เมื่อซูโสว่เต๋อออกไป ก็ไม่เจอซูจือเฟยแล้ว
เขาไล่ตามไปร้อยสองร้อยเมตร เห็นทีเขาคงจะไม่มีโอกาสไล่หลานคนนี้กลับไปได้แล้ว เขาจึงทำได้เพียงหันหลังเดินกลับไป
ระหว่างทางกลับไปห้องหนังสือของชายพ่อ ซูโสว่เต๋ออารมณ์ดีเป็นพิเศษ และเขาก็อดไม่ได้ที่จะแอบคิดในใจว่า:”โอ้ ฉันโชคดีจริงๆ กำลังกังวลว่าจะหันเหความสนใจจากพ่อได้อย่างไรดี ไอ้หนูซูจือเฟยก็บังเอิญมาสะกิดความซวยของพ่อเข้าให้ และทำให้เขาโกรธ คาดว่าตอนนี้พ่อคงคิดแต่ว่าจะสั่งสอนเขาอย่างไรดี”
ซูโสว่เต๋อแอบได้ใจ หลังจากกลับไปที่ห้องหนังสือของพ่อ เขาพูดด้วยท่าทางละอายใจว่า”พ่อครับ ไอ้หนูจือเฟย วิ่งเร็วเยี่ยงสุนัข ผมไล่ไม่ทัน……”
คุณท่านใหญ่ซูพูดอย่างเย็นชาว่า:”แกก็เป็นขยะเช่นกัน!”
พูดเสร็จ เขาก็เรียกพ่อบ้านเข้ามาทันทีและสั่งอย่างเข้มงวด:”แจ้งลูกทั้งหมด ถ้าเห็นซูจือเฟย ลูกอกตัญญู พามันกลับมารับกฎของตระกูล!”
พ่อบ้านกล้าไม่เชื่อฟังเขาได้ไง รีบโค้งคำนับทันทีแล้วพูดว่า:”นายท่านไม่ต้องห่วงครับ ผมจะไปบอกต่อเดี๋ยวนี้”
คุณท่านใหญ่ซูปัดมือ พ่อบ้านก็รีบออกไป
จากนั้น เขาพูดกับซูโสว่เต๋อว่า:”รีบไปเตรียมการประชาสัมพันธ์ในภาวะวิกฤตอย่างที่พ่อบอก ยิ่งแรงยิ่งดี! นอกจากนี้ รีบไปจินหลิงเดี๋ยวนี้! ตู้ไห่ชิงกับจือหยู อยู่ต้องเห็นคน ตายต้องพบศพ!”
ซูโสว่เต๋อรีบพยักหน้า และพูดว่า:”ผมเข้าใจแล้วครับพ่อ! คอยดูเถอะพ่อ!”
ขณะนี้ ซูจือเฟยขับรถหนีไปจากตระกูลซูแล้ว ขับไปทางสนามบิน
เขาขับรถไปด้วย ล้วงมือถือออกมาเตรียมโทรหาผู้รับผิดชอบทีมของครอบครัว
ตระกูลมีเครื่องบินส่วนตัวหลายลำ และซูโสว่เต้าเป็นเจ้าของหนึ่งลำ ตอนนี้เขาอยู่ที่ออสเตรเลีย ดังนั้นเครื่องบินส่วนตัวจึงอยู่ที่เย่นจิง
แต่ว่า เมื่อเขากำลังจะโทรออก จู่ๆซูโสว่เต้าก็โทรเข้ามา
ซูจือเฟยรีบรับสาย เขาก็ร้องพูดว่า:”พ่อ! แม่กับน้องสาวหายไปแล้ว……”
เสียงหนักแน่นของซูโสว่เต้ามาจากโทรศัพท์:”จือเฟย พ่อรู้เรื่องหมดแล้ว ตอนนี้ลูกอยู่ที่ไหน?”
ซูจือเฟยรีบพูดว่า:”ผมกำลังเดินทางไปสนามบิน ตัดสินไปจินหลิงตอนนี้ ไม่ว่ายังไงผมก็จะหาแม่กับน้องสาวให้เจอ!”
ซูโสว่เต้าสั่งทันที:”ฟังพ่อนะ ห้ามไปสนามบินเด็ดขาด พ่อเพิ่งได้รับข่าวเมื่อกี้ว่า ตอนนี้ปู่ของลูกกำลังให้คนทั้งตระกูลซูตามหาลูกทุกที่ เตรียมจะพาลูกกลับไปจัดการด้วยกฎหมายตระกูล ลูกไปขัดใจแกได้ไงเนี่ย?”
เมื่อซูจือเฟยได้ยินเรื่องนี้ เขาก็พูดด้วยความขุ่นเคืองทันทีว่า:”ผมได้ยินเรื่องที่แม่กับจือหยูประสบอุบัติเหตุ และรู้สึกว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับปู่ ผมจึงไปถามเขา ไม่นึกเลยว่าเขาจะโกรธ แล้วให้อาสองตบผมร้อยครั้ง ผมไม่สนใจเขา และวิ่งออกไปเลย”
“ไอ้ทึ้ม!” ซูโสว่เต้าดุทันที:”ลูกอายุ 20 กว่าปีแล้วนะ 20ปีมานี้ลูกใช้ชีวิตอย่างไร้ค่ามาตลอดเลยเหรอ? ปู่ของลูกมีนิสัยยังไง ลึกๆในลูกไม่รู้เลยเหรอ?”
ซูจือเฟยพูดอย่างโกรธเคือง:”แต่……”
ซูโสว่เต้าขัดจังหวะเขาทันที:”แต่อะไร? ปู่ของลูกทั้งชีวิตนี้ห่วงแค่ตัวเอง และเขาสนใจแต่พลังที่แท้จริงของเขาในตระกูลซูเท่านั้น!”
“เมื่อสิ่งใด หรือใครก็ตามที่กระทบเขาหรือส่งผลต่อพลังของเขาในตระกูลซู เขาจะจัดการอีกฝ่ายโดยไม่ลังเล พ่อก็คือตัวอย่างที่ดีที่สุดไม่ใช่หรือไง?”
“ทั้งๆที่ลูกก็รู้ว่าขนาดพ่อยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของปู่ด้วยซ้ำ แล้วทำไมลูกถึงต่อต้านแกอย่างไม่รู้กำลังตัวเองด้วย? ลูกไม่อยากอยู่ในตระกูลซูแล้วเหรอ?”
ซูจือเฟยกัดฟันพูดว่า:”ถ้าแม่กับจือหยูถูกปู่ฆ่าจริงๆ ไม่เพียงแต่ผมจะไม่อยู่ในตระกูลซูเท่านั้น ผมยังจะฆ่าเขา และล้างแค้นให้แม่กับน้องสาวอีกด้วย!”
“ลูก……”ซูโสว่เต้าโกรธมากทันที แต่แล้วเขาก็จงใจลดเสียง และเตือนด้วยเสียงต่ำว่า:”แม้ว่าลูกจะมีความคิดเช่นนั้น ก็ใช่ว่าจะต้องพูดออกมา ผู้ชายที่แท้จริงขึ้นอยู่กับการกระทำ ไม่ใช่คำพูด!”