บทที่ 30 เทพพระเจ้าโรงครัวได้แสดงฝีมือให้ทุกคนได้ตื่นตะลึง
เมื่อพ่อของเจียงฮ่าวได้เห็นสองพี่น้องมาถึง เขานึกได้ทันทีว่าตนนั้นมีเส้นก๋วยเตี๋ยวไม่พอจึงได้พูดออกไปในทันที
“ไซหยวน ลูกรีบไปที่บ้านของลุงกับแม่ซื้อเส้นก๋วยเตี๋ยวให้หน่อย”
เจียงไซหยวนพูดออกมา
“ได้ค่ะพ่อ”
“แม่ รีบไปกันค่ะ ให้เจียงฮ่าวทำความสะอาดโต๊ะแทนแม่ไป”
แม่ของเจียงฮ่าวพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
“จ้า…”
ทั้งสองได้พากันไปซื้อเส้นก๋วยเตี๋ยวในทันที
เมื่อเจียงฮ่าวได้ครัวที่พ่อของตนใช้ทำก๋วยเตี๋ยวนั้น เขาก็นึกได้ขึ้นมาในทันทีว่าตนเองนั้นมีมีทักษะของเทพเจ้าโรงครัวก็เลยรู้สึกคนไม้คันมือขึ้นมา
เขาหันไปพูดกับพ่อของตนว่า
“พ่อ ให้ผมทำแล้วกัน พ่อจะได้พักซักหน่อย”
พ่อของเจียงฮ่าวเองที่ได้ยินก็ไม่ถือจริงจังนักและได้ตอบกลับไป
“ก็ดี เอาเป็นช่วยพ่อถือชามบะหมี่ส่งให้ลูกค้าแล้วกัน พ่อจะได้ไม่ต้องวุ่นมาก”
อย่างไรซะ เจียงฮ่าวยังไม่เลิกล้มความคิด ไม่ว่ายังไงก็ตาม เขาต้องทำให้พ่อของตนยอมให้เขาแสดงฝีมือให้ได้
เจียงฮ่าวได้ก้าวเข้าไปในพื้นที่ครัวของรถเข็นในทันที เขานั้นในตอนนั้นรู้สึกราวกับมีชีวิตชีวามากขึ้น และนี่เองทำให้เขานั้นเริ่มเคลื่อนไหวไปมาอย่างชำนิชำนาญตั้งแต่ต้น
เมื่อพ่อของเจียงฮ่าวได้เห็นว่าเจียงฮ่าวเข้ามาช่วยจริงๆก็เริ่มเป็นกังวลขึ้นมาและพยายามจะสอนวิธีการต่างๆอยู่ข้างๆ
อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นว่าลูกของตนนั้นเริ่มเคลื่อนไหวได้ก่อนที่คำพูดของตนจะหลุดออกไปอย่างทะมัดทะแมงทำให้ตกตะลึงและลืมสิ่งที่ตั้งใจจะทำไปเลย
ในตอนนี้เอง จิตใต้สำนึกของเจียงฮ่าวได้ปรากฎข้อความหนึ่งขึ้นมา
เมื่อเขาลอบอ่านมันในใจก็ได้เข้าใจในทันที เขานั้นไม่ได้สนใจน้ำก๋วยเตี๋ยวที่พ่อของตนทำเตรียมไว้แต่ได้ลงมือทำใหม่อีกหม้อหนึ่ง
พ่อของเจียงฮ่าวที่เห็นก็รีบเข้ามาห้ามในทันที
“ฮ่าว พ่อเตรียมน้ำก๋วยเตี๋ยวไว้แล้วนะ ลูกไม่จำเป็นต้องทำใหม่หรอก ลูกไม่เคยทำน้ำก๋วยเตี๋ยวมาก่อนแล้วจะไปอร่อยได้ยังไง”
เป็นตอนนี้ที่ลูกค้าประจำของพ่อเจียงฮ่าวได้เห็นว่าเจียงฮ่าวเป็นคนทำก๋วยเตี๋ยวให้พวกตนกินโดยมีตัวเองคอยแนะนำทำให้ลูกค้าเหล่านั้นอดที่จะหยอกเอินไม่ได้
“ไอ้ขิงแก่นี่ ก๋วยเตี๋ยวถูกลูกแกทำน่ะฉันไม่กินหรอกนา ยังไงก็ไม่อร่อยสู้ฝีมือแกได้หรอก”
เมื่อพูดจบ ชายคนนั้นได้ส่งเงินใหเจ็ดเหรียญก่อนที่จะส่งต่อไปให้คนข้างๆ
“ตาแก่เจียง ถ้าให้ฉันลองชิมก็ได้นะ”
พ่อของเจียงฮ่าวที่ได้ยินได้รีบหันมาตอบด้วยรอยยิ้มในทันที
“ในเมื่อคุณซิ่วพูดออกมาอย่างนี้ล่ะก็….” “ถ้างั้นผมจะลองให้เขาลองดูก็แล้วกันนะ”
“อย่ากังวลไปเลยน่า ฉันไม่เอารสมือของลูกนายไปขายให้ใครฟังหรอก กินแล้วรสชาติออกมาเป็นยังไงนั้นฉันจะบอกแค่นายเท่านั้น”
“เฮ้อ จะเอาตรงไหนมาอร่อยกันล่ะเนี่ย”
“…..”
ในขณะที่พ่อของเจียงฮ่าวกำลังพูดคุยอยู่กับลูกค้าประจำนั้น เจียงฮ่าวก็ได้ปรุงน้ำก๋วยเตี๋ยวเสร็จเรียบร้อยแล้ว และในตอนนี้เขาได้หันไปทำเส้นต่อในทันที
เมื่อชามก๋วยเตี๋ยวได้มาอยู่บนมือของเจียงฮ่าวแล้วนั้น หลังจากที่เส้นได้ลวกเสร็จและวางใส่ชามก็บังเกิดกลิ่นหอมหวลลอยออกมา
“กลิ่นน่าอร่อยแหะ”
เจียงฮ่าวเองก็ประหลาดใจเหมือนกันที่ได้กลิ่นนี้
เขาบรรจงสลัดเส้นก๋วยเตี๋ยวใส่ชามทำให้กลิ่นหอมกระจายออกไปทั่วในทันที
ในตอนนี้เอง ลูกค้าบางคนที่กำลังหาของกินอยู่นั้น เมื่อได้กลิ่นหอมหวลลอยโชยไปเตะจมูกก็ได้รีบหาที่มาในทันที
“ว้าว กินอะไรเนี่ยหอมอย่างนี้ต้องอร่อยแน่ๆ”
“นายได้กลิ่นเหมือนกันเหรอ ฉันคิดว่คนทำอาหารที่มีกินแบบนี้ได้ต้องเป็นสุดยอดพ่อครัวแน่ๆ”
“ซู๊ดดดดด หลังจากดมกลิ่นนี้เข้าไปแล้วทำให้ฉันไม่อยากกินอย่างอื่นเลยแหะ”
“ฉันอยากจะลองกินจริงๆต่อให้นิดหน่อย ไม่สิ ต่อน้อยนิดขนาดไหนก็ตาม”
“….”
ในตอนนี้เอง พ่อของเจียงฮ่าวก็ได้กลิ่นก๋วยเตี๋ยวที่เจียงฮ่าวทำแล้ว และนี่ทำให้เขารู้สึกอิจฉาคุณซิวขึ้นมาในทันใด
อย่างไรก็ตาม เขานั้นไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมา นั่นก็เพราะตัวเขานั้นดันรับเงินมาแล้ว และนี่เองย่อมหมายความว่าก๋วยเตี๋ยวชามนี้เป็นของลูกค้าเก่าแก่ของเขาคนนี้
และเมื่อรู้ตัว เขาก็พบว่า ลูกค้ามากมายได้ลายล้อมและก้าวเข้ามาอยู่หน้าร้านเพื่อสูดดมกลิ่นก๋วยเตี๋ยวฝีมือของเจียงฮ่าว
จมูกของลูกค้าเหล่านี้กระดิกไปมาอย่างอยู่ไม่สุข พร้อมส่งสายตาที่อยากเกินจะอธิบาย นี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเพียงเพราะเขาได้กลิ่นก๋วยเตี๋ยวชามนี้เท่านั้น
และจริงดังขาด พวกเขาก็ได้จ้องมองดูกระบวนการต่างๆจนเจียงฮ่าวทำก๋วยเตี๋ยวชามนี้จนเสร็จพร้อมด้วยสายตาที่ราวกับได้เห็นสาวงามมาแก้ผ้าตรงหน้า