ครั้งนี้ ภูติญินไม่ได้ตอบรายชื่อตำราหรือบทความให้ลูเซียนในทันที กลับชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะถามว่า “ท่านอีวานส์ แล้วบทความที่ได้รับการตีพิมพ์แต่ถูกพิสูจน์ว่าไม่เป็นจริงในภายหลัง กับบทความสันนิษฐานเล่าขอรับ”
“แน่นอนว่าเอาหมดเลย” ลูเซียนพยักหน้า “ความล้มเหลวก็เป็นสิ่งล้ำค่าที่ข้าสามารถเรียนรู้บางอย่างได้”
“ฮ่า… เจ้าต้องการเช่นนั้นจริงรึ” บรรณารักษ์ชรากล่าวแทรก “หรือเจ้าเพียงอยากรู้ภาพรวมการพัฒนาของศาสตร์แห่งธาตุกันล่ะ เช่นนั้นข้าก็ขอแนะนำให้เจ้าอ่าน ‘ประวัติศาสตร์ศาสตร์แห่งธาตุ’ เป็นตำราที่มหาจอมเวทจะปรับปรุงทุกๆ สิบปี และคล้ายๆ กัน เรายังมี ‘ประวัติศาสตร์แห่งศาสตร์มืด’ ‘ประวัติศาสตร์แห่งโหราศาสตร์’… และ ‘ประวัติอาร์คานาและเวทมนตร์’
ในขณะเดียวกันนั้น รายชื่อตำราของอเล็กซ์ก็จัดเรียงเสร็จพอดี ‘ประวัติศาสตร์ศาสตร์แห่งธาตุ’ โดยสภาสูงสุด
‘ศาสตร์แห่งธาตุระบบใหม่’ โดย ยาโรรัน แฮททาเวย์ ฮอฟเฟนเบิร์ก มหาจอมเวท”
‘อะตอม-โมเลกุล’ โดยโอลิเวอร์ คอนสแตนติน มหาจอมเวท”
‘วิธีการช่างน้ำหนักอะตอมและแผนผังอะตอมรูปแบบล่าสุดคู่แปดในธาตุ’ โดยเฟอร์นันโด บราสตาร์ มหาจอมเวท”
‘วงจรความสัมพันธ์ที่พบในการทดลองน้ำยาเวทมนตร์ กฎเกลียวก้นหอยแห่งธาตุ’ โดยราเวนติ จอมเวทระดับเก้า
‘ลักษณะร่วมทั่วไปในธาตุโลหะบางชนิดและการประยุกต์ใช้’ โดยแกสตัน จอมเวทระดับเจ็ด’
…
‘กฎทั่วไประหว่างธาตุและข้อสันนิษฐาน’ โดยยูลิสิส จอมเวทระดับสี่”
‘การเปรียบเทียบระหว่างมิธริลกับเงินและระบบการวัด’ โดยทิโมธี จอมเวทระดับสี่
…
‘ธรรมชาติของธาตุชนิดใหม่ โม’ โดยเมอเรดิธ จอมเวทระดับสี่
…
รายชื่อบทความและตำราที่นำเสนอไม่ใช่ฉบับล่าสุดทั้งหมด แต่ตรงตามความต้องการของลูเซียนมากที่สุด หลายๆ บทความจึงตีพิมพ์มาแล้วหลายปี
“บทความของท่านยูลิสิส” ลูเซียนหันกลับไปพูดกับลาซาร์
“ไม่แปลกใจเลยสักนิด” ลาซาร์ตอบด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความชื่นชม “ท่านยูลิสิสเขียนบทความนี้ตอนที่ท่านเป็นเพียงจอมเวทระดับหนึ่ง แม้ว่าทฤษฎีคุณลักษณะธาตุของท่านจะถูกงานวิจัยในภายหลังโค่นลง บทความนี้ก็ยังสร้างความตื่นตระหนกไปทั่วในตอนนั้น ท่านยูลิสิสเป็นคนสร้างสรรค์และเก่งในการคิดนอกกรอบ และจิตวิญญาณแห่งการออกสำรวจค้นหาของท่านก็เป็นแรงบันดาลใจให้กับนักเวทแห่งธาตุหลายๆ ท่าน รวมถึงท่านบราสตาร์และท่านหญิงราเวนติ หากไม่ใช่ว่าท่านหญิงแฮททาเวย์กำลังสำรวจมิติลับอยู่ล่ะก็ ท่านก็อาจเป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน”
“แต่จากชื่อบทความและตำราแล้ว ข้าไม่เห็นถึงกฎร่วมที่มีในธาตุทั้งหมดเลย” ลูเซียนเอ่ยข้อสงสัยของเขา
“เพราะทฤษฎีเหล่านี้ล้มเหลวอย่างไรเล่า” บรรณารักษ์ชรากล่าวแทรกด้วยสีหน้าจริงจัง “นับแต่ที่มีการแนะนำให้รู้จักกับการวิเคราะห์ในทางเคมีจากเงาและวัตถุ ธาตุใหม่นับสิบก็ถูกค้นพบ และพวกมันยังโค่นล้มข้อสันนิษฐานกับทฤษฎีที่จอมเวทหลายท่านได้นำเสนอไว้ก่อนหน้านี้ สำหรับรายละเอียด เจ้าสามารถอ่านได้จากตำราที่ข้าแนะนำ พ่อหนุ่ม นี่คือเรื่องจริงจังมากนะ”
“ใช่แล้ว” ลาซาร์กล่าว ท่าทางดูเสียใจไม่น้อย “แม้แต่ทฤษฎีคู่แปดที่ท่านบราสตาร์นำเสนอก็ล้มเหลวเช่นกัน ภายหลัง ท่านบราสตาร์ได้เปลี่ยนทิศทางการทำวิจัยไปที่การศึกษาคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และนี่ก็เป็นการประกาศถึงความล้มเหลวในการสำรวจกฎร่วมระหว่างธาตุ ตอนนี้การศึกษาทางด้านนี้ยังคงถูกหยุดไว้ชั่วคราว”
“เช่นนั้น มีการทบทวนถึงข้อผิดพลาดหรือไม่” ลูเซียนถาม
“มีสิ จอมเวทบางท่านโต้แย้งว่าจนถึงตอนนี้ เรายังค้นพบธาตุไม่มากพอ นั่นรวมถึงท่านหญิงราเวนติ และมีจอมเวทระดับต่ำกับกลางอีกมากที่ยืนกรานว่ามันหาได้มีกฎใดๆ ในหมู่ธาตุ”
“แล้วท่านยูลิสิสเล่า” ลูเซียนถามด้วยความอยากรู้ อย่างไรเสีย นักเวทอัจฉริยะผู้นี้ก็เป็นคนแรกที่เริ่มต้นการสำรวจในเรื่องนี้
“ท่านยูลิสิสก็ไม่มีความคืบหน้าสักเท่าไร” ลาซาร์ขมวดคิ้วมุ่น “ใครต่อใครต่างก็บอกว่าท่านอาจเปลี่ยนหัวข้อวิจัยที่สนใจไปแล้ว”
“ความอุตสาหะคือคุณสมบัติสำคัญสำหรับจอมเวท” บรรณารักษ์ชราเอ่ยแทรกอีกครั้ง
ด้วยความรู้สึกรำคาญใจ ลูเซียนจึงตวัดสายตาไปมองตรงอกของบรรณารักษ์ชราเพื่อดูว่าเขาอยู่ในระดับใด
แต่ก็ต้องประหลาดใจ เมื่อเห็นว่าบนอกอีกฝ่ายไม่มีอะไรเลย ไม่มีป้ายชื่อ ไม่มีเหรียญตราอาร์คานาหรือเหรียญตราเวทมนตร์เลย
“เสื้อคลุมข้าไม่แย่ใช่ไหมล่ะ” บรรณารักษ์ชรากล่าวด้วยท่าทางภาคภูมิใจ “ข้ารู้ สีแดงน่ะค่อนข้างเตะตา ฮ่าๆ!”
ลูเซียนกลอกตาอีกครั้ง จากนั้นจึงเมินเฉยต่อบรรณารักษ์ชราผู้นี้ไปเสีย เขานึกสงสัยว่าโลกใบนี้แตกต่างจากโลกเดิมของเขาจริงๆ หรือไม่ หรือว่ากฎต่างๆ ยังไม่ถูกค้นพบกันแน่ และเพื่อที่จะค้นหาคำตอบให้ได้ ลูเซียนจึงจำเป็นต้องอ่านตำราและบทความทั้งหมดเสียก่อน
สุดท้าย ลูเซียนก็ยืมหนังสือมาทั้งหมดสามสิบแปดเล่ม
“เจ้าแน่ใจหรือว่าต้องการยืมมาทีเดียวมากมายขนาดนี้น่ะ ลูเซียน” ขณะเดินออกมาจากห้องสมุด ลาซาร์ก็ถามขึ้น
“ข้ากำลังจะไปทำงานที่ดักลาสเร็วๆ นี้แล้ว และข้าก็จะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการสอนและงานวิจัยของข้า ภายในหนึ่งเดือนนั้น ข้าคงไม่ได้กลับมาที่สภาอีก ดังนั้นข้าจึงอยากใช้วงแหวนเวทคัดลอกเนื้อหาในตำราพวกนี้ก่อน ว่าแต่ว่า ลาซาร์ เจ้าสังเกตเห็นหรือไม่ว่าบรรณารักษ์คนนั้นไม่ได้ติดเหรียญตราใดไว้เลย” ลูเซียนถาม
สำนักดักลาสตั้งอยู่บนพื้นที่รอบนอกของตัวเมืองทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งห่างไกลและเงียบสงบ และจะต้องใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงเพื่อเดินทางจากสำนักมายังหอคอยเวทมนตร์ของสภา
“ใช่ ข้าจึงได้ดึงแขนเจ้าตอนอยู่ในห้องสมุดเพื่อเตือนให้เจ้ายั้งตัวเองสักเล็กน้อยตอนพูดกับเขา เป็นไปได้มากว่าบรรณารักษ์ผู้นั้นจะเป็นสมาชิกสักคนหนึ่งของกลุ่มคณะกรรมการ เพราะมีเพียงนักเวทระดับนี้เท่านั้นที่จะเดินไปไหนมาไหนและควบคุมชีวินรสายเวทได้โดยไม่ต้องมีเหรียญตรา และนักเวทระดับสูงพวกนี้น่ะ… บางคนก็ค่อนข้างแปลก”
ลูเซียนรู้สึกว่าบรรณารักษ์ผู้นั้นแปลกมากจริงๆ
เมื่อเห็นว่าลูเซียนไม่ตอบกลับอะไร ลาซาร์จึงคิดว่าสหายตนกำลังกังวลเรื่องเงิน เขาจึงแย้มยิ้ม “ความจริงแล้ว การยืมตำราจากห้องสมุดไม่ใช่หนทางแห่งการเรียนรู้หนทางเดียวเท่านั้น เพราะนักเวททั้งหลายมักจะแอบแลกเปลี่ยนตำราที่ตนมีอย่างลับๆ ตราบใดที่เจ้าเข้ากันได้กับกลุ่มนักเวทสักกลุ่มหนึ่ง แม้ว่าเจ้าจะไม่มีตำราที่ผู้อื่นต้องการ เจ้าก็ยังสามารถหาซื้อได้ในราคาที่ต่ำกว่านี้”
“จริงหรือ” ลูเซียนพลันรู้สึกอยากรู้อยากเห็น “ทางสภาไม่ห้ามปรามพวกเขาเลยรึ”
“เจ้าคิดว่าเหตุใดห้องสมุดจึงคิดเงินแพงเช่นนั้นเล่า” ลาซาร์ยิ้มกริ่ม “ความจริงแล้ว ทางสภาสนับสนุนให้นักเวทแลกเปลี่ยนความรู้ด้วยตนเอง เพื่อที่จะได้กระตุ้นให้เกิดแนวคิดอันยิ่งใหญ่มากขึ้น ข้าบังเอิญมีเพื่อนคนที่คงจะต้องอยากแลกตำรากับเจ้าที่ดักลาสแน่ๆ และข้าจะแนะนำเจ้าให้พวกเขารู้จัก”
“พวกเขามีนามว่าอะไรหรือ” ลูเซียนถามด้วยความซาบซึ้งใจ
“ทั้งสองคนต่างเป็นจอมเวทระดับหนึ่ง คนหนึ่งชื่อเจอโรม เป็นนักเวทระดับสองที่ศึกษาทางด้านโหราศาสตร์และศาสตร์แห่งธาตุ ส่วนอีกคนหนึ่งชื่อร็อก เป็นนักเวทแห่งธาตุระดับสอง ร็อกน่ะค่อนข้างแปลก และเขาก็กำลังยื่นเสนอโครงการน่าขันอยู่ในตอนนี้ ส่วนเจอโรมค่อนข้างเป็นคนเก็บตัว เมื่อหลายปีก่อน ตอนที่เขาตามจีบเวร่า เขาพูดเรื่องโหราศาสตร์กับปฏิกิริยาทางเคมี”
“น่าสงสาร…” ลูเซียนรู้สึกเสียใจแทนชายนามเจอโรมผู้นี้
“ฮ่าๆ เจ้ารู้อะไรไหม สองคนนั้นแต่งงานกันแล้ว และพวกเขาก็หวานชื่นกันสุดๆ” ลาซาร์หัวเราะร่า
“อะไรนะ” ลูเซียนประหลาดใจอย่างมาก
“เจ้ามาจากอีกฝั่งมหาสมุทรนี่นะ ลูเซียน” ลาซาร์อธิบายขณะยังคงหัวเราะขัน “สำหรับผู้หญิงในโฮล์มแล้ว ไม่มีอะไรจะโรแมนติกไปกว่าเวทมนตร์ โหราศาสตร์ ศาสตร์แห่งธาตุ และโชคชะตา และคนที่ศึกษาทางด้านพวกนี้ก็ค่อนข้างร่ำรวยและทรงอิทธิพลมากทีเดียว”
“ช่างเป็นโลกที่มหัศจรรย์จริงๆ” ลูเซียนทอดถอนใจ จากนั้นจึงเอ่ยกับลาซาร์ “เจ้าอยากจะไปหาซื้อวัตถุดิบสำหรับการทดลองกับข้าหรือไม่ ข้าอยากจะทำการทดลองตามในบทความนะ”
“ไปสิ” ลาซาร์ตอบรับด้วยท่าทางสบายๆ “อ้อ ที่ดักลาสมีคนที่ชื่อลูเซียน อีวานส์ สอนอยู่ที่นั่นด้วย เขาเพิ่มตัว ‘เค’ เข้าไปในชื่อของเขาน่ะ”
…………………………