มุกดาคว้ามือของณดาอะไรนั่นเอาไว้แล้วบิดมือกลับ จึงได้ยินเสียง “กร๊อบ” แล้วตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของณดา ซึ่งดึงดูดให้ผู้คุมเข้ามาหา
“เกิดอะไรขึ้น? เกิดอะไรขึ้น?” ผู้คุมถามอยู่ที่หน้าประตู ผู้หญิงมีอายุคนนั้นจึงตอบกลับไปทันที: “ไม่มี ไม่มีอะไร แค่เห็นแมลงสาบ แมลงสาบตัวหนึ่ง” ผู้คุมมองไปรอบๆอย่างไม่วางใจ ก็ไม่เจออะไร มีสามคนกำลังนอนอยู่บนเตียง อีกคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างเตียง
“เจอแมลงสาบตัวเดียวมีอะไรให้กลัว จริงๆเลย! อย่าร้องอีกนะมันรบกวนคนอื่นพักผ่อน!” ผู้คุมเตือน แล้วเธอก็เดินไป
เมื่อกี้ณดาก็ไม่กล้าส่งเสียง ถ้าโดนผู้คุมจับได้ พวกเธอก็จะโดนลงโทษกันหมด ดังนั้นเธอจึงต้องอดกลั้นเอาไว้ ทั้งๆที่สีหน้าดูไม่ได้เลย
ผู้คุมเดินไปแล้วเธอจึงบอกกับอีกสองคนว่าตนเองเจ็บมือสุดๆ ผู้หญิงที่มีอายุรีบเดินเข้ามาหา ช่วยดูให้เธอ แล้วก็มองไปที่มุกดา
“ต่อไปมือต้องวางไว้ในตำแหน่งที่ถูกต้อง อย่าให้มาอยู่บนตัวของฉัน ไม่ได้เป็นอะไรหรอก แค่เคลื่อนผิดตำแหน่ง รอให้เธอเจ็บอีกสักพัก ว่านอนสอนง่ายแล้วฉันจะบิดกลับมาให้” มุกดาจึงหันหน้าไปทางกำแพง
“เธอทำให้ฉันเลย บิดกลับมาให้ฉัน ฉันเจ็บ เจ็บมาก ฉันรับรองว่าต่อไปจะไม่วางมือบนตัวของเธอแล้ว” ข้อมือของณดาเหมือนกับหักไปแล้ว ตอนนี้เธอไม่หาเรื่องอีกแล้ว รีบพูดจาดีๆกับมุกดา
อีกคนหนึ่งที่ไม่พูดไม่จาก็เอาแต่ไม่พูดอะไรเลย เธอแค่กำลังมองทั้งหมดนี้อย่างเงียบๆ รู้สึกว่าต่อไปในคุกนี้คงจะไม่น่าเบื่ออีกแล้ว
“เธอบิดกลับมาเถอะ มันดึกแล้วต้องนอนกันได้แล้วนะ มันก็ไม่ง่ายนักหรอก ถ้าเธอร่ำร้องอยู่ตรงนี้ทั้งคืน ก็รบกวนการนอนของเธอเองไม่ใช่หรือไง?” ผู้หญิงมีอายุกำลังพูดโน้มน้าว
ตอนนี้มุกดาถึงได้หันหน้ากลับมา “เธอรับปากใช่ไหมว่าต่อไปจะไม่รังแกฉันแล้ว?” มุกดาถามณดา
“ฉันรับปาก ฉันรับปาก ฉันจะไม่รังแกเธอแล้วจริงๆ ต่อไปเธอจะเป็นพี่ใหญ่ของฉัน ฉันจะเชื่อฟังเธอทุกอย่าง” ณดารีบพยักหน้า
“กัดซะ!” มุกดาเอาผ้าห่มยัดเข้าไปให้ปากของณดา แล้วดึงมือของเธอขึ้น บิดมือกลับมา จึงได้ยินเสียง “กร๊อบ” ดังขึ้นอีกครั้ง ในปากของณดาส่งเสียงฮือๆออกมา
“เธอทำอะไรน่ะ?” ผู้หญิงที่มีอายุกำลังมองณดาที่แทบจะหมดสติไปแล้ว จึงถามมุกดาขึ้น
“เรียบร้อยแล้ว ประคองเธอขึ้นไปเถอะ ต่อไปอย่ารังแกใครอีกนะ” มุกดาดึงผ้าห่มของตนเองออกมาจากในปากของณดา
ณดาน้ำตาไหลออกมา เธอขยับๆข้อมือของตนเองเล็กน้อย มันไม่เจ็บแล้วจริงๆ
แต่ทว่าในใจของเธอกลับไม่ได้ซาบซึ้งมุกดาเลย ในทางกลับกันยิ่งแค้นเคืองมุกดามากขึ้น
คืนนี้มุกดานอนอย่างไร้กังวล ไม่มีคนรังแกเธออีกแล้ว ถึงผ้าห่มจะเปียกชื้น บนเตียงจะเป็นราปื้นใหญ่ เธอก็ยังคงหลับสนิทมาก
ตอนเช้าตรู่ที่เช้ามากๆ ก็โดนเสียงกริ่งปลุกให้ตื่นกันแล้ว แค่มุกดาพลิกตัวลุกขึ้น ก็เห็นอีกสามคนจัดการเสื้อผ้าเสร็จแล้ว ยืนกันอยู่ที่ประตู เธอจึงรีบยืนขึ้น เข้าแถวอยู่ท้ายสุด
ประตูโดนเปิดออก เหล่านักโทษต่างเดินออกไปอย่างเป็นระเบียบ ถึงอาณาเขตที่กำหนดเอาไว้ของตนเองแล้ว
มุกดาเพิ่งมาใหม่ก็ไม่รู้ว่าตนเองต้องทำอะไร เธอจึงเอาแต่ตามติดผู้หญิงที่ไม่ค่อยพูดคนนั้น ผู้หญิงคนนั้นแค่มองเธอ ไม่ได้พูดอะไร ยินยอมให้เธอตามติด บางครั้งยังตั้งใจหยุดรอเธอเล็กน้อยด้วย
ตื่นนอนต้องบริหารร่างกายก่อน แล้วค่อยไปกินข้าว ตอนที่กินข้าวมุกดาก็เสียเปรียบ ความเร็วของผู้หญิงพวกนั้นต่างก็ผ่านการฝึกฝนมาแล้ว บวกกับเธอที่ไม่รู้ว่าเวลากินข้าวมีน้อยมาก ยังกินไม่เสร็จก็หมดเวลาซะแล้ว
เมื่อหมดเวลาก็ต้องออกจากโรงอาหาร จากนั้นจึงเริ่มทำงานทั้งวัน การทำงานแบ่งออกเป็นหลากหลายประเภท มีถอนวัชพืช มีปลูกผัก มีทำงานฝีมือ
มุกดาจึงโดนแยกไปอยู่ในกลุ่มที่ทำงานฝีมือ พวกเธอสี่คนในห้องแยกมาอยู่ที่นี่กันหมด แม้การทำงานฝีมือจะนั่งเป็นเวลานาน ก็เป็นประเภทที่ดีที่สุดในงานพวกนี้แล้ว ไม่ต้องออกไปตากแดดตากลม
“เธอก็อยู่กับพวกเธอนี่แหละ เพิ่งจะมา ต้องดูเยอะๆเรียนรู้เยอะๆนะ ทั้งวันพวกเธอจะทำ 200 อัน ส่วนเธอทำแค่ 150 อันก่อน สามวันให้หลังค่อยทำเหมือนพวกเธอ” ผู้คุมวางสิ่งของที่ต้องทำไว้ที่ด้านหน้าของมุกดา แล้วให้ผู้หญิงที่ไม่ค่อยพูดคนนั้นเป็นครู เพื่อสอนมุกดาว่าทำยังไง
ณดากับผู้หญิงที่มีอายุมากหน่อยคนนั้นก็นั่งอยู่ตรงข้ามพวกเธอ เมื่อคืนณดาได้รับความทรมานแล้ว ตอนเช้าจึงต้องว่านอนสอนง่าย เธอแค่มองๆมุกดาอยู่หลายครั้ง แต่กลับไม่ได้ทำอะไร
“พี่คะ พี่ชื่ออะไรเหรอ ฉันต้องเรียกพี่ยังไง?” มุกดาถามผู้หญิงที่ไม่ชอบพูดคนนั้น
“เธอเรียกฉันว่าพี่อุ่นก็พอ” ผู้หญิงที่ไม่ชอบพูดคนนั้นบอกให้มุกดารู้ถึงสิ่งของพวกนั้นว่าทำยังไง เธอสาธิตให้ดูครั้งหนึ่ง ถ้าไม่เข้าใจตรงไหนให้มุกดาค่อยมาถามแล้วเธอจึงเริ่มทำงานของตนเอง
มุกดาก็เริ่มทำงานแล้ว งานนั้นจะว่าไปก็ง่ายมากๆ แต่เธอไม่เคยทำงานฝีมืออย่างนี้มาก่อนเลย พอลงมือทำจริงจึงทำช้ามากๆ ผ่านไปทั้งช่วงเช้าแล้ว เธอเพิ่งทำได้ไม่กี่อันเอง
“พี่อุ่น มือกับเท้าของฉันมันทำงานไม่สอดคล้องกันเลย พี่ดูสิฉันเพิ่งทำได้กี่อันเอง” มุกดากำลังมองสิ่งของพวกนั้นตรงหน้าของตนเองที่นับชิ้นได้เลย
“ไม่เป็นไร ค่อยๆทำ ถึงยังไงก็ยังมีเวลา เดี๋ยวพวกเรากินข้าวเที่ยงแล้วมาทำต่อ ฉันค่อยบอกเธอถึงหลักสำคัญในการทำ” พี่อุ่นไม่รำคาญมุกดาเลย เธอกลับอธิบายให้มุกดาฟังอีกครั้งอย่างใจดีมาก จริงๆเธอก็เพิ่งมาได้ไม่กี่วันเอง เพียงแต่ปกติเธอเป็นคนมือเท้าไวอยู่แล้ว ทำเรื่องพวกนี้จึงคล่องแคล่วมาก
ภายใต้คำชี้แนะของพี่อุ่น ในที่สุดระดับความเร็วของมุกดาก็เพิ่มขึ้นบ้างแล้ว
ตอนที่ถึงเวลากินข้าวกลางวัน เธอทำได้ 30-40 อัน แต่พี่อุ่นก็ทำไปร้อยกว่าอันแล้ว
ณดาที่อยู่ตรงข้ามเดิมทีอยากจะเห็นเรื่องน่าขบขันของมุกดา ตอนที่มือเท้าของมุกดายุ่งเหยิงต่างก็ใช้สลับกันไปหมด ในใจของเธอกลับยังนึกถึงเรื่องราวเมื่อคืนอยู่ตลอดเวลา
แต่เห็นพี่อุ่นกำลังช่วยเธออย่างตั้งใจ เธอก็รู้สึกไม่พอใจพี่อุ่นอยู่บ้างแล้ว
“พี่กิ๊ก พี่ช่วยฉันดูนี่หน่อย ฉันจะไปเข้าห้องน้ำ” ณดาพูดกับผู้หญิงที่ค่อนข้างมีอายุ แล้วเธอก็ไปหาผู้คุม
เวลามื้อกลางวัน มุกดาก็ฉลาดขึ้นแล้ว เธอจึงกินข้าวก่อน ใช้ระดับความเร็วมากๆในการกินข้าว เมื่อเอาข้าวใส่ปากแล้วถึงได้ใช้เวลานี้ไปคีบกับข้าว กับข้าวก็มีไม่เยอะ เธอคีบได้นิดหน่อยก็หมดแล้ว ที่เหลืออยู่จึงเป็นข้าวสวยทั้งหมด แต่ทว่าเธอกลับไม่ได้รังเกียจ แค่กินอิ่มก็พอแล้ว
กินมื้อเที่ยงเสร็จแล้ว มุกดากับพี่อุ่นจึงไปที่โรงงานอีกครั้ง แล้วเริ่มเร่งมือทำงานกัน