หลิงฮันขมวดคิ้วและหยุดฝีเท้าชั่วขณะ
“นี่มันไม่ถูกต้องจริงๆ!” สุนัขตัวดำขมวดคิ้วอยู่ด้านหลัง
ความสามารถในการพ่นหมอกเขียวก่อนหน้านี้ ยังพอเรียกได้ว่าเป็นความสามารถของสิ่งมีชีวิตธาตุไม้ แต่การที่สามารถเรียกศพเน่าเปื่อยของมนุษย์จำนวนมากออกมานั้น ไม่มีทางเป็นความสามารถของสิ่งมีชีวิตธาตุไม้แน่นอน
‘พรึบ พรึบ พรึบ พรึบ’ ศพไร้หัวหลายสิบตัวลุกขึ้นยืนด้วยร่างที่แกว่งไปแกว่งมา กล้ามเนื้อที่เน่าเปื่อยของพวกมันส่งกลิ่นเหม็นรุนแรงออกมา จนทำให้ผู้คนรู้สึกอยากจะอาเจียน
“หัวของข้า!”
“หัวของข้า!”
“เอาหัวของข้าคืนมา!”
ศพไร้หัวส่งเสียงร้องโอดครวญ ทั้งๆที่พวกมันไม่มีหัวแท้ๆแต่กลับส่งคลื่นเสียงผ่านสัมผัสสวรรค์ไปยังห้วงจิตวิญญาณของคนอื่นได้
แม้พวกมันจะไม่มีลูกตา แต่พวกหลิงฮันก็รู้สึกได้ว่ากำลังถูกพวกมันจดจ้องอยู่
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง จู่ๆเหล่าศพไร้หัวก็ยกมือขึ้นสูงและพุ่งทะยานเข้าหาหลิงฮันด้วยความเร็วสูง
“เข้ามา!” ใบหน้าของหลิงฮันแปรเปลี่ยนเป็นจริงจังและปล่อยหมัดออกไป อำนาจแห่งอัสนีถูกระเบิดออกมาพร้อมกับปกคลุมไปทั่วร่างของเขา
‘ฟุบ ฟุบ ฟุบ’ แต่ทว่าเหล่าศพไร้หัวกลับสามารถเคลื่อนไหวหลบหลีกได้คล่องแคล่วจนน่าตกใจ พวกมันกระโดดสูงและโจมตีหลิงฮันจากบนฟ้า
น่าสนใจดีนี่
หลิงฮันคำรามและระเบิดคลื่นพลังอัสนีออกมาตอบโต้เหล่าศพไร้หัว
‘ตูม!’
การโจมตีของเขากับศพไร้หัวปะทะกันซึ่งๆหน้า ‘เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ’ สายสีฟ้าขาวอันเป็นเอกลักษณ์ของทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์พัวพันไปทั่วร่างของเหล่าศพไร้หัว กระดูกทุกส่วนของพวกมันสั่นไหวและดิ้นทุรนทุรายไปมา
ทางด้านหลิงฮันเองก็ได้รับแรกกระแทกจากการปะทะเมื่อครู่ จนกระดูกภายในร่างสั่นสะเทือนและเกือบทรงตัวไม่อยู่
‘อ้ากกกก’ ใบหน้าจำนวนมากที่ติดอยู่บนลำต้นของต้นอสูรปีศาจขาวส่งเสียงร้องโอดครวญ ราวกับกำลังเจ็บปวดทรมาน
‘พรึบ’ ต้นอสูรปีศาจขาวพ่นหมอกสีเขียวออกมาปกคลุมร่างของศพไร้หัว ทันใดนั้นเอง คลื่นอัสนีที่พัวพันอยู่ตามร่างของพวกมันก็ค่อยๆหม่นแสงลง และสลายไปในที่สุด
ศพไร้หัวเราะกลับมาเคลื่อนไหวได้อีกครั้ง พวกมันพุ่งทะยานจู่โจมเข้าใส่หลิงฮันอย่างไม่รีรอ ครั้งนี้พวกมันกระโดดขึ้นสู่ท้องฟ้าและใช้ประโยชน์จากจำนวนที่มีมากกว่า แยกย้ายกันโจมตีจากหลายทิศทาง
ในขณะเดียวกันนั้นเอง ชายวัยกลางคนที่ก่อนหน้านี้เผ่นหนีมาอยู่ด้านหลังก็ดวงตาส่องประกาย และลอบจู่โจมจักรพรรดินีอย่างไม่มีใครคาดคิด
สตรีผู้นี้งดงามเป็นอย่างมาก เสน่ห์ของนางเหลือล้นจนก่อนหน้านี้ได้ทำให้เขาเผลอหยุดร้องขอชีวิตจากหลิงฮันไปชั่วขณะ
ณ เวลานี้ที่หลิงฮันกำลังถูกศพไร้หัวหลายสิบตัวพัวพันอยู่ กล่าวได้ว่าเป็นจังหวะที่เหมาะสมที่สุดในการลอบโจมตีและชิงตัวสตรีผู้นี้หลบหนีไป
ตัวเขานั้นมีพลังบ่มเพาะระดับสี่นิพพานเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงมั่นใจมากว่าแผนการลอบโจมตีจากด้านหลังโดยไม่ให้จักรพรรดินีตั้งตัวจะต้องสำเร็จอย่างแน่นอน
‘อ้ากก’ แต่ทันใดนั้นเอง จู่ๆชายวัยกลางคนก็ร้องโอดครวญออกมา
ทั้งๆที่เขากำลังระมัดระวังตัวอยู่แท้ๆ แต่ไม่รู้ว่าเมื่อใดกันที่สุนัขตัวดำได้โผล่มาและงับเข้าที่ก้นของเขา
“รนหาที่ตาย!” จักรพรรดินีดิรู้สึกตัวและหันหลังมาด้วยสีหน้าโหดเหี้ยม
นางยกฝ่ามือขึ้น ‘ฟุบ ฟุบ ฟุบ’ ปราณดาบจำนวนมากถูกปลดปล่อยออกมา และพุ่งเข้าใส่ชายวัยกลางคนอย่างบ้าคลั่ง
ชายวัยกลางคนเผยสีหน้าตกตะลึงทันใด ปราณดาบของจักรพรรดินีนั้นอัดแน่นไปด้วยอำนาจแห่งกฎเกณฑ์อันทรงพลัง
ตูม!
ปราณดาบนับไม่ถ้วนถาโถมเข้าใส่ชายวัยกลางคน ร่างของเขาลอยกระเด็นขึ้นสู่ท้องฟ้าจนเห็นเป็นเพียงจุดดำเท่าเม็ดถั่ว
“เหตุใดนายท่านหมาถึงโดนไปด้วยยย?” เสียงของสุนัขตัวดำดังมาจากท้องฟ้า เนื่องจากปากของมันกำลังงับก้นของชายวัยกลางคนอยู่ มันจึงถูกลูกหลงไปด้วย
หลิงฮันเค้นเสียงโหดเหี้ยมและรีบสลัดร่างออกจากวงล้อมของศพไร้หัว ‘ตูม’ เขาโคจรคลื่นอัสนีมาปกคลุมไว้ทั่วร่างกาย และงอเข่ากระโดดขึ้นสู่ท้องฟ้า
หลิงฮันไล่ตามร่างที่ลอยกระเด็นของชายวัยกลางคนทันในพริบตา และยื่นมือออกไปคว้าจับหลังของอีกฝ่ายเอาไว้
“วะ…ไว้ชีวิตข้าด้วย !” ชายวัยกลางคนกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
หลิงฮันยิ้มอย่างเย็นชาและกล่าว “ข้าไม่ได้จะฆ่าเจ้า ข้าแค่จะทำให้เจ้าตกไปอยู่ในสถานการณ์ก่อนที่ข้าจะช่วยเจ้าก็เท่านั้น”
“ไม่! อย่าทำเช่นนั้น!” ชายวัยกลางคนหวาดกลัวจนเยี่ยวแทบราด
หลิงฮันไม่สนใจและเหวี่ยงร่างชายวัยกลางคนไปยังต้นอสูรปีศาจขาว
ต้นอสูรปีศาจขาวพ่นหมอกออกมาอีกครั้ง พร้อมกับยื่นกิ่งก้านออกมารัดพันร่างของชายวัยกลางคนเข้าไปในรอยแยกบนลำต้น
ชายวัยกลางคนใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความหวาดกลัว เขาสามารถคาดเดาได้ว่าศพไร้หัวเหล่านี้นั้น จะต้องเป็นเหล่าจอมยุทธที่เคยถูกต้นอสูรปีศาจขาวดึงเข้าไปในรอยแยกของลำต้นเป็นแน่
“ช่วยด้วย! โปรดช่วยข้าด้วย!” ชายวัยกลางคนโห่ร้องด้วยน้ำเสียงสิ้นหวัง
หลิงฮันจ้องมองอีกฝ่ายด้วยแววตาเย็นชาไม่หวั่นไหว
“อ้ากกก…” ชายวัยกลางคนถูกต้นอสูรปีศาจขาวลากไปภายในล้ำต้น ก่อนที่เสียงโห่ร้องจะหยุดลง
“คนชั่วช้าเช่นเจ้า ไม่สมควรมีชีวิตอยู่” หลิงฮันกล่าว อีกฝ่ายคิดว่าเขาเป็นคนมีเมตตารึยังไงกัน?
สุนัขตัวดำรีบทะยานร่างกลับมาและกล่าวกับจักรพรรดินี “สาวน้อย ครั้งหน้าช่วยเบามือหน่อยได้ไหม? ดูสิ ร่างของนายท่านหมาเกือบจะแหลกเป็นเสี่ยงๆเลย!”
จักรพรรดินีไม่แยแส
เนื่องจากในตอนนี้ต้นอสูรปีศาจขาวเพิ่งได้เหยื่อไป มันจึงหยุดโจมตีหลิงฮันชั่วคราว เหล่าศพไร้หัวเองก็ล่าถอยกลับไปยืนด้านหน้าต้นอสูรปีศาจขาว ราวกับกำลังทำการคุ้มกัน
“ต้นอสูรปีศาจขาวต้นนี้พัฒนาตนเองจนสามารถใช้งานอำนาจแห่งกฎเกณฑ์สังหารได้” สุนัขตัวดำกล่าวในขณะที่มองดูอยู่ ตามหลักแล้วต้นอสูรปีศาจขาวที่ดูดกลืนพลังวิญญาณผันผวนทุกประเภทมารวมกันนั้น สมควรจะใช้ความสามารถได้แค่ปราณพิฆาตเท่านั้น
ต้นอสูรปีศาจขาวกระดุกกระดิกไปมาอยู่สักพัก ก่อนที่บริเวณลำต้นของมันจะมีใบหน้าของมนุษย์ปรากฏขึ้นมาอีกหนึ่งใบหน้า ใบหน้าที่เพิ่งปรากฏขึ้นมานี้มีสีหน้าที่แสดงออกถึงความเจ็บปวดทรมานอย่างถึงที่สุด
‘ตุบ’ ร่างของศพไร้หัวปรากฏออกมาอีกร่างหนึ่ง มันเหม่อลอยอยู่ชั่วครู่ก่อนจะจดจ้องมายังหลิงฮัน
“หัวของข้าอยู่ไหน?”