้าฟาร์มปลาต้องเริ่มงาน ฉันคิดว่าเขาน่าจะเป็นคนที่สุดยอดมากๆเลยล่ะ!”
ถึงอย่างไรเขาก็มีพลังควบคุมจิตสำนึกโพไซดอน เรื่องเงินๆทองๆสำหรับเขานับว่าไม่ใช่ปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงเด็กกำพร้าหรือสัตว์พวกนี้ ก็ล้วนแต่เป็นการทำเรื่องดีๆทั้งสิ้น มีประโยคหนึ่งที่บอกไว้ว่า ยิ่งมีความสามารถมากเท่าไร ภาระที่ต้องรับผิดชอบก็จะยิ่งใหญ่มากเท่านั้น
แม้กระทั่งอีวิลสัน เขาก็ไม่ใช่คนปัญญาอ่อนไร้ประโยชน์ นี่คือคนที่ฉินสือโอวต้องการสั่งสอนให้กลายเป็นมือขวาของเขา
“กลับกลายเป็นว่า เมื่อสักครู่นี้ผมเกือบจะถูกเขาจับยกขึ้นแล้วทิ้งลงมา”นีลเซ็นที่ยังคงหวาดผวาอยู่พูดขึ้น “เมื่อก่อนเคยเจอเขาไม่กี่ครั้งแต่ไม่เคยเข้าไปทำความรู้จัก ไม่คิดเลยว่าเจ้าหมอนั่นจะน่ากลัวขนาดนี้
สำหรับอาหารมื้อเที่ยง ฉินสือโอวนำเห็ดหอมภูเขาไปตุ๋น คิดไว้ว่าจะทำสปาเก็ตติอิตาลีให้เด็กๆทาน
แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลารับประทานอาหารอีวิลสันกลับเป็นคนที่กระตือรือร้นที่สุดบนโต๊ะ ฉินสือโอวกะพริบตาปริบๆ แล้วถามเขาไปว่า “ไม่ใช่ว่านายเพิ่งจะอิ่มมาจากร้านพิซซ่าหรอกเหรอ? พิซซ่าสองร้อยดอลลาร์เลยนะ”
“หิวอีกแล้ว”อีวิลสันหัวเราะเหอะๆออกมาอย่างทึ่มๆ
ฉินสือโอวรู้สึกว่าตัวเองยอมแพ้ให้กับข้าวหม้อนี้แล้ว เขากินไปขนาดนั้นแล้วตอนนี้เขาไม่หิวเลยสักนิด แต่ทำไมอีวิลสันถึงได้หิวอีกแล้วล่ะ?!
เขาดูแลเรื่องอาหารการกินให้กับอีวิลสัน แต่คงไม่ได้เข้าครัวทำอาหารด้วยตัวเองแน่ๆ ถ้าเป็นเช่นนั้นเขาต้องเหนื่อยตายแน่นอนเลย
ชาร์คต่างหากที่เป็นคนทำ ไม่ใช่ว่ายังเหลือหมูป่าทั้งตัวอยู่หรอกเหรอ? เขายกเอาเนื้อสิบกิโลกรัมที่ละลายน้ำแข็งแล้วขึ้นมาจากนั้นจึงปรับอุณหภูมิเตาอบขึ้นแล้วเริ่มทำการย่างเนื้อ
อีวิลสันสูดดมกลิ่นเนื้อย่าง เขานั่งยองๆอยู่ข้างๆเตาอบ เหมือนกับลูกหมาที่กำลังรออาหารอยู่อย่างไม่ผิดเพี้ยน
ฉินสือโอวมาผลัดมือกับชาร์ค เขาไม่ได้หิวพอดี จึงรับหน้าที่ในการย่างเนื้อ ท่อนเนื้อขนาดสิบกิโลกรัมถูกย่างจนถึงระดับความสุกแบบดัน (Done) จากนั้นก็ถูกอีวิลสันแย่งไปกินเสียแล้ว อีกทั้งยังกินตะกรุมตะกรามเหมือนกันกับพิซซ่าเมื่อตอนเช้าอีกต่างหาก!
กินเนื้อสันในเข้าไปสี่ห้ากิโล อีวิลสันถึงจะหยุดปากได้ แต่เนื้อที่ยังเหลืออยู่เขาก็หาถุงพลาสติกมาใส่ไว้เช่นกัน เดินไปที่ไหนก็พกไปที่นั่น อยากทานเมื่อไรก็ล้วงขึ้นมาใส่ปาก เหมือนกับสัตว์ยุคดึกดำบรรพ์ไม่มีผิด!
ฝนยังตกลงมาตลอด ที่ฟาร์มปลาไม่ได้มีงานอะไรให้ทำ ฉินสือโอวจึงนำเก้าอี้นอนตัวหนึ่งลงมาไว้ที่ใต้ชายคาบ้านเพื่อนดื่มด่ำกับวิวฝนตก
ภาพมหาสมุทรที่มีฝนกำลังตกอยู่มีเสน่ห์ของตัวมันเอง ลดพัดคลื่นโบก กระแสน้ำที่หมุนขึ้นลง สายฝนที่ตกลงมาสู่ผิวน้ำ ตกเป็นระลอกคลื่นเล็กๆ
สภาพอากาศมืดครึ้ม บนพื้นดินมีละอองน้ำตลบไปทั่วสารทิศ ต้นหญ้าน้อยสีเขียวอ่อนและใบไม้ยิ่งเพิ่มความชุ่มชื้น หยดน้ำวาววับหยดลงมาครั้งแล้วครั้งเล่า ในความเงียบสงบกลับมีความเคลื่อนไหว ในความเคลื่อนไหวก็มีอยู่ซึ่งความสงบ
สูดหายใจเอาอากาศสดชื่นที่คงหาที่เมืองจีนไม่ได้แน่ๆ มองไปที่ท่าเรือที่เจิ่งนองไปด้วยละอองน้ำ ทันใดนั้นฉินสือโอวก็ตบลงที่ต้นขาของตนเองแล้วพูดว่า “ให้ตายสิ ฉันเอาแต่รู้สึกว่ามันขาดอะไรไปสักอย่าง ฉันขาดเสื้อกันฝนกับหมวกงอบไปนี่หว่า!”
อีวิลสันนั่งข้างๆฉินสือโอว เขาลงบนพื้น แต่ก็ยังคงสูงกว่าเขาที่นั่งอยู่บนเก้าอี้อยู่ดี
เห็นฉินสือโอวที่ตบลงบนต้นขา อีวิลสันก็ส่งถุงใส่เนื้อย่างขึ้นไปข้างบน แล้วถามฉินสือโอวว่า “กินไหม?”
ฉินสือโอวโบกมือปฏิเสธ เรื่องที่เขากำลังคิดอยู่เป็นเรื่องที่คงคุยกับอีวิลสันไม่เข้าใจ เขาจึงเรียกชาร์คมา ถามว่าที่แคนาดามีเสื้อกันฝนกับหมวกงอบไหม? คนแก่สวมหมวกงอบผู้เดียวดาย นั่งตกปลาอยู่ที่แม่น้ำท่ามกลางหิมะ ทิวทัศน์ที่งดงามเหมือนในบทกลอนเช่นนี้ หากปรากฏขึ้นก็คงจะสวยงามน่าดู
แต่แคนาดาจะไปมีของแบบนั้นได้อย่างไรกัน? ชาร์คกับซีมอนสเตอร์ล้วนแต่ไม่เข้าใจว่าสิ่งนั้นคืออะไรกันแน่ สุดท้ายแล้วฉินสือโอวจึงทำได้แค่โบกมือปัดๆ แล้วจึงเข้าไปหาในเว็บไซต์อะเมซอนและอีเบย์แคนาดาด้วยตนเอง
ชมภาพทิวทัศน์ของสายฝนได้สักพัก จิตสำนึกโพไซดอนของฉินสือโอวก็ไปที่ซากเรือในก้นทะเลที่บรรจุแร่เงินไว้เต็มพิกัด
พื้นผิวมหาสมุทรที่มีฝนตกลมพัดโหมกระหน่ำ แต่ใต้มหาสมุทรกลับยังสงบเงียบดังเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แร่เงินอยู่ในซากเรืออย่างปลอดภัย ตอนนี้ฉินสือโอวเพียงแค่ต้องไตร่ตรองว่าจะงมมันขึ้นไปยังไง ไม่ต้องกังวลว่าแร่เงินพวกนี้จะหนีไปไหน
เขาพบกับหลักฐานระบุตัวตนของเรือลำนี้ในห้องของกัปตัน
มีสมุดจดบันทึกเล่มหนาหนึ่งเล่มอยู่ในลิ้นชักข้างหัวเตียงที่ถูกยางปิดผนึกไว้อย่างดี มันทำมาจากหนังแกะฟอก บนเรือสมัยก่อน กัปตันจะมีสมุดบันทึกแบบนี้อยู่หนึ่งเล่ม การฟอกหนังแกะก็เพื่อทำให้มันกันน้ำได้ เพื่อที่จะได้ตรวจสอบข้อมูลของเรือได้หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันอย่างเรืออับปางลงในทะเล
ฉินสือโอวควบคุมให้เจ้าน้ำเงินใหญ่นำสมุดบันทึกเล่มนี้กลับไปด้วย ไม่รู้ว่าจมอยู่ในน้ำมานานกี่ปี สมุดบันทึกหนาๆเล่มนี้แช่น้ำจนเกือบจะเปื่อยหมดแล้ว ลายมือก็เลือนรางไปตั้งนานแล้ว จนแทบจะดูได้ไม่ชัดเจน
ทว่า ปกของสมุดบันทึกเล่มนี้นั้นหนามาก ตัวหนังสือข้างบนก็ถูกแกะสลักไว้ไม่ใช่การเขียนลงไป ดังนั้นจึงสามารถอ่านได้อย่างชัดเจน
ฉินสือโอวไม่รู้จักตัวอักษรพวกนี้เขาลองเทียบดูในอินเทอร์เน็ต จึงได้รู้ว่านี่เป็นภาษาสเปน ต่อมาเขาลองใช้เครื่องมือแปลภาษาแปลดู ยืนยันความหมายของกลุ่มตัวอักษรพวกนี้ได้ว่า ‘สัญลักษณ์ปลาดังคิลออสเตียส, ตระกูลเฟอร์นันเดสประเทศสเปน, 082’
เมื่อรู้ถึงอัตลักษณ์ของซากเรือแล้ว ฉินสือโอวจึงได้ลองค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตดู แต่ก็ต้องจนปัญญาเพราะนามสกุลเฟอร์นันเดสของสเปนมีเยอะเกินไปจึงทำให้ค้นหาได้ยาก แม้แต่สัญลักษณ์ปลาดังคิลออสเตียส ก็ไม่ไม่มีข้อมูลที่ถูกบันทึกไว้ในอินเทอร์เน็ตเลย
ในที่สุดเขาก็เจอเว็บไซต์ที่ชื่อว่า ‘บ้านของเรืออับปาง’ เป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับการกู้ซากเรือที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปและอเมริกา ลงทะเบียนสมัครสมาชิกเสร็จแล้ว จึงโพสต์ข้อความลงไป เพื่อถามดูว่ามีคนที่พอจะรู้จักเรือสินค้าสัญลักษณ์ปลาดังคิลออสเตียสของตระกูลเฟอร์นันเดสจากประเทศสเปนบ้างไหม
จนกระทั่งตอนเย็นก็ยังไม่มีคนตอบกลับ เขารู้สึกเบื่อ เมื่อทานข้าวเย็นเสร็จแล้วจึงขึ้นไปนอนเลย
วันที่มีฝนตกก็เหมาะกับการนอนหลับที่สุดไม่ใช่เหรอ?
ช่วงเวลาอาหารเย็น ในที่สุดอีวิลสันก็หยุดพักเสียที เขาไม่ได้ทานอะไรมากนัก เขากินไปแค่ไข่ทอดยี่สิบสองใบและพิซซ่าซิซิลีอีกสองถาดก็เท่านั้นเอง…
ฉงต้าถูกอีวิลสันตีไปหนึ่งครั้งก็ทำตัวดีขึ้น ตลอดทั้งบ่ายมันเอาแต่ตามติดฉินสือโอว ตกเย็นเข้านอน มันก็ปีนเตียงขึ้นไปอย่างงุ่มง่าม ไม่ว่าอย่างไรก็จะนอนกอดฉินสือโอวให้ได้
ฉินสือโอวไม่ได้ดึงออก เขาคลึงหัวหมีของมันแล้วถอนหายใจออกมา “ให้ตายเถอะ แกทำให้บรรพบุรุษหมีต้องขายหน้าจริงๆ!”
หู่จือกับเป้าจือก็แสนรู้มาก พวกมันขึ้นมาเลียหน้าฉินสือโอวจนหน้าเขาเต็มไปด้วยน้ำลาย จากนั้นพวกมันจึงเข้าไปนอนในเบาะนอนเล็กๆของพวกมันแล้วหลับไป
วันต่อมาฝนก็ยังคงตกอยู่ แต่ลมทะเลเบาลงแล้วเล็กน้อย ชาร์คพูดว่า “นี่เป็นสัญญาณว่ากระแสน้ำอุ่นกำลังจะหายไปแล้ว พวกเราต้องติดต่อฟาร์มเพาะเลี้ยงปูเสฉวนบก ปล่อยพันธุ์ปูตอนนี้ จะสามารถรับรองอัตราการรอดชีวิตของพวกมันได้มากที่สุด”
ฉินสือโอวก็พูดขึ้นว่า “นายคุมเรื่องนี้เลย ฉันต้องช่วยเด็กๆจัดการเรื่องสมัครเข้าชั้นเรียน”
ตอนเช้าต้มโจ๊กข้าวขาวไปหนึ่งหม้อ ฉินสือโอวใส่ไส้กรอกลงไปแล้วทานจนหมดหนึ่งชามใหญ่ เด็กๆทั้งสี่คนทานไปคนละหนึ่งถ้วยเล็ก อีวิลสันทานไปหนึ่งหม้อ นอกจากนี้ยังใส่เนื้อทอดลงไปอีกอย่างน้อยสองกิโลกรัม!
ในที่สุดฉินสือโอวก็เข้าใจถึงความอึดอัดใจของชาวเมืองแฟร์เวล ข้าวถังขนาดนี้ แม้แต่เขาที่เป็นมหาเศรษฐียังต้องเลี้ยงอย่างเหน็ดเหนื่อย แล้วยิ่งถ้าเป็นคนธรรมดาล่ะ?
วันจันทร์โรงเรียนเปิดเรียน ฉินสือโอวพาพาวลิสและคนอื่นๆไปที่โรงเรียน
เมื่อมองเห็นรถคาดิลแลควัน ของฉินสือโอว คุณพ่อชัคคนเฝ้าประตูก็ออกมาโบกมือให้เขา ท่านหัวเราะเหอะๆ แล้วพูดขึ้นว่า “นายมาหาเชอริลอีกแล้วใช่ไหม? อยากให้ฉันไปบอกเธอให้ไหม?”
ฉินสือโอวหัวเราะเจื่อนๆ “ไม่ใช่ครับ ผมพาเด็กๆมาสมัครเข้าเรียนครับ”
เขาพาเด็กๆทั้งสี่คนเดินไปที่ห้องพักครูใหญ่โดยตรง ครูใหญ่มิทช์ แกรนท์ ก็เข้ามาต้อนรับเขา “คุณเออร์บักเคยคุยเรื่องนี้กับผมไว้แล้ว จัดชั้นเรียนให้เด็กๆก่อนดีไหมครับ แล้วก็เพิ่มเติมในส่วนของขั้นตอนที่เหลืออยู่ก็เสร็จแล้ว เวลาเรียนจะเสียไปเปล่าไม่ได้”
…………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset