พออู่ต้าจินพูดจบ จู่ ๆ ก็มีชายใส่ชุดสูทจำนวนหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอก พอเดินเข้ามาก็มองซ้ายมองขวา สำรวจตรวจสอบบริเวณรอบ ๆ อย่างละเอียด จากนั้นก็ยืนอยู่ตามมุมอับ
ถ้าคนที่มีพื้นฐานมืออาชีพหน่อยก็จะรู้ว่า นี่คือบอดี้การ์ด และเป็นบอดี้การ์ดมืออาชีพ
บอดี้การ์ดที่แท้จริงนั้นไม่เหมือนกับพวกใส่สูทสวมแว่นดำแบบในละครทีวี เดินไปไหนก็เท่ ๆ แบบนั้น
ความเป็นจริงแล้วบอดี้การ์ดที่แท้จริงคือมีลักษณะไม่ค่อยเป็นที่ดึงดูดสายตา กลมกลืนอยู่ในกลุ่มคน รูปร่างของพวกเขาค่อนข้างสูงใหญ่ แต่งตัวธรรมดา ๆ ยิ่งธรรมดามากเท่าไหร่ยิ่งดี ค่อนข้างมีไหวพริบด้านการสังเกต รับรู้ถึงอันตรายบริเวณรอบข้างและตัดสินใจได้เร็ว
พอสองคนนี้เดินเข้ามา ก็ทำให้คนอื่นรู้สึกกดดันแปลก ๆ
จากนั้น ก็มีชายสี่คนเดินนำหน้า สี่คนเดินประกบหลัง ด้านข้างยังมีอีกสองคน ทุกคนล้วนแต่เป็นชายรูปร่างสูงใหญ่ราว ๆ 190 กว่า
จากนั้นโจวเก๋อก็เดินเข้ามาโดยมีคนเหล่านี้คุ้มกัน
แม้ว่าโจวเก๋อจะเป็นดาราบู๊ชอบต่อสู้ แต่ก็ต้องมีบอดี้การ์ด เพราะถึงแม้ว่าเขาจะเก่งมาก แต่ก็มีฐานะที่พิเศษ เพราะฉะนั้นจะไปมีเรื่องกับใครง่าย ๆ ไม่ได้ ถ้าเกิดเรื่องขึ้นมาจริง ๆ ก็ต้องให้บอดี้การ์ดเป็นคนลงมือ
พอเห็นฉากนี้เข้าทุกคนก็ต่างตกตะลึงตาค้าง รวมถึงพนักงานในร้านอาหารที่เป็นชาวต่างชาติเหล่านั้นก็ยังตะลึงงัน
นี่มันโจวเก๋อใช่ไหม?
โจวเก๋อสวมหมวกและแว่นดำเดินเข้ามาจากด้านนอก พอเห็นฉินจุนเข้า เขาก็รีบถอดแว่นถอดหมวก เดินยิ้มเข้ามาจับมือทักทายกับฉินจุน
“ท่านปรมาจารย์ฉิน เจอกันอีกแล้วนะครับ”
ฉินจุนพยักหน้า “สีหน้าไม่เลวเลย ดีขึ้นแล้วใช่ไหมครับ?”
โจวเก๋อพยักหน้าด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความดีใจ
“ดีขึ้นมากแล้วครับ ๆ ต้องขอขอบคุณท่านปรมาจารย์ฉินที่ช่วยเหลือ วันนี้ท่านเชิญผมมาบอกว่ามีการแสดงกายกรรม?”
ฉินจุนยิ้มบาง ๆ “ถูกต้องครับ กายกรรมนี้เรียกว่า กินแก้วเหล้าด้วยปากเปล่า”
พูดจบฉินจุนและคนอื่น ๆ ก็หันไปมองที่อู่ต้าจิน
ตอนนี้สีหน้าของอู่ต้าจินก็แย่ลงทันที เขามองไปที่โจวเก๋อด้วยสีหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ
นี่มันโจวเก๋อ เขามาจริง ๆ เหรอนี่?
ทุกคนต่างตื่นเต้นขึ้นมาทันทีพอได้เห็นซุปตาร์ระดับประเทศ!
“คุณโจวเก๋อคะ ขอถ่ายรูปคู่ได้ไหมคะ!”
“พี่โจวครับ ผมดูหนังของพี่มาตั้งแต่เด็กจนโตเลยครับ!”
“ครอบครัวผมต่างก็ชื่นชอบคุณทั้งนั้นเลบครับ ช่วยเซ็นลายเซ็นให้ผมหน่อยได้ไหมครับ!”
“……”
ทุกคนต่างกระตือรือร้นกันมาก โจวเก๋อเพียงแค่ยิ้มบาง ๆ แล้วเอ่ย “ไม่มีปัญหาครับ ในเมื่อทุกคนเป็นเพื่อนของท่านปรมาจารย์ฉิน คำขอพวกนี้ของพวกคุณผมทำให้ได้หมดครับ”
“เยี่ยมไปเลย!”
ทุกคนต่างดีใจกันมาก ๆ ตื่นเต้นจนแทบจะกรี๊ดออกมา
ฉินจุนนี่สุดยอดไปเลย เขารู้จักโจวเก๋อจริง ๆ ด้วย แถมยังสามารถโทรเรียกให้โจวเก๋อออกมาหาได้ คนเราตัดสินคนที่ภายนอกอย่างเดียวไม่ได้จริง ๆ
อย่ามองว่าเขาอายุยังน้อย แต่แท้จริงแล้วคอนเนกชั่นของเขามันกว้างขวางมาก ๆ
ในเม่อโจวเก๋อมาที่นี่จริง ๆ ถ้าอย่างนั้นเช็คใบนี้ก็ต้องเป็นของจริง เพราะฉะนั้นเช็คมูลค่าหนึ่งล้านห้าแสนหยวนก็ถูกนำมาชำระค่าเหล้าอย่างไม่ต้องสงสัย
ฐานะอย่างโจวเก๋อแล้ว ดื้มเหล้าราคาแพงขนาดนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติมาก ๆ แค่ล้านกว่า ๆ เองมันเด็กน้อยมาก ๆ
หน้าของอู่ต้าจินตอนนี้ซีดไปหมด ไม่คิดเลยว่าท่าทางที่ฉินจุนโทรศัพท์เมื่อกี้ จะเป็นการเรียกโจวเก๋อมาที่นี่จริง ๆ ราวกับว่าเขาเห็นผีเลยตอนนี้!
“แหะ ๆ เจ๋งดีนี่ พวกนายกินอิ่มเรียบร้อยแล้ว ถ้าอย่างนั้นฉันไปก่อนนะ”
พูดจบอู่ต้าจินก็เตรียมจะไปทันที
ทันใดนั้นฉินจุนก็ขวางอู่ต้าจินเอาไว้
“จะไปแล้ว?กายกรรมที่จะโชว์ให้ฉันดูล่ะ?”
เมื่อกี้นี้อู่ต้าจินยังบอกเลยว่าจะกินแก้วเหล้านั่น
สีหน้าของอู่ต้าจินแข็งทื่อไปหมด เขาขมวดคิ้วก็จะฝืนกัดฟันพูด
“แกต้องการอะไร เมื่อกี้ฉันก็แค่พูดไปงั้น ใครก็ฟังออกว่าฉันแค่พูดเล่น แกฟังไม่ออกหรือยังไง!”
ทุกคนต่างคุ้นเคยกับท่าทางไร้ยางอายของอู่ต้าจิน ตอนที่ฉินจุนพูดตอนแรก เขาก็ต่อว่าไม่เลิก ทั้งสาบานทั้งจ้องจับผิด
และที่สำคัญที่สุดคือ ฉินจุนช่วยจ่ายเงินให้เขาด้วยซ้ำ อู่ต้าจินยังมาลอบกัด คนแบบนี้นี่มันสุดจริง ๆ
ตอนนี้ฉินจุนก็เรียกโจวเก๋อมาแล้วเรียกได้ว่าตบหน้าอู่ต้าจินเต็ม ๆ สุดท้ายกลับบอกว่าตัวเองแค่พูดล้อเล่น?
คิดว่าคนอื่นเขาจะปล่อยตัวเองไปเหรอ?
ฉินจุนหยิบแก้วเหล้าจากบนโต๊ะขึ้นมาแล้วบีบเบา ๆ ด้วยมือของเขา เขาใช้สองนิ้วบีบจนกลายเป็นเศษแก้วเล็กๆ แล้ววางมันลงบนจานจากนั้นก็พูดอย่างเย็นชา
“นายจะกินเองหรือจะให้ฉันป้อน?”
พอฉินจุนหักเศษแก้วพวกนั้น ก็ทำเอาอู่ต้าจินตกใจมาก
แก้วหนาขนาดนี้ อย่าว่าแต่ใช้มือหักเลย ต่อให้โยนลงพื้นก็ไม่แตกง่ายขนาดนั้น ฉินจุนใช้เพียงแค่สองนิ้วบีบก็ทำให้แก้วแตกได้ แบบนี้มันต้องใช้พละกำลังมากมายขนาดไหน?
โจวเก๋อที่ยืนอยู่ด้านข้างก็ตะลึง นี่มันสุดยอดไปเลย
เขายืนอยู่ด้านข้างแล้วหยิบแก้วขึ้นมา ใช้สองนิ้วบีบแก้วอย่างเอาเป็นเอาตาย!
เพล้ง!
โจวเก๋อหน้าดำหน้าแดงไปหมด ราวกับใช้แรงวัวแรงควายถึงจะทำให้แก้วเหล้านี้แตกเป็นสองซีก
นี่เป็นแก้วอย่างหนาสำหรับดื่มวิสกี้ ตกลงพิ้นก็ไม่แตก
โจวเก๋อนั้นเรียนการต่อสู้มาตั้งแต่เด็ก พละกำลังของเขาไม่ต้องพูดถึง แต่ถึงกระนั้นแล้ว โจวเก๋อก็ยังต้องใช้กำลังมหาศาลในการบีบให้แก้วนั้นแตก แต่มันกลับแตกต่างกับฉินจุนโดยสิ้งเชิง ฉินจุนเป็นแค่ใช้สองนิ้วบีบง่าย ๆ เหมือนกับบิคุกกี้แบบนั้นเลย สามารถควบคุมรูปร่างของเศษแก้วในมือได้อย่างแม่นยำ
โจวเก๋อนั้นทำแบบนั้นไม่ได้
หลังจากลองด้วยตัวเองแล้ว โจวเก๋อเองก็รู้สึกช็อกมาก ท่านปรมาจารย์ฉินเก่งกังฟูด้วยเหรอเนี่ย?
เดิมทีเขาคิดว่าท่านปรมาจารย์ฉินเป็นเพียงหมอที่มีความเชี่ยวชาญมาก ๆ ก็เท่านั้น ไม่คิดเลยว่าท่านปรมาจารย์ฉินจะมีวิชากังฟูด้วย และวิชากังฟูของท่านต้องไม่ใช่ระดับเดียวกับเขาแน่
อู่ต้าจินเองก็ตกตะลึงเช่นกันฉินจุนแข็งแกร่งเกินไปแล้ว แก้วเหล้าที่เสริมความหนาเป็นพิเศษพออยู่ในมือของหมอนี่มันกลับกลายเป็นเหมือนแค่คุกกี้ แล้วยิ่งมีโจวเก๋อที่ยืนอยู่ด้วยด้านข้าง ไหนจะบอดี้การ์ดของเขาอีก ต่อให้อู่ต้าจินอยากจะหนีก็หนีไม่รอด
เขาหันไปมองเพื่อนนักเดินทาง
“ทุกคนเป็นเพื่อนกันทั้งนั้น ไม่จำเป็นต้องต้อนให้จนมุมกันขนาดนี้เลย ฉันเลี้ยงข้าวพวกนาย พวกนายไม่ช่วยฉันพูดอะไรหน่อยเลย”
ถ้าเขาไม่พูดถึงเรื่องเลี้ยงอาหารจะไม่เป็นไรเลยนะ แต่พอพูดถึงเรื่องเลี้ยงข้าวทุกคนก็โมโหขึ้นมาทันที
นึกย้อนกลับไปตอนที่เขาสั่งเหล้า เห็นได้ชัดว่าเขาสั่งไวน์แบบตามใจฉันมาก แต่พออาหารมาเสิร์ฟกลับบอกว่าให้ทุกคนหารกัน ทำเอาทุกคนตกอยู่ในสถานการณ์น่าอับอายมาก
แน่นอนว่าตอนนี้ไม่มีใครช่วยพูดแทนเขาเลย
ยิ่งกว่านั้นพวกเขาไม่ได้เป็นอะไรกับฉินจุน พูดไปก็ไม่มีประโยชน์ อู่ต้าจินหาเรื่องฉินจุนไม่ใช่คนอื่น
เฉินเค่อเอ๋อร์ยิ่งไม่ช่วยเลย เธอไม่ชอบหน้าอู่ต้าจินตั้งแต่แรกแล้ว เธอรอให้พี่เขยจัดการเขา
“เฮ้ย เมื่อกี้นายบอกว่าจะกินแก้วเหล้านี่ ฉันเพิ่งรู้ว่านายมันเป็นพวกกลับคำจนเป็นสันดาน วันนายต้องเจอไม้แข็ง สั่งสอนนายสักหน่อย”
พอพูดจบฉินจุนก็บีบแก้วแตกอีกครั้ง
“ถ้ากินไม่เป็นล่ะก็ ฉันคงต้องกรอกใส่ปากให้”
ใบหน้าของอู่ต้าจินซีดไปหมด ศึกวันนี้ทุกคนต่างเป็นศัตรูกับเขาไปหมดแล้ว ต่อให้ไม่เป็นศัตรูก็แค่มาดูเอาสนุกทั้งนั้น
อู่ต้าจินกัดฟันหยิบเศษแก้วขึ้นมาใส่เข้าไปในปาก ฉินจุนนี้ควบคุมเศษแก้วได้อย่างแม่นยำ ขนาดเศษแก้วแตกนี้ พอเหมาะพอดีกับที่เขาจะสามารถกลืนลงคอได้เลย