หลิงฮันกลายเป็นไร้คำพูดกับแผนการของราชาในหมู่ราชาทั้งสอง ที่คิดจะฉีกกระชากเสื้อผ้าของเขา
ถึงแม้การถูกทำลายเสื้อผ้าจะไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรต่อเขาก็ตาม แต่ประเด็นคือเขาไม่ได้อยากโป๊เปลือย!
ไม่ต้องกล่าวถึงตอนนี้ที่มีภรรยาของเขากับธิดาโร๋วอยู่ด้วยเลย ต่อให้พวกนางทั้งสองไม่อยู่ เขาก็ไม่อยากเผยร่างโป๊เปลือยให้พวกลั่วจ่างเฟิงเห็น
ถ้าคิดจะโป๊ล่ะก็ พวกเจ้าก็โป๊เองสิ!
หลิงฮันเกรี้ยวกราดและโจมตีเข้าใส่เสื้อผ้าของลั่วจ่างเฟิงและจื่อเหอปิงอวิ๋น มาดูกันว่าฝ่ายไหนจะโป๊เปลือยก่อนกัน
การต่อสู้ของจักรพรรดิและราชาในหมู่ราชานั้นย่อมดุเดือดเป็นอย่างมาก แต่ทว่าธิดาโร๋วที่มองดูอยู่กับแสดงสีหน้าปั้นยากออกมาแทน
นี่ราชาในหมู่ราชาเช่นพวกเจ้าสู้กัน โดยต่างฝ่ายต่างพยายามฉีกเสื้อผ้าของกันและกันเหมือนกับนักสู้ข้างถนนแบบนี้น่ะรึ?
ทางด้านของหลิงฮันนั้น กายหยาบของเขาไร้เทียมทานและสามารถรับการโจมตีของราชาในหมู่ราชาทั้งสองได้อย่างไม่หวั่นเกรงก็จริง เพียงแต่ว่าเสื้อผ้าของเขานั้นไม่ใช่
ต่อให้เสื้อผ้าของเขาจะถูกทักทอมาจากวัสดุเซียนและขนของสัตว์อสูรนิรันดร์ แต่มีรึที่มันจะต้านทานการกระหน่ำโจมตีอย่างบ้าคลั่งของจอมยุทธระดับสามนิพพาน ที่ใช้อำนาจของราชานิรันดร์ได้?
เสื้อผ้าของหลิงฮันถูกฉีกขาดจนเละเทะอยากไม่หน้าแปลกใจ เพียงแต่ว่าสภาพของลั่วจ่างเฟิงกับจื่อเหอปิงอวิ๋นก็ไม่ได้ต่างไม่จากเขาเหมือนกัน ณ เวลานี้ทั้งสามคนสวมใส่เสื้อผ้าขาดวิ่นราวกับขอทาน
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้พวกลั่วจ่างเฟิงหวาดกลัวเป็นอย่างมาก เพราะพวกเขารู้ตัวดีว่า ตนไม่สามารถต้านทานอำนาจเปลวเพลิงของสวรรค์และปฐพีในสถานที่แห่งนี้ได้ เมื่อใดที่เกราะโลหิตมังกรของพวกเขาพังทลาย ชีวิตของพวกเขาจะต้องดับสูญ
แต่ในความหวาดกลัวก็มีความดีใจแฝงอยู่บ้าง เพราะการที่หลิงฮันโจมตีตอบโต้พวกเขาอย่างบ้าคลั่งเช่นนี้ แสดงว่าอีกฝ่ายก็กำลังหวาดกลัวอยู่เหมือนกัน
ชัยชนะขึ้นอยู่กับว่า ฝ่ายใดจะเป็นฝ่ายต้านทานไม่ไหวก่อน
ต้องฉีกกระชากไม่ให้เหลือ!
ราชาในหมู่ราชาทั้งสองกัดฟันและพยายามทำลายเสื้อผ้าของหลิงฮันต่อไป
เจ้าคิดว่าพวกเจ้าจะเป็นฝ่ายทำลายเสื้อผ้าของข้าได้ฝ่ายเดียว?
หลิงฮันเกรี้ยวกราดเป็นอย่างมาก เนื่องจากเขาไม่ต้องการเปิดเผยก้นต่อหน้าสาธารณชน
‘พรึบ’ เพลิงเก้าสวรรค์ถูกแปรเปลี่ยนกลายเป็นดาบเพลิงด้วยทักษะควบคุมเปลวเพลิง และสะบั้นเข้าใส่ราชาในหมู่ราชาทั้งสอง ถึงแม้ลั่วจ่างเฟิงกับจื่อเหอปิงอวิ๋นจะแข็งแกร่งแค่ไหน ทั้งสองคนก็ไม่สามารถต้านทานอำนาจของแก่นกำเนิดสวรรค์และปฐพีที่ถูกใช้ออกด้วยทักษะระดับราชานิรันดร์ได้อย่างสมบูรณ์
“ใช้ทักษะที่ทรงพลังที่สุด!” จื่อเหอปิงอวิ๋นกัดฟันและกล่าวกับลั่วจ่างเฟิง หากยังปล่อยเอาไว้แบบนี้ เกรงว่าสภาพพวกเขาคงไม่ดีไปกว่าหลิงฮัน
ลั่วจ่างเฟิงกัดฟันและตบฝ่ามือเข้าที่หน้าอก ‘อัก’ ทันใดนั้นโลหิตระลอกหนึ่งก็ไหลออกมาจากปากของเขา
โลหิตที่ไหลออกมาส่องประกายแสงแวววาว ก่อนจะระเหยและถูกดูดซับเข้าไปในเกราะแขน พริบตาหลังจากนั้น เกราะแขนที่ส่องประกายเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็ส่องแสงสว่างยิ่งกว่าเดิม และถูกปกคลุมไปด้วยตราประทับแห่งเต๋าอันลึกล้ำ
ร่างของลั่วจ่างเฟิงอ่อนแรงอยู่ชั่วครู่ เกราะแขนที่เขาสวมใส่อยู่นั้นสามารถปลดปล่อยอำนาจสูงสุดได้อยู่ในของเขตของระดับโลกียนิพพานเท่านั้น แต่เมื่อครู่เขาได้ยอมเผาผลาญแก่นโลหิตของตนเองเพื่อที่อำนาจของเกราะแขนจะได้ยกระดับสูงขึ้น
ในขณะเดียวกัน สีหน้าของจื่อเหอปิงอวิ๋นก็เปลี่ยนเป็นมืดมน ทั่วร่างของนางมีตราประทับแห่งเต๋าหลั่งไหลออกมาทีละน้อย ก่อนที่ที่บริเวณหน้าอกของนาง จะมีดาบโปร่งใสลอยออกมา
นี่คืออำนาจของแก่นกำเนิดนิรันดณ์ห้วงมิติ!
นางเผาผลาญแก่นพลังของตนเองจนเส้นผมบริเวณจอนเปลี่ยนเป็นสีขาว เพื่อที่จะสร้างดาบห้วงมิติวิญญาณเล่มนี้ขึ้นมา
“ลงมือ!”
ลั่วจ่างเฟิงและจื่อเหอปิงอวิ๋นปลดปล่อยการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดเข้าใส่หลิงฮันพร้อมกัน
ตูม!
ทันทีที่การโจมตีถูกปลดปล่อยออกมา คลื่นแสงทำลายอันเจิดจ้าก็ปกคลุมไปทั่วร่างหลิงฮันอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะค่อยๆจางหาย
ร่างโป๊เปลือยของหลิงฮันค่อยๆประจักษ์ต่อสายตาทุกคน โชคดีที่ในตอนนี้ทั่วร่างของเขาถูกชโลมไปด้วยโลหิต ทำให้ผิวหนังไม่ได้ถูกเปิดเผยทุกส่วน
เนื่องจากว่าการโจมตีเมื่อครู่อัดแน่นไปด้วย อำนาจของตราประทับและสมบัติของราชานิรันดร์ กายหยาบของหลิงฮันจึงรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก
จื่อเหอปิงอวิ๋นกับลั่วจ่างเฟิงชะงักและกลายเป็นไร้คำพูด แน่นอนว่าสิ่งที่ให้ทั้งสองคนตกตะลึงไม่ใช่เพราะเห็นอวัยวะบางส่วนของหลิงฮัน แต่เป็นทั้งๆที่หลิงฮันรับการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของพวกเขาไปแล้ว ยังได้รับบาดเจ็บเพียงแค่เล็กน้อยต่างหาก
แต่ไม่ว่าอย่างไร ก็จบกันแค่นี้ล่ะ!
ไหนดูสิ เจ้าสวมใส่เกราะโลหิตมังกรเอาไว้ส่วนไหน?
ทั้งสองคนพยายามมองหา แต่ก็มองไม่เห็นชิ้นส่วนของเกราะโลหิตมังกรอยู่ที่อวัยวะส่วนไหนเลย
ธิดาโร๋วที่มองดูอยู่อยากจะยกมือขึ้นมาปิดหน้าเป็นอย่างมาก แต่ด้วยพลังของตัวตนระดับนิรันดร์ที่ทรงพลังเช่นนาง สัมผัสสวรรค์ก็ยังสามารถใช้มองแทนดวงตาได้อยู่ดี ซึ่งต่อให้ปิดตาไป นางก็ยังสามารถมองเห็นก้นของหลิงฮันที่อยู่ต่อหน้านางได้อย่างชัดเจน
หลิงฮันนำเสื้อผ้าส่วนหนึ่งออกมาพันไว้ที่รอบเอวชั่วคราว ก่อนจะจ้องมองไปยังพวกลั่วจ่างเฟิงและจื่อเหอปิงอวิ๋นด้วยแววตาเกรี้ยวกราด
“ตาย!”
หลิงฮันกระหน่ำปลดปล่อยการโจมใส่ทั้งสองคน
ตอนนี้ลั่วจ่างเฟิงและจื่อเหอปิงอวิ๋นกำลังอยู่ในสภาพที่อ่อนแรงเป็นอย่างมาก เนื่องจากเพิ่งใช้ทักษะที่ทรงพลังที่สุดออกไป เพราะงั้นคิดว่าจะเป็นไปได้รึ ที่ทั้งสองจะสามารถรับการโจมตีอันบ้างคลั่งของหลิงฮัน?
ยิ่งกว่านั้นเป้าหมายของการโจมตีของหลิงฮันก็ยังเป็นเสื้อผ้าของพวกเขาทั้งสองคนด้วย ซึ่งการจะป้องกันไม่ให้ฉีกขาดเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมาก
เสื้อผ้าของจื่อเหอปิงอวิ๋นกับลั่วจ่างเฟิงขาดวิ่นและลอยกระจัดกระจายไปทั่ว ก่อนจะเผยให้เห็นผิวอันเรียบเนียน
ทางด้านของลั่วจ่างเฟิงนั้นยังดีเพราะเป็นบุรุษ แต่ในด้านของจื่อเหอปิงอวิ๋น เสื้อผ้าที่ขาดแหว่งเป็นรูนับไม่ถ้วนจนเผยให้เห็นอวัยวะแทบจะทุกส่วนนั้น ทำให้นางรู้สึกอับอายจนแทบจะฆ่าตัวตาย
เพียงแต่ว่าก่อนหน้าจะไปกังวลเรื่องนั้น นางยังมีเรื่องที่เป็นต้องกังวลมากกว่า
ตอนนี้เกราะโลหิตมังกรปรากฏรูพุพังนับไม่ถ้วน ซึ่งส่งผลให้อำนาจคุ้มกันของมันค่อยๆหายไป
นางสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าพลังงานอันน่าสะพรึงกลัวจากภายนอก ค่อยๆไหลผ่านเข้ามาในรูของเกราะ แต่ไม่ว่าอย่างไรในตอนนี้ อำนาจของเกราะโลหิตมังกรก็ยังหลงเหลืออยู่ ซึ่งพอที่จะช่วยประคับประคองนางไปได้อีกชั่วคราว
หนี!
จื่อเหอปิงอวิ๋นหันหลังและล่าถอยอย่างไม่ลังเล
หากนางต้องทิ้งชีวิตเอาไว้ที่นี่ล่ะก็ ต่อให้ได้หยกต้นกำเนิดวิถีสวรรค์มาแล้วจะมีประโยชน์อะไร? สิ่งที่ต้องทำในตอนนี้คือรักษาชีวิตเอาไว้ให้ได้ก่อน
นางกลัวตายจนไม่แยแสความเป็นความตายของลั่วจ่างเฟิงเลยแม้แต่น้อย นางตัดสินใจเผ่นหนีอย่างเด็ดขาดราวกับลืมไปแล้วว่า เมื่อครู่นางกับลั่วจ่างเฟิงเพิ่งร่วมสู้ด้วยกันมา
“ฮึ่ม!” แต่คิดรึว่าหลิงฮันจะปล่อยให้นางทำตามใจชอบ? คราวนี้ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องสังหารจื่อเหอปิงอวิ๋นให้ได้ เพราะไม่อย่างนั้นความเคียดแค้นของเขาจะไม่สลายไป และจิตใจจะไม่มีวันสงบสุข