เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
แหลมนีนเป็นเมืองเล็กๆ สองสามวันมานี้รถวิ่งไปมาขวักไขว่ไปทั่วเมือง เลขาธิการกระทรวงยุติธรรมสหรัฐมาที่นี่ด้วยตนเอง ผู้ช่วยนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าแผนกยุติธรรมของแคนาดาก็มาที่นี่ด้วยเหมือนกัน ในฐานะที่ฉินสือโอวเป็นกัปตันเรือ จึงถูกคนพวกนี้รุมสัมภาษณ์…โอ้ หรือว่าสอบถามกันนะ
นอกจากตุลาการแล้ว ก็เป็นสื่อจำนวนมากที่มาหาเขาเพื่อสัมภาษณ์ ไม่ว่าจะเป็นซีบีเอส เอบีซี ซีบีซี เอเอฟซี ฉินสือโอวได้พบกับสื่อชื่อดังระดับโลกทุกหน่วยงานที่นี่ แน่นอนว่ามีกล้องจำนวนไม่น้อยด้วยเช่นกัน
ฉินสือโอวปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ เขาเพียงเข้าร่วมงานแถลงข่าวอย่างเป็นทางการเท่านั้น ในงานแถลงข่าวเขาแนะนำตัวและเล่าถึงเหตุการณ์สั้นๆ หลังจากนั้นก็ไม่รับตอบคำถามอื่นๆ อีก
เขาพูดในสิ่งที่เขารู้ออกมาจนหมดแล้ว หากสัมภาษณ์ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้ และการที่เกิดเหตุ ‘ร้ายแรงในอเมริกาเหนือเป็นครั้งแรกในรอบสิบปี’ แบบนี้ต้องมีเบื้องหลังอยู่แน่ เขาไม่อยากจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องพวกนั้นด้วย
นอกจากจะให้ความร่วมมือกับทางตุลาการในการตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว หากเขามีเวลาว่างเขาก็จะไปให้อาหารแมวน้ำที่อยู่บนเรือ
ทุกสายตาจับจ้องไปที่คดีนี้และลูกเรือทั้งหกคนที่รอดชีวิต ส่วนแมวน้ำลายพิณกลับถูกเพิกเฉย ไม่มีใครให้ความสำคัญกับพวกมัน แม้แต่จะให้น้ำพวกมันกินก็ไม่มี
อันที่จริงแล้วแมวน้ำพวกนี้ไม่เลวเลย พวกมันเก็บไขมันจำนวนมากไว้ในร่างกาย ในอุณหภูมิอบอุ่นพวกมันสามารถไม่กินอาหารได้ถึงสิบกว่าวันโดยที่ไม่หิวตาย ไม่เช่นนั้นพวกมันคงจะไม่สามารถอยู่รอดได้ ตามที่พ่อครัวชาวเม็กซิกันพูด ตั้งแต่เกิดการปะทะ นอกจากเขาจะทำน้ำแข็งตกใส่กรงแมวน้ำเป็นครั้งคราว ก็ไม่มีใครสนใจพวกมันอีกเลย
พายุหิมะพัดกระหน่ำอยู่สี่วัน วันที่ห้าพายุจึงสงบลง คดีนี้ได้เริ่มถูกโอนไปยังเมืองออตตาวาและวอชิงตัน ในที่สุดฉินสือโอวก็เป็นอิสระ เขาสามารถล่องเรือกลับบ้านได้
เหมือนที่พันโทตำรวจกล่าวไว้ แมวน้ำลายพิณพวกนี้ไม่มีคนสนใจ พวกมันถูกขนย้ายไปทันที องค์กรพิทักษ์สัตว์อะไรนั่น ไม่มีใครมาสนใจพวกมันเลย
แน่นอนว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าจะเป็นแมวน้ำลายพิณหรือแมวน้ำอะไรก็ตาม โดยทั่วไปพวกมันก็มีจำนวนมาก ไม่อย่างนั้นคงไม่มีเทศกาลล่าแมวน้ำที่รุนแรงและโหดร้ายที่แคนาดา
ฉินสือโอวเป็นคนจัดการเรื่องนี้ หลังจากนั้นตอนเย็นเหล่าชาวประมงก็พากันย้ายกรงแมวน้ำไปยังเรือปริ้นเซสเมล่อน ทำให้เรือลำใหญ่แน่นขนัด
สองสามวันมานี้เหล่าชาวประมงพากันมาให้อาหารแมวน้ำพวกนั้น ดังนั้นเมื่อย้ายกรง แมวน้ำที่อยู่ด้านในจึงไม่ว่าจะตัวเล็กตัวใหญ่ก็ไม่มีท่าทีตื่นตระหนก ให้กินน้ำแข็งก็กินน้ำแข็ง ให้นอนก็นอน ไม่มีท่าทีตื่นตระหนกเลยสักนิด แต่ไม่มีท่าทีกลัวคนเลย
แต่ว่าชาวประมงพวกนั้นกลับหมดแรง แมวน้ำโตเต็มวัยหนึ่งตัวหนักไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยกิโล นี่ยังถือว่าไม่หนัก แต่จำนวนของพวกมันไม่ได้มากนัก พอถึงตัวพวกมันเหล่าชาวประมงก็หอบออกมา พลางบ่นกันระงม
ฉินสือโอวเป็นคนนำทีมนี้ด้วยตัวเอง ดังนั้นแม้ว่าจะมีเสียงบ่นออกมา ก็ไม่มีใครกล้าที่จะปฏิเสธ
ชาร์คคร่ำครวญออกมาว่า “รู้อยู่แล้วว่าพวกเราต้องเป็นคนย้ายพวกมัน งั้นสองสามวันนี้เราก็ไม่ควรให้พวกมันกินเยอะ พระเจ้า ฉันพึ่งเห็นกับตาตัวเองว่าสองสามวันมานี้พวกมันอ้วนขึ้นเป็นกองเลย!”
หลังจากทำการย้ายแมวน้ำ ฉินสือโอวก็ไม่ได้กลับไปที่โรงแรม ในเช้าตรู่วันถัดมา พวกเขาก็ออกจากท่าเรือทันที เขาใช้ประโยชน์จากความสงบหลังจากพายุหิมะ ตรงไปยังเกาะแฟร์เวล
เมื่อออกจากน่านน้ำแลบราดอร์แล้วเข้าสู่น่านน้ำนิวฟันด์แลนด์ ก็เป็นช่วงเย็นพอดี ฉินสือโอวมองดูก้อนเมฆยามอาทิตย์อัสดงอันสวยงามอยู่ที่ดาดฟ้า จู่ๆ ทันใดนั้นเอง เขาก็ได้ยินเสียงทุ้มดังขึ้นมาจากที่ไกลๆ “โม่วโม่ว โม่วโม่ว…”
เสียงนั้นดังได้ไม่นาน ประมาณสองสามวินาที ฟังดูแล้วเหมือนแม่วัวร้องงึมงำในลำคอ
หลังจากที่เสียงนั้นดังขึ้นมา ก็มีเสียงครวญครางต่ำดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง “โม่วโม่ว!” “โม่วๆๆ!”
เสียงพวกนั้นดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีไอน้ำโผล่ขึ้นมาอีกหลายสาย ราวกับน้ำพุ แต่ว่าน้ำพุนั้นอยู่ในรูปของตัววี ไอน้ำทุกสายแบ่งออกเป็นสองเส้น
“วาฬหัวคันศร!” วินนี่ที่กำลังดูลูกสาวของตัวเองร้องออกมาด้วยความประหลาดใจ
เสียงร้องของวาฬแตกต่างกันออกไป เสียงของวาฬไรท์ค่อนข้างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เสียงของพวกมันเหมือนกับเสียงร้องของวัว แต่ว่าเสียงนี้เป็นเสียงที่ส่งออกมาเพื่อสื่อสารกันเอง วาฬชนิดนี้มีพรสวรรค์ด้านภาษา นอกจากนี้พวกมันยังสามารถเลียนแบบเสียงอื่นๆ ได้อีกด้วย เรื่องนี้พวกมันเก่งกว่าวาฬเบลูกาเสียอีก
ฉินสือโอวปล่อยจิตสำนึกโพไซดอนไปดูพวกมัน มีวาฬไรท์โตเต็มวัยสี่ตัว และอีกสามตัวเป็นลูกวาฬ นี่ไม่ใช่วาฬฝูงเดียวกันกับที่เขาเจอเมื่อเดือนก่อนหรอกเหรอ? ไม่คิดเลยว่าพวกมันจะรออยู่ที่นี่
เรื่องที่ทำให้เขาตกตะลึงอีกเรื่องก็คือ วาฬไรท์พวกนี้จำเรือปริ้นเซสเมล่อนได้ เสียงร้องของพวกมันเมื่อกี้ เพื่อเป็นการบอกข่าวกันและกัน ไม่นาน ไอน้ำพวกนั้นก็เข้ามาใกล้มากขึ้น พวกมันว่ายน้ำเข้ามาหา
ชาร์คลดความเร็วลงอีกครั้ง แล้วพูดออกมาอย่างเบื่อหน่ายว่า “เพราะว่าวาฬพวกนี้ พวกเราถึงต้องจ่ายค่าน้ำมันดีเซลอย่างน้อยห้าพันดอลลาร์!”
ใช่แล้ว เมื่อล้อเรือขนาดใหญ่หยุดลงสองครั้ง พวกเขาต้องเสียเงินค่าน้ำมันดีเซลห้าพันดอลลาร์ เรือหลายลำจึงไม่ชะลอความเร็วแม้ว่าจะเจอเข้ากับวาฬก็ตาม จึงพุ่งเข้าหาพวกมันโดยตรง ทำให้พวกมันตาย ไม่ใช่ว่ากัปตันเหล่านั้นโหดร้าย แต่ว่าพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น พวกเขาไม่ได้มีเงินที่ใช้จ่ายได้เยอะขนาดนั้น
วาฬไรท์ทั้งเจ็ดว่ายน้ำรอบๆ เรือปริ้นเซสเมล่อน บางครั้งก็มีไอน้ำพ่นออกมา สัตว์พวกนี้ลอยเป็นแนวตั้งอยู่ในน้ำ แล้วโผล่หัวออกมาครึ่งหนึ่ง พวกมันมองมายังเรือปริ้นเซสเมล่อน…ไม่มีทาง วาฬไรท์มีหัวแบน เมื่อลอยตัวเป็นแนวตั้งไม่สามารถที่จะมองไปข้างหน้าได้ พวกมันสามารถมองได้โดยใช้ตาข้างเดียว
เพราะแบบนี้ พวกมันจึงดูน่าสมเพชเล็กน้อย ราวกับสายตาของนักเลงที่มองดูสาวงาม
หลังจากที่วาฬไรท์โผล่หัวออกมา พวกมันก็ค่อยๆ อ้าปากออกมา ฉินสือโอวนึกว่าพวกมันต้องการจะส่งเสียงเรียก ปรากฏว่ากลับไม่มีเสียงอะไรออกมา พวกมันทำเพียงอ้าปากและลอยตัวอยู่ในน้ำเท่านั้น
วินนี่ตะลึงไปครู่หนึ่ง จากนั้นเธอก็มีปฏิกิริยาตอบสนองออกมา “พระเจ้า พวกมันรอให้พวกเราให้อาหารอยู่รึเปล่า?”
ฉินสือโอวพูดออกมาอย่างตกตะลึงว่า “คุณจะบอกว่าพวกมันรอเราอยู่ที่นี่เพื่อรอให้เรามาให้อาหารงั้นเหรอ”
“อาจจะเป็นเพราะว่าปลาของพวกเราอร่อยล่ะมั้ง” ชาร์คหัวเราะออกมา
เกิงจุนเจี๋ยถอนหายใจออกมา “แน่นอนว่าอร่อย ปลาของพวกเราแพงขนาดนั้น ตอนอยู่ที่บ้านเกิดฉันแทบจะไม่ได้กินปลาราคาแพงพวกนี้เลย”
น่าเสียดาย ที่บนเรือไม่มีปลาอยู่เลยแม้แต่ตัวเดียว พวกมันถูกใช้ในการจับปูจักรพรรดิไปหมดแล้ว เหลือเศษซากไว้เพียงแค่บางส่วนเท่านั้น
แต่ว่ายังมีพวกหมึกกระดองแช่แข็งที่พวกเขาเอามาจากเรือบลูด็อกอยู่ ของพวกนี้เอามาเพื่อให้เป็นอาหารของแมวน้ำ พวกวาฬจึงได้กินเพียงของพวกนี้เท่านั้น
ก้อนหมึกแช่แข็งบดถูกโยนลงไปในน้ำ วาฬไรท์ทั้งเจ็ดตัวแย่งดันมากินหมึกแช่แข็ง แต่เมื่อพวกมันกินไปได้สองสามคำก็หยุดกิน และยังคงอ้าปากกว้างร้องขออาหาร มีลูกวาฬตัวหนึ่งส่งเสียงร้องออกมาด้วยความตะกละตะกลาม
“พระเจ้า ปากเหม็นเหลือเกินนะว่าไง?” ฉินสือโอวนิ่งไปครู่หนึ่ง
เหล่าวาฬเป็นพวกอันธพาล ไม่ให้อาหารก็จะไม่ออกไปจากที่นี่ พวกมันว่ายน้ำไปมารอบเรือปริ้นเซสเมล่อน
ฉินสือโอวทำได้เพียงให้เหล่าชาวประมงไปทำความสะอาดห้อง และหยิบเลือกของเหลือที่เหลืออยู่ออกมา จากนั้นก็โยนลงไปพร้อมกับหมึกกระดองแช่แข็ง
แบบนี้เหล่าวาฬจึงได้กินอย่างมีความสุข ดูเหมือนว่าพวกมันจะไม่ใช่สัตว์ที่เลือกกินมากนัก สำหรับพวกมันปลาสำหรับทำประมงก็ถือว่าเป็นสิ่งล่อตาล่อใจได้มากทีเดียว
…………………………………………….
ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1466 การรอคอยของวาฬ
Posted by ? Views, Released on November 16, 2021
, ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท
หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง
แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้
นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา
แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี
นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก
จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน
กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี
ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป
ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’
ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา
จากนั้นมา…
จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้
และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!