ไม่มีใครในโลกมนุษย์รวมทั้งคลาวน์อีและพยัคฆ์จื๋อที่รู้ว่าพลังของหลี่ว์ซู่ถูกผนึกไว้ เหตุผลที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะคนเหล่านั้นมาถึงหลี่ว์ซู่ช้าเกินไป และหลี่ว์ซู่ก็เข้าไปในประตูดาราแล้วในตอนที่พวกเขามาถึง
ฮุ่นตุ้นรู้เรื่องนี้ แต่มันแค่ไม่อยากบอกให้คนอื่นรู้
สิ่งแรกที่หลี่ว์เสี่ยวอวี๋ทำหลังจากที่เธอเดินทางผ่านประตูดาราเข้ามาก็คือเปิดใช้งานร่างโคลนของหลี่ว์ซู่ที่สร้างโดยจอห์นสัน อย่างไรก็ตาม มันแปลกมาก เพราะแม้เธอจะเดินทางผ่านกาแลกซี่มาที่โลกนี้ แต่แผนภูมิดาราของหลี่ว์ซู่ก็ยังไม่ตอบสนอง
ทัพเฮยอวี่มุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยมแต่ตอนนี้พวกเขากลับถูกฝังอยู่ใต้ดิน และถึงแม้วิญญาณของทัพเฮยอวี่อาจจะไม่ได้ทรงพลังในแง่ของการโจมตี แต่ก็ดีในเรื่องการควบคุมมาก
กลยุทธ์นี้ ครั้งหนึ่งฟรานเชสโกเคยใช้กับหลี่ว์ซู่ตอนที่เขากำลังจัดการกับกลุ่มแก่นความเชื่อ และนั่นเกือบจะทำให้หลี่ว์ซู่เคลื่อนไหวไม่ได้ ในเมืองนั้นในซาร์ดิเนียกลุ่มแก่นความเชื่อต้องการคนหลายร้อยคนเพื่อมาแสดงกลอุบายแบบเก่าๆ แต่อาการบาดเจ็บที่ร้ายแรงของคอรัลทำให้เกิดฟ้าผ่าขึ้นก่อน
ตอนนี้หัวหน้าบาทหลวงกลายเป็นวิญญาณหุ่นเชิดของหลี่ว์เสี่ยวอวี๋แล้ว กลยุทธ์เดียวกันที่ถูกใช้โดยหัวหน้าบาทหลวงซึ่งเป็นผู้มีพลังระดับ A เพื่อใช้ต่อกรกับกองทัพที่มีระดับต่ำกว่าหรือเท่ากับระดับสามนั้นแน่นอนว่าทรงพลังกว่ามาก เขาไม่จำเป็นแม้แต่จะต้องยึดเหนี่ยวพวกนั้นไว้อย่างสมบูรณ์ เพียงแค่ทำให้พวกนั้นไม่สามารถหนีออกมาจากทรายดูดได้ก็พอ
หลี่ว์เสี่ยวอวี๋มองไปรอบๆ และก็ต้องรู้สึกสับสนกับทิศทาง สิ่งที่เธอต้องทำก็คือคาดการณ์เส้นทางที่หลี่ว์ซู่น่าจะไปหลังจากเขามาถึงที่นี่
หลังจากนั้นไม่กี่นาที เธอก็รู้สึกว่าการคาดเดาโดยไม่คิดให้ดีนั้นดูจะไม่ถูกต้องเกินไป เพราะถึงแม้เธอจะรู้จักหลี่ว์ซู่ แต่เธอก็ไม่รู้จักโลกที่เธออยู่นี้
หลังจากการคิดพิจารณาสักพัก หลี่ว์เสี่ยวอวี๋ก็ตัดสินใจที่จะลงไปใต้ดินกับแอนโทนี และนำตัวคนที่พูดจากับเธอไม่ดีเมื่อสักครู่นี้ขึ้นมาด้านบน
เมื่อโผล่พ้นผิวดิน ผู้บัญชาการทัพเฮยอวี่ก็คายดินออกมาสองคำใหญ่ๆ และหายใจอย่างแรงเพื่อกอบโกยอากาศเข้าปอด
พระไตรปิฎกน้ำตกทรายของหลี่ว์เสี่ยวอวี๋จะใช้เพื่อฝังคนทั้งเป็นก่อนที่จะใช้พลังของผู้มีพลังธาตุดินเพื่อปิดผนึกชั้นดินด้านบนให้แน่นหนา ดังนั้นคนที่อยู่ด้านล่างจึงจะยังไม่ตายในช่วงเวลาสั้นๆ
ผู้บัญชาการทัพเฮยอวี่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่เขาเพิ่งสูดหายใจได้ไม่เท่าไร ก็ได้ยินเด็กสาวถามเสียงเย็นว่า “รู้ไหมว่าหลี่ว์ซู่อยู่ไหน”
ผู้บัญชาการทัพเฮยอวี่ไม่มีเวลาให้สนใจเศษดินเศษทรายที่ติดอยู่บนตัว เขารีบตอบไปทันทีว่า “ทัพเฮยอวี่เพิ่งจะมาถึงเมืองนี้และยังไม่ได้ฆ่าใครเลยสักคน ฉันไม่เคยได้ยินหรือได้เห็นคนที่เธอเพิ่งจะพูดถึงเลยจริงๆ นะ”
ทัพเฮยอวี่เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นกองทัพที่ทรงพลังและมีระเบียบวินัยที่สุดของตวนมู่หวงฉี่ พวกเขาไม่เคยกลัวความตายในสนามรบ
แต่คนที่เคยตายมาแล้วครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ไม่สามารถรักษาท่าทีของตนเองไว้ได้เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนผู้หนึ่งที่ทรงพลังมากจนอาจจะเป็นผู้ฝึกฝนระดับหนึ่ง นอกจากนี้มันคงไม่เป็นไรถ้าจะทรยศจอมทัพสวรรค์ในตอนนี้ เพราะเด็กสาวก็แค่ถามคำถาม…
ในตอนนี้เองที่ผู้บัญชาการทัพเฮยอวี่อยากจะตบหน้าตัวเองสักฉาด เธอแค่ถามทางเพียงเท่านั้น ทำไมเขาต้องทำตัวลับๆ ล่อๆ ด้วย
นี่คือโลกที่ตั้งอยู่บนการมีพลัง ถ้าหลี่ว์เสี่ยวอวี๋เป็นเพียงเด็กสาวธรรมดา กองหน้าของทัพเฮยอวี่อาจจะสังหารเธอทิ้งในกรณีที่เธอแพร่งพรายความลับของพวกเขา
หลี่ว์เสี่ยวอวี๋ปิดปากเขาและดึงเอารูปของหลี่ว์ซู่ออกมาจากแหวนมิติของเธอ “เคยเห็นเขามาก่อนไหม”
ผู้บัญชาการทัพเฮยอวี่อ้าปากค้าง “เธอวาดรูปนี้เองเหรอ ฝีมือการวาดรูปของเธอสุดยอดมาก คนที่อยู่ในรูปก็หล่อมาก ผู้หญิงมากมายในพระราชวังจะต้องตกหลุมรักเขาแน่ๆ ใช่ไหมล่ะ”
“พระราชวังคืออะไร” หลี่ว์เสี่ยวอวี๋ทำหน้าบึ้ง “แล้วก็ ช่วยแนะนำเมืองนี้หน่อยได้ไหม”
“พระราชวังคือเมืองหลวงของราชาแห่งทวยเทพ ส่วนเมืองหลวงอื่นๆ ของจอมทัพสวรรค์คนอื่นๆ จะเรียกว่าพระราชวังไม่ได้ เเต่จะมีชื่อเรียกเช่น เมืองหลวงตะวันออก เมืองหลวงตะวันตก เป็นต้น” ผู้บัญชาการทัพเฮยอวี่มองไปที่หลี่ว์เสี่ยวอวี๋อย่างระมัดระวัง เขาต้องการดูว่าหลี่ว์เสี่ยวอวี๋มาจากเขตพระราชวังและนำทหารมาคุ้มกันตนเองหรือไม่
เขาคิดว่าหลี่ว์เสี่ยวอวี๋น่าจะมาจากพระราชวังเพราะที่นั่นเป็นสถานที่เดียวที่จะมีผู้มีพลังระดับหนึ่งที่อายุน้อยขนาดนี้!
มีเเต่ตระกูลใหญ่ๆ เท่านั้นที่จะสามารถอบรมเลี้ยงดูศิษย์ที่น่ากลัวเช่นนี้ได้
ถ้าหลี่ว์เสี่ยวอวี๋มากจากพระราชวังจริง เขาอาจจะพยายามสร้างความเชื่อมโยงกับเธอเช่น ‘ฉันรู้จักผู้ชายคนนี้ และในเมื่อเธอก็รู้จักเขา เพราะฉะนั้นได้โปรดไว้ชีวิตฉันด้วย’
แต่ตอนนี้ เด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าเขากลับดูไม่รู้แม้กระทั่งว่าพระราชวังคืออะไร!
หลี่ว์เสี่ยวอวี๋ถาม “เมืองหลวงที่อยู่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ไหน”
“เมืองหลวงที่อยู่ใกล้ที่สุดคือเมืองหลวงตะวันตกซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของจอมทัพสวรรค์บูรพา ตวนมู่หวงฉี่ ต้องใช้เวลาประมาณสองเดือนเพื่อไปถึงที่นั่น แต่เส้นทางที่นั่นค่อนข้างซับซ้อน ให้ฉันนำทางดีไหมในฐานะที่ฉันคุ้นเคยกับที่นั่น!” ผู้บัญชาการกองทัพพูดอย่างกระตือรือร้น
แต่หลังจากเขาพูดจบ ผู้บัญชาการกองทัพก็ถูกแอนโทนีดึงลงไปใต้ดินอีกครั้ง ซึ่งหลี่ว์เสี่ยวอวี๋ก็ไม่แม้แต่จะให้โอกาสเขาในการต่อต้าน
หลี่ว์เสี่ยวอวี๋ทำหน้าบึ้งในขณะที่มองไปทางทิศตะวันตก เธอคิดว่าหลี่ว์ซู่จะต้องเดินทางไปยังที่ๆ เจริญรุ่งเรืองที่สุดอย่างแน่นอน มันคงเป็นเรื่องง่ายที่จะหาทางกลับบ้านในที่ๆ มีคนพลุกพล่านที่สุด
ทัพเฮยอวี่มาจากทางตะวันตก เธออาจจะได้เผชิญหน้ากับทัพเฮยอวี่อีกในระหว่างมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตก แต่เธอก็ไม่สนใจ
ในตอนนี้หลี่ว์ซู่กำลังหลบหนีไปทางเหนือกับจางเว่ยอวี่ ซึ่งจางเว่ยอวี่บอกว่าเขาเจอสถานที่ดีๆ สำหรับใช้ซ่อนตัวอยู่ในป่าทางทิศเหนือ มีถ้ำที่มีน้ำตกบังอยู่ด้านหน้าและต่อให้เป็นทัพเฮยอวี่ก็ไม่มีทางคิดว่าจะมีถ้ำอยู่หลังน้ำตก
ในสิบกว่าปีมานี้ เมืองประสบกับสงครามขนาดย่อม ในทุกๆ สามปี ถึงแม้ว่าที่นั่นอาจจะไม่ใช่สนามรบหลัก แต่ก็นับเป็นสถานที่อันตรายสำหรับคนธรรมดาทั่วๆ ไป
จางเว่ยอวี่จะซ่อนตัวอยู่ในถ้ำนี้เมื่อมีสงครามเกิดขึ้น เขามองไปที่หลี่ว์ซู่และพูดว่า “ฉันพานายมาที่นี่เพราะเชื่อใจนาย เมื่อสงครามเริ่มขึ้นก็จะมีคนอื่นๆ มาซ่อนตัวที่นี่อีก เพราะฉะนั้นได้โปรดอย่าเปิดเผยที่ตั้งของที่นี่ และทำเหมือนว่านายไม่เคยพบพวกเขามาก่อน”
แต่แทนที่หลี่ว์ซู่จะตอบ เขากลับดูสับสน!
เขาวิ่งตรงกลับไปที่เมือง!
จางเว่ยอวี่ตกใจ “เดี๋ยวก่อน อย่าบอกนะว่านายกำลังจะวิ่งกลับไปที่สนามรบ เดี๋ยวสิ!”
จางเว่ยอวี่รู้สึกพูดไม่ออกขณะมองหลี่ว์ซู่วิ่งตรงกลับไปที่เมือง เขาหยุดหลายครั้งในขณะที่มุ่งหน้ามาทางเหนือ
ในที่สุดจางเว่ยอวี่ก็กัดฟันและพูดว่า “ได้ ฉันต้องตอบแทนบุญคุณ!”
หลังจากนั้นจางเว่ยอวี่ก็วิ่งตรงกลับไปทางเมืองเช่นกัน
หลี่ว์ซู่สังเกตเห็นแต้มอารมณ์ในหน้าของหลี่ว์เสี่ยวอวี๋พุ่งขึ้นสูงถึงหนึ่งพันแต้ม นั่นอนุมานได้ว่า ประการแรกเธอน่าจะมาถึงที่โลกนี้แล้ว ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่ได้รับแต้มอารมณ์ของเธอ
ประการที่สอง หลี่ว์เสี่ยวอวี๋ต้องทำการสังหารครั้งมหญ่ ไม่เช่นนั้นแต้มอารมณ์คงไม่พุ่งไปถึงหนึ่งพัน
ถ้าประตูดารามีตำแหน่งที่แน่นอน ถ้าอย่างนั้นตอนนี้หลี่ว์เสี่ยวอวี๋ก็ควรอยู่ที่บ้านของจางเว่ยอวี่ นอกจากนี้ หลี่ว์เสี่ยวอวี๋จะไม่สังหารชาวบ้านธรรมดาแน่ นั่นหมายความว่าเธออาจจะได้เผชิญหน้ากับทัพเฮยอวี่!
ขณะที่หลี่ว์ซู่วิ่งไปทางทิศตะวันตกอย่างบ้าคลั่ง เขาก็เห็นพื้นดินที่สูงมาก สูงจนดูแปลกตา
หลี่ว์ซู่รู้ว่าหลี่ว์เสี่ยวอวี๋เป็นคนทำ แต่ตอนนี้เธอไปไหนแล้ว
ในตอนนี้จางเว่ยอวี่มาถึงและตำหนิหลี่ว์ซู่ “นายเป็นบ้าเหรอ!”
แต่แทนที่จะตอบ หลี่ว์ซู่กลับมองไปรอบๆ จางเว่ยอวี่ดึงตัวหลี่ว์ซู่และอยากจะรีบๆ หนีไปจากที่นี่ “สงครามครั้งใหญ่กำลังจะเริ่ม นายอย่าเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยง”
จางเว่ยอวี่รู้สึกสับสน ทัพเฮยอวี่หายไปไหนหมด
หรือพวกนั้นจะเข้าไปในเมืองแล้ว
แต่เขาไม่มีเวลาให้คิดมากนัก เขาแค่ต้องการพาหลี่ว์ซู่หนีไป แต่หลี่ว์ซู่กลับปฏิเสธและวิ่งตรงไปทางทิศตะวันตกกับจางเว่ยอวี่แทน จางเว่ยอวี่แทบจะทนไม่ไหวแล้ว “ที่นั่นเป็นที่ตั้งค่ายของทัพเฮยอวี่!”
แต่หลี่ว์ซู่ไม่สนใจ เขาตะโกนเสียงดัง “เสี่ยวอวี๋! เสี่ยวอวี๋! เธออยู่ไหน”
หลังจากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงที่ชัดเจน “ฉันอยู่นี่ ฉันอยู่ตรงนี้ ฉันมาเพื่อปกป้องเธอ”
เสียงนั้นฟังดูมีความสุขมาก