บทที่ 33 ข้อมูลเพิ่มเต็มของภารกิจ
หนิงเถาปีนขึ้นไปด้านบนของต้นไม้แล้วโผล่ออกมาจากกิ่งไม้หนาทึบเพื่อสำรวจตัวเหมืองโดยรอบ
ในเหมืองหินสายพานลำเลียงหลายแห่งถูกใช้งานและมีรถยก รถบรรทุกทราย เคลื่อนที่เต็มไปหมด ไม่มีใครไปให้ความสนใจอาคารขนาดเล็กมากนัก ดังนั้นจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครติดตามพวกเขามา สถานการณ์นี้เป็นเรื่องปกติเพราะคนงานในเหมืองเป็นเพียงคนธรรมดาไม่ใช่เพื่อนร่วมงานของคนเลวที่ลักพาตัวซูหยามาแต่อย่างใด
เช่นเดียวกับหนิงเถาที่กำลังจะละสายตาจากเหมืองและปีนลงมา ได้มีรถแท็กซี่ปรากฏตัวขึ้นบนถนนด้านนอกประตูรั้ว
แน่นอนว่าคนขับรถแท็กซี่เป็นคนที่เขาพบนอกหมู่บ้านแห่งความสุขและแม้ว่าเขาจะไม่เห็นหน้าชายคนนั้นบนแท็กซี่ชัด แต่เขาก็สามารถรับรู้ได้จากกลิ่นว่าอีกฝ่ายคือชายคนเดียวกับที่ซูหยาบอกคือพี่ชายเหมิง
“เกิดอะไรขึ้น? ไม่ใช้ว่าอีกฝ่ายบอกว่าให้เจอกันอีก 40 นาทีหลังจากนี้ไม่ใช้? แล้วทำไมอยู่ๆเขาถึงมาตอนนี้กัน? หรือว่าเขาต้องการกลับมาตรวจสอบสภาพของซูหยาก่อน?” มีคำถามมากมายเกิดขึ้นในหัวของหนิงเถาตอนนี้
ก่อนที่เขาจะสามารถสรุปอะไรได้รถแท็กซี่ก็ได้มาถึงอาคารขนาดเล็กแล้ว
ประตูรถเปิดออกและมีชายคนหนึ่งออกมาจากรถแท็กซี่ มันเป็นพี่ที่เรียกว่าพี่เหมิงแน่นอน
พี่เหมิงได้ออกจากแท็กซี่แล้วตรงไปที่ยังตัวอาคารนั้นทันที
เนื่องจากตำแหน่งและมุมที่หนิงเถาอยู่ เขาไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่อีกฝ่ายทำหลังจากเดินเข้าไปในประตูได้ เขาจึงทำได้เพียงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรูปอาคารและตัวแท็กซี่ ก่อนที่จะส่งไปให้เจียงเฮาผ่านวีแชทและเขียนข้อความว่า“อาชญากรมันมาก่อนเวลา ตอนนี้มันอยู่ในเหมืองทางเหนือแล้ว!”
เจียงเฮาตอบกลับอย่างรวดเร็ว “รับทราบ!”
เมื่อมาถึงจุดนี้พี่เหมิงที่พึ่งจะเข้าไปข้างในก็กลับออกมาพร้อมกับความพลุ่งพล่าน ก่อนที่อีกฝ่ายจะวิ่งกลับขึ้นไปยังแท็กซี่และขับรถออกไปด้วยความเร็วเต็มที่
หนิงเถาเห็นแบบนั้นก็เริ่มเป็นกังวลขึ้นมา แต่เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะตามอีกฝ่ายไป เขาทำได้เพียงแค่ส่งข้อความอีกครั้งถึงเจียงเฮาโดยพูดว่า “อาชญากรกำลังหลบหนีไปทางต้นบนของแม่น้ำแล้ว เขาขับรถแท็กซี่ออกไป!”
เจียงเฮากลับเขียนว่า “นายอยู่ในที่ที่นายบอกกับฉันเอาไว้ ส่วนเรื่องจับคนร้ายปล่อยเป็นหน้าที่ของฉันเอง!”
หนิงเถาที่เห็นแบบนั้นก็วางโทรศัพท์ของเขาลง ก่อนที่เขาจะตัดสินใจลงจากต้นไม้และมาบอกเรื่องที่เกิดขึ้นกับซูหยา “คนที่ชื่อพี่ชายเหมิงกลับมา”
“อะไรนะ?” ซูหยาตอบกลับมาด้วยความหวาดกลัว
“แต่แย่มากที่เขาจากไปแล้ว” หนิงเถาพูดต่อว่า “หวังว่าเจียงเฮาจะจับเขาได้”
ซูหยาแสดงสีหน้าโล่งออกมา ก่อนที่เธอจะพูดว่า “นายรู้ตัวไหมว่าเกือบจะทำให้ฉันหัวใจวายตายไปแล้ว?”
หนิงเถาแสร้งทำเป็นเคร่งเครียดและถูกขึ้นว่า “เธอกลัวเพราะเรื่องนี้? เธอคิดไหมว่าถ้าฉันไม่เจอเธอก่อนหน้านี้ เธอจะเจอกับอะไร ไม่แน่ว่าเธออาจจะตายไปแล้วในตอนนี้!”
“ฉัน … ” ซู่ยาไม่กล้ามองตาหนิงเถาโดยตรง เธอทำเพียงแค่ก้มหน้าลง
“รู้แบบนี้แล้วเธอยังกล้าที่จะขโมยอีกครั้งไหม” หนิงเถาถามออกมาด้วยเสียงที่ดุร้าย
ซูหยารีบส่ายหัวไปมาและพูดพึมพำว่า “นายไม่จำเป็นพูดขนาดนั้นก็ได้ ถ้านายต้องการ… “
หนิงเถาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเบาๆว่า“ เอาละ! เรื่องที่เกิดไปแล้วก็ถือว่าแล้วกันไป ตอนนี้เธอควรจะนอนลงแล้วให้ฉันจะรักษาแผลเธอก่อน”
ซูหยาเชื่อฟังอย่างมา เธอได้นอนตัวตรงลงไปบนพื้นป่า แม้ว่าเธอจะแสร้งทำเป็นสงบมาก แต่หน้าของเธอกับทรยศเธอไปแล้ว หนิงเถาสามารถบอกได้ทันทีว่าเธอนั้นค่อนข้างประหม่าในเวลานี้
หนิงเถาก้มลงข้างตัวซูหยาก่อนที่เขาจะลงมือตรวจจอบบาดแผลโดยรอบ แม้ว่าเขาจะสามารถบอกได้ทันทีว่ามีบาดแผลตรงจุดไหนบ้างบนร่างกายของเธอ แต่เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะตามมา เขาต้องแสดงว่ากำลังลงมือตรวจสอบตามปกติ
ในระหว่างกระบวนการนี้หน้าอกของซู่หยาสั่นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
หนิงเถาทำการวินิจฉัยอย่างรวดเร็ว “เธอมีอาการฟกช้ำที่ต้นขาขวา กล้ามเนื้อดูเหมือนจะฉีกด้วย แต่เธอโชคดีที่ก่อนไปช่วยเธอฉันพบสมุนไพรที่เข้ากับมันได้พอดี”
“โอเค” ซูหยาตอบกลับเบาๆ
“แต่กระดูกซี่โครงข้างซ้ายของเธอ … “
ก่อนที่หนิงเถาจะพูดในสิ่งที่ต้องพูดจบ ซูหยาก็ได้หายใจลึกๆแล้วเหวี่ยงเสื้อเปื้อนเลือดที่หน้าอกออก ก่อนที่มันจะเผยผิวขาวที่หน้าสัมผัสออกมา หน้าท้องของเธอเรียบและเรียบเนียนโดยมีกล้ามเนื้อหน้าท้องขึ้นให้จางๆ ชุดชั้นในสีดำได้ปกปิดรอบหน้าอกอันอวบอ้วนของเธอเอาไว้ ราวกับว่าสารอาหารทั้งหมดที่ร่างกายของเธอได้ดูดซับเอาไว้ถูกนำมาใช้เพื่อการเจริญเติบโตของหน้าอกเธอเท่านั้น
หนิงเถาที่เห็นภาพนี้ก็ได้ตัวแข็งไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะถามออกมาว่า “เธอกำลังทำอะไร?”
“นายไม่อยากเห็นอาการบาดเจ็บของฉันเหรอ?” ซูหยาอธิบายต่อว่า “ฉันคิดว่าทำแบบนี้มันจะเป็นการดีต่อการรักษา และนายไม่ใช้หมอหรือไงถึงได้ถามคำถามไร้สาระแบบนั้นออกมา”
หนิงเถาหายใจเข้าลึกๆ “ใช้! ฉันเป็นหมอ” เขาดึงเสื้อของซูหยากลับมาแล้วพูดว่า “กระดูกซี่โครงของเธอไม่แตกอย่างคิด มันแค่ร้าวเท่านั้น เธอแค่นักพักผ่อนซักสองสามวันก็หายแล้ว”
“ไม่ต้องรักษา?” ปฏิกิริยาของซูหยาแปลกมาก
“ ไม่จำเป็นต้องดูแลมันมากนัก แต่เธอก็จะควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่หนักในอีกสองสามวันนี้” หนิงเถาได้พูดต่อว่า “เอาละ! ตอนนี้เธอก็สามารถลุกขึ้นได้แล้ว ฉันจะหาสมุนไพรให้เธอก่อน”
“ฉันจะไปกับนายด้วย” ซูหยาพูดออกมา
“ลืมไปได้เลย เธอไม่รู้ตัวหรือไงว่าตัวเองพึ่งจะได้รับบาดเจ็บมา” หนิงเถาพูดต่อว่า “ฉันแค่จะไปหาสมุนไพรแถวนี้เอง เธอควรจะรอฉันอยู่ที่นี่แล้วฉันจะกลับมาอีกเร็วๆนี้”
ริมฝีปากของซูหยาขยับเข้าด้วยกัน แต่เธอไม่พูดความคิดของเธอออกมา เธอกลัวจริงๆกับเรื่องที่เกิดขึ้นและรู้สึกปลอดภัยเมื่อมีหนิงเถาอยู่ใกล้ๆ แต่เธอไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดีกับเรื่องนี้?
ป่ามีต้นไม้หนาทึบทุกชนิด
คนธรรมดาจะสูญเสียการรู้ทิศทางได้ง่ายเมื่อเข้ามาในป่า แต่มันไม่ใช้สำหรับตัวหนิงเถาด้วยความสามารถในการดมกลิ่นของตัวเอง มันใช้เวลาไม่นานก่อนที่จะรู้ได้ว่ามีสมุนไพรที่ตัวเองต้องการอยู่ตรงไหนบ้าง เป็นผลให้เขาใช้เวลาไม่นานก่อนที่จะกลับไปยังจุดเดิม
ภายในสิบนาทีต่อมาหนิงเถาได้กลับมาพร้อมสมุนไพรที่ตัวเองต้อง เขาได้นำสมุนไพรที่เรียกว่าไวโอลินสโตเบทาโรโทนิโฟเลีย เป็นสมุนไพรที่มีสรรคุณในการรักษาแผลพกช้ำได้ดี และยังเป็นสมุนไพรที่เหมาะกับการแก้อาการอักเสบภายนอกอีกด้วย
ในป่าแบบนี้ไม่สามารถหาน้ำได้ง่ายนัก ดังนั้นหนิงเถาไม่มีทางเลือกมากนัก เขาจึงได้ใช้การเคี้ยวมันให้ละเอียดและใช้น้ำลายเป็นตัวทำละลายได้เท่านั้น เมื่อเขาคิดว่ามันละเอียดดีพอแล้วเขาก็ได้ถอดเสื้อของเขาออกแล้วฉีกพวกมันเป็นเส้นเพื่อมัดแผลของซูหยา
ซูหยาไม่พูดอะไรเลยในระหว่างกระบวนการทั้งหมดและดูเพียงหนิงเถาผู้ซึ่งกำลังทำการรักษาแผลของเธอย่างเงียบๆเท่านั้น ในตอนนี้สายตาของเธอมีแต่ความอ่อนโยน
หนิงเถาดูแลแผลของซูหยาอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็ยืนขึ้นแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไรแล้วตอนนี้ เธอกลับไปพักสักสองสามวันแล้วก็จะกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม”
ซูหยาต่อสู้กับความเจ็บของตัวเอง ก่อนที่จะเอื้อมมือไปที่ใบหน้าของหนิงเถา
ด้วยมือที่ยื่นออกมาทำให้หัวของหนิงเถาเอียงไปข้างหน้าเล็กน้อง “อะไร?”
ซูหยาไม่ตอบ แต่ริมฝีปากของเธอได้ประกบเข้ากับริมฝีปากของหนิงเถา
ก่อนที่ซูหยาจะผละออกมา มันไม่ใช้ว่าเธอจะกลับออกไปเฉยๆ เธอยังได้เอาใบของไวโอลินสโตเบทาโรโทนิโฟเลียที่หนิงเถากำลังเคี้ยวอยู่ในปากไปด้วย เธอพูดขึ้นเบาๆว่า “ฉันจะทำเอง”
หนิงเถายังไม่ทันจะพูดอะไรออกมา ทันใดนั้นก็มีเสียงไซเรนดังขึ้นที่เชิงเขา รถตำรวจจำนวนโหลหนึ่งได้เข้าไปในเหมือง
โทรศัพท์มือถือของหนิงเถาเองก็ดังขึ้นในเวลาเดียวกัน
มันคือเจียงเฮาที่โทรเข้ามา “เราเห็นรถแท็กซี่จอดอยู่ริมแม่น้ำ แต่เมื่อเราไปถึงมันก็ว่างเปล่าไปแล้ว ฉันคิดว่าเขาน่าจะหนีไปทางน้ำแล้ว ตอนนี้นายอยู่ที่ไหน?”
หนิงเถารู้สึกผิดหวังที่ได้ยินข่าวนี้ “ฉันยังอยู่บนเนินเขาด้านหลังเหมือง ฉันเห็นรถของเธอแล้วฉันจะพาเพื่อนของฉันลงไปเดี๋ยวนี้” เมื่อเขาวางหูเขาพูดกับซูหยาว่า“ พวกเราลงไปกันเถอะ”
ซูหยาพยายามที่จะปฏิเสธที่จะลงไป แต่หนิงเถาไม่ยอมให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
“ เธอต้องเผชิญหน้ากับมันไม่ช้าก็เร็วและการหลีกเลี่ยงมันก็ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา มากับฉันและบอกทุกสิ่งที่เธอรู้กับเจียงเฮา” หนิงเถาพูดด้วยเสียงที่อ่อนโยนมากขึ้น “ฉันรับรองว่าเธอจะไม่เป็นอะไร”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของหนิงเถา ซูหยาก็ยอมเดินลงไป
ทันทีที่ทั้งสองออกจากป่า เจียงเฮาและเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคนและเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์สองคนได้ถือเปลหามมาทางพวกเขา เจ้าหน้าที่การแพทย์สองคนต้องการพาซูหยาไปตรวจและรักษาแผล แต่ซูหยาได้ปฏิเสธมัน ในที่สุดก็ต้องตกเป็นหน้าที่ของหนิงเถาที่ต้องเข้าไปเกลี้ยกล่อมให้เธอเห็นด้วยอีกครั้ง
“เธอเป็นเพื่อนของนายเหรอ?” เจียงเฮาถามหนิงเถาอย่างสงสัย อาจจะเพราะเธอไม่รู้จักซูหยามาก่อนและนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเธอได้พบกัน
หนิงเถาพยักหน้าและตอบว่า “เธอชื่อซูหยา เธอเป็นเด็กกำพร้าและเติบโตขึ้นมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าของซันไชน์ ตอนนี้เธอกลายเป็นพยาบาลของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เธอ … เธอมีประวัติของการขโมยสิ่งของต่างๆ แต่เธอทำมันเพื่อเด็กๆที่มูลนิธิสงเคราะห์เท่านั้น ดังนั้นฉันหวังว่าเธอจะช่วยฉันจัดการเรื่องนี้ได้ “
เจียงเฮามองตรงไปที่หนิงเถาแล้วต้องการถามอะไรบางอย่าง แต่มันก็ถูกขัดขึ้นก่อน
“ อดีตผู้อำนวยการสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าของซันไชน์ได้ป่วยเมื่อเร็วๆนี้ มันจึงทำให้ฉันได้รับโอกาสไปรักษาเธอจนตอนนี้เธอได้หายดีแล้ว และนั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่เราได้รู้จักกัน” หนิงเถาตอบกลับข้อสงสัยทั้งหมดออกมา
“โอ้! งั้นเธอก็มากับฉันกัน เราจะไปคุยกันที่อื่นที่นี้ไม่ปลอดภัย” เจียงเฮาพูดออกมา และเดินนำไป
หนิงเถาได้ติดตามเจียงเฮาไปในขณะที่ระบุสาเหตุและกระบวนการของเหตุการณ์นับตั้งแต่เวลาที่เขาพบสิ่งของที่ซูหยาซ่อนเอาไว้ใต้เตียงจนถึงเวลาที่เขาได้พบกับคนร้ายที่ชื่อพี่เหมิงนอกชุมชนแห่งความสุขและจนถึงเวลาสุดท้ายที่เขาพบที่นี่ และช่วยซหยาออกมา
เมื่อหนิงเถาพูดจบแล้วเจียงเฮาจึงพูดว่า “นายรู้ได้ไงว่าเพื่อนของนายถูกลักพาตัวไปก่อนที่นายจะพบฉัน และนายสามารถหาที่อยู่ที่พวกนั้นอยู่ได้ไง? ทำไมฉันรู้สึกว่านายยังพูดออกมาไม่หมดกัน … “จากนั้นเธอมองตรงไปที่ตาของหนิงเถาและถามว่า” นายมาที่นี่ได้ยังไง?”
หนิงเถาได้เตรียมพร้อมที่จะตอบคำถามนี้เอาไว้แล้ว “ฉันสังเกตเห็นว่าคนร้ายคนนั้นมีทรายบนรองเท้าของเขาและฉันก็ดมกลิ่นเจอน้ำมันดีเซลและมีกลิ่นเหม็นเกี่ยวกับพวกแร่ธาตุด้วย ฉันจึงคิดว่าเขาจะต้องอยู่ในเหมืองริมแม่น้ำทางตอนเหนือ ดังนั้นฉันจึงเช่ารถและตรงไปเหมืองทางเหนือเพื่อยืนยันเรื่องนี้ และถือว่าเป็นโชคดีที่ฉันเดาถูก “
“ นายเรียกมันว่าโชคดีเหรอ? ฉันคิดว่ามันเป็นการกระทำที่บ้าและประมาณมากกว่า นายจะทำยังไงถ้าพวกนั้นมีปืน?” เจียงเฮาถามกลับด้วยน้ำเสียงที่ดุเดือดกว่าเดิม
หนิงเถาทำเพียงหยิบถุงพลาสติกมาจากกระเป๋ากางเกงของเขาแทนที่จะโต้เถียงเรื่องนี้ “นี่คือสิ่งที่ซูหยาได้ขโมยมาจากนักธุรกิจชื่อวังหยางหยาง” เขาพูดต่อว่า “ตอนนี้ซูหยาปลอดภัยแล้ว และฉันจะมอบมันให้เธอและฉันหวังว่าเธอจะไม่จับเธอในข้อหานี้ ไม่อย่างนั้นพวกเด็กๆมูลนิธิสงเคราะห์เด็กกำพร้าซันไชน์จะต้องถูกทิ้งไว้ตามลำพัง”
“นั่นเป็นอีกเรื่อง” เจียงเฮามองไปที่ “ดิน” สีน้ำเงินในถุงพลาสติกและแผงวงจรขนาดเล็บด้วยสีหน้าแปลกๆ “นายบอกฉันทางโทรศัพท์ว่านายมีบางสิ่งที่สำคัญมากที่ฉันต้องการใช่ไหม?”
“ใช่”
“มันคืออะไร? ทำไมนายถึงแน่ใจว่าสิ่งนั้นถึงสำคัญสำหรับฉัน” เจียงเฮาถามออกมาด้วยความสงสัย
หนิงเถาหยุดนิ่งไปเล็กน้อยก่อนที่เขาจะตอบว่า “บางทีมันอาจจะเกี่ยวข้องกับภารกิจของเธอก็ได้”
ใบหน้าของเจียงเฮาเปลี่ยนไปในพริบตา “มีข้อมูลเพิ่มให้กับภารกิจของฉันเหรอ?”
“อาจจะนะ! ที่บ้านของหลินชิงวู่ หลินชิงวู่ได้พูดถึงโครงการของที่หลินชิงหัวได้ทำ” หนิงเต่พูดต่อว่า “ฉันได้กลิ่นแปลกๆ ที่มาจากหลินชิงหัวที่คล้ายกับเจ้าดินนี้! และฉันรู้สึกว่าหลินชิงวู่เคยพูดว่าพี่ชายของเธอได้นำดินแบบนี้ไปทดลองทำอะไรบางอย่าง แต่ฉันไม่แน่ใจทั้งหมด ฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไรมันต้องได้รับการยืนยันจากเธอก่อนที่จะรู้แน่ชัด”
เจียงเฮาตัดสินใจอย่างฉับพลันและพูดกับตำรวจที่มาพร้อมกันว่า “พวกนายไปตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับวังหยางหยางมาทันทีและส่งคนไปจับกุมเขาด้วย!”
“ได้ครับ!” ตำรวจที่ได้รับคำสั่งนั้นก็รีบทำตามคำสั่งของเจียงเฮาและออกเดินทางไปทันที
หนิงเถามองไปที่ถุงพลาสติกที่ข้างในนั้นมีดินสีฟ้าในมือของเจียงเฮาและสงสัยว่า “ถ้าเธอรู้ว่าฉันแอบเก็บ ‘ดิน‘ สีน้ำเงินนั้นเอาไว้เล็กน้อย เธอจะจับทำอะไรฉันไหม?”
เขาไม่มีความคิดจะนำมันไปทำอะไรเลยนอกจากต้องการศึกษาว่ามันมีส่วนเกี่ยวข้องกับปีศาจกลายพันธ์ได้ยังไงเท่านั้นเอง!