ตอนที่ 4 : ปะทะกันแบบคอถึงคอ
ด้านขวาของเขา มีชายคนหนึ่งสวมใส่เครื่องแบบสีขาวได้กำลังวิ่งมาหาเขาด้วยความเร็วราวกับว่าพรุ่งนี้ไม่มีอยู่อีกแล้ว พร้อมกับมีปืนสั้นเหน็บอยู่ที่ข้างเอว ถ้าเขาดูปกติ ก็คงจะไม่เป็นอะไร แต่ปัญหาคือชุดเครื่องแบบของชายคนนี้นั้นแทบจะเป็นสีแดงทั้งหมด เพราะว่ามันนองเต็มไปด้วยสีของเลือดและมีที่ลำคอมีรอยแผลอันสดใหม่ซึ่งเขาน่าจะโดนพวกซอมบี้กัดมาแน่นอน อีกเพียงแค่ไม่กี่ก้าวชายคนนั้นก็จะใกล้เข้าถึงตัวมาร์คแล้ว และชายดังกล่าวพุ่งเข้าใส่ตัวมาร์คอย่างสัตว์ร้ายที่หิวกระหาย
แม้ว่ามาร์คจะท่วมไปด้วยหยาดเหงื่อ แต่ทักษะและปฏิกิริยาของเขาไม่ทำให้ผิดหวัง เลือดในตัวเขาก็เดือดพล่าน ขณะที่เขาก้าวไปด้านข้างหลบหลีกการจู่โจมของซอมบี้ได้อย่างกระทันหัน ระหว่างเวลานั้นมันยังคงยืนนิ่งอยู่กลางอากาศต่อหน้าของเขา เขาจัดการฟาดไม้เบสบอลไปบนหัวของมัน เขาฟาดไม้เบสบอลลงไปเกือบจะโดนหัวของมัน แต่เขากลับฟาดไปโดนที่คอของมันโดยตรงอย่างรุนแรง
เมื่อไม้เบสบอลเหล็กได้ฟาดไปโดนที่คอของมัน เสียงกระดูกแตกดังเข้ามาในหูของเขาอย่างน่าขนลุก ผลจากการที่มันพุ่งกระโดดเข้ามาอย่างรวดเร็วทำให้มันเสียหลักล้มลงไปกับพื้น พร้อมกับคอของมันที่หักหมุนออกไปมากกว่าปกติที่ควรจะเป็น
มันกระตุกอยู่กับพื้นไม่กี่ที มันก็เกือบที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ ทำไมถึงเกือบจะน่ะเหรอ? เพราะว่าหัวของมันยังเคลื่อนไหวได้อยู่! การจู่โจมของมาร์คได้ทำให้คอของมันหักและลดความสามารถในการเคลื่อนที่ของร่างกายมันแต่มันก็ยังพอที่จะเคลื่อนที่ได้อยู่ สมองของมันยังคงไม่เสื่อมเสีย และนั่นแปลว่ามันยังคง “มีชีวิต” อยู่ ถึงอย่างนั้นเขาก็ช่วยไม่ได้ แต่สังเกตุเห็นว่าตอนนี้มันได้อ่อนแอกว่า อาจจะเป็นเพราะว่าการโจมตีของเขาแต่เขารึเปล่าก็ยังไม่แน่ใจ
ศรีษะของมันจ้องมองเขม็งมาที่มาร์ค เมหือนกับว่ามันนั้นกำลังมองเหยื่อของมันอยู่ ในขณะนั้นมันก็ขู่คำรามเสียงดัง ปากของมันนั้นมีเลือดพุ่งไหลออกมาตลอดเวลาคล้ายกับอาเจียน
ในทางกลับกัน มาร์คก็จ้องเขม็งไปที่ซอมบี้ แต่จริงๆแล้วเขากำลังทำใจให้ชินกับสิ่งที่เขาเผชิญและรู้สึกอยู่ในตอนนี้ แม้ว่าไม่มาร์คจะไม่ลังเลสักนิดที่จะฆ่ามัน แต่นี่มันก็เป็นครั้งแรกที่เขาพยามจะฆ่ามนุษย์เป็นๆ ถึงแม้ว่าว่ามันจะเป็นซ้อมบี้ไปแล้วก็ตาม ในวิดิโอเกมที่เขาเล่นในทุกๆวัน การฆ่านั้นเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ในหลายๆเกมจะใช้เป็นวิธีการในการทำลายศัตรู ไม่ว่ามันจะเป็นมนุษย์หรือมอนสเตอร์ หรือสิ่งอื่นๆ
ความรู้สึกที่เผชิญหน้ากับความตายมันน่าหดหู่ใจเช่นกัน ท้ายที่สุดแล้วเรื่องทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องที่ใกล้ตัว ถ้าสัญชาตญาณของเขาไม่ทำงาน เขาก็อาจจะเสร็จมันไปแล้ว
การสัมผัสกับความตายและการฆ่าในชีวิตจริงนั้นแตกต่างไปโดยสิ้นเชิง จริงๆแล้วตัวมาร์คนั้นก็สั่นเทาและหัวใจของเขานั้นก็เต้นดังมากในขณะเดียวกันเขาก็พยายามที่จะถือประคองไม้เบสบอลเหล็กเอาไว้ให้แน่นกว่าเดิม หลังจากที่อากาศเต็มปากของเขาไปสักพัก เขาก็เริ่มที่จะทำให้ตัวเขานั้นใจเย็นลง
เขาพยายามทำความคุ้นชินกับซอมบี้ที่กำลังนอนอยู่บนพื้น เขาเคยเห็นคนนี้เมื่อไม่นาน เมื่อตอนที่ชายคนนี้นั้นไม่สามารถโหลดลูกกระสุนได้ทันเวลา เขาถูกซอมบี้กระโจนเข้าใส่กัดไปที่ลำคอ เขาคือการ์ดที่อยู่ที่ชั้นแรกก่อนหน้านี้ผู้ซึ่งหายออกไปเมื่อตอนที่มาร์คนั้นไม่ได้สังเกตมอง ถ้าเป็นอย่างนั้น แสดงว่าปืนลูกซองที่ยังไม่ทันได้โหลดต้องหล่นอยู่ใกล้ๆมัน มาร์คก็ได้เจอปืนลูกซองนั้นเสียบอยู่ที่กระเป๋ารัดเอวที่ติดอยู่กับเข็มขัดของมัน
ซอมบี้การ์ดตัวนี้ไม่มีรอยบาดเจ็บอื่นๆนอกจากรอยกัดที่เขาโดนมาก่อนหน้านั้น และกระดูกที่คอที่ถูกมาร์คโจมตี วิธีนี้แหละที่จะทำให้มาร์คมั่นใจกับตัวเองได้ว่ามันจะเหมือนกับในหนังมั้ยนะ รอยกัดเดียวจากซอมบี้สามารถทำให้คนธรรมดาเปลี่ยนกลายเป็นพวกเดียวกับมัน เขามีความคิดว่าอาจจะมีปัจจัยอื่นๆที่ทำให้เกิดการกลายร่างได้ เช่น เลือด และของเสียจากร่างกาย แต่มาร์คไม่มีเวลาหรือวิธีที่จะรู้มันได้ในตอนนี้
เวลาขณะนี้นั้นเป็นช่วงที่สำคัญเสียมาก มาร์คตัดสินใจที่จะเก็บเรื่องนี้เอาไว้ไตร่ตรองทีหลัง เขาเริ่มที่จะทำใจให้กล้า ชูไม้เบสบอลเหล็กขึ้นและทุบลงไปที่เหนือศรีษซอมบี้การ์ดตัวนี้อย่างไร้ความปราณีใดๆ กลิ่นอายของความเหี้ยมโหดลอยฟุ้งอยู่กลางอากาศ ขณะเดียวกันเลือดของซอมบี้การ์ดก็ทะลักออกมาเปอะเปลื้อนเต็มพื้น
มาร์คทุบไม้เบสบอลลงไปอีกทีและถีบร่างซอมบี้ที่ตายแล้วนอนคว่ำลงไป เขาเอาผ้าเช็ดมือมาคลุมมือของเขาเอาไว้ เขาค่อยๆถอดปลายสายรัดเข็มขัดที่เชื่อมต่อกับปืนลูกซองออกอย่างระมัดระวัง และดึงปืนออกจากร่างกายของซอมบี้ จากนั้นเขาก็เริ่มถอดหัวเข็มขัดพร้อมกับดึงเข็มขัดและกระเป๋าเข็มขัดออกมา
เมื่อเห็นของข้างในกระเป๋านั่น เขาก็ถึงกับยิ้ม ข้างในกระเป๋ามีกระสุนปืนลูกซองอยู่หลายนัด เขาเอากระสุนออกมาจากกระเป๋าอยู่หลายนัดและโหลดกระสุนลงไปในปืนลูกซองให้เต็ม จากนั้นเขาก็นำกระเป๋าเข็มขัดที่เอามารัดรอบเร็วเอวของเขาอย่างแน่น เนื่องจากสิ่งของที่อยู่ข้างในกระเป๋าเต็มไปด้วยข้าวของที่จำเป็น เช่นไฟฉายในกระเป๋าใบแรก และเครื่องวิทยุสื่อสารในกระเป๋าอีกใบหนึ่ง เครื่องวิทยุสื่อสารก็เหมือนจะแตกพังไปแล้ว แม้ว่าเครื่องจะยังเปิดอยู่ เขาก็ไม่ได้ยินเสียงใดๆออกมา
เพื่อไม่ให้เสียเวลา เขาไม่ชายตามองแม้แต่ศพของซอมบี้ เขาวิ่งตรงไปที่ใจกลางพื้นที่ เขาทำแบบนั้นก็เพราะว่าเขาได้ยินเสียงร้องตะโกนของใครหลายๆคนอยู่ในบริเวณพื้นที่ชั้นนี้!
มีสามคนที่กำลังรวบรวมเก็บสิ่งของอยู่ทางฝั่งทิศตะวันออกของห้างสรรพสินค้ากำลังวิ่งหนีอยู่ในตอนนี้ พวกเขากำลังจะถูกไล่ล่าจากซอมบี้ที่สามารถวิ่งได้คล่องแคล่วว่องไว ไกลออกไปจากข้างหลังพวกเขาอีก ก็มีซอมบี้อยู่หลายตัว ในขณะที่พวกมันพยายามที่จะไล่ล่าคนอื่นๆแต่พวกมันนั้นมีลักษณะที่เชื่องช้าและเดินโซซัดโซเซ
มาร์คไม่สามารถช่วยสามคนนั้นและได้แต่ยกย่องพวกเขาอยู่ในใจ พวกเขาไม่ต้องการที่จะต่อสู้กับพวกมันเพราะพวกเขากลัวเกินกว่าจะทำได้ แต่ถึงอย่างนั้น ในขณะที่พวกเขาทำได้แค่วิ่งหนีออกมา พวกเขาก็ยังไม่มีแรงดลใจใดๆที่พวกเขาจะทิ้งข้าวของที่เจอเอาไว้
พวกเขาสามคนวิ่งมาพร้อมกับรถเข็นสองอัน ข้างในรถเข็นมีอาหารกล่องใหญ่อยู่มากมาย!
ร้านสินค้าการกีฬาที่เขาเพิ่งได้ออกมานั้นตั้งอยู่ในตำแหน่งทิศใต้ใกล้กับใจกลางของพื้นที่ห้างสรรพสินค้า ตัวเขานั้นก็อยู่ไม่ไกลจากสามคนนั้น ในขณะที่สามคนนั้นวิ่งมาพร้อมกับรถเข็นที่มีอาหารอันมีค่าอยู่ด้วย เขาไม่รังเลที่วิ่งเข้าไปช่วยสามคนนั้น อีกหนึ่งเหตุผลก็คือเขากระตือรือร้นที่อยากจะลองปืนลูกซองที่เพิ่งได้มาจากซอมบี้ที่เขาฆ่าทิ้งไป
การที่ได้เห็นมาร์คผู้ที่ซึ่งถือปืนอยู่ในมือกำลังวิ่งเข้ามาทางพวกเขา พวกเขาสามคนก็รู้สึกชื่นใจขึ้นมาบ้าง พวกเขากลัวที่จะสู้กับซอมบี้ที่วิ่งไล่ล่าพวกเขาอยู่ และก็ยังมีซอมบี้มากมายที่อยู่ข้างหลังพวกเขา พวกเขายังคงไม่ยอมทิ้งข้าวของอาหารที่พวกเขาได้อุตส่าห์พยายามหามา โชคดีตรงที่ตำแหน่งงานของพวกเขาคือการรีสต็อคสินค้าอาหาร พวกเขาจึงรู้ที่ที่สามารถหาอาหารและรถเข็นนี้ได้ พวกเขาเจอรถเข็นว่างอยู่ซึ่งมันสามารถนำมาใช้ส่งสิ่งของได้อย่างสะดวก แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้จัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย พวกเขาก็เจอพวกซอมบี้นี้กำลังพยายามปีนขึ้นมาที่บันได้เลื่อนด้วยท่าทางตะเกียกตะกายและเคลื่อนที่มาหาพวกเขาอย่างว่องไว
“วิ่งต่อไป!”
มาร์ควิ่งผ่านพวกเขาสามคนและตะโกนออกไป แน่นอนว่าพวกเขาทั้งสามคนนั้นคงไม่กล้าที่จะหยุดวิ่งหรอกแม้ว่ามาร์คจะไม่ได้ตะโกนบอกออกมา
มาร์คหยุดวิ่งและยืนอยู่ตรงที่ห่างจากพวกซอมบี้ที่กำลังพุ่งเข้ามาหาเขาอยู่ไม่ไกล ขณะที่เขาเห็นซอมบี้ มาร์คคิดว่าสามคนนั้นโชคดีมาก ถ้ามันเป็นซอมบี้ที่วิ่งได้ว่องไวได้อย่างปกติ พวกเขาคงไม่รอดไปแล้ว อย่างไรก็ตามซอมบี้ที่ไล่ล่าพวกเขานั้นพวกมันมีเท้าข้างเดียว! มันเหลือเท้าขวาอยู่ข้างเดียวที่ยังสมบูรณ์และใช้งานได้อยู่ และตัวอื่นนั้นข้อเท้าของมันก็ขาดออกไป เลือดได้ไหลที่ไหลออกมาจากขาของพวกมันสามารถมองเห็นได้ตามทางที่พวกมันได้วิ่งผ่านมา ไม่ต้องสงสัยเลยว่าซอมบี้พวกนี้มีความสามารถอยู่ในระดับเดียวกับซอมบี้การ์ดที่เขาเพิ่งได้ฆ่าไปก่อนหน้า แต่พวกมันโดนลดศักยภาพจากความพิการของพวกมัน
ในขณะที่พวกซอมบี้พยายามเข้าหาตัวเขาด้วยความหิวกระหาย มาร์คถือไม้เบสบอลเหล็กไว้ที่มือขวา และถือปืนลูกซองไว้ที่มือซ้าย เมื่อเขาได้มีโอกาสถือปืนลูกซองอยู่ในมือ จริงๆแล้วเขาก็คันมือต้องการที่จะลองยิงดูสักครั้ง ปืนลูกซองนี้อาจจะมีลักษณะที่สั้น แต่มันก็ยังคงใช้งานได้ไม่ขาดตกบกพร่องอยู่ ปืนนั้นเป็นหนึ่งในไอเทมที่พวกโอตาคุนั้นต้องการมากที่สุด
เขาถอยเท้าซ้ายไปหลังและหันตัวไปด้านข้าง ขณะที่มือขวาเล็งปืนลูกซองไปข้างหน้า เขานั้นไม่ต้องการให้เกิดการพลาด เพราะวางไม้เบสบอลเหล็กลงไปกับพื้นแล้ว ในฐาณะที่เป็นเกมเมอร์และโอตาคุ เขาค่อนข้างมีความรู้ในด้านปืนมาบ้าง เขาต้องการที่จะยิงให้โดนศรีษะพวกมัน เขาได้เล็งปืนต่ำลงมานิดหน่อยเมื่อเขานึกถึงแรงดันของปืน
ปัง!
มาร์ครู้สึกว่ามือขวาของเขาชาหลังจากที่ลั่นลูกกระสุน ในขณะนั้นเลือดของซอมบี้ก็กระเซ็นไปทุกทิศทาง หัวของซอมบี้ปลิวหล่นไปกับระเบียงและร่างของมันก็เซถอยกลับ เนื่องจากแรงกระแทกก่อนที่มันจะได้ล้มลงไปกับพื้น ทั้งๆที่มันโดนยิงจากปืนลูกซอง ร่างกายของมันก็ไม่ได้รับการสะเทือนหรือเสียหายมากพอที่มันควรจะเป็น อีกทั้งส่วนตรงกลางของร่างกายของมันก็ไม่ได้เสียหาย หัวของมันก็ยังคงไม่ได้ระเบิดออกสเมือนเป็นลูกแตงโมที่ถูกปาลงไปกับพื้นด้วยเช่นกัน แต่มันเป็นเพราะซอมบี้นั้นโดนยิง…..
ไปที่คอของมัน…