หลิงฮันกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ในเมื่อท่านรู้ว่าข้ามีวิธียกระดับพลังให้เหนือกว่าราชาเซียนได้ ท่านไม่กลัวว่าข้าจะแย่งชิงเขามังกรเลยไม่ต้องรับข้อเสนอให้ยุ่งยากเลยรึ?”
“หากเจ้าเป็นคนประเภทนั้นทำไมไม่ทำตั้งนานแล้วล่ะ?” หลงอวี่ซานถาม
“ช่างมันเถอะ” หลิงฮันส่ายหัว “การจะยกระดับเป็นราชาเซียนข้าต้องรับผลตามมาอันมหาศาล ท่านคิดว่าเขามังกรแท้จริงมีค่าพอจะให้ข้าทำเช่นนั้นเพื่อช่วยท่านรึ?”
หลงอวี่ซานกัดฟัน “แล้วเจ้าต้องการอะไรอีก?”
หลิงฮันหัวเราะก่อนจะยักไหล่ “เอาเถอะ ข้ารับปากช่วยท่านแล้วกัน เพราะอย่างไรข้าก็ไม่ชอบขี้หน้าหมอนั่นอยู่แล้ว”
หลงอวี่ซานจ้องหลิงฮันเขม็ง นี่เจ้าเป็นพวกชอบหยอกล้อคนอื่น? แต่อย่างไรในเมื่อหลิงฮันยอมรับข้อเสนอของนางก็ดีแล้ว นางพยักหน้าและกล่าว “เจ้าไปหาผู้นำตระกูลหลงและแสร้งทำเป็นว่าเจ้าต้องการขอข้าแต่งงาน เมื่อถึงตอนนั้นข้าจะใส่ฟืนลงกองเพลิงโดยการแพร่กระจายข่าวเรื่องนี้ออกไป เมื่อฉงปาตู้ทนการหักหน้าไม่ไหวเขาจะต้องขอท้าประลองสู้กับเจ้าเป็นแน่ และในตอนนั้นหากเจ้าทำให้ทุบตีเขาจนไม่อาจสู้หน้าใครได้เขาก็จะไม่กล้าปรากฏตัวที่ตระกูลหลงอีกโดยหลังจากนั้นข้าก็จะปฏิเสธคำขอแต่งงานของเจ้า”
เจ้าช่างคิดแผนมาเพรียบพร้อมจริงๆ
หลิงฮันเกาหัว ความจริงการต้องล่วงเกินขุมอำนาจอย่างเขตแดนต้องห้ามเพื่อแลกเปลี่ยนกับเขามังกรแท้จริงนั้น ฝ่ายเขาถือว่าเสียผลประโยชน์อย่างมาก แต่ใครใช้ให้ฉงปาตู้เป็นทายาทของราชาไค่หยุนกันล่ะ?
เขารังเกียจคนทรยศอย่างราชาไค่หยุน แถมท่าทีของฉงปาตู้ก็ทำให้เขาไม่สบอารมณ์อย่างมาก
“เอาตามนั้นแล้วกัน” เขาพยักหน้า
“รับไป!” หลงอวี่ซานคว้ามือไปยังเขามังกรบนศีรษะก่อนจะออกแรงหักและโยนให้หลิงฮัน
หลิงฮันรับเขามังกรมาด้วยท่าทีประหลาดใจ “ท่านไม่กลัวว่าข้าจะหนีหายไปรึ?”
“ข้าเชื่อใจเจ้า” หลงอวี่ซานกล่าวและหันหลังเดินจากไป
หลิงฮันบิดขี้เกียจ “ถ้างั้นก็คงต้องทำผลงานให้ดีเสียหน่อย”
เขาเดินออกจากลานที่พักและเอ่ยคำร้องขอว่าอยากเข้าพบผู้นำตระกูลหลง
ผู้นำของตระกูลหลง ณ ปัจจุบันไม่ใช่ประมุข เซียนระดับกลางนั้นไม่มีเวลาว่างเนื่องจากต้องเก็บตัวบ่มเพาะพลังทั้งวัน เรื่องเล็กๆน้อยๆอย่างการดูแลตระกูลนั้นประมุขได้มอบหมายให้เป็นหน้าของสมาชิกตระกูลระดับวารีนิรันดร์ขั้นสูงสุดที่ทรงพลังผู้หนึ่ง ผู้นำตระกูลหลงปัจจุบันรู้ดีว่าตนเองคงไม่สามารถทะลวงผ่านเป็นเซียนได้ จึงทำหน้าที่ดูแลตระกูลอย่างไม่คิดมาก
ผ่านไปไม่นานบ่าวรับใช้กลับมาแจ้งว่าผู้นำตระกูลหลงยินดีให้ไปเข้าพบได้
“ฮ่าๆ สหายหลิงฮันยังอายุไม่ถึงพันปีแท้ๆแต่กลับบ่มเพาะพลังได้ถึงระดับนี้แล้ว ช่างน่าเลื่อมใสยิ่งนัก” ผู้นำตระกูลหลงกล่าวต้อนรับหลิงฮันในห้องโถงขนาดใหญ่
เขาเป็นชายวัยกลางคนที่มีรูปลักษณ์ราวๆห้าสิบปี กลิ่นอายของเขาองอาจและทรงพลังราวกับมีสัตว์ร้ายสิงสถิตอยู่ภายในร่าง
หลิงฮันหัวเราะ “ผู้นำหลงก็ชมข้าเกินไป เอาเป็นว่าข้าขอเข้าเรื่องเลยแล้วกัน”
“เชิญเลย” ผู้นำตระกูลหลงมีท่าทีสุภาพเป็นอย่างมาก ถึงแม้เขาไม่คิดว่าหลิงฮันจะมีพลังต่อสู้แข็งแกร่งกว่าเขาแต่เขาก็ต้องไว้หน้าอีกฝ่ายเพราะพวกเขาเป็นจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์ขั้นสูงสุดเหมือนกัน
ที่สำคัญคือหลิงฮันยังเยาว์วัยเป็นอย่างมาก ด้วยอายุเพียงเท่านี้ก็บรรลุระดับวารีนิรันดร์ขั้นสูงสุดได้แล้ว การจะกลายเป็นเซียนในอนาคตก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
หลิงฮันกล่าว “ข้ามาเพื่อมอบของกำนัลให้ท่าน”
“โอ้” ผู้นำตระกูลหลงเข้าใจจุดประสงค์ทันทีและเผยรอยยิ้ม การที่เซียงเยว่พาบุรุษกลับมาตระกูลนั้นไม่ใช่ว่าความหมายก็เห็นชัดๆกันอยู่แล้วหรอกรึ? ตระกูลหลงของพวกเขาคือขุมอำนาจที่ทรงพลังที่สุดในเขตดวงดาวระแวกนี้จึงไม่จำเป็นต้องบังคับให้เซียงเยว่แต่งเข้าขุมอำนาจไหน เพราะงั้นตราบใดที่เซียงเยว่ต้องการแต่งงานกับใครเขาก็ไม่ขัดข้อง
อีกอย่างคือหลิงฮันมีโอกาสสูงมากที่จะกลายเป็นเซียนได้ในอนาคต การมีบุตรเขยเช่นนั้นไม่ได้ส่งผลเสียใดๆต่อตระกูลหลงแม้แต่น้อย
“นั่งลงก่อน มาค่อยๆพูดกันดีกว่า” ผู้นำตระกูลหลงกวักมือไปยังหลิงฮันอย่างเป็นกันเอง
หืม?
หลิงฮันประใจเล็กน้อยก่อนจะพอคาดเดาได้ว่าอีกฝ่ายกำลังเข้าใจผิดเรื่องอะไร เขากระแอมและกล่าว “ผู้นำหลง ข้าไม่ได้มาเพื่อขอหลงเซียงเยว่แต่งงาน”
“หือ?” ผู้นำตระกูลหลงชะงัก เจ้าไม่ได้หมายปองหลงเซียงเยว่? งั้นก็น่าแปลก นอกจากเซียงเยว่แล้วยังจะมีใครอื่นเหมาะสมกับอัจฉริยะเช่นหลิงฮันอีกรึ?
“แล้วเจ้าต้องการขอแต่งงานกับใคร”
“ธิดาหลงอวี่ซาน” ใบหน้าของหลิงฮันเผยรอยยิ้มเอียงอาย
ร่างของผู้นำตระกูลหลงกลายเป็นสั่นสะท้าน เขาจดจ้องมายังหลิงฮันโดยที่พูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว
“ท่านผู้นำ?” หลิงฮันกล่าวเรียก
ผู้นำตระกูลหลงกลับมาตั้งสติได้และกล่าวตอบ “สหายน้อย หลงอวี่ซานได้หมั้นหมายกับผู้อื่นไปแล้ว”
หลิงฮันยิ้ม “ไม่ใช่ปัญหา ก็แค่หมั้นหมายเองยกเลิกเสียก็สิ้นเรื่อง”
ครั้งนี้ผู้นำตระกูลหลงแทบจะอยากเอาฝ่ามือตบเอามี่ใบหน้าหลิงฮันแรงๆ
ยกเลิก? ยกเลิกน้องสาวเจ้าสิ!
คู่หมั้นของหลงอวี่ซานคือคนของดินแดนต้องห้ามเปิดเมฆาที่มีราชาเซียนปกครองอยู่ เจ้าที่บอกว่าให้ยกเลิกไม่หวาดกลัวต่อความเกรี้ยวกราดของราชาเซียนเลยรึไง?
“ฮ่าๆ สหายน้อยช่างมีอารมณ์ขันยิ่งนัก” ผู้นำตระกูลหลงฝืนยิ้ม
“ข้าไม่ได้ล้อเล่น” หลิงฮันกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“อย่าได้เอ่ยถึงเรื่องนี้อีก!” ผู้นำตระกูลหลงปฏิเสธ เขาไม่ใช่คนที่มีคุณสมบัติพอจะยกเลิกงานหมั้นและล่วงเกินตัวตนระดับราชาเซียน
“ข้าจริงใจกับนางเป็นอย่างมาก โปรดทบทวนดูอีกครั้ง” หลิงฮันดื้อรั้น หน้าที่ของเขาในแผนการครั้งนี้คือต้องล่วงเกินคนอื่นอยู่แล้ว เพราะงั้นจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะแสดงท่าทางเป็นคนไร้ยางอาย
“สหายน้อย โปรดออกจากตระกูลหลงไปเดี๋ยวนี้!” ผู้นำตระกูลหลงกล่าวเย็นชา คำร้องขอของหลิงฮันไม่เพียงจะเป็นการฝืนบังคับตัวเขาแต่ยังจะทำให้ตระกูลหลงพบเจอหายนะอีกด้วย
“แน่นอน มอบหลงอวี่ซานให้ข้าแล้วข้าจะไปทันที” หลิงฮันแสดงบทคนไร้ยางอายต่อ
“เจ้า!” ผู้นำตระกูลหลงลุกขึ้นยืนพรวดและกล่าว “หนุ่มน้อย เจ้าคิดว่าที่นี่คือที่ใดถึงได้คิดสร้างปัญหาโดยไร้เหตุผล?”
หลิงฮันหัวเราะ “ท่านผู้นำสงบสติอารมณ์ลงก่อน!”
“ไสหัวไป!” ผู้นำตระกูลหลงทนไม่ไหวและคว้ามือเข้าใส่หลิงฮัน ฝ่ามือของเขาแปรเปลี่ยนกลายเป็นกรงเล็บมังกรสีชาดที่ปกคลุมไปด้วยเพลงมังกรอันทรงพลัง
‘พรึบ’ หลิงฮันเอื้อมมือออกไปคว้าจับกรงเล็บของอีกฝ่ายเอาไว้ “ผู้นำหลง มีอะไรก็คุยกันดีๆก่อนอย่าเพิ่งใช้กำลัง”
ผู้นำตระกูลหลงตกตะลึง ฝ่ามือกรงเล็บของเขาถูกหลิงฮันจับเอาไว้แน่นโดยไม่สามารถขยับได้แม้แต่นิดเดียว นี่หมายความว่าพลังต่อสู้ระหว่างพวกเขาสองคนแตกต่างกันมหาศาล
เป็นไปได้อย่างไร!
เขาคือตัวตนระดับวารีนิรันดร์ขั้นสูงสุดและมีโลหิตมังกรแท้จริงไหลเวียนอยู่ในร่างกาย ในระดับพลังเดียวกันเขาควรจะเป็นฝ่ายที่บดขยี้ศัตรูให้ราบคาบได้อย่างง่ายดายแท้ๆ เพียงแต่ต่อหน้าหลิงฮันแล้วเขาไม่มีพลังจะตอบโต้ได้เลยแม้แต่น้อย เรื่องเช่นนี้เขาไม่อาจทำใจยอมรับได้