เช้าวันถัดมา เมื่อแสงอาทิตย์อบอุ่นฉายขึ้นยังขอบฟ้า รถม้าคันหนึ่งก็กำลังแล่นไปตามถนนที่มุ่งหน้าสู่ตึกใหญ่ภายในป่าสีเขียวมืดทึมแล้ว
“ลูเซียน หลังจากที่เจ้าไปรายงานตัวเสร็จ ข้าจะแนะนำเจ้าให้รู้จักกับเจอโรมและร็อค เจ้าจะได้แลกเปลี่ยนตำรากับพวกเขาได้ในภายหลัง” ลาซาร์ที่ยังคงสวมเสื้อนอกทรงยาวสีดำ กำลังมองต้นไม้เขียวขจีด้านนอกหน้าต่าง “แต่เจ้าต้องจำเอาไว้ว่าเจ้าไม่สามารถแลกเปลี่ยนคาถาใดๆ กับนักเวทคนอื่นได้ เว้นแต่ว่ามาตราคาถานั้นจะมีอายุเกินหนึ่งร้อยปีแล้ว แม้ว่าการเรียนเวทมนตร์หรืออาร์คานาจะเป็นความลับอย่างมาก และทางสภาจะสนับสนุนให้นักเวทแลกเปลี่ยนความรู้กันเอง แต่ถ้าเจ้าใช้เวทมนตร์บทใหม่ในที่สาธารณะแล้วไม่มีการซื้อขายบันทึกไว้ เจ้าอาจมีปัญหาใหญ่หลวง เจ้าอาจต้องเสียค่าปรับเป็นร้อยเท่า หรืออาจต้องไปอยู่ในคุกเป็นสิบปี และความทรงจำที่เกี่ยวข้องก็จะถูกลบไปเช่นกัน”
ลูเซียนพยักหน้า “เข้าใจล่ะ ขอบใจนะพวก ข้าซาบซึ้งจริงๆ ที่เจ้าคอยช่วยเหลือ”
ขณะเดียวกัน ในความคิดลูเซียน เขารู้สึกว่ากลยุทธ์ที่ทางสภานำมาใช้นี้เป็นกลยุทธ์ที่ฉลาดมาก ในเมื่อกว่าจะได้แต้มอาร์คานามานั้นขึ้นอยู่กับจำนวนการอ้างอิงบทความของแต่ละคน การแลกเปลี่ยนแนวคิดและองค์ความรู้ระหว่างนักเวทด้วยกันจะทำให้รายงานการวิจัยของนักเวททุกคนมีโอกาสเป็นที่รู้จักมากขึ้น ทว่า คาถาบทใหม่ๆ นั้นต่างออกไป เพราะมันหมายถึงพลังอำนาจโดยตรง และจำเป็นต้องได้รับการปกป้องอย่างดี
“ไม่ต้องกังวล อย่างไรเราก็เพื่อนกัน ใช่ไหม” ลาซาร์โบกมือด้วยท่าทางเป็นกันเองแล้วส่งยิ้มให้ “ความจริงแล้วแทบทุกกลุ่มทรงอิทธิพลจะมีเวทมนตร์พิเศษสองสามบทที่ไม่เคยลงทะเบียนกับทางคณะกรรมการ รวมถึงกลุ่มของเรา เจตจำนงแห่งธาตุ กลุ่มของเรากับสถาบันเวทมนตร์ราชสำนักโฮล์มมีเวทมนตร์ระดับตำนานร่วมกัน นั่นก็คือเวท ‘วิเคราะห์ธาตุ’ ซึ่งท่านแฮททาเวย์ ฮอฟเฟนเบิร์ก มหาจอมเวทคือผู้รังสรรค์ขึ้น หากเจ้าเข้าร่วมกลุ่มกับเรา เมื่อเจ้าเลื่อนขึ้นเป็นนักเวทระดับเก้า เจ้าก็จะสามารถซื้อเวทบทนี้ไปลองวิเคราะห์ดูได้ และนั่นจะมีประโยชน์ต่อตัวเจ้าอย่างมากเมื่อเจ้าต้องการเลื่อนขั้นขึ้นไปที่ระดับตำนาน”
เห็นได้ชัดว่าลาซาร์กำลังโฆษณากลุ่มของเขา และเขาก็ค่อนข้างตื่นเต้นมากทีเดียว เพราะในสายตาเขาแล้ว ลูเซียนถือเป็นนักเวทที่จะก้าวหน้าเจริญรุ่งเรืองกว่านี้มาก
“ข้าจะคิดดูนะ…” ลูเซียนตอบด้วยท่าทางคิดหนัก
ความจริงแล้ว เป็นเพราะนาตาชา ลูเซียนจึงไม่รู้สึกแย่เลยสักนิดที่จะเข้าร่วม ‘เจตจำนงแห่งธาตุ’ ดังนั้น แม้ว่าตัวตนในฐานะศาสตราจารย์ของเขาจะถูกเปิดโปงเข้าสักวันหนึ่ง เขาก็จะยังมีกลุ่มทรงอิทธิพลคอยหนุนหลังอยู่ ทว่า ลูเซียนกลับสนใจการศึกษาเรื่องจิตวิญญาณอย่างมาก เพราะบนโลกนี้มีจิตวิญญาณสิงสถิตอยู่จริงๆ
และหากว่าลูเซียนจะเข้าร่วมกลุ่มกับ ‘เจตจำนงแห่งธาตุ’ เขาก็อยากจะเพลิดเพลินไปกับความสนใจจากคนในกลุ่มมากกว่านี้ แทนที่จะกลายเป็นเพียงสมาชิกระดับสามัญเหมือนกับสมาชิกทั่วไปที่มีอยู่มากมายใน ‘หัตถ์ไร้ชีวา’
ความทรงจำเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ลูเซียนเพิ่งไปรู้เห็นมาจากปราสาทของไวเคานต์ยังคงสดใหม่
ด้วยเข้าใจดีว่าเหตุใดลูเซียนจึงค่อนข้างลังเล ลาซาร์เพียงยิ้มแย้มแล้วเปลี่ยนหัวข้อพูดคุย “เจ้ายังเศร้าใจกับเงินที่เพิ่งเสียไปกับการซื้อวัตถุดิบอุปกรณ์อยู่หรือไม่”
“แน่อยู่แล้ว” ลูเซียนขมวดคิ้วมุ่น ธาตุสกัดบริสุทธิ์ทั้งสิบเจ็ดธาตุที่เขาเพิ่งซื้อมานั้นทำให้เขาต้องเสีย ‘หินคลื่นพลัง’ คุณภาพสูงไปถึงสองก้อน ตอนนี้ลูเซียนจึงเหลือเพียง ‘หินคลื่นพลัง’ หนึ่งก้อน เงินสองธาเล หนึ่งแต้มอาร์คานา และวัตถุดิบสำหรับการทดลองอีกหลายประเภท ลูเซียนรู้สึกเหมือนว่าเขาเพิ่งจะถูกปล้น
“ร่าเริงหน่อยสิ พวก” ลาซาร์ตบบ่าลูเซียนเบาๆ “เจ้าต้องดีใจสิที่ทางสำนักมีธาตุสกัดบริสุทธิ์อีกสี่สิบแปดธาตุนะ และการทำการทดลองที่นั่นก็ถูกกว่ามาก หรือไม่ก็อาจจะไม่ต้องเสียเงินเลยหากการทดลองของเจ้าเป็นส่วนหนึ่งในชั้นเรียนของเหล่านักเวทฝึกหัด อีกอย่างนะ เจ้าไม่ต้องเสียค่าเช่าที่อยู่ด้วยซ้ำไป! สำนักใจดีมอบบ้านหลังเล็กพร้อมสวนให้เจ้าเชียวนะ”
“เจ้าพูดถูก ลาซาร์” ลูเซียนเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ตอนนี้ก็ได้แต่หวังว่าการตีพิมพ์บทความแรกของเขาจะช่วยให้เขาหลุดพ้นจากสถานการณ์ยากลำบากด้านการเงินเช่นนี้ และก่อนที่เขาจะเดินทางมานั้น ลูเซียนได้ส่งจดหมายตอบรับข้อเสนอกลับไปให้ ‘อาร์คานาสามัญ’ พร้อมกับลงทะเบียนที่อยู่ของสำนักกับวารสารไปแล้วเพื่อให้ติดต่อกับพวกเขาต่อไปได้
หลังจากนั้นครู่ใหญ่ รถม้าก็ค่อยๆ หยุดจอดลงตรงหน้ารั้วเหล็กสีดำที่สร้างตามแบบจักรวรรดิเวทมนตร์โบราณ โกเล็มตัวสีดำที่คล้ายกับจะสร้างขึ้นมาจากเหล็กเดินมาเปิดประตูรั้วให้
…
บนชั้นสามของหอคอยเวทมนตร์สีดำ
ลูเซียนที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว เสื้อกั๊กตัวในสีน้ำตาล และมีเสื้อนอกกระดุมสองแถวสีดำสวมทับไว้ กำลังนั่งอยู่ตรงหน้าชายชราใบหน้าไม่โดดเด่นผู้มีศีรษะล้านเลี่ยนที่สวมเสื้อคลุมเวทมนตร์สีดำ ปักดิ้นด้วยไหมสีเงินกับขาวเป็นลวดลายต่างๆ
“ยินดีต้อนรับ อีวานส์ ข้าชื่อโดนัลด์ เป็นอาจารย์ใหญ่ประจำสำนักดักลาสแห่งนี้” นักเวทระดับห้า จอมเวทระดับสี่เป็นผู้กล่าวขณะกำลังจัดการกับงานเอกสารบางอย่าง
“ยินดีที่ได้พบท่านขอรับ ท่านโดนัลด์” ลูเซียนยืนขึ้นจากเก้าอี้นั่งแล้วโค้งตัวเล็กน้อย “ได้โปรดเรียกข้าว่าลูเซียนเถิดขอรับ”
“ดีๆ ในเมื่อลูเซียน อีวานส์ อีกคนชอบให้เราเรียกว่าเค ข้าก็จะเรียกเจ้าว่าลูเซียนแล้วกัน” เมื่อโดนัลด์กล่าวจบ เขาก็ยื่นแฟ้มเอกสารให้กับลูเซียน “อ่านดูสิ นี่เป็นวิชาเรียนที่เรามีในดักลาสตอนนี้”
ลูเซียนเปิดแฟ้มแล้วอ่านอย่างตั้งใจ ภายในนั้น ลูเซียนเห็นรายชื่อวิชา ‘ภาษากลาง’ ‘ภาษาจักรวรรดิเวทมนตร์โบราณ’ ‘ภาษานรกภูมิ’ ‘ภาษาปีศาจ’ ‘พื้นฐานน้ำยาเวทมนตร์’ ‘พื้นฐานศาสตร์แห่งธาตุ’ ‘พื้นฐานศาสตร์แห่งแม่เหล็กไฟฟ้า’ ‘พื้นฐานศาสตร์มืด’ ‘พื้นฐานการสร้างเวทมนตร์’ ‘พื้นฐานศาสตร์แห่งการแปรธาตุ’ … ‘วงแหวนเวทเบื้องต้น’ ‘การวิเคราะห์เวทมนตร์’ ‘พื้นฐานศาสตร์แห่งการอัญเชิญ’ ‘วัฒนธรรมและขนบธรรมเนียม’ ‘ประวัติศาสตร์’ และ ‘ดนตรี’
“ดนตรีงั้นหรือขอรับ” ลูเซียนประหลาดใจอย่างยิ่ง
“ฮ่า ลูกศิษย์ก็จำเป็นจะต้องผ่อนคลายเล็กน้อย จริงไหม” โดนัลด์แตะหนวดสีขาวของตนแล้วแย้มยิ้ม “อาจารย์สอนดนตรีคนล่าสุดเพิ่งจะถูกไล่ออกไปเพราะเขาแหกกฎของสำนัก ลูเซียน เจ้าสนใจตำแหน่งนี้นอกเหนือจากงานสอนอื่นๆ หรือไม่ เจ้าเล่นเครื่องดนตรีเป็นหรือเปล่า”
“ข้าเล่นเปียโนกับไวโอลินได้ค่อนข้างดีขอรับ” ลูเซียนพยักหน้าแล้วถามตรงๆ “หากว่าข้าสอนวิชาดนตรีด้วย ข้าจะได้เงินเดือนสูงขึ้นหรือไม่ขอรับ”
“เพิ่มอีกสองแต้มอาร์คานาต่อเดือน” โดนัลด์พยักหน้าอย่างชอบใจ “แต่จำไว้ว่า เจ้าต้องรักษาระยะห่างจากนักเวทฝึกหัดหญิงบางคน พวกนางค่อนข้างจะ… เรียกว่า กระตือรือร้นมาก ว่าแต่ ข้าเคยได้ยินว่ามีนักดนตรีในเมืองอัลโต้ที่อีกฝั่งช่องแคบมีนามว่าลูเซียน อีวานส์ เช่นกัน และเขาก็เล่นเปียโนได้เก่งกาจอย่างยิ่ง น่าสนใจเสียจริง”
ลูเซียนแย้มยิ้มสุภาพแต่ไม่ได้ตอบกลับอันใด ตอนนี้ ความสนใจเดียวของเขาคือการหาเงินให้ได้มากขึ้น
“เอาล่ะ… ไหนดูสิ” โดนัลด์ก้มลงมองแฟ้มในมือตน “ในเมื่อเจ้าเพิ่งมาเข้าร่วมกับสภาเวทมนตร์ และเจ้าอาจต้องการเวลาเพิ่มเพื่อศึกษาทางอาร์คานาของเจ้าเสียก่อน เจ้าเริ่มจากการสอน ‘ภาษาจักรวรรดิเวทมนตร์โบราณ’ ‘สัตว์เวท’ และ ‘ภาษาปีศาจ’ ดีหรือไม่ นั่นเท่ากับ… สิบชั้นเรียนต่อสัปดาห์ และเจ้าจะต้องสอนสองห้อง”
“ไม่มีปัญหาขอรับ” ลูเซียนเห็นด้วยกับโดนัลด์ทันที ในตำรา ‘โหราศาสตร์และเวทธาตุ’ ที่เขามีนั้น ภาษาปีศาจถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งของการทำสัญญาเวทมนตร์และองค์ความรู้ด้านการอัญเชิญอยู่แล้ว
จากนั้นลูเซียนก็กล่าวเสริมว่า “ข้าขอเลือกสองห้องที่ต้องสอนได้หรือไม่ขอรับ”
เขาหวังว่าจะได้สอนห้องที่นักเวทฝึกหัดทั้งสามของเขาอยู่
“คิดว่าได้นะ ทุกภาควิชากำลังจัดการกันใหม่อยู่ในตอนนี้” โดนัลด์ตอบ จากนั้นเขาก็ลงทะเบียนชื่อลูเซียนสำหรับสองห้อง หนึ่งในนั้นมีชื่อว่า ‘ธอร์นทรี’ ซึ่งมีลูกศิษย์ทั้งสามของลูเซียนอยู่ และลูเซียนก็จะสอนดนตรีที่นั่นด้วยเช่นกัน
หลังจากที่จัดการงานเอกสารเสร็จสิ้นทั้งหมด โดนัลด์ก็ประสานมือเข้าหากันแล้ววางคางบนนั้น “ข้ามีบางอย่างต้องบอกเจ้าก่อน ลูเซียน”
“เชิญเลยขอรับ ท่านโดนัลด์” ลูเซียนตอบด้วยท่าทางซื่อตรงจริงใจ
เสียงของโดนัลด์แผ่วเบาลง “เจ้าก็รู้ว่า การทำงานที่สำนักคือความฝันสำหรับนักเวทระดับต่ำหลายๆ คน และดักลาสก็ถือเป็นอันดับแรกจากสำนักทั้งหมด ดังนั้น เราจึงไม่เคยพิจารณารับใครที่ไม่มีระดับอาร์คานามาเป็นอาจารย์ของเราเลย ทว่า เจ้าคือข้อยกเว้น ในเมื่อบรรดาสุภาพบุรุษในคณะกรรมการกิจการสรรเสริญเจ้าถึงเพียงนี้ ทั้งยังแนะนำเจ้าให้กับทางเรา ดังนั้น สำนักแห่งนี้จะไม่ใช่เพียงสถานที่ที่เหล่านักเวทฝึกหัดจะเติบโตขึ้น แต่ยังรวมถึงตัวเจ้า ข้าเองไม่เห็นว่าจะมีอะไรผิดปกติกับการมอบทรัพยากรให้กับผู้มีความสามารถมากขึ้นเพื่อที่จะเติบโต แต่เจ้าจะต้องไม่ใช้ทรัพยากรที่ได้รับนี้ไปโดยเปล่าประโยชน์ หากเจ้าไม่สามารถเลื่อนระดับเป็นจอมเวทอย่างเป็นทางการได้ในหนึ่งปี เจ้าจะโดนไล่ออกทันที”
“ข้าจะพยายามสุดความสามารถขอรับ” ลูเซียนตอบอย่างถ่อมตน
“ข้าเชื่อเจ้า ลูเซียน อาจารย์หลายๆ คนในดักลาสนี้ แม้จะยังไม่ใช่จอมเวทหรือนักเวทระดับกลาง แต่พวกเขาก็มีสิ่งที่เชี่ยวชาญ เช่น เคที่เป็นจอมเวทระดับสอง การแลกเปลี่ยนความรู้กับพวกเขาจะเป็นประโยชน์ต่อตัวเจ้าอย่างมาก” โดนัลด์บอกด้วยท่าทางจริงจัง
ลูเซียนพยักหน้ารับด้วยสีหน้าซาบซึ้งจริงใจ “ขอบคุณที่เตือนข้าขอรับ ท่านโดนัลด์ ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าสุภาพบุรุษในคณะกรรมการท่านนั้นคือผู้ใด ข้าอยากจะขอบคุณเขาเช่นกันขอรับ”
“เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้หรือก” โดนัลด์ตอบกลับอย่างตรงไปตรงมา “บางทีเมื่อเจ้าเลื่อนขั้นขึ้นเป็นนักเวทระดับกลางแล้ว เขาอาจจะให้ความสนใจในตัวเจ้ามากขึ้น เอาล่ะ ระหว่างวัน ห้องทดลองจะเปิดให้ลูกศิษย์ใช้เท่านั้น และหลังสำนักเลิกในช่วงเย็น เจ้าก็สามารถใช้ห้องทดลองได้โดยไม่ต้องเสียเงิน สรุปก็คือ จงอ่านกฎของสำนักให้ดีและเริ่มทำงานพรุ่งนี้เลย”
โดนัลด์ยื่นป้ายชื่อและกระดาษสองสามแผ่นให้กับลูเซียน ซึ่งบนกระดาษนั้นก็คือกฎของสำนักนับสองร้อยข้อ
………………………