ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ – ตอนที่ 891 หลงเชวี่ย

หลี่เฮยทั่นพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “เจ้านายเราให้มาเตือนนายว่าอย่าลืมว่างานของเราคืออะไร เราขายสบู่เป็นงานอดิเรกเท่านั้น เข้าใจไหม ความทะเยอทะยานของเราสูงส่งกว่านั้น”

 

 

หลินกุ้ยตะลึงอยู่นาน อะไรกันเนี่ย พวกนี้กลายเป็นโจรที่มีความทะเยอทะยานกันตั้งแต่เมื่อไหร่!

 

 

แต่พวกเขาก็เป็นโจรกันอยู่ดี ไม่ว่าจะมีความทะเยอทะยานแค่ไหนก็ตามแต่!

 

 

ธรรมชาติของหมู่บ้านมังกรฟ้ายังคงไม่เปลี่ยนแปลง แม้พฤติกรรมของผู้นำคนใหม่จะมีความผิดปกติไปก็ตาม ดังนั้นพวกเขาจึงทำตัวไม่มีเหตุผลและก้าวร้าวอย่างเคย

 

 

ผ่านไปแค่วันเดียว หลี่ว์ซู่ก็ได้รับแต้มอารมณ์มาระลอกใหญ่ เขาไม่ต้องเข้าไปตรวจดูเขารู้ว่าแต้มพวกนี้จะต้องได้มาอย่างน้อยหนึ่งล้านแต้มแน่ๆ

 

 

ในขณะนั้นเองหลี่ว์ซู่ก็ใช้เวลาที่มีทั้งหมดในการฝึกกระบี่ หมู่บ้านมังกรฟ้าเป็นดินแดนที่มีความเข้มข้นของพลังจิตวิญญาณสูงอย่างที่เขาไม่ได้คาดคิด และปริมาณของคลื่นพลังจิตวิญญาณก็สูงกว่าในบ้านเล็กๆ ของจางเว่ยอวี่มาก ซึ่งนั่นก็ทำให้หลี่ว์ซู่ก้าวหน้าในการฝึกบำเพ็ญอย่างรวดเร็ว

 

 

เขาเลื่อนระดับขึ้นมาเป็นระดับห้าแล้ว เขาคาดว่าจะใช้เวลามาถึงจุดนี้ประมาณสามเดือนแต่เขาก็ทำสำเร็จภายในเวลาไม่ถึงเดือน

 

 

หลี่ว์ซู่รู้ดีว่าความแข็งแกร่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการอยู่ในโลกนี้

 

 

ถึงแม้ว่าเขาจะทะนงตัวเพราะเขาสามารถเชื่อมต่อกับหัวหน้าบาทหลวงได้ แต่จะมันจะทำงานได้ดีกว่านี้ถ้าเขามีความแข็งแกร่งพอ

 

 

ตอนนี้ทักษะกระบี่ของเขาก็บรรลุสถานะที่สามารถปลดปล่อยพลังงานกระบี่ออกมาและนำไปใช้ตามความต้องการของเขาได้แล้ว

 

 

ถึงเขาจะถือแค่กิ่งไม้ในมือ แต่ก็รู้สึกเหมือนว่าเป็นกระบี่ และกระบี่ก็เป็นเหมือนส่วนหนึ่งของร่างกายเขาไปแล่ว

 

 

ตอนแรกหลี่ว์ซู่อยากจะทำสบู่ขายกับหลี่ว์เสี่ยวอวี๋ แต่หลังจากที่เปลี่ยนแผนแล้ว พวกโจรในหมู่บ้านมังกรฟ้ากลายเป็นคนงานที่ทำงานให้เขาไปแล้ว และผลผลิตของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก

 

 

ตอนนี้หลี่ว์เสี่ยวอวี๋มีหน้าที่เดียวคือนำแร่ด่างกลับคืนมา หลังจากนั้นหลี่ว์ซู่ก็จะสกัดแร่หยาบนั้นเพื่อกลั่นให้ได้โซดาไฟ และจะถูกเพิ่มเข้าไปในขั้นตอนสุดท้าย ส่วนที่เหลือก็จะถูกส่งให้คนงานในโรงงานผลิตต่อไป

 

 

หลี่ว์ซู่ถอนหายใจออกมา “วางแผนดีก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว…”

 

 

ที่จริงพวกคนงานพวกนี้ไม่ได้ลำบากกันเลย เมื่อก่อนอดีตเจ้านายของพวกเขาจะให้เงินพวกเขาตามใจของเขาเท่านั้น และไม่มีใครทำอะไรได้ แต่ตอนนี้พวกคนงานได้รับค่าจ้างตามผลงาน ยิ่งพวกเขาทำสบู่ออกมาได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งได้เงินมากเท่านั้น วิธีนี้มั่นคงกว่าการเป็นโจรมาก…

 

 

เมื่อก่อนพวกเขากินข้าวจากอาหารที่เจ้านายเหลือไว้ให้เท่านั้น แต่ตอนนี้พวกเขาได้กินเนื้อบ้างตามโอกาสสมควร

 

 

เพราะฉะนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาเห็นป้ายที่เขียนว่า ‘จงทำงานเพื่อหลุดพ้นจากความจน’ พวกเขาก็จะกราบไหว้ทำความเคารพอย่างกับเป็นศาลเจ้า…

 

 

คำพูดนี้สลักเข้าไปให้หัวสมองของทุกคนแล้ว พวกที่ไม่รู้หนังสือก็จำได้ขึ้นใจเช่นกัน… พวกเขารู้วิธีการเขียนตัวอักษรจีนหกตัวตามคำพูดนั้น ถึงแม้ว่าพวกเขายังเขียนชื่อตัวเองกันไม่เป็นเลย!

 

 

ก่อนหน้านี้พวกโจรรู้สึกชีวิตได้ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่กันแล้ว ทุกคนเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นในการทำให้ธุรกิจของเจ้านายใหม่เติบโตหลังจากได้รับเงินกันแล้ว!

 

 

ขณะนี้หลี่ว์ซู่กำลังถือสบู่ไว้ในมือและพูดกับหลี่ว์เสี่ยวอวี๋ว่า “ทำสบู่ไม่ยากหรอก ถึงตอนนี้เราจะเก็บสูตรไว้เป็นความลับแต่พวกเขาก็น่าจะเอาสูตรพวกเราไปได้สักวันแหละ เราจัดการเองไม่ได้ทั้งหมดหรอก อีกเดี๋ยวก็จะมีของปลอมออกมาให้เกลื่อน”

 

 

หลี่ว์เสี่ยวอวี๋มองหน้าเขาด้วยความกังวล “แล้วเราจะทำยังไงกันดีล่ะ”

 

 

เธอดูอยากจะบอกหลี่ว์ซู่ว่าให้ฆ่าคนทำของปลอมทิ้งซะ แต่เอก็ไม่ได้พูดออกมาตรงๆ เพราะตอนนี้หลี่ว์ซู่ดูเหมือนจะเป็นคนรักสันติมากเหลือเกิน

 

 

“เรามาออกแบบโลโก้กันดีไหม” หลี่ว์ซู่ถาม “จะได้สร้างแบรนด์ของตัวเองเลยไง”

 

 

หลี่ว์เสี่ยวอวี๋คิดตาม เธอควบคุมแอนโทนี่ให้สร้างแบบพิมพ์ในหัวของหลี่ว์ซู่…

 

 

พวกเขาเงียบกันไปอย่างกระอักกระอ่วน จากนั้นหลี่ว์ซู่ก็ออกความเห็น “ฉันว่าฉันเคยเห็นโลโก้คล้ายๆ กันนี่บนขวดน้ำมันพริกตราเหล่ากั้นมาแล้วก็อยู่บนซองผงเครื่องเทศตราหวังโส่วอี้มาก่อนนะ..”

 

 

เขาไม่ได้จะบอกว่าของพวกนี้ไม่ดีนะ ที่จริงหลี่ว์ซู่ชอบตราเหล่ากั้นมาด้วย แต่เขารู้สึกว่ามันไม่เข้ากัน…

 

 

“ฉันว่ามันออกจะดี” หลี่ว์เสี่ยวอวี๋พูดและขมวดคิ้วพลางทำสีหน้าไม่เห็นด้วย

 

 

“ที่จริงมันก็ดูเหมือนฉันจริงๆ นั่นแหละ” หลี่ว์ซู่พูด “เธอวาดรูปเก่งมากเลยเสี่ยวอวี๋”

 

 

จากนั้นหลี่ว์เสี่ยวอวี๋ก็ทำแบบพิมพ์หน้าโดราเอมอนขึ้นมา แต่หลี่ว์ซู่ส่ายหัว “อย่าสิ เดี๋ยวติดลิขสิทธิ์นะ…”

 

 

หลี่ว์เสี่ยวอวี๋พูดไม่ออกเลย พวกเขากำลังอยู่ในจักรวาลหลี่ว์นะ! ทำไมจะต้องมากังวลเรื่องลิขสิทธิ์อะไรนี่ด้วย!

 

 

จากนั้นหน้าโดราเอมอนก็เปลี่ยนเป็นหน้าของเจ้ากระรอกเสี่ยวซยงสวี่

 

 

ตาของหลี่ว์ซู่เป็นประกายด้วยความประหลาดใจ “ฉันชอบอันนี้นะ! เอาไปปั๊มบนสบู่ของเราเลย!”

 

 

แล้วนั่นก็เป็นที่มาของแบรนด์สบู่ตราเสี่ยวซยงสวี่

 

 

อย่างไรก็ตามพวกที่ทำของปลอมก็อาจจะปลอมโลโก้ของพวกเขาไปด้วย สุดท้ายหลี่ว์ซู่ก็ตัดสินใจเปิดตลาดสบู่โดยเร็วที่สุด เก็บเกี่ยวผลกำไรให้เพียงพอก่อนที่จะมีคู่แข่งทางการค้าเกิดขึ้น

 

 

ที่สุดแล้วพวกเขาก็ต้องกลับโลกกันสักวัน เพราะฉะนั้นพวกเขาก็ไม่ได้หวังว่าตัวเองจะต้องรวยที่สุดในจักรวาลหลี่ว์นี้ อีกอย่างก็ฟังดูไม่สมเหตุสมผลที่เขาจะเป็นเศรษฐีที่มั่งคั่งที่สุดของที่นี่ด้วยการขายสบู่

 

 

“เราจะต้องบอกผู้คนภายนอกให้รู้ว่าที่นี่ไม่มีโจรแล้วและที่นี่ก็เอื้อต่อการค้าขายด้วย ไม่อย่างนั้นก็จะไม่มีใครอยากมา” หลี่ว์ซู่พูดขึ้นมาหลังจากคิดอยู่นาน “ระวังเย่เสี่ยวหมิงด้วยล่ะ เขาอาจจะก่อเรื่องอะไรก็ได้ ไปบอกหลี่เฮยทั่นให้ไปโฆษณาในหมู่บ้านมังกรฟ้าของเรา และบอกว่าเราจะคุ้มกันความปลอดภัยให้กับพ่อค้าแม่ค้าในบริเวณนี้ ถ้าเธอเจอโจรหน้าใหม่อีกก็ให้กำจัดไปเลย”

 

 

หลี่ว์ซู่ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นคนดี และเขาก็ไม่รังเกียจที่จะใช้ความรุนแรงกับพวกคนเลวด้วย

 

 

เมื่อเช้าตรู่ของอีกวันมาถึง หลี่เฮยทั่นก็รีบวิ่งกุลีกุจอกลับเข้ามาพร้อมกับถือสบู่ที่ผลิตออกมาใหม่ เขาตะโกนขึ้นมาว่า “ท่านครับ ท่าน! ผู้หญิงคนนั้นกำลังมาแล้วครับ! เจ้านายทาสผู้แข็งแกร่งคนนั้น!”

 

 

หลี่ว์ซู่งง “ใครนะ”

 

 

“ก็แม่ค้าที่มาเมืองอวิ๋นอันเมื่อเร็วๆ นี้เพื่อรวบรวมสินค้าพิเศษน่ะสิครับ” หลี่เฮยทั่นกล่าว

 

 

“แล้วเธอมาที่นี่ทำไม” หลี่ว์ซู่ขมวดคิ้วถาม แต่ก็เป็นข่าวดีเพราะหลี่เฮยทั่นบอกว่าแม่ค้าคนนี้มีเงินมหาศาล ว่ากันว่าเธอทำธุรกิจจนประสบความสำเร็จมากในเมืองหวังเฉิง และเธอก็เดินทางบ่อยเพราะชอบกิจกรรมกลางแจ้ง

 

 

เมื่อก่อนนั้นเขาอยากจะหาตัวเธอเพื่อขอให้มาลงทุนแต่ก็หาไม่เจอ ตอนนี้เธอกลับเข้ามาในเมืองเพื่อมาหาเขาเองเลย…

 

 

หลี่ว์ซู่อยากจะเล่นตัวและปฏิเสธเธอไป แต่ทันใดนั้นเธอก็บินมาปรากฏตัวแล้ว

 

 

หลี่ว์ซู่ประหลาดใจมาก “คุณอยู่ระดับหนึ่งนี่ครับ! ทำไมถึงเลือกทำการค้าขายล่ะ”

 

 

เจ้านายคนนี้ดูสวยสง่ามาก เธอยิ่งดูเท่ในชุดสูทสีแดง เธอหันมายิ้มให้หลี่ว์ซู่ “ฉันเป็นแม่ค้าระดับหนึ่ง ส่วนเธอก็เป็นโจรระดับหนึ่ง ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเองนะ ให้ฉันแนะนำตัวหน่อยก็แล้วกัน ฉันชื่อหลงเชวี่ย”

 

 

ในตอนนั้นเองหัวหน้าบาทหลวงก็มายืนอยู่หลังหลี่ว์ซู่ แต่หลี่ว์ซู่ทำหยิ่งแล้วก็ถามออกไป “แล้วลมอะไรพัดคุณมาที่หมู่บ้านมังกรฟ้าของเราล่ะครับ”

 

 

หลี่ว์ซู่เชื่อว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้มีเบื้องหลังที่ธรรมดาแน่ ไม่อย่างนั้นเธอก็คงไม่เป็นแม่ค้าระดับหนึ่งที่แข็งแกร่งขนาดนี้ เพราะฉะนั้นเธอก็อาจจะมีอีกตัวตนซ่อนอยู่ หลี่ว์ซู่ตัดสินใจที่จะหลีกเลี่ยงการปะทะเพื่อป้องกันปัญหาที่จะตามมาในอนาคต

 

 

“มีสบู่เหลืออยู่เท่าไหร่ล่ะ” หลงเชวี่ยถามด้วยรอยยิ้มกว้าง “ฉันขอซื้อทั้งหมดเลย!”

 

 

หลี่ว์ซู่ยืดหลังขึ้นตรงทันที “งั้นตั้งแต่ตอนนี้เราก็เป็นสหายกันแล้วนะครับ!”

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

หลี่ว์ซู่ เป็นเด็กกำพร้าที่หาเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด และก็คงจะหาเลี้ยงตัวเองเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่ได้ประสบอุบัติเหตุรถชนเข้าเสียก่อน… แต่เฮ้ย! เขาไม่เป็นอะไรเลยนี่ ไม่เจ็บ ไม่ปวด และไม่ตาย แถมวิญญาณไม่ได้หลุดออกจากร่างด้วย! จะมีก็แต่สัญลักษณ์รูปต้นไม้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือและพลังพิเศษในตัวที่ตื่นขึ้นมาเท่านั้น! ทว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับพลังพิเศษนี้มา เพราะคนอื่นๆ เองก็เริ่มกลายเป็นผู้มีพลังแล้วเหมือนกัน นี่มันเรื่องบ้าอะไร เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่ นี่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคของผู้มีพลังพิเศษกันแล้วงั้นเหรอ หลี่ว์ซู่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ว่าแต่พลังที่ได้มานี่มันฝึกยังไงกันล่ะ เอ๊ะ ต้องสะสมแต้มอารมณ์ด้านลบงั้นเหรอ แค่กวนโมโหคนอื่นก็เพิ่มพลังได้แล้วงั้นเหรอ แบบนี้ก็เข้าทางหลี่ว์ซู่สุดๆ ไปเลยน่ะสิ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset