Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา – ตอนที่ 194 โลกแสนมหัศจรรย์

ครั้งนี้ ภูติญินไม่ได้ตอบรายชื่อตำราหรือบทความให้ลูเซียนในทันที กลับชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะถามว่า “ท่านอีวานส์ แล้วบทความที่ได้รับการตีพิมพ์แต่ถูกพิสูจน์ว่าไม่เป็นจริงในภายหลัง กับบทความสันนิษฐานเล่าขอรับ”

“แน่นอนว่าเอาหมดเลย” ลูเซียนพยักหน้า “ความล้มเหลวก็เป็นสิ่งล้ำค่าที่ข้าสามารถเรียนรู้บางอย่างได้”

“ฮ่า… เจ้าต้องการเช่นนั้นจริงรึ” บรรณารักษ์ชรากล่าวแทรก “หรือเจ้าเพียงอยากรู้ภาพรวมการพัฒนาของศาสตร์แห่งธาตุกันล่ะ เช่นนั้นข้าก็ขอแนะนำให้เจ้าอ่าน ‘ประวัติศาสตร์ศาสตร์แห่งธาตุ’ เป็นตำราที่มหาจอมเวทจะปรับปรุงทุกๆ สิบปี และคล้ายๆ กัน เรายังมี ‘ประวัติศาสตร์แห่งศาสตร์มืด’ ‘ประวัติศาสตร์แห่งโหราศาสตร์’… และ ‘ประวัติอาร์คานาและเวทมนตร์’

ในขณะเดียวกันนั้น รายชื่อตำราของอเล็กซ์ก็จัดเรียงเสร็จพอดี ‘ประวัติศาสตร์ศาสตร์แห่งธาตุ’ โดยสภาสูงสุด

‘ศาสตร์แห่งธาตุระบบใหม่’ โดย ยาโรรัน แฮททาเวย์ ฮอฟเฟนเบิร์ก มหาจอมเวท”

‘อะตอม-โมเลกุล’ โดยโอลิเวอร์ คอนสแตนติน มหาจอมเวท”

‘วิธีการช่างน้ำหนักอะตอมและแผนผังอะตอมรูปแบบล่าสุดคู่แปดในธาตุ’ โดยเฟอร์นันโด บราสตาร์ มหาจอมเวท”

‘วงจรความสัมพันธ์ที่พบในการทดลองน้ำยาเวทมนตร์ กฎเกลียวก้นหอยแห่งธาตุ’ โดยราเวนติ จอมเวทระดับเก้า

‘ลักษณะร่วมทั่วไปในธาตุโลหะบางชนิดและการประยุกต์ใช้’ โดยแกสตัน จอมเวทระดับเจ็ด’

‘กฎทั่วไประหว่างธาตุและข้อสันนิษฐาน’ โดยยูลิสิส จอมเวทระดับสี่”

‘การเปรียบเทียบระหว่างมิธริลกับเงินและระบบการวัด’ โดยทิโมธี จอมเวทระดับสี่

‘ธรรมชาติของธาตุชนิดใหม่ โม’ โดยเมอเรดิธ จอมเวทระดับสี่

รายชื่อบทความและตำราที่นำเสนอไม่ใช่ฉบับล่าสุดทั้งหมด แต่ตรงตามความต้องการของลูเซียนมากที่สุด หลายๆ บทความจึงตีพิมพ์มาแล้วหลายปี

“บทความของท่านยูลิสิส” ลูเซียนหันกลับไปพูดกับลาซาร์

“ไม่แปลกใจเลยสักนิด” ลาซาร์ตอบด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความชื่นชม “ท่านยูลิสิสเขียนบทความนี้ตอนที่ท่านเป็นเพียงจอมเวทระดับหนึ่ง แม้ว่าทฤษฎีคุณลักษณะธาตุของท่านจะถูกงานวิจัยในภายหลังโค่นลง บทความนี้ก็ยังสร้างความตื่นตระหนกไปทั่วในตอนนั้น ท่านยูลิสิสเป็นคนสร้างสรรค์และเก่งในการคิดนอกกรอบ และจิตวิญญาณแห่งการออกสำรวจค้นหาของท่านก็เป็นแรงบันดาลใจให้กับนักเวทแห่งธาตุหลายๆ ท่าน รวมถึงท่านบราสตาร์และท่านหญิงราเวนติ หากไม่ใช่ว่าท่านหญิงแฮททาเวย์กำลังสำรวจมิติลับอยู่ล่ะก็ ท่านก็อาจเป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน”

“แต่จากชื่อบทความและตำราแล้ว ข้าไม่เห็นถึงกฎร่วมที่มีในธาตุทั้งหมดเลย” ลูเซียนเอ่ยข้อสงสัยของเขา

“เพราะทฤษฎีเหล่านี้ล้มเหลวอย่างไรเล่า” บรรณารักษ์ชรากล่าวแทรกด้วยสีหน้าจริงจัง “นับแต่ที่มีการแนะนำให้รู้จักกับการวิเคราะห์ในทางเคมีจากเงาและวัตถุ ธาตุใหม่นับสิบก็ถูกค้นพบ และพวกมันยังโค่นล้มข้อสันนิษฐานกับทฤษฎีที่จอมเวทหลายท่านได้นำเสนอไว้ก่อนหน้านี้ สำหรับรายละเอียด เจ้าสามารถอ่านได้จากตำราที่ข้าแนะนำ พ่อหนุ่ม นี่คือเรื่องจริงจังมากนะ”

“ใช่แล้ว” ลาซาร์กล่าว ท่าทางดูเสียใจไม่น้อย “แม้แต่ทฤษฎีคู่แปดที่ท่านบราสตาร์นำเสนอก็ล้มเหลวเช่นกัน ภายหลัง ท่านบราสตาร์ได้เปลี่ยนทิศทางการทำวิจัยไปที่การศึกษาคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และนี่ก็เป็นการประกาศถึงความล้มเหลวในการสำรวจกฎร่วมระหว่างธาตุ ตอนนี้การศึกษาทางด้านนี้ยังคงถูกหยุดไว้ชั่วคราว”

“เช่นนั้น มีการทบทวนถึงข้อผิดพลาดหรือไม่” ลูเซียนถาม

“มีสิ จอมเวทบางท่านโต้แย้งว่าจนถึงตอนนี้ เรายังค้นพบธาตุไม่มากพอ นั่นรวมถึงท่านหญิงราเวนติ และมีจอมเวทระดับต่ำกับกลางอีกมากที่ยืนกรานว่ามันหาได้มีกฎใดๆ ในหมู่ธาตุ”

“แล้วท่านยูลิสิสเล่า” ลูเซียนถามด้วยความอยากรู้ อย่างไรเสีย นักเวทอัจฉริยะผู้นี้ก็เป็นคนแรกที่เริ่มต้นการสำรวจในเรื่องนี้

“ท่านยูลิสิสก็ไม่มีความคืบหน้าสักเท่าไร” ลาซาร์ขมวดคิ้วมุ่น “ใครต่อใครต่างก็บอกว่าท่านอาจเปลี่ยนหัวข้อวิจัยที่สนใจไปแล้ว”

“ความอุตสาหะคือคุณสมบัติสำคัญสำหรับจอมเวท” บรรณารักษ์ชราเอ่ยแทรกอีกครั้ง

ด้วยความรู้สึกรำคาญใจ ลูเซียนจึงตวัดสายตาไปมองตรงอกของบรรณารักษ์ชราเพื่อดูว่าเขาอยู่ในระดับใด

แต่ก็ต้องประหลาดใจ เมื่อเห็นว่าบนอกอีกฝ่ายไม่มีอะไรเลย ไม่มีป้ายชื่อ ไม่มีเหรียญตราอาร์คานาหรือเหรียญตราเวทมนตร์เลย

“เสื้อคลุมข้าไม่แย่ใช่ไหมล่ะ” บรรณารักษ์ชรากล่าวด้วยท่าทางภาคภูมิใจ “ข้ารู้ สีแดงน่ะค่อนข้างเตะตา ฮ่าๆ!”

ลูเซียนกลอกตาอีกครั้ง จากนั้นจึงเมินเฉยต่อบรรณารักษ์ชราผู้นี้ไปเสีย เขานึกสงสัยว่าโลกใบนี้แตกต่างจากโลกเดิมของเขาจริงๆ หรือไม่ หรือว่ากฎต่างๆ ยังไม่ถูกค้นพบกันแน่ และเพื่อที่จะค้นหาคำตอบให้ได้ ลูเซียนจึงจำเป็นต้องอ่านตำราและบทความทั้งหมดเสียก่อน

สุดท้าย ลูเซียนก็ยืมหนังสือมาทั้งหมดสามสิบแปดเล่ม

“เจ้าแน่ใจหรือว่าต้องการยืมมาทีเดียวมากมายขนาดนี้น่ะ ลูเซียน” ขณะเดินออกมาจากห้องสมุด ลาซาร์ก็ถามขึ้น

“ข้ากำลังจะไปทำงานที่ดักลาสเร็วๆ นี้แล้ว และข้าก็จะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการสอนและงานวิจัยของข้า ภายในหนึ่งเดือนนั้น ข้าคงไม่ได้กลับมาที่สภาอีก ดังนั้นข้าจึงอยากใช้วงแหวนเวทคัดลอกเนื้อหาในตำราพวกนี้ก่อน ว่าแต่ว่า ลาซาร์ เจ้าสังเกตเห็นหรือไม่ว่าบรรณารักษ์คนนั้นไม่ได้ติดเหรียญตราใดไว้เลย” ลูเซียนถาม

สำนักดักลาสตั้งอยู่บนพื้นที่รอบนอกของตัวเมืองทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งห่างไกลและเงียบสงบ และจะต้องใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงเพื่อเดินทางจากสำนักมายังหอคอยเวทมนตร์ของสภา

“ใช่ ข้าจึงได้ดึงแขนเจ้าตอนอยู่ในห้องสมุดเพื่อเตือนให้เจ้ายั้งตัวเองสักเล็กน้อยตอนพูดกับเขา เป็นไปได้มากว่าบรรณารักษ์ผู้นั้นจะเป็นสมาชิกสักคนหนึ่งของกลุ่มคณะกรรมการ เพราะมีเพียงนักเวทระดับนี้เท่านั้นที่จะเดินไปไหนมาไหนและควบคุมชีวินรสายเวทได้โดยไม่ต้องมีเหรียญตรา และนักเวทระดับสูงพวกนี้น่ะ… บางคนก็ค่อนข้างแปลก”

ลูเซียนรู้สึกว่าบรรณารักษ์ผู้นั้นแปลกมากจริงๆ

เมื่อเห็นว่าลูเซียนไม่ตอบกลับอะไร ลาซาร์จึงคิดว่าสหายตนกำลังกังวลเรื่องเงิน เขาจึงแย้มยิ้ม “ความจริงแล้ว การยืมตำราจากห้องสมุดไม่ใช่หนทางแห่งการเรียนรู้หนทางเดียวเท่านั้น เพราะนักเวททั้งหลายมักจะแอบแลกเปลี่ยนตำราที่ตนมีอย่างลับๆ ตราบใดที่เจ้าเข้ากันได้กับกลุ่มนักเวทสักกลุ่มหนึ่ง แม้ว่าเจ้าจะไม่มีตำราที่ผู้อื่นต้องการ เจ้าก็ยังสามารถหาซื้อได้ในราคาที่ต่ำกว่านี้”

“จริงหรือ” ลูเซียนพลันรู้สึกอยากรู้อยากเห็น “ทางสภาไม่ห้ามปรามพวกเขาเลยรึ”

“เจ้าคิดว่าเหตุใดห้องสมุดจึงคิดเงินแพงเช่นนั้นเล่า” ลาซาร์ยิ้มกริ่ม “ความจริงแล้ว ทางสภาสนับสนุนให้นักเวทแลกเปลี่ยนความรู้ด้วยตนเอง เพื่อที่จะได้กระตุ้นให้เกิดแนวคิดอันยิ่งใหญ่มากขึ้น ข้าบังเอิญมีเพื่อนคนที่คงจะต้องอยากแลกตำรากับเจ้าที่ดักลาสแน่ๆ และข้าจะแนะนำเจ้าให้พวกเขารู้จัก”

“พวกเขามีนามว่าอะไรหรือ” ลูเซียนถามด้วยความซาบซึ้งใจ

“ทั้งสองคนต่างเป็นจอมเวทระดับหนึ่ง คนหนึ่งชื่อเจอโรม เป็นนักเวทระดับสองที่ศึกษาทางด้านโหราศาสตร์และศาสตร์แห่งธาตุ ส่วนอีกคนหนึ่งชื่อร็อก เป็นนักเวทแห่งธาตุระดับสอง ร็อกน่ะค่อนข้างแปลก และเขาก็กำลังยื่นเสนอโครงการน่าขันอยู่ในตอนนี้ ส่วนเจอโรมค่อนข้างเป็นคนเก็บตัว เมื่อหลายปีก่อน ตอนที่เขาตามจีบเวร่า เขาพูดเรื่องโหราศาสตร์กับปฏิกิริยาทางเคมี”

“น่าสงสาร…” ลูเซียนรู้สึกเสียใจแทนชายนามเจอโรมผู้นี้

“ฮ่าๆ เจ้ารู้อะไรไหม สองคนนั้นแต่งงานกันแล้ว และพวกเขาก็หวานชื่นกันสุดๆ” ลาซาร์หัวเราะร่า

“อะไรนะ” ลูเซียนประหลาดใจอย่างมาก

“เจ้ามาจากอีกฝั่งมหาสมุทรนี่นะ ลูเซียน” ลาซาร์อธิบายขณะยังคงหัวเราะขัน “สำหรับผู้หญิงในโฮล์มแล้ว ไม่มีอะไรจะโรแมนติกไปกว่าเวทมนตร์ โหราศาสตร์ ศาสตร์แห่งธาตุ และโชคชะตา และคนที่ศึกษาทางด้านพวกนี้ก็ค่อนข้างร่ำรวยและทรงอิทธิพลมากทีเดียว”

“ช่างเป็นโลกที่มหัศจรรย์จริงๆ” ลูเซียนทอดถอนใจ จากนั้นจึงเอ่ยกับลาซาร์ “เจ้าอยากจะไปหาซื้อวัตถุดิบสำหรับการทดลองกับข้าหรือไม่ ข้าอยากจะทำการทดลองตามในบทความนะ”

“ไปสิ” ลาซาร์ตอบรับด้วยท่าทางสบายๆ “อ้อ ที่ดักลาสมีคนที่ชื่อลูเซียน อีวานส์ สอนอยู่ที่นั่นด้วย เขาเพิ่มตัว ‘เค’ เข้าไปในชื่อของเขาน่ะ”

…………………………

Throne of Magical Arcana

Throne of Magical Arcana

ซย่าเฟิง นักศึกษาปีสุดท้ายผู้อ่อนต่อโลก ตื่นขึ้นมาอยู่ในร่างของลูเซียน อีวานส์ เด็กหนุ่มกำพร้าชนชั้นกรรมาชีพที่เฉลียวฉลาด บนโลกที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์ แม่มด ลัทธินอกรีต อัศวิน ปีศาจ และศรัทธาในพระเจ้า ลูเซียนประยุกต์ใช้ความรู้จากโลกเก่าพร้อมกับพลังวิเศษ ‘ห้องสมุดในห้วงสมอง’ ศึกษาเปรียบเทียบวิทยาศาสตร์กับเวทมนตร์ เพราะ ‘ความรู้คืออำนาจ’ ที่จะช่วยให้เขาบรรลุเป้าหมายในการยกระดับชีวิต!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset